ความคิดเห็นที่ 1 ถ้ายังคงมาทำงานอยู่บ้างเช่นนี้ สภาพการเป็นนายจ้างลูกจ้างกันยังคงอยู่ ดังนั้นกรณีนี้ วิธีที่ 2 จะถูกต้องที่สุด ส่วนวิธีที่ 1 ที่ไม่ถูกต้องเพราะว่า ลูกจ้างรายนี้ เป็นลูกจ้างรายเดือน ดังนั้นจึงเป็นลูกจ้างทีได้รับค่าจ้างในวันหยุดอยู่แล้ว ดังนั้นในวันที่เขาหยุดในวันหยุดประจำสัปดาห์ เขาต้องได้รับค่าจ้างตามมาตรา 56 ดังนั้นการจ่ายเงินเพียง 4 วันที่มาทำงานจริง จึงไม่ถูกต้องครับ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินเดือนเต็ม หักออกเฉพาะวันที่ไม่ได้มาทำงานเท่านั้นพอครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:11:12

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคิดแบบข้อ 2 ก็เอาเปรียบบริษัทเกินไปนะผมว่า แต่ถ้าคิดแบบข้อ 1 ก็ไม่น่าจะคุ้มสำหรับเรา จากคุณ : kuntatar เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 13:20:26

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจะให้ถูก ก็ต้อง ตามข้อ 2 ที่ท่าน chalk ว่าไว้ และยังเป็นการต่อรองที่มีอำนาจพอควร เพราะบริษัทฯ ค่อนข้าง "ใจ" เลยทีเดียวที่จะรั้งพนักงานท่านนี้ไว้ โดยการยอมจ่ายระดับนี้ แต่หากเสนอข้อ 2 ก็ต้องปรับการจ้างใหม่ เป็นการจ้างเหมาบริการเป็นครั้งๆ  ทำสัญญากันใหม่  จะจ้างให้พนักงานเข้ามาเดือนละ 4 วัน ก็ให้คิดไปเป็น 1 manday x 4 จะคิดอัตราเท่าไหร่ ก็ลองให้พนักงานเสนอมา เพราะถ้าคุณใช้เรตอัตราเงินเดือนเดิม หาร 30 x 4  เช่น เงินเดือน 18,000 หาร 30 = 600 บาท เดือนละ 2,400 บาท ลูกจ้างท่านนั้นอยากออกเพราะมีปัญหาทางบ้านอยู่แล้ว ก็อาจไม่สามารถจูงใจได้เท่าไหร่ และด้วยจำนวนเงินเท่านี้ มันค่อนข้างน้อยน่ะครับ เว้นแต่ฐานเงินเดือนเดิมเขาสูงมาก จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 14:57:50

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะ พนักงานท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เงินเดือนค่อนข้างสูงเลย ขอถามอีกอย่างว่า เวลาเราจ่ายเงินให้สำหรับเสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ คนอื่นๆมาทำงาน 22 วัน มีวันหยุดประจำสัปดาห์ 8 วัน กรณีพนักงานท่านนี้ มาทำงานแค่ 4 วัน ต้องจ่ายให้สำหรับวันหยุดประจำสัปดาห์ 8 วันเลยรึเปล่า หรือเราคิดตามส่วนได้ เช่นกรณีนี้คิดวันหยุดประจำสัปดาห์ที่จ่ายค่าจ้างให้ =. 8*4/22 =. 1.5 วัน จะได้หรือเปล่าคะ จากคุณ : ผู้หญิงดีดี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:21:33

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนอื่นขอเคลียร์นิดนึงนะคะ คือ ตกลงว่าให้พนักงานท่านนั้นมาทำงานอาทิตย์ละ 1 วัน หรือ มาทำงานเดือนละ 4 วันคะ?  เพราะถ้าเข้ามาอาทิตย์ละ 1 วัน และระบุแน่นอนว่าต้องเข้ามาทำงานทุกวันไหน บางเดือนพนักงานจะเข้ามาทำงาน 5 วันนะคะ ไม่ใช่แค่ 4 วัน (ดูปฏิทินเดือน ต.ต. และ พ.ย. เป็นตัวอย่างค่ะ) รบกวนคุณผู้หญิงดีดีช่วยตอบข้อสงสัยข้างต้นก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวเราจะช่วยมาแนะนำเพิ่มเติมค่ะ ^_^ จากคุณ : ผู้หญิงคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:46:46

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบจากคำถามในความเห็นที่ 4 ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า พนักงานรายเดือนนั้นเป็นพนักงานทีได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ตามมาตรา 56(1) ดังนั้นข้อนี้เองไม่ต้องคิดมากว่า เขาจะทำงานจริงกี่วัน หรือจะหยุดเสาร์อาทิตย์กี่วัน เราจึงนำเอาเงินเดือนเขาไปหาค่าจ้างรายได้ได้ด้วยการนำเอาเงินเดือนหาร 30 วันทำงาน โดยไม่ต้องไปคิดว่า ทำงานจริง 22 วัน หรือหยุดประจำสัปดาห์ 8 วัน เพราะวันหยุดประจำสัปดาห์นั้น เขาได้รับค่าจ้างด้วยนะครับ ผมจึงบอกว่า ให้จัดการกันง่ายๆ ก็ตั้งจ่ายเงินเดือนเขาไปเต็มตามปรกติ แต่ไปงดจ่ายเอาวันที่เขาไม่มาเสียก็หมดเรื่อง ดังนั้นหากเขามาทำงาน 1 วันต่อสัปดาห์ พูดง่ายๆก็คือ เขาจำได้รับค่าจ้างอยู่ 3 วัน คือวันที่มาทำงาน และวันgเสาร์และอาทิตย์อีก 2 วัน เช่นนี้เองครับ อาจจะคิดว่า ทำไมต้องจ่ายมากขนาดนี้ มาทำงานจริงเพียง 4 วัน แต่ต้องจ่ายเท่ากับ 4+8 วัน เป็น 12 วัน ก็ตอบได้ง่ายมากแบบไม่ต้องคิดว่าเอาเปรียบบริษัทเกินไปหรือเปล่า เพราะว่าสิทธินี้มันเป็นสิทธิของลูกจ้างตามกฎหมายครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 15:56:19

ความคิดเห็นที่ 7 มาทำงานอาทิตย์ละ 1 วันค่ะ ถ้าเดือนใดมีสี่อาทิตย์ คือมาทำงาน 4 วันในหนึ่งเดือน บางเดือนอาจ 5 วันค่ะ ตัวเลขที่เขียนไว้คือยกตัวอย่างเท่านั้นค่ะ ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : ผู้หญิงดีดี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:00:48

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ามองแบบง่ายๆ อย่างที่คุณ Chalk_HR อธิบายเพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย เราก็เข้าใจค่ะ ถ้ามองแบบนี้ ลูกจ้างก็จะได้ผลประโยขน์ไป คือมาทำงานเดือนละ 4 หรือ 5 วัน แต่ได้รับเงินเดือน 12 วัน  เพราะถ้าบริษัทอยากดึงพนักงานไว้ ใช้การคำนวณแบบนี้ก็ดีสำหรับพนักงานค่ะ ถ้าบริษัทไม่ซีเรียสเรื่องเสียผลประโยชน์ตรงจุดนี้  แต่อยากให้มองในแง่ที่จะดูเอาเปรียบพนักงานคนอื่นที่มาทำงานปกตินะคะ   ถ้าจะมองในมุมทั้ง 2 ฝ่ายแบบแฟร์ๆ และที่บริษัทเราทำ คือมองว่าถ้าปกติทำงานอาทิตย์ละ 5 วัน แต่มาทำงานอาทิตย์ละ 1 วัน ก็คือทำงาน 20% ของเวลาทำงานปกติ  ก็จ่ายค่าจ้าง 20% ของเงินเดือนแต่ละเดือนค่ะ ซึ่งเงินเดือนนั้นก็รวมเงินค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์อยู่แล้ว   เรามองว่าวันหยุดประจำสัปดาห์ที่ระบุไว้ในกฎของบริษัทนั้น เป็นวันหยุด 2 วันต่อการทำงานปกติ 5 วัน แต่ในกรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ คือพนักงานทำงานแค่สัปดาห์ละ 1 วัน จะให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ 2 วัน ก็จะไม่ค่อยเหมาะสม ตรงนี้น่าจะเป็นการตกลงร่วมกันระหว่างพนักงานและบริษัทมากกว่าว่าจุดไหนคือที่ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจ และไม่กระทบต่อความรู้สึกของพนักงานคนอื่นด้วย (โดยปกติพนักงานคนอื่นอาจจะไม่ทราบข้อตกลงตรงนี้ แต่ในฐานะ HR ซึ่งเราทราบข้อมูลอยู่ เราก็อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ) เราก็ไม่แน่ใจว่าวิธีการใช้เป็นคำนวณ 20% แบบที่เราทำจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดรึเปล่า แต่ที่บริษัทเราใช้วิธีนี้ และก็เป็นวิธีที่สามารถอธิบายให้ทุกคนในบริษัททราบได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เกิดความเป็นธรรมกับฝ่ายไหนค่ะ ^__^ จากคุณ : ผู้หญิงคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:18:19

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อแนะนำของคุณผู้หญิงคนหนึ่งนั้นเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าคิดครับ และหลายองค์กรที่ผมเคยได้ผ่านหูผ่านตามา ก็ใช้วิธีการดังกล่าว โดยมีตัวแปลจุดเดียวคือ "การทำความตกลงให้เข้าใจกันระหว่างนายจ้างลูกจ้าง" แต่สิ่งนี้เอง มีสิ่งที่ต้องระวังคือ เรื่องของการตกลงกัน ถึงแม้ว่าทำความตกลงเข้าใจกันแล้ว แต่ท่านอย่าลืมว่าสิทธิตามกฎหมายของทั้งสองฝ่ายยังคงมีอยู่ พูดง่ายๆคือ เราไปทำความตกลงในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีไป แต่อนาคตต่อไป เกิดไปขุ้นข้องหมองใจกัน การตกลงดังกล่าวกันเอาไว้ล่วงหน้า ก็ไม่อาจใช้เป็นเหตุผลอ้างมิให้ลูกจ้างเรียกร้องสิทธิได้ครับ เรื่องเรื่องดังกล่าวนี้ ถึงแม้ทำได้ แต่ผมมักไม่ค่อยแนะนำให้ทำกัน เพราะมันขัดต่อกฎหมาย ไม่มีเรื่องก็ดีไป แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมา อายุความของแต่ละเรื่องมันมีอยู่ครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:36:00

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Chalk_HR พูดถูกต้องเลยค่ะว่า  ไม่ว่าบริษัทจะมีข้อตกลงกับลูกจ้างไว้อย่างไร เป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ แต่ข้อตกลงอะไรที่ขัดต่อกฎหมาย ถ้ามีการร้องสิทธิภายหลัง บริษัทก็ต้องยอมจ่ายตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่ประนีประนอมกัน ดังนั้น ก็มี 2 ทางเลือกค่ะ คือ 1. ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายไปเลย แต่ขัดต่อความรู้สึกนิดหน่อย ^_^" หรือ 2. ทำอย่างที่ตกลงและเห็นชอบทั้ง 2 ฝ่ายไปก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็จบไป ถ้ามีปัญหาภายหลัง บริษัทก็ทราบอยู่แล้วว่าจริงๆ บริษัทต้องจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่าไหร่ ก็จ่ายไปให้เต็มจำนวน (แบบว่าบริษัทต้องการพนักงานท่านนี้มากจริงๆ เท่าไหร่ก็ยอมจ่ายอยู่แล้ว) หรือขอแถมทางเลือกที่ 3 ค่ะ เพราะที่เราเคยทำแบบที่แนะนำคือเป็นกรณีสั้นๆ ไม่เกิน 3 เดือน และพนักงานมาทำงาน 3-4 วัน/สัปดาห์ แต่ของคุณเจ้าของกระทู้ สัปดาห์ละ 1 วัน เป็นเวลา 6 เดือนซึ่งเวลาทำงานน้อยมากและเป็นเวลาค่อนข้างนาน น่าจะเปลี่ยนสัญญาจ้างไปเลยดีกว่า  เราคิดว่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดค่ะ ^_^ จากคุณ : ผู้หญิงคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 16:55:30

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคุณ Chalk_HR. และคุณผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ ข้อมูลแม่นจริงๆ ค่ะ จากคุณ : ผู้หญิงดีดี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 20:07:54