ความแตกต่างระหว่าง มนุษย์เงินเดือน กับ เจ้านายตัวเอง
|
|
เราเลิกกับมนุษย์เงินเดือนได้ 1 เดือนเต็มแล้วคะ หลังจากที่ลังเลอยู่นานหลายเดือนกว่าจะตัดสินใจ จริงๆเรามีธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่บ้านแล้วเป็นของเราเอง ซึ่งเปิดมาได้ปีกว่าๆแล้วคะ ฝากคุณแม่ดูแล ที่ผ่านมาก็เหนื่อยนะคะ ทำทั้ง 2 ทาง รายได้ก็ 2 ทางด้วย แต่เวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่น กลับไม่มีเลย ก่อนที่เราจะลาออก เราเองก็ได้คิดคำนวณรายรับที่จะได้ กับรายจ่ายที่มี มันคุ้มกันคะ ที่เราจะเสี่ยงลาออก ออกมาทำและต่อยอดธุรกิจของตัวเอง ฉะนั้นก็ ลุย!!!เลยคะ ไม่ลงไม่รอมันแล้วโบนัสอ่ะ
1 เดือนที่ผ่านมาเราเริ่มจากไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานก่อนเลยคะ(เรื่องอะไรจะเสียสิทธิ์ไปฟรีๆล่ะ 55) จากนั้นไปทำใบขับขี่รถยนต์อีก 2 วัน หลังจากที่ขับรถมาได้ 2 ปีแล้ว และนำเงินอีกก้อนที่มีมาลงสินค้าเพิ่ม ไปเดินดูตลาดค้าส่ง ดูสินค้าทั่วๆไปว่าเค้าซื้อขายกันยังไงมีอะไรใหม่ๆบ้าง และสินค้าที่เราทำอยู่ด้วย พร้อมกับสั่งสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น (จากที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน อยากจะบอกว่าแทบไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวัน พูดง่ายๆว่าไม่ได้เห็นโลกภายนอกกันเลยคะ เห็นแค่ทาง Internet ฤ จะสู้ของจริง ที่ได้มองด้วยตา เดินด้วยเท้า
หลังจากนั้น
ของเยอะและหลากหลายมากขึ้น เริ่มขยายช่องทางโดยการ ทำเป็นแค็ตตาล็อคเพื่อกระจายสินค้า โดยผ่าน เซลล์แมนไปหาลูกค้าได้เลย(เอ่อ พูดเหมือนเปิดบริษัท ขยายกิจการเลย จริงๆแล้วก่อนที่เราจะลาออกจากบริษัท ได้สร้าง Connection ไว้บ้างแล้วคะ เมื่อเราไม่ได้ทำงานในนั้นแล้ว แต่ใช่ว่าสินค้าของเราจะขายในนั้นไม่ได้
ของเต็มร้าน ก็ตกแต่งร้านเพิ่มอีกนิดหน่อย ดูการจัดวางสินค้าแต่ละตัว เริ่มทำสต็อคสินค้า ขายสินค้าด้วยตัวเอง ยิ่งทำ ยิ่งเหนื่อย ก็ยิ่งได้ (โค-ตะ-ระทำ โค-ตะ-ระ เหนื่อย ก็ยิ่งโค-ตะ-ระได้เงิน) แล้วก็เงิน เงิน เงินที่มากกว่าเดิม เมื่อวานเหนื่อยๆ ล้าๆ เพลียๆ วันนี้ก็ขอตื่นสายนิดหน่อยแล้วกันนะแต่ก็ไม่เกิน 8 โมง จัดหน้าร้าน วางของ เช็คสินค้าปัดฝุ่นไปเรื่อยเปื่อย เพื่อเตรียมตัวรับเงินในแต่ละวันพร้อมกับช่องทางการกระจายสินค้าอื่นๆที่ได้วาง(กับดัก)ไว้หมดแล้ว มากน้อยไม่เท่ากัน แต่ก็ได้คะ ความเ หนื่อยมีเยอะ แต่ความสุขมีเยอะกว่า ความเครียดตอนนี้ยังไม่มีคะ กับลูกค้าที่งี่เง่า ก็ไม่ถือว่าเป็นความเครียดคะ เพราะเค้าเอาเงินมาให้เรา ถึงไม่ซื้อ แต่ก็ถือว่าคุณได้เข้ามาเหยียบ มาดูสินค้าร้านของเราแล้ว(ถ้าสนใจโอกาสหน้า แวะมาใหม่นะคะ) วันหยุดไม่ใช่สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 วัน(เสาร์หรืออาทิตย์) แต่ถ้าเราจะหยุด เป็นวันไหนก็ได้ และก็ไม่จำเป็นต้องซักผ้าเฉพาะวันอาทิตย์ด้วย!!! (55)
ส่วนมนุษย์เงินเดือน(สำหรับเราคะ) จันทร์ ถึง เสาร์ จะขยัน จะง่วง หรือขี้เกียจ ก็ต้องตื่นประมาณ 6 โมงเช้า(เด๋วไปทำงานไม่ทันนะ) วันนี้จะเจออะไรอีกบ้างก็ไม่รู้ บางวันเจ้านายไม่อยู่ เมาท์กับเพื่อนร่วมงานมากน้อย Internet ต่ออีกหลายชั่วโมง ไม่มีงานเร่ง มีแต่งานเรื่อยๆ ก็ทำเรื่อยๆคะ บางวันงานเยอะ ความเครียดอัดแน่น(รายได้เฉลี่ยวันละ xxx จะคุ้มกันมั๊ยเนี่ยะ) วันนี้ทำน้อย พรุ่งนี้ทำมาก มะรืนทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่สิ้นเดือนรับเท่าเดิม อ้อ!นอกจากได้รับเงินเดือนแล้ว ยังได้รับความเครียดเป็นรายเดือนอีกด้วยสิคะ บางคนอ่านแล้ว อาจเข้าใจว่า จขกท เป็นคนไม่ขยันเอง ทำงานเช้าชามเย็นชาม(ประมาณนั้น) จขกท ทำงานมา 7 ปี แล้วคะ ทำทุกอย่างแล้วเท่าที่จะทำได้และเรียนรู้มันซะทุกอย่าง จนอิ่มแล้วคะ ก็เลยนำสิ่งที่เรียนรู้มานั้น ขโมยมาใช้ข้างนอกบ้างนี่แหละคะ ทั้งระบบการจัดการ การตลาด การจัดซื้อ คิดว่าวิชาที่ขโมยมานี้ก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในภายภาคหน้าเหมือนกัน หนทางยังอีกยาวไกล อยากเล่าสู่กันฟังคะ
จากคุณ |
:
ฺBoNus
|
เขียนเมื่อ |
:
2 พ.ย. 55 23:02:13
A:125.27.14.254 X: TicketID:358588
|
|
|
|