ความคิดเห็นที่ 1 หมอก็เหนื่อยไม่น้อยเหมือนกันนะครับ บ้างทีทำงานติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ เรื่องวิศวกร  ผมว่าบอกคนอื่นว่าเป็นวิศวกร ก็ฟังแล้วเท่ห์ดีนะครับ สาวที่ผมรู้จักคนหนึ่ง เค้าก็บอกว่าเค้าจะต้องคบกับวิศวกรเท่านั้น ส่วนถ้าบอกอาชีพคนอื่นว่าเป็น IT Support หรือ Programmer ดูแล้วธรรมดามาก ๆ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 01:03:48

ความคิดเห็นที่ 2 การเปรียบเทียบวิชาชีพแบบนี้กลัว drama จังครับ มันเป็นวิชาชีพที่ต่างกัน คงเปรียบเทียบกันตรงๆไม่ได้หรอกครับ แพทย์มีจำนวนน้อยกว่ามากๆ อุทิศเวลาค่อนข้างมาก อย่ามองแต่เป็นแพทย์แล้วรวยอย่างเดียว ที่ไม่รวยมีอีกมากครับ งานก็เครียด รักษาก็ต้องระวังทำอะไรพลาดมีหวังจบเห่ ผมมีลูกค้าเป็นหมออยู่หลายคนเหมือนกัน คุยดูแล้วรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เค้าทำควรได้รับการตอบแทนที่คุ้มค่าครับ วิศวะจบปีนึงเยอะมากๆครับ เหมือนหลักการ demand / supply ครับ อะไรที่มีเยอะๆ ราคาก็ต้องต่ำหน่อยครับ ส่วนความสำคัญของวิชาชีพ ก็มีความสำคัญของตัวเอง หน้าที่ใครหน้าที่มันครับ ค่าตอบแทนที่เป็นเงินเดือนอาจจะไม่เยอะ แต่ก็มีช่องทางทำอย่างอื่นได้ แล้วแต่ใครจะทำอะไรได้แค่ไหนครับ สมัยก่อนโน้น มันมีสอบโควต้าเข้าม.ในภูมิภาค ผมสอบได้คณะแพทย์ แต่สละสิทธิ์ไปเพราะว่า กลัวเลือด และ ชอบวิชาพวกคำนวณมากกว่าครับ ก็เลยมาสอบ Entrance (ในสมัยนั้น) เข้ามาเรียนวิศวะ เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันจบไปก็มีหลายแบบ ทำงานวิศวะ ,เป็นอาจารย์, ทำงานด้านการเงิน, เป็นทนาย, เป็นผู้ใหญ่บ้าน.. ส่วนตัวผมเอง ทุกวันนี้ทำค้าขายครับ เวลาเขียนอาชีพ ก็จะบอกว่าเป็น นักธุรกิจ จากคุณ : CMT เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 01:21:53

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าย้อนเวลากลับได้ คงเลือกหมอ... จากคุณ : via iPhone (เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 01:39:13

ความคิดเห็นที่ 4 แต่หมอไม่ได้เปิดกลาดเกลื่อนและรับเยอะๆเหมือนคณะวิศวะนิครับ จากคุณ : คุณหลอกดาว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 07:35:14

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อนเป็นหมอเด็ก อยู่โรงพยาบาลเอกชน รายได้เยอะ ทำงานจันทร์-เสาร์ เจอหน้าลูกแค่วันอาทิตย์  วันธรรมดาคนไข้อาจไม่เยอะ  แต่วันเสาร์กินข้าวเที่ยงแบบจานด่วนตลอด คนไข้แน่นตลอดวัน  เวลาหายใจแทบไม่มี  เข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ พ่อแม่ผู้ปกครองอุ้มลูกรอหน้าห้องตรวจตลอด   ท่านว่าดีไหม.... เพื่อนอีกคน เป็นหมอโรงพยาบาลรัฐ ผู้หญิงหน้าตา OK ทำงานหนักทุกวันจนเป็นโสดทุกวันนี้ คนไข้มารอตั้งแต่ ตี 5 ลงตรวจตั้งแต่ 8-9 โมง กว่าจะเคลี่ยร์คนไข้เสร็จ เกือบเคารพธงชาติเย็นทุกวัน  ท่านว่าดีไหม.... ส่วนวิศวกร ถ้าอยู่เอกชน  มีทั้งรุ่งและไม่รุ่ง ถ้าไม่รุ่งเงินเดือนเยอะๆ  ก็เห็นหลายคนออกมาเปิดกิจการส่วนตัวทั้งนั้น  รอดหรือเปล่า...คนละประเด็น อยู่รัฐวิสาหกิจ อยู่ราชการ  เงินเดือนประจำ เริ่มต้นไม่เยอะ งานสบายๆ อยู่ไปนานๆ สำหรับคนดีปกติ เงินเดือนเพิ่มขึ้นตามเวลา คนไม่ปกติ อยู่ในตำแหน่งที่ให้คุณให้โทษได้     รายได้........5555555 ปล 1.ข้อความด้านบน เฉพาะจากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอกับตัวเองนะครับ  ที่เพื่อนๆ ผมมันเป็นกัน     2. ไม่ได้เหมารวม หมอทุกคน ไม่ได้เหมารวม วิศกรทุกคน นะครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 08:30:11 จากคุณ : Bee Senior เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 08:27:02

ความคิดเห็นที่ 6 ถนัดคนละด้านผม เก่งจริงในสาขาที่ตนถนัดได้ดีทุกวิชาชีพครับ จากคุณ : khun san เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 08:29:25

ความคิดเห็นที่ 7 เคยเป็นวิศวกรโรงงานในแถบนิคมอุตสาหกรรม มาครับ ชื่อตำแหน่งคือวิศวกร แต่ด้วยหน้าที่จริงๆ แล้ว ก็คือ เบ๊ ดีๆ นี่เอง ไม่มีหรอกครับ ความเกรงใจในสังคม ความนับหน้าถือตา คนภายในองค์กร เข้าใจว่า engineer คือพนักงานระดับปฏิบัติการคนนึง ส่วนคนภายนอก ไม่รู้จักหรอกครับ ว่าทำงานตำแหน่ง วิศวกร รู้แต่เพียงว่า เป็นพนักงงานบริษัทธรรมดาๆ คนนึง ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้นเอง ไม่อยากเล่าครับ ช้ำใจ ปล. ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 08:53:32 จากคุณ : วิลลี่ มักกล้วยทอช (EddyFusher) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 08:53:04

ความคิดเห็นที่ 8 ความจริงก็คือ some doctors are compared with some engineers ส่วนตรรกะที่ว่า every doctor is richer than every engineer เป็นตรรกะที่ (ผิด) จากคุณ : สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า HR เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 09:08:44

ความคิดเห็นที่ 9 เคยคิดปัจจัยเสี่ยงของคนที่ทำงานสายนี้ไหม ความเครียด การติดเชื้อ การถูกฟ้องฺๆลๆ อย่ามองที่ตัวเงินอย่างเดียว. ขอให้เก่งและชอบในสายงานที่เราเรียนมา จะมีความสุขในชีวิต ส่วนตัวถ้าย้อนเวลาได้จะไม่เรียนสายนี้เด็ดขาด. และไม่แนะนำด้วย จากคุณ : pas เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 09:21:24

ความคิดเห็นที่ 10 เรียนวิศวกร จบมาไม่จนหรอก ถ้าเอาความรู้มาพัฒนาสิ่งประดิษย์ที่คิดค้นขึ้นเอง ขายเอง เอากำไรเข้าตัวเอง ไม่ใช่เอาความรู้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้คนอื่น เค้าขายได้หลักแสนต่อตัว แต่เรารับเงิน หลักหมึ่นต่อเดือน วิดวะ ความรู้ความเก่งมีแล้ว ถ้ามีไอเดีย ไม่จนหรอก จากคุณ : โลกเงียบ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 10:06:22

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นผมนะครับ ด้านการผลิตบุคลากร ประมาณ 10-20 ปีก่อน ประเทศอยู่ในช่วงเร่งพัฒนา มีนโยบายให่เพิ่มนักศึกษาวิศวะเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดงาน ม.รัฐ มีการรับนักศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในหนึ่งรุ่นมีนักเรียน 3-5 ร้อยคนเลยทีเดียว จากนั้น ม.เอกชน เริ่มมีการเปิดคณะวิศวกรรมศาสตร์กันเยอะขึ้น รวมถึงสถาบันเทคโนโลยีและสถาบันราชภัฏ ขณะเดียวกัน แพทย์ในประเทศไทยมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร แต่การจะเพิ่มนักศึกษาแพทย์ทำได้ยาก มักจะมีข้ออ้างเรื่องสรรพยากรในการสอนไม่เพียงพอ ทางแพทย์สภาก็ออกมากันท่า อ้างว่าแพทย์ที่ได้จะไม่มีคุณภาพ ด้านการทำงาน วิศวกร จะพยายามกระจายงานไปสู่ระดับต่ำกว่า เช่นวิศวกรคิดคำนวณแล้วส่งงานให้พนักงานสายอาชีพ(ปวช. ปวส.) เป็นคนทำ งานบางอย่างสายอาชีพจะสามารถทำงานแทนได้ ตัดสินใจแทนได้ งานโรงงาน สายอาชีพหากทำงานมานาน ก็ปรับตำแหน่งเป็นวิศวกรได้ ส่วนแพทย์(ในไทย)จะรับงานเกือบทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง พยาบาลไม่สามารถช่วยอะไรได้เท่าไหร่ (ด้วยเพราะกฏหมายไม่ได้ให้สิทธิ์ตรงนี้) ทำให้อะไรๆก็ต้องแพทย์ตัดสินใจ การทำงานส่วนตัว วิศวกร ต่อให้เก่งมาก แต่ถ้าไม่มีทุนคงไปสร้างอะไรออกมาขายได้ (ค่าสร้างโรงงาน ค่าเครื่องจักร) ไม่มีทุน ก็เป็นได้แค่ลูกจ้าง แพทย์ มีแต่ตัว(กับวุฒิ) โรงพยาบาลก็แทบจะมาเชิญไปทำงานแล้ว มีตึกแถวห้องนึง ก็เปิดคลินิกได้ ปล. ผมจบวิศว 1 ใน 3 พระจอม   ถ้าย้อนเวลาได้  ตอนสอบ Entrance จะเลือกหมอแน่นอน จากคุณ : Miata เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 10:55:42

ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆหมอฟันก็สบายจริงๆแหละครับ เพราะมันไม่มีมีฉุกเฉิน ความเสี่ยงโดนฟ้องต่ำ คงต้องยอมรับตรงนี้ ส่วนหมออื่นๆเหนื่อยครับ แต่ค่าแรงคุ้ม แต่ส่วนตัวไม่อยากให้มาทำอาชีพอะไรเพราะมองเงิน กระทู้แนะนำก็เพิ่งมีคุณหมออยากเปลี่ยนสายงานอยู่ หากคุณไม่ได้รักงานนั้นจริงๆ ถึงได้ไปเรียนทำไม่นานคุณก็ทำไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มใหม่ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 11:00:27

ความคิดเห็นที่ 13 ผมคิดเหมือนกับเจ้าของกระทู้ ถ้าย้อนตัวเองได้ เป็นหมอดีกว่า เสียดายตอนสอบไม่ติดหมอ มาติดวิศวะ ******แต่สายไปแล้ว จากคุณ : tamarind เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 11:46:23 A:223.206.172.118 X: TicketID:371120

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมไม่เลือกตามสาขาที่ชอบ และอยากทำ เพราะอาชีพ จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เราควรจะมองว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร และอยากทำอาชีพอะไรมากกว่านะคะ จากคุณ : Apple2u เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 12:25:14

ความคิดเห็นที่ 15 แฟนเราก็เป็นวิศวกรค่ะ ทำงานหนักไม่ต่างจากกรรมกร 555++  เค้าชอบพูดบ่อยๆว่า ตอนแรกน่าจะเชื่อแม่ เลือกหมอไปซะก้อสบายแล้ว ปล. ไม่ได้หมายความว่าหมอสบายกว่านะคะ แต่วิศวกรตอนนี้มันสาหัสสุดๆ จากคุณ : Minnie_me เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 12:30:40

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก็วิศวกร ครับเงินเดือนน้อย ไม่มีค่า ตจว ด้วย งานหนัก ปรับตำแหน่งยาก โอกาสเติบโตริบหรี่ เพราะ มีซีเนียร์เยอะ ถ้าเลือกได้ จะไปเรียน ศิลป์จีน ครับ จากคุณ : Bird เอง (Bird เอง) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 13:22:22

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วประเด็นที่ตั้งกระทู้คืออะไรคะ คุณจะเลือกเรียนหมอหรือวิศวะ หรือว่าคุณทำงานแล้วแต่อยากรู้ว่าชีวิตของทั้ง 2 วิชาชีพ อันไหนดีกว่า ? point ของ จขกท คืออะไรคะ ขอแชร์ในฐานะเคยอยากเรียนวิศวะ ปิโตรเคมี แต่ไม่ได้เรียนเลือกอีกอัน ถ้าจะเอาเงิน เลือกหมอ แต่ก็พร้อมที่จะรับความกดดันที่จะเกิดขึ้นไหม ความเครียดจากคนไข้และญาติ ถ้าจะเลือกวิศวะ ใจชอบงานนั้นไหม lifestyle ของชีวิตการทำงานมันต่างค่ะ ถ้าเราเลือกได้ตอนนี้เราอยากกลับไปเรียนวิศวะปิโตร จากคุณ : coffee_addicted_morning เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 13:46:30

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับที่ตั้งกระทู้ ทำให้ผมคิดว่าจะหนีจากสายวิศวะ ไปสาย investment banking แล้วครับ จากคุณ : KP เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:13:46 A:125.24.124.109 X: TicketID:352161

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่อ! หมอ วิศวะ  หมอ วิศวะ  หมอ วิศวะ หมอ วิศวะ หมอ วิศวะ หมอ วิศวะ หมอ วิศวะ แล้วอาชีพอื่นจะกลายเป็นอะไรไปหละเนี่ย... ผมจบคณะเกษตร ม.ดัง เอ็นเข้าไปแบบตั้งใจเลยว่าจะเรียน คณะนี้ รูมเมทเป็นวิศวะทั้งห้อง  มีผมเรียนเกษตรคนเดียว กิจวัตร เช้าตรู่ : ผมตื่นเข้าฟาร์ม  เพื่อนวิศวะ เพิ่งกลับห้อง สายๅ : ผมกลับห้อง อาบน้ำไปเรียน เพื่อนวิศวะ นอน เที่ยง : ผมกลับห้อง  เพื่อนวิศวะเพิ่งตื่น บ่าย :  ผมออกไปเรียน เพิ่อนวิศวะ เล่นเกมส์ เย็น : ผมเข้าฟาร์ม เพื่อนวิศะว เตะบอล ค่ำ : ผมนอน เพื่อนวิศวะ ไปกินเหล้า เล่นไฟ่ เกรด ผมจบ สองปลายๆเกือบๆสาม   เพื่อนวิศวะ  สองนิดๆ เกือบๆไม่จบ เงินเดือน   อย่าพูดถึงเลย  พูดแล้วช้ำใจ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้  ก็ไม่เลือกเรียนวิศวะอยู่ดี อาชีพ อะไรก็ได้ ที่เราทำแล้วมีความสุข  ดีที่สุดครับ จากคุณ : อัญชันริมรั้ว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:20:10

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ ผมเคยอยากจะเอ็นวิศวะเหมือนกาน แต่ดันไปเอ็นหมอเพราะติดแล้วเท่ห์ดี (สมัยนั้น) ขอบอกว่าถ้าเลือกได้จะไปเอ็นวิศวะ แล้วไปต่อนอกอีกทีดีกว่า ผมไม่ได้ชอบหมอ แต่ก็ไม่ได้เกลียด เป็นกลางๆ จบมารู้สึกว่า "มันไม่ใช่อ่ะ ทั้งเหนื่อย เครียด เสี่ยง" เลยไปต่อเฉพาะทางเพื่อลดความหนักและเสี่ยง+ให้มีเวลามากขึ้นจะได้ไปทำอย่างอื่นด้วย ตอนนี้หันเหไปทำธุรกิจ เล่นหุ้น และอื่นๆ เพิ่มเติม ถ้าใจไม่รักจริงๆ สายงานนี้ไม่สบายนะจ๊ะ ขอบอก จากคุณ : อืม ให้มันได้ยังงี้สิ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:29:59

ความคิดเห็นที่ 21 วิศวะ สอบไม่ติดก็ได้เรียน เอกชนหรือที่ไหนๆก็มีเปิดสอน เพียบ! แพทย์ สอบติดก็เฮกันทั้งบ้านแล้วครับ ไม่ติด เท่าทั้รู้มีเปิดสอนก็ ม.รังสิต ค่าเทอมกว่าจะจบก็หลักล้าน ไม่ใช่ว่าเอาหมอมาเป็นตัวเลือกได้ แต่ถ้าสอบหมอได้ก็เรียนหมอเถอะ จากคุณ : ปุ๊กลุกกะดุ๊กดิก เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:32:22

ความคิดเห็นที่ 22 เบื่อคำถามทำนองนี้มากๆ ถามกันบ่อยๆ พูดถึงแต่เรื่องเงินเดือนและเกียรติยศและคำนำหน้า เบื่อที่พูดกันว่าใครเรียนหนักกว่า หมอหรือ วิศวะ เบื่อที่คนหลายคนชอบบอกว่าย้อนเวลากลับไปจะเรียนหมอ มองแต่เปลือกอันฉาบฉวยที่เห็น หาได้มองท่ี่จิตวิญญาน มองที่แก่นแท้ จากคุณ : Webwalker เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:43:39

ความคิดเห็นที่ 23 #22 ก็ในเมื่อสังคม เค้าวัดกันแค่นี้นี่ครับ ทำงานอะไร รวยมั๊ย มีหน้าตาทางสังคมหรือเปล่า ลุกพี่ลูกน้องผม เป็นหมอ   สรรพนามที่เรียกกันในบ้าน ยังเปลี่ยน มีหมอนำหน้าชื่อเลย พ่อแม่ก็ภูมืใจ ยิ่มแก้มปริ อย่างผม จบ สัตวศาสตร์  ต้องคอยตอบคำถามว่า มันคืออะไร เหมือนสัตวแพทย์ไหม ทำงานเกี่ยวกับอะไร อยู่ๆก็นึกถึง ชาวนาปริญญา ขึ้นมา ลองหาดูในคนค้นคนสิครับ ทำนา 1 รุ่น 4เดือน ได้เงินเกือบ 2ล้าน   ดูน่าอิจฉากว่า หมอ หรือ วิศวะเยอะเลย จากคุณ : อัญชันริมรั้ว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 14:59:40

ความคิดเห็นที่ 24 ยอมรับว่าเป็นหมอรวยก็จริงครับ แต่เรียนยากและหนัก เพื่อนผมก็เรียนหมอ หนังสือหนาเป็นปึก และใช้ความถนัดคนละแบบ เรียนหมอใช้การจำเยอะมากๆ เรียนวิศวะใช้การคำนวณความรู้แต่ละวิชาเป็นพื้นฐาน หมอทำงานก็เครียดหลายอย่าง ต้องคนที่มีจิตใจอยากจะช่วยคนจริงๆ มีเพื่อนที่เรียนวิศวะ เหมือนกัน ก็เป็นอย่างที่ จขกท.กล่าว ตอนนี้คนเรียนวิศวะเยอะมากๆ จบออกมาเยอะ แต่เพื่อนที่รุ่งสุดขีด คือ เรียนการท่องเที่ยว ตอนนี้เป็นไกด์ พาคนไทย ไปเที่ยวเมืองนอก รวยมากเลยครับ ได้เที่ยวไปทั่วโลกด้วย ได้ตังค์ด้วย แถมมีค่าคอมจากร้านค้าอีก เพื่อนบางคนก็เรียนสายนึง ไปทำงานอีกด้านนึง จนอิ่มตัว ไปเป็นชาวไร่ ก็มีความสุขดี จากคุณ : นะจังงัง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 15:58:48 A:1.20.1.170 X: TicketID:273954

ความคิดเห็นที่ 25 "สนามหญ้าบ้านคนอื่นสวยกว่าสนามหญ้าบ้านตัวเองเสมอ" จากคุณ : eat pray love เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:14:22

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเป็นวิศวกร ซื้อของผิดพลาดยังเครียดไปหลายวันเลย ลองคิดเล่นๆว่า สมมติถ้าผมเป็นหมอผ่าตัด แล้วพลาดทำคนตายขึ้นมาโดยเป็นความผิดที่เกิดจากผมเอง ยังไม่กล้าคิดเลยว่าจะแบกรับความผิดชอบนั้นไหวรึเปล่า จากคุณ : เขียนบน iPhone (parkko) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:30:55

ความคิดเห็นที่ 27 พี่ชายเราคนโตเป็นหมอค่ะ พี่คนกลางวิศวะ เราเรียนเตรียมอุดมห้องคิง เพื่อนเรียนหมอและวิศวะกันเยอะมาก(หมอส่วนมากก็จุฬา ศิริราช) ส่วนวิศวะก็จุฬาหมด เรียนภาคคอมกับปิโตรเลียม ส่วนเราเองเรียนบัญชี ตอบให้จากความเห็นเรา แบบตรงๆเลยไม่ดราม่านะคะ หนึ่ง หมออาจจะดีกว่าวิศวะตรงที่ จบหมอจากที่ไหน เกรดเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีผล (มีผลแค่ตอนเลือกเฉพาะทางหรือเรียนต่อและเลือกที่ใช้ทุน) คือ จบมาคุณก็เป็นหมอ สตาร์ทเงินเดือนใช้ทุน30,000เท่ากันหมด ส่วนวิศวะ จบจากไหน เกรดเท่าไหร่มีผลมาก อย่างพี่ชายเราคนกลางขี้เกียจมาก แต่เรียนกลางๆ สอบเข้าม.รัฐแห่งหนึ่ง จบออกมาเกรด2.65 ก็เป็นวิศวกรธรรมดา ตอนนี้อายุจะ30เงินเดือนก็อยู่ที่20,000กว่าอยู่เลย ในขณะที่เพื่อนเราืีที่เตรียม จบเตรียมเกรด3.9 มาต่อวิศวะปิโตรเลียม จุฬาได้เกียรตินิยมอันดับ2 สตาร์ทเมื่อ2ปีก่อน เงินเดือน50,000up ทุกคนและได้ทำบริษัทที่มั่นคงกันม่กๆ คือวิศวะมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด สอง เป็นวิศวะถ้าเก่งจริงจะรวยหรือได้เงินเร็วกว่าหมอ เช่น พวกปิโคร คอม เคมี หรือภาคอื่นเทพๆ อายุเกือบ30ก็ได้เงินเดือนเหยียบแสนได้ และมีเวลามากกว่า คือ งานก็หนักแต่ไม่เครียดเท่าหมอ แต่หมอ ถ้าอยากได้เงินเดือนหลักแสน ตอนใช้ทุนได้ประมาณ30,000 พอจบมาเรียนเฉพาะทางต่อได้เพิ่มเป็น40,000-60,000 จากนั้นใช้ทุนเฉพาะทาง บลาบลา. สรุปว่ากว่าจะจบใช้ทุนทั้งหมด ไปสมัครเอกชนเต็มตัวได้ก็อายุ35 up แต่ตอนนี้คืิอ แปลกมาก เพื่อนเราในห้องที่เรียนหมอมาก บ่นกันเยอะ รู้งี้เข้าวิศวะดีกว่า ก็คงได้ภาคดีๆอยู่แล้ว พวกปิโตรคอม ตอนนี้ทำงานได้เงินสบายใจแล้ว แต่สำหรับเรา สิ่งเดียวที่หมอทั่วไปดีกว่าวิศวะเทพๆก็คือ มีเกียรติมั้งคะ คนนับถือ ไปไหนคนก็เรียกหมอๆ ส่วนทางสายศิลป์เราว่าถ้าเก่งจริวๆ นิติ กับ อักษรเป็นคณะที่น่าเลือกเหมือนกัน จากคุณ : ความเห็น เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 18:57:52 A:171.97.173.184 X: TicketID:380937

ความคิดเห็นที่ 28 อุเบกขา วางเฉยกับเรื่องเปรียบเทียบ และ มุทิตาจิต ยินดีกับผู้อื่นที่ได้ดี แล้วมามีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ ทำดีได้ดี จากคุณ : 908auan เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 19:47:25

ความคิดเห็นที่ 29 ##ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นที่ 11## (น้อยเนื้อต่ำใจ แต่ก็ทนไปเพราะเราเลือกเอง) แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 55 00:25:50 จากคุณ : nakasid02 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 21:08:26

ความคิดเห็นที่ 30 คนเราก็เป็นแค่เม็ดทรายในหาด จากคุณ : UntamanEi เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 22:52:45

ความคิดเห็นที่ 32 โพสท์ซ้ำด้านบน... แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 55 22:53:45 จากคุณ : UntamanEi เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 55 22:53:06

ความคิดเห็นที่ 33 เราเรียนวิดวะค่ะ น้องชายเรียนหมอ ไม่รู้สินะ ทีแรกก็ดีใจอยู่เหมือนกันที่น้องเรียนหมอ แต่นานๆไป จะพูดว่าอิจฉาก็อาจจะได้มั้งคะ เวลาไปไหนมาไหนเจอญาติๆ เจอคนรู้จักของพ่อ ของแม่ มีแต่คนถามว่า ไหนๆ คนไหนที่เรียนหมอ เหมือนเราไม่มีตัวตน เราพยายามเรียนได้สามกว่า คือก็ยังโดนว่าอยู่ดี ว่า แล้วไง ได้แค่นี้อะหรอ คือมันแตกต่างกันมากซะจนบางที อยากย้อนเวลากลับไปแล้วเรียนหมอเลยหละค่ะ จากคุณ : ArraDinny เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 12:52:16

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 33 เวลาไปไหนมาไหนเจอญาติๆ เจอคนรู้จักของพ่อ ของแม่ มีแต่คนถามว่า ไหนๆ คนไหนที่เรียนหมอ เหมือนเราไม่มีตัวตน ^ ^ วิศวะ = มุตตา หมอ  = มุนินทร์ ณ แรงเงา จากคุณ : ดูละคร แล้ว อิน (สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า HR) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 14:18:30

ความคิดเห็นที่ 35 **ครอบครัวเรา ผู้หญิงจบวิศวะ 5 คน** (โยธา 3,อุสาหการ 1,ไฟฟ้า1) รวยสุด คือพี่สาวที่ลาออกจากอาจารย์ มาช่วยแม่ทำร้านอาหารคะ ซะงั้น นอกนั้นก็ไปตามวิถีกรรม ทางสายงานคะ ไม่รวย..แต่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่เราตั้งใจมากกว่า "ทำอะไรก็ตาม อย่าออมแรง และทำให้ดีที่สุด" จากคุณ : วันฉันยังยิ้มได้ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 15:52:30

ความคิดเห็นที่ 36 พี่ชายเราเป็นหมอค่ะ รวย แต่ไม่มีเวลาใช้เงิน ไปไหนก็เป็นเจ้ามือจ่ายให้ครอบครัวตลอด พี่สะใภ้เราบ่นจนร้องไห้ไปหลายรอบ เรื่องคุณหมอไม่มีเวลาให้ลูก เราก็ปลอบใจกันไป ส่วนแฟนเราเป็นวิศวกร ( โรงงานรถยนต์ ) ระดับบริหารแล้ว เงินเดือน 1 แสนนิดๆ จะใช้เงินก็ต้องคิดหน้าคิดหลัง ทำงาน 5 วัน เสาร์ - อาทิตย์ พักผ่อนเต็มที่ ไม่รวยมากแต่ก็ไม่ขัดสนอะไร จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 18:16:58

ความคิดเห็นที่ 37 หมอสอบเข้ายากกว่ามากนะคะ อยากเข้าก็ไม่ใช่จะเข้าได้ทุกคน พ่อบ้านก็จบวิศวะมา สำหรับวิศวะ ต้องWork Hard Work Smart หน่อยคะ ถึงจะประสบความสำเร็จ แล้วต้องกล้าที่จะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนField อาจทำส่่วนตัว เริ่มเล็กๆไปก่อนก็ได้ค่ะ ปล. ถ้ายังโสดๆกัน แนะนำให้หาแฟนเป็นหมอค่ะ จากคุณ : ฺีButterCup เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:01:14 A:58.11.120.180 X: TicketID:372970

ความคิดเห็นที่ 38 เรียนจบวิศวะมาเหมือนกันครับ จบ ม.รัฐบาล เกรดเกือบสาม เงินเดือนเริ่มต้นก็ประมาณ 2 หมื่นครับ ตามโรงงาน ตำแหน่งวิศวกร ทำงานก็เบ๊ดีๆคนนึง แต่ถ้าอยากได้เงินเยอะๆ ต้องเก่งจริงๆน่ะครับ ทำงานกับบริษัทในกลุ่มพลังงาน เช่น ปตท SCG เงินเดือนก็จะเยอะกว่าโรงงานทั่วไป อาจจะ 30-50k ได้ แต่การแข่งขันสูงครับ ทำใจ... ส่วนหมอ(ความคิดส่วนตัวล้วนๆนะครับ) โดยปกติหมอจะเน้นเรียนหนักไปทางชีวะ ซึ่งเปนสายท่องจำหรืออาจมีวิเคราะห์โรคจากอาการบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการรักษาคนมีความเสี่ยง เงินเดือนต้องสูงเปนธรรมดา เพราะถ้ารักษาพลาดนั่นคือชีวิตคนครับ ส่วนตัวแล้ววิศวะผมว่าสอนอะไรเยอะนะครับ รู้จักเหตุรู้จักผล ซึ่งเราสามารถไปเรียนต่อในสายอื่นๆได้ครับ ถ้าจะรวยจากอาชีพนี้จริงๆคงต้องทำงานต่างประเทศอะครับ เงินเดือนวิศวกรจะสูงและได้คิดค้นอะไรใหม่ๆเยอะ เมืองไทยก็จะเปนแค่แหล่งผลิตเปนส่วนมาก เราก็จะเปนแค่วิศวกรโรงงานเงินเดือนไม่สูงครับ จากคุณ : surumon เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:59:15

ความคิดเห็นที่ 39 ผมเป็นวิศวกรแต่ผมทำงานเหมือนหมอนะ ถ้าเครื่องจักรพัง หยุดเดินก็ไปทำ ไม่เสียไม่เป็นไรผมก็นั่งเล่นคอมนั่งห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ เลิกงานก็ไปกระดกเบียร์เย็นฉ่ำ สบ๊าบ สบาย ผมไม่แอ๊บหรอก มาดผู้นำก็มีกับเค้าบ้าง เรื่องชู้สาวไม่มีก็โอเคทำงานเสร็จปิดจ็อบได้ก็ไม่ได้ขัดสนอะไร เคยมีกิ๊กเป็นหมอนวด พยาบาล ครู แต่ได้แฟนเป็นนักบัญชีนี่ดิเก็บทุกบาททุกสตางค์เลย อิอิ จากคุณ : ฮานาก้า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 55 19:59:32 A:125.27.122.42 X: TicketID:369642

ความคิดเห็นที่ 40 อ้าว! คนที่เลือกเรียนวิศวะ แล้วมาบอกว่า รู้งี๊เรียนหมอเรียนแพทย์ดีกว่านี่ สรุปไม่ไ่ด้รักในวิชาชีพของตัวเองเลยหรอกเหรอ (วะ) เออ เพิ่งรู้ จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 00:18:09

ความคิดเห็นที่ 41 ง่ะ เอาเทียบกันได้ด้วยเหรอ สายงานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ความถนัดในการเรียนก็ต่างกัน ไม่อยากเป็นวิศวะ เลยมาเรียนหมอ การเรียนการทำงาน มันคนละเรื่องกันเลย คนที่คิดแบบนี้แสดงว่ายังค้นหาความถนัด ความชอบในตัวเองยังไม่เจอรึป่าว ถ้าคนชอบสายสุขภาพจริงๆ ไม่ได้หมอ ก็พยาบาล เทคนิคการแพทย์ เภสัช อะไรแบบนี้ ไม่ใช่โดดข้ามไปเรียนวิศวะ เราว่ามันคนละโลก คนละเรื่องเลยนะ เลยค่อนข้างแปลกใจกับคนที่เป็นวิศวะแล้วบอกว่ารู้งี้เมื่อก่อนเรียนหมอก็ดี จากคุณ : มามั่ว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:28:38

ความคิดเห็นที่ 42 รำพึงถึงอดีตไปก็เท่านั้น เหมือนเจ๊งหุ้นมา ก็มานั่งบ่นว่า ทำไมไม่ขาย และไปซื้อตัวอื่น ปัญหาคือ ใครมันจะไปรู้อนาคต แต่ประเด็นนี้จำกัดกว่า เพราะไม่ใช่วิศวกรทุกคน มีความสามารถจะเรียนคณะหมอได้ ทำงานเป็นหมอได้ แล้วก็ไม่ใช่หมอทุกคน มีความสามารถจะเรียนคณะวิศวะได้ (แต่ส่วนใหญ่ก็คงได้แหละ ถ้าสมองดีความจำดีเป็นพื้นฐาน) และทำงานเป็นวิศวกรได้ (แบบที่รับผิดชอบในงานสูง) ที่วิศวกรบ่นว่า สมัยเอนทรานซ์น่าจะเลือกหมอ น่ะ เกิดสมมติว่าเลือกหมอจริงๆ มันจะมีปัญญาเอนท์ติดกัน แล้วเรียนจบสักกี่คน...ก็ได้แต่เพ้อถึงอดีต คณะวิศวะยุคหลังๆ นี้ หลายมหาลัย กาข้อสอบมั่วๆ ได้โควต้า หรือมีตังค์ ก็ยังได้เรียนเลยด้วยซ้ำ จะเรียนจบมาสองจุดต๋อย เป้อสัก 5-6 ปีสุดท้ายมันก็เรียนจบได้ออกไปรับเงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่คณะแพทย์มันไม่เคยเป็นอย่างนั้น รักษาคุณภาพการศึกษาดีกว่าวงการวิศวะ มากมาย เค้าจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าโดยส่วนมาก ก็สมควรแล้ว จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 14:51:44