ความคิดเห็นที่ 1 รออ่านครับ เชื่อว่ากระทู้นี้จะต้องเป็นกระทู้แนะนำแน่นอน จากคุณ : ความน่าจำเป็น เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:09:43

ความคิดเห็นที่ 2 มีอึ้งบ้างครับ แต่ยุคสมัยมันเป็นแบบนี้ เราต้องปรับตัวให้ทัน เด็กสมัยนี้ ถ้าจับจุดได้ พวกเค้าจะเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากเลยทีเดียวล่ะ จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:11:16

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่า เรื่องลักษณะบุคคลเช่นนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวที่เหล่าฝ่ายบุคคลทั้งหลายไม่ควรนำมาพูดคุยกันครับ ผู้สมัครหรือคนเราต่างคนต่างถูกเลี้ยงดูกันมาต่างกัน จะให้คิดหรือทำอย่างที่ใจเราต้องการได้คงไม่เหมือนกัน หากผู้สมัครท่านนั้น ยังไม่ปฏิบัติดังที่ฝ่ายบุคคลทั้งหลายพอใจ ท่านก็เพียงปฏิเสทเขาไปอย่างสุภาพ แต่อย่าเอาพฤติกรรมเหล่านี้มาถกกันเลย เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่า กิริยาที่เขาแสดงออกมานั้น มันแสดงออกมาเพราะอะไร ถูกหรือผิดหรือไม่อย่างไร มันก็เหมือนกับ HR ทั้งหลายนั่นล่ะครับ มีดีมีเลว มีพฤติกรรมน่ารังเกียจก็เย๊อะแยะไป....ผมว่าท่านเจ้าของกระทู้เอง ควรมีจิตวิทยาในการทำงานพัฒนาบุคคลกรมากกว่านี้นะครับ...เห็นตั้งกระทู้มาแล้ว...ต้มมาม่ารอดู HR โดนรุมด่ามาหลายกระทู้แล้ว..... จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:12:02

ความคิดเห็นที่ 4 ล่าสุด ที่อาคารรับช่างไฟฟ้า จบ วุฒิปวช.ขึ้น แต่ตัวก็โอเคค่ะ เสื้อขาว กางเกงทำงาน แต่ตอนสัมภาพษณ์... เขาเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย... จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:18:10

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ในแง่ลบนะครับ รีพลาย 3 ผมแค่อยากแชร์แลกเปลี่ยน เพื่ออนาคตเจอผู้สมัครแบบนี้ เราจะมีวิธีการยังไงต่อไป จากคุณ : kimji_bkk เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:19:46

ความคิดเห็นที่ 6 ชื่นชมทุกการตอบกระทู้ของคุณ Chalk_HR ครับ จากคุณ : kuhoad เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:27:42

ความคิดเห็นที่ 7 จะมีวิธีการรับมืออย่างไร? ตอบได้ง่ายมากครับ ฝ่ายบุคคลก็ทำหน้าที่ของตนเองต่อไปให้จบอย่างสมบูรณ์ ผมเองก็เจอผู้สมัครมากมาย ตั้งแต่ระดับโอเปอเรชั่น ไปจนถึงผู้บริหาร ทุกวันนี้ทำงานมาสิบปี สัมภาษณ์ไปแล้วเป็นหลักหลายพันคน แน่นอนว่าผมต้องผ่านผู้สมัครที่มีทั้งกริยาน่ายกย่อง และไม่น่ายกย่อง แต่ทุกครั้ง ด้วยบทบาทหน้าที่ของฝ่ายบุคคล มันต้องทำหน้าที่ให้จบในกระบวนการสัมภาษณ์ ไม่ว่าผมจะชอบเขาหรือไม่เท่านั้นเองครับ...คุณเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้หรอกครับ แต่ควบคุมตัวเองให้รับมือในทางบวกได้ ต่อให้แคนดิเดทเคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างการพูดคุย หรือนุ่งกางเกงยีนส์มาสัมภาษณ์ ผมก็จะสัมภาษณ์เขาให้จบสิ้นทุกกระบวนการ ส่วนจะเอาหรือไม่เอาเขานั้น...เป็นเรื่องหลังจากการสัมภาษณ์ครับ จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:30:50

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ใช่ค่ะ เราก็สัมภาษณ์ จนจบ... แต่ทีเล่ามา เพราะไม่เคยเห็นพฤติกรรมอย่างนี้ เท่านั้นเองค่ะ จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:32:51

ความคิดเห็นที่ 9 คุณแม่หญิงฟุ้งซ่าน คุณรู้ไหมครับว่าทำไมเขาถึงเคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างคุย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการที่เขาไม่รู้จักกาละเทศะ แต่หากคุณเข้าใจเรื่องของจิตวิทยาและการตอบสนองของพฤติกรรมคนต่อสิ่งเร้า การที่เขาทำอะไรซ้ำๆเช่นนี้ บ่งบอกว่าเขากำลังเครียดและอยู่ในภาวะกดดันครับ สังเกตุไหมครับ บางคนนั่งเรียน ต้องนั่งหมุนควงปากกาในมือ นั่งเขย่าขา นั่งกัดเล็บ นั่นเป็นเพราะเขากำลังอยู่ในภาวะกดดัน และไม่สามารถควบคุมการแสดงออกต่อสิ่งเร้าได้ จึงต้องแสดงพฤติกรรมออกมา ดังนั้นการเป็นผู้สัมภาษณ์ ต้องอ่านภาษากายเหล่านี้ให้ออกครับ... จากคุณ : Chalk_HR เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:37:06

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าใจว่าเขาเครียดค่ะ ถามว่าเคยฝึกงานที่ไหนมาบ้าง คำตอบ จั๊บๆ...ที่ นานเท่าไหร่ คำตอบ จั๊บๆ..เวลา ดูประวัิติแล้ว ขับรถได้ มีใบขับขี่ คำตอบ จั๊บๆ..มีครับ แต่นึกย้อนกลับไป ก็อดฮาไม่ได้ค่ะ อีกอย่างที่เราเข้ามาตอบเพราะคำถามของ จขกท.นะคะ "แล้วเพื่อนๆ เจอเคสไหนที่ทำให้แบบว่า อึ้งกะเด็กจบใหม่สมัยนี้ไหมครับ" เราจึงได้เล่าสู่กันฟังประมาณนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 10:55:25 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 10:52:53 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 10:51:06 จากคุณ : แม่หญิงฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:48:36

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ขอบคุณครับ  ที่เข้าใจเจตนาผม เราเล่าสู่กันฟัง จากคุณ : kimji_bkk เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:57:47

ความคิดเห็นที่ 12 ถือเสียว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เถอะค่ะ เราคิดว่าการบอกเล่าธรรมดาคงไม่เสียหาย เพราะจขกท. และหลายๆ คนในบอร์ดก็ไม่รู้จักกัน ชื่อผู้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้เอ่ย หากคิดว่าเป็นการระดมความคิดเพื่อหาทางออกที่ดี จะมีประโยชน์มากกว่า ให้ความรู้สึกมาดีเบทมากกว่าถกเถียง น้องๆ รุ่นใหม่หลายคนจะได้ความรู้ไปด้วย ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าน้องๆ รุ่นใหม่บางคน ผิดพลาดด้านการใช้ภาษา การแต่งกายไม่รู้กาละเทศะ เพราะไม่ทราบมาก่อนก็เยอะ ทำให้พลาดโอกาสในการได้งานโดยไม่รู้ตัว แล้วมานั่งสงสัยว่าทำไมตัวเองไม่ได้งาน ทั้งที่คุณสมบัติและความสามารถครบถ้วน เค้าเหล่านี้หากได้ทราบว่า อ้อ! อันนี้ไม่สมควรนะ หรือว่าสำหรับการสมัครงาน ใช้ภาษาแบบนี้ไม่ได้ การเข้าไปพบผู้อาวุโสกว่าต้องวางตัวอย่างไร คงจะเป็นประโยชน์แก่น้องๆ จบใหม่มากกว่าค่ะ จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 10:59:39

ความคิดเห็นที่ 13 เอาจากประสบการณ์ในการสอนงานได้ไหมครับ ของผมเข้ากะกลางคืน มาได้แค่ครึ่งชั่วโมง กลับบ้านเลยครับ บางทีมาวันแรก วันถัดไปไม่มาเลยครับ ยอมรับว่างานมีหนักมีเบาครับ แต่ก็อดคิดไม่ได้ เด็กสมัยนี้มันไม่่มีความอดทนกันเลย ผมทำอยู่ 3ปีครับเลยออก ทำไม่ไหว เพราะทำอยู่คนเดียว โดนเกลี้ยกล่อมบอกว่าจะส่งเป็นหัวหน้างาน ผมรู้ทัันว่าเค้าไม่ส่งไปหรอก ถ้าส่งไปเค้าไม่มีคนทำงานให้ ก็เลยชิงออกหางานใหม่ จากคุณ : aun123 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:07:37

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าได้ประโยชน์นะครับ  ผมไม่ใช่ HR แต่พออ่านก็จะได้รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ แม้ว่า หัวกระทู้ดูเหมือนแค่การชวนเม้าก็ตาม แต่มันขึ้นอยู่กับการตีข้อมูล ซึ่งสามารถเกิดประโยชน์ได้ทุกฝ่าย ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรถกกันตรงไหน จากคุณ : bubblebest เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:13:36

ความคิดเห็นที่ 15 เคยเจอแบบว่ามาทำงานวันแรกได้สองชั่วโมง แล้วเดินมาบอกกับเราว่า "พี่คะ หนูขอลาออก" ความอดทนน้อยจริงๆเด็กสมัยนี้ เฮ้อ.... จากคุณ : รอฟ้าเปลี่ยนสี (รอฟ้าเปลี่ยนสี) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:15:01

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเป็น HR ก็เคยเจอแบบที่ว่า มาสมัครกับเราแล้ว เค้าจำไม่ได้ว่าเค้ามาสมัครกับบริษัทเรา คือน้องเค้า งงๆ ว่าทำไมบริษัทนี้ โทรมานัดไปสัมภาษณ์ ผมก็งง น้องเค้าถาม บริษัทนี้มีด้วยเหรอ อ่าว งง สิ เจอคำตอบนี้ ผมก็เอ่อๆ ขอโทษครับผมโทรผิด จากคุณ : เดินชมจันทร์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 11:31:16

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่ามันจะเป็นดราม่าเพราะเดี่ยวก็จะมีคนมาด่า Hr กันต่ออีกจนยาวครับ อย่างที่ คุณ  Chalk_HR เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่สมควรเอามาแลกเปลี่ยนกันบันเวปบอร์ดครับเพราะมันละเอียดอ่อนและชวนทะเลาะครับ มันควรคุยกันเป็นการส่วนตัวในกลุ่ม Hr ด้วยกันมากกว่าครับ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 12:16:40

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้เจออยู่ค่ะ แต่รับเข้ามานานแล้ว เราเองก็เพิ่งมาอยู่ เด็กพวกนี้เลือกกิน เลือกทำ (พอดีเราทำ HRD) ถ้าจัดประชุมมีอาหารดี ๆ แบบที่พวกเธอไม่เคยกินมาก่อน  พวกเธอจะรีบกุลีกุจอ มาทำงาน อยู่ช่วยจนถึงเลิกงาน เพื่อกินของดี ๆ และแอบเอาของดี ๆ กลับบ้านไปอีก เราเอือมมากเลยอ่ะ จากคุณ : เจ้าเหมียวยูนิฟ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 14:22:52

ความคิดเห็นที่ 19 มาเล่าสู่กันฟัง  ไม่เห็นเป็นไร ไม่ชอบใจ  ก็ไม่ต้องคลิกเข้ามา  จบ จากคุณ : คลองห้า เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 14:44:43

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเคยสัมภาษณ์เด็กจบใหม่มาครับ ถามเค้าว่า ให้ ค่าความสามารถของตัวเองในระดับไหน 0-10 ตอบกลับมาว่า ไม่ต่ำกว่า 8 .... o.O อู้มันมั่นใจวุ้ย... เลยลองภูมิซักหน่อย ถามเจาะลึกนิดนึง ...... .... ....... หุยพี่ถามแบบนี้ผมตอบไม่ได้หรอก ต้องอยู่หน้าจอคอมครับ แต่ที่ผมถามน่ะ แค่ถามว่า ถ้าพี่จะดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล เทเบิ้ลที่เก็บข้อมูลลูกค้าคนที่มีชื่อว่า "สมชาย" จะเขียน sql ยังไงเอง.... สุดท้ายลงความเห็นไม่รับครับ แหะๆ ไม่รู้ไม่ว่า แต่อย่าแถ มันไม่งาม ^ ^ จากคุณ : panda_bs เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:08:51

ความคิดเห็นที่ 21 เราไม่ใช่ HR แต่เราเป็นหัวหน้างานที่ HR ส่งเด็กมาให้สัมภาษณ์ต่อเพื่อเข้าแผนกเรา เรารับเด็กวุฒิ ป.ตรีจบใหม่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ แต่ขอเน้นคอมฯ พวกออฟฟิตทั่วไป ปรากฎว่าเด็กใหม่ที่มาสัมภาษณ์คนนี้ เราดูใบสมัครงานและประวัติการศึกษา โอ้โห เกียรตินิยมอันดับ 2 เอกคอมฯ ซะด้วย โปรไฟล์ดีขนาดนี้รับเลยละกัน ไม่ต้องทดสอบ ปรากฎว่า.... เริ่มงานจริง ให้น้องพิมพ์งานในเอกเซลธรรมดาๆนี่ล่ะค่ะ น้องผสานเซลล์ ตั้งตัวกรอง(Filter) กราฟง่ายๆ  ไม่เป็น โอ้พระเจ้า! เด็กสมัยนี้นี่นะเอกคอมฯ พร้อมเกียรตินิยม จากคุณ : February sept เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:21:52

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่ากระทู้นี้มีประโยชน์เป็นกรณีศึกษาสำหรับเด็กเพิ่งจบใหม่ และ HR มือใหม่ นะครับ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:25:38

ความคิดเห็นที่ 23 #20 ความจำดีจัง ทำไมไม่ไปเป็นครูครับ ถ้ามาถามผมว่า เครื่องช้าซ่อมยังไม่ พูดตรงๆ ผมก็ไม่รู้หรอก หรือจะทำ เกตเวย์ซักตัว ติดตั้งโอเอสยังไง ผมยิ่งไม่รู้ใหญ่ แต่ประสบการณ์ แบบตอบไม่ได้ ผมก็หากินกับคอมมาหลายปีและ เกิน10ปีด้วยซ้ำ ความจำไม่ใช่คือที่สุดของความเก่งครับ กูเกิลมีครับ หาเข้าไปซิ เผลอๆ ได้วิธีที่แจ๊วกว่าที่คุณมีอีก เคยเจอ ตอนสัมภาษณ์ คนสัมภาษ ถือไอแพดกะไอโฟนมา ถามว่า แอนดรอย กับ ไอโฟน ต่างกันอย่างไร (ในกระเป๋า มีโมโต ดีฟาย+ อยู่) และอย่าเสียงดังไป คนที่ถือไอแพดคนนั้น ก็นั่งทำงานอยู่ไกล้ๆผมตอนพิมตอบกระทู้เนี้ยแหละ จากคุณ : ^Ai^ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:26:54 A:180.183.98.231 X: TicketID:280139

ความคิดเห็นที่ 24 เราว่าบางคนเขามีความคิดแปลก อย่างที่เคี้ยวหมากฝรั่งนี่ คือ อาจจะกลัวว่าตัวเองมีกลิ่นปาก แล้วไม่ได้งาน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า การเคี้ยวหมากฝรั่ง ในการคุยกับผู้ใหญ่ หรือสัมภาษณ์งานนี่ มันไม่สุภาพ ส่วนที่ลองทำได้ ๒ ชม. นี่ขอลาออก  บางทีอาจจะไม่ใช่เขาไม่อดทน แต่เห็นอะไรที่ไม่ใช่ชอบมาพากล  ก็เลยไม่อยากฝืนทำต่อไปอย่างไม่มีความสุข ที่พูดอย่างนี้ เพราะถ้าเป็นเรา เราคงเลือกที่อะไรก็ทนๆ ทำๆ ไปก่อน เดี๋ยวก็ชอบไปเอง ปรากฏว่ายิ่งนานวันยิ่งทนไม่ได้ ทำต่อไปไม่ไหว ต้องออก  ทำให้เสียเวลาทั้งเรา ทั้งนายจ้างนะคะ จริงๆ อยากให้มีการลองงานก่อน สัก ๑ - ๓ วัน หรือ ๑ สัปดาห์ ว่าชอบไหม ทำได้จริงหรือเปล่า ยอมเสียเวลาน้อย ดีกว่าเสียเวลามากทั้ง ๒ ฝ่าย แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 15:35:04 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:34:32

ความคิดเห็นที่ 25 ต้มมาม่ารอดูคนทะเลาะกัน จากคุณ : Jao_Nok_Noi เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:34:40

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้เพิ่งเรียนวิชาHuman Oganizationไอ คนแต่ละGen มีทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อนแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้ และเข้าใจคนแต่ละGenให้ได้ จากคุณ : เป็นที่ยินดีดุจพระอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 15:42:11

ความคิดเห็นที่ 27 ยิ่งอ่านยิ่งงง สรุปเอาเองได้ว่ามี HR อยู่สองประเภท 1.พยายามเข้าใจคนสัมภาษณ์แบบสุดๆ ทุกอย่างมีเหตุ-ผล และหลักการรองรับ แม้กระทั่งมารยาททางสังคมพื้นฐานบางอย่างที่ไม่ควรปฏิบัติ(ที่คนอายุขนาดทำงานแล้วมันคงไมไ่ด้เปลี่ยนกันง่ายๆ) ก็สามารถมองเห็นแง่ดีได้ 2.แบบที่พยายามมองโลกจากความเป็นจริง โดยยึดเอาบรรทัดฐานทางสังคมปัจจุบันเป็นหลัก เหมือนจะไมไ่ด้เน้นหลักการหรือจิตวิทยาชั้นสูงอะไรมากมาย เน้นใช้ความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะถูกหรือผิดอันนี้ก็ไม่รู้ จากคุณ : RapidasH เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:11:37

ความคิดเห็นที่ 28 คห 20 ผมมองว่า เวลาสัมภาษณ์ไม่ต้องถึงขนาดเอาเป๊ะๆหรอกครับ แค่ Concept คุณได้ก็ OK ล่ะ ของอย่างนี้อยู่ๆมาถามจะให้มาตอบเป๊ะๆก็ยากอยู่นะ คห 23 ผมเห็นด้วยกับคุณครับ Google คือครูที่ดีที่สุดจริงๆ ส่วนตัวเห็นมาหลายคนแล้ว พวกขี้โม้ทำนู้นทำนิ่ได้ พอถึงเวลาตอนเรียนไม่ได้ทำแบบนี้ อย่างนู้นอย่างนี้ คือข้างในกลวง แต่กับอีกประเภทคือ present ไม่ค่อยเก่ง ดูแล้วไม่น่าจะมีความสามารถ แต่ถ้าค่อยๆถามแบบตรงประเด็นเจาะลึก ตอบได้แฮะ ความรู้แน่นจากการทำไม่ใช่อาศัยอ่านอย่างเดียว จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:25:25

ความคิดเห็นที่ 29 คห 20 ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์รึเปล่าครับ? ถ้าเป็นตำแหน่งนี้แล้วลืมคำสั่ง select * from where คงไม่ไช่ 8 จาก 10 จากคุณ : oook เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 16:47:36

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ได้อยู่ HR นะครับ แต่แอบเห็นใบสมัคร สมัยนี้แปลกดี เอารูปทำหน้าแอ๋บแบ๋ว โชว์ร่องนม ถ่ายเอียงข้าง ใส่บิ๊กอาย มาสมัครงานกันด้วย เห็นแล้ว ก็งง เด็กสมัยนี้คิดอะไรกันอยู่เนี้ย จากคุณ : เจ้าชายใจเย็น เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:10:38

ความคิดเห็นที่ 31 คห20 คห29 เห็นด้วยครับ (ผมเป็นพนักงานนะครับไม่ใช่ HR) ถ้าผมคิดถึงตอนที่ผมยังจบใหม่ๆ ผมเองเป็นคนไม่ถนัด database เอาซะเลย (เรียนได้ D dog ตลอด) เกรดจบก็แค่ 2 ต้นๆ แล้วผมไปเจอ HR แบบ คห 20 ถามแบบนั้น ผมคงจะตอบประมาณว่า ผมจำไม่ได้ครับว่ามันใช้คำสั่งอะไร แต่ผมพอจำได้ลางๆว่า ถ้าจะหาชื่อสมชาย สามารถหาจาก ส เสือน้ำหน้า หรือ ย ยักข้างหลังสุดก็ได้ โดยใช้คำสั่งอะไรซักอย่างนี่ละ ที่ผมจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ลางๆว่าเคยเรียนมา ซึ่งถ้าผมมีคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้า แล้วมีกูเกิ้ลอยู่ผมจะใช้คีย์เวิร์ดว่า "คำสั่ง SQL ค้นหาชื่อจากคำน้ำหน้า" อาจจะใช้เวลาช้ากว่าคนอื่นๆ 10-15นาที แค่คาดว่า ผมทำได้แน่นอน. ผมจะตอบแบบข้างบนนี้ คือคนเราอะมันไม่มีคนโง่ มันมีแค่คนที่รู้และไม่รู้ครับ เด็กที่ไม่เก่ง แต่ตอบแค่ว่า ผมไม่เก่ง ผมไม่รู้ กับ เด็กที่ไม่เก่ง แต่พยายามขวญขวายหาในสิ่งที่ตัวเองไม่เก่ง ไม่รู้ จนทำให้ตัวเองรู้และเก่งได้เนี้ย ผมว่านี่คือสิ่งที่ HR ต้องการมากกว่า ------------------ ปล. ผมตอนเรียนไม่ค่อยตั้งใจและเกเรครับ ตอนจบใหม่ๆ ถ้าให้ 0-10 คะแนน ผมอาจจะอยู่แค่ 2 หรือ3 เท่านั้น แต่ปัจจุบันจากเด็กที่อ่อนด๋อย database ตอนนี้ใช้ HQL framework ละครับ ผมคงโชคดีด้วยที่ได้บริษัทที่ให้โอกาสผมได้เรียนรู้ และได้พัฒนาตัวเอง จากคุณ : น้องTop เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:18:16

ความคิดเห็นที่ 32 เคยเจอว่า จบคณะคอมพิวเตอร์ แต่ใช้ Microsoft Excel ไม่เป็น Sum ตัวเลขยังไม่ได้เล้ยยยย ผ่างงงงงงงง!!!!!! จากคุณ : LuPangBig เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:23:22

ความคิดเห็นที่ 33 select * from where name="สมชาย" จากคุณ : juliusds เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:29:34

ความคิดเห็นที่ 34 ทำไมถึงคิดว่าคนที่จบคณะคอมพิวเตอร์ต้องใช้ excel ได้ครับ ผมจบสายนี้มาใช้ excel ไม่เป็นครับ เขียนเป็นแค่ c java php sql objective-c ทำนองนี้ จากคุณ : tuwattua เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 17:32:19

ความคิดเห็นที่ 35 #23 #28 ที่ #20 เค้าถามมันคือพื้นฐานของสายอาชีพนี้ครับ ถ้าจะมาเป็น programmer ไม่ว่าจะจบใหม่จบเก่า ถ้าเรื่องนี้ไม่รู้ มัน ต่ำกว่า 2/10 อีกนะครับ สายอาชีพบางสายมันต้องมีความรู้พื้นฐานบางอย่างอยู่นะครับแม้ว่าจะเป็น special สำหรับสายอื่นก็เหอะ อีกอย่าง ถ้าเอะอะ ก็ Google อีกหน่อยก็ไม่ต้องรับแล้ว ปตรี ปโท สอนเด็ก ม.6 ให้ใช้ Google เป็นแล้วรับเข้าทำงานเลยดีกว่า จากคุณ : MaNaStorm เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 18:20:41

ความคิดเห็นที่ 36 confirm คห. 34 เลยล่ะ เด็กเรียนคอมไม่ได้แปลว่ารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมนะครับ  งาน MS Office คือ งานด้านเอกสารกับวิเคราะห์ข้อมูลเอกสาร  ซึ่งคนเรียนวิศวกรรม วิทยาการคอม IT ละเรื่องกับงานเอกสารเลย คนกลุ่มนี้บาง คนตลอด 4 ปี ไม่จับด้านเอกสารด้วยซ้ำ(คนทำงานด้านเทคนิค่อลจะรู้กันว่าเอาวิศวกรไปทำเอกสารเหมือนเอานาวิกโยธินไปประกวดนางสาวไทย ^^) ถ้าจะหาคนทำงานด้านนี้ต้องระบุว่า "มีประสบการณ์ด้านการทำเอกสาร MS Excel" อะไรว่าไปครับ  ไม่ใช่ "จบวิศวกรรม วิทยาการคอมพิวเตอร์" การที่เค้าเข้ามาทำให้คุณและไม่เป็นไปตามต้องการส่วนนึงต้องยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของคุณเองที่ไม่ทดสอบให้ดีเสียก่อนรับเข้ามา อะไรที่เป็นเรื่องคอมมันเนื้อหากว้างมาก  เพราะเนื้อหาเยอะคนถนัดไม่ตรงกับงาน  ทางแก้อาจจะลอง pre-screen ทางโทรศัพท์ว่าใช้ Excel เป็นไม๊คะ อาจจะมีทดสอบวันสัมภาษณ์   เค้าจะได้ไปเตรียมตัวก็เป็นวิธีที่ดีนะครับ ผมเอง เรียนคอมจนจบป.โท ก็ยอมรับว่าใช้ Powerpoint ไม่เป็นทุกฟังชั่น และใช้ Excel ไม่เก่ง รู้แต่อันที่เคยใช้เท่านั้น  ใช้เป็นอาจจะไม่ถึง 30% ด้วยซ้ำ แถมเขียนมาโครในเอกเซลได้ แต่ใช้ pivot table ไม่เป็น 5555 เพราะงานที่จับคือเขียนโปรแกรมครับ ไม่ได้เคยทำเอกสารเท่าไหร่  ทุกวันนี้ก็ยัง google อยู่เล้ยย ปล.อะไรที่เกี่ยวกับ Database ผมก็โง่นะ คือ ไม่สนใจวิชานี้เลย เหอๆ แต่ก็ไม่เคยกรอกความสามารถที่เกี่ยวกับ database ลงไปในเรซูเม่เหมือนกัน  แต่ HR มักชอบถามอะไรที่ไม่อยู่ในเรซูเม่  ซึ่งก็คงตอบไปในแนวว่าถ้าต้องใช้ก็จะไปศึกษามาเพิ่มให้ จากคุณ : Ruud_van_Nistelrooij เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 18:25:55

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่ได้จบเกี่ยวกับคอมนะ แต่ได้จับ SQLตอนทำงานบ้าง ตอนหาผมใช้แค่ where name='สมชาย' ก็เจอนะ มันต้องมี select * from ด้วยหรอ แต่ส่วนตัวของพวกนี้ลืมกันได้ง่ายๆนะครับ อย่างช่วงนึงผมไปทำอย่่างอื่น ห่างไปซัก 2 ปีลืมคำสั่ง ไปเหมือนกันทั้งๆที่เคยใช้มาทุกวัน คือมันลืมเพราะบางทีต้องไปเขียนภาษาอื่นแล้วมันใช้คำสั่ง วิธีต่างกันเลยเริ่มงงว่าจริงๆ มันเป็นคำสั่งอะไร แต่พอจะกลับมาใช้ google แปปก็จำได้ ดังนั้นผมว่าไม่แปลกที่น้องจะลืม เพราะถ้าเค้าเรียนแต่ปีต้นๆ กว่าจะจบผ่านมาอีกหลายภาษามันสับสนกันได้อยู่แล้ว จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 18:50:15

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาฟัง เรากำลังเริ่มสมัครงานอยู่ เผื่อได้ข้อมูลสำหรับการสัมภาษณ์ว่าอะไรควรไม่ควร ว่าแต่พูดถึง excel แล้วยังฮาตัวเองไม่หาย โดนทดสอบคอมพิวเตอร์ Sum เราได้อยู่ สูตร Vlookup นี่เราโอเคเลย แต่มาตกม้าตายตรงหาเปอร์เซนต์ จะเอาเครื่องคิดเลขมากดก็หน้าเกลียด ปล.  หนูเรียนพันธุศาสตร์มา ปล2. ว่าแต่พูดไปเคี้ยวหมากฝรั่งไปเนี่ย อย่าว่าแต่สัมภาษณ์เลย เคี้ยวตอนคุยกับผู้ใหญ่ยังไม่กล้าทำเลย เข้าใจนะว่ากดดัน (ไม่รู้ว่ากดดันเิกินหรือชิลล์เกิน) แต่มารยาทมันก็ต้องมี จากคุณ : เสียงกระซิบจากท่อระบายน้ำ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:05:03

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับ คห37 ครับ ยิ่งถ้าบริษัทไหนทำ framwork ก็ใช้ pojo เชื่อม database ตลอด ไม่จำเป็นต้องรู้คำสั่ง SQL ก็ทำงานได้ ไม่เห็นแปลก คนเรามันรู้ไม่เหมือนกัน มันไม่ได้รู้ทุกเรื่อง บางทีรู้ก็จำไม่ได้ก็มี บังเอิญว่าผมยังไม่เทพพอ -ขอพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆดีกว่า ไม่คิดจะหยุดนิ่งอยู่กับที่จนไม่ต้องเปิด google ครับ บริษัทที่ดี ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่คนเทพๆเข้ามาทำงาน แล้วกดเงินเดือนถูก ถ้าแบบนั้นประกาศรับซีเนียร์ดีกว่ามั้งครับ อย่ารับเด็กจบใหม่เลย เพราะยังไงเด็กจบใหม่ก็ต้องหาความรู้ทาง internet เพิ่มเติมตลอด หรือถ้าไม่อยากให้เปิด google ก็ออกกฏไปเลยบริษัทนี้ห้ามเปิด google นะครับ แฟร์ดี 555 จากคุณ : น้องTop เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:08:48

ความคิดเห็นที่ 40 กระทู้เริ่มลึกกว่าประเด็นที่เริ่มแล้ว 5555+ แต่ ก็อยากเข้าไปที่ประเด็น #20 ... ถ้าน้องคนสัมภาษณ์ บอกว่าความสามารถ 8 เต็ม 10 แล้วถามคำถามนั้น แล้วตอบไม่ได้ ..... ก็ตามสภาพแหละ ... ^^ จากคุณ : immarch เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:14:49

ความคิดเห็นที่ 41 Gooเกิ้น..Gooเกิ้น..Gooเกิ้น.. Internet line intermittent experienced!! , ก็คงนั่งเคี้ยว.. ....หมากฝรั่งรอ..  .. (ไม่นะ..ผมไม่ได้จะพิมพ์ว่า เคี้ยวหญ้ารอ นะ)   อย่าเดา..ผิด. Basis .. คือพื้นฐาน..คือความเข้าใจในงานนั้นๆ.. ถ้าฐาน..ไม่ดี.. จะกล้าสร้างตึกสูงซักกี่ชั้นกัน.. อย่าแถ..สิตรับ... มองกลับมา.. แล้วพัฒนาตัวเองขึ้น.. , มันคือสิ่งที่ต้องทำ.. จากคุณ : ผมคือ (b2fen) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:23:20

ความคิดเห็นที่ 42 มีเพื่อนจบวิทย์คอม  เพื่อนบอกว่าสายของเขาไม่ได้เรียนเน้นด้านการจัดการเอกสาร แต้เน้นด้านการแก้ปัญหาของโปรแกรม บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สรุปคือ  ให้เค้าไปทำ excel หรือ word เค้าไม่คล่องหรอกค่ะ แต่ถ้าให้เขียนโปรแกรมละก็มาเลย จากคุณ : usdank เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:25:04

ความคิดเห็นที่ 43 ถึง #23 คุณ ^Ai^ กับ #28 คุณ Mbell ผมว่า #20 เค้าทำถูกต้องแล้วนะครับ จริงอยู่ที่ ไม่ควรเน้นที่ความจำ เพราะ google เอาได้ แต่ถ้าตาม คห 20 เค้าบอกมาผู้สมัครให้คะแนนตัวเอง 8/10 ถ้าแค่คำสั่ง SQL ง่ายๆแบบนี้ยังคิดไม่ออกในทันที ผมว่า คะแนนควรจะต่ำกว่า 2/10 อีกนะครับ เน้นอีกทีนะครับว่า คำถามของ คห 20 ถือว่าไม่ได้ซับซ้อนและอาศัยความจำแต่อย่างใดเลย เพียงแค่คุณมีความเข้าใจก็ควรจะตอบได้แล้วครับ #23 บอกว่ามีประสบการณ์มาสิบปี ผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยเรียนสายคอมมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่เคย คุณต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าสิ่งที่ คห 20 เค้าถามเนี่ยควรจะเป็นเรื่องที่คนเรียน Database มาบ้าง ควรจะตอบได้อย่างไม่มีปัญหา ถ้าคำถามง่ายๆแค่นี้ยังต้องเปิด Reference ต้องเปิด Google หรือต้องอยู่หน้าคอม คงไม่สามารถทำงานที่ซับซ้อนมากกว่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ แต่ถ้าคุณเคยเรียนสายคอมมาก่อน คุณยิ่งควรจะรู้เลยนะครับว่า เวลาเราใช้ SQL ในระบบจริงๆ ในบางกรณี มันซับซ้อนกว่านี้มากๆ บาง statement เขียนยาวเป็นเมตร ต้องเชื่อมหลายๆตารางเข้าด้วยกัน ถ้าแค่คำสั่งง่ายๆแบบนี้ยังต้องใช้ Google เป็นตัวช่วย เป็นผมก็คงไม่รับทำงานนะครับ และบางที ประสบการณ์ 10 ปีของ คห 23 อาจจะไม่ช่วยอะไร เพราะคุณคอยแต่จะเปิดกูเกิ้ล โดยไม่ลองทำความเข้าใจไงครับ ในฐานะที่ผมก็เป็น Programmer คนหนึ่ง ผมเห็นด้วยว่า Google คือตัวช่วยชั้นดี และความจำไม่ใช่ที่สุดของความเก่ง แต่ถ้าเราคิดแต่จะพึ่ง google โดยไม่พยายามทำความเข้าใจภาษาที่เรากำลังเขียนโปรแกรม ก็ไม่ควรจะมาเป็นนักเขียนโปรแกรมนะครับ Programmer ที่ดี ควรมีการคิดอย่างเป็นระบบ และ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน และที่สำคัญรู้และเข้าใจความแตกต่าง รวมถึงข้อได้เปรียบและเสียเปรียบของ ภาษาในการเขียนโปรแกรมที่มีอยู่ เพื่อที่จะได้เลือกใช้ภาษาในการเขียนโปรแกรมได้เหมาะสมกับปัญหาหรือ requirement ที่มี ไม่ใช่คนที่ต้องคอยเปิด Google แล้วนำแก้เพื่อใช้กับโปรแกรมตัวเองตลอดเวลานะครับ สุดท้ายนะครับ ผมขอย้ำอีกทีว่า คำถามของ คห 20 เป็นคำถามที่ไม่ได้อาศัยความจำเลยครับ เพียงแค่มีความเข้าใจก็ควรจะตอบได้ ครับผม ปล.ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเด็นของผมต้องการจะสื่อว่า คห 20 เค้าเล่ามาว่าผู้สมัครให้คะแนนตัวเอง 8 จาก 10 แต่พอโดนถามคำถามง่ายๆ ที่ถ้าแค่มีความเข้าใจบ้างก็ควรตอบได้  ผู้สมัครก็ดันตอบไม่ได้บอกว่าจะต้องอยู่หน้าคอม แบบนี้ผมว่าเค้าประเมินตัวเองผิดนะครับ ปล2. ผมเห็นด้วยกับการใช้ Google เพื่อพัฒนาโปรแกรม รวมถึง ค้นคว้าข้อมูลในการเขียนโปรแกรมนะครับ เพราะไม่มีทางที่คุณจะจำหมดทุกอย่างได้แน่ๆ แต่สิ่งที่ผมไม่เห็นด้วยคือ การที่จ้องแต่จะใช้ใช้ Google จนไม่พยายามที่จะเข้าใจคำสั่งพื้นฐานง่ายๆ (เช่น คห 20) และไม่สามารถประยุกต์ใช้ในกรณีซับซ้อนขึ้นได้ ครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 19:43:40 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 19:34:52 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 19:33:25 จากคุณ : Couldn't เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:29:20

ความคิดเห็นที่ 44 กระทู้นี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ผู้ใหญ่บางคนวุฒิภาวะไม่ได้สูงตามอายุเอาซะเลย แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 19:34:29 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 19:30:39 จากคุณ : น้องTop เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:30:21

ความคิดเห็นที่ 45 ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าไม่จริง.... ขอตั้งข้อสังเกตุดังนี้ คุณบอกว่าเค้าให้ ตัวเอง 8/10 คุณก็เลยถามเชิงลึก เชิงลึกของคุณนี่ คือ "เทเบิ้ลที่เก็บข้อมูลลูกค้าคนที่มีชื่อว่า "สมชาย" จะเขียน sql ยังไง" หรอครับ ??? มันดูไม่สมเหตุสมผลนะ และอีแค่คำสั่ง sql กากๆแค่นี้ คนทีมั่งใจตัวเองในระดับ 8/10 แล้ว มันไม่มีใครไม่รู้หรอกครับ.... คุณเขียนมามันดู Fake อ่ะ จากคุณ : ปีศาจตาเดียว เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:37:25

ความคิดเห็นที่ 46 คห.38 วันก่อนไปสัมภาษณ์ excel มี 6 ข้อเราทำได้ 4 เอง :D ทำ vlookup ไม่ได้ ลืมแล้วว่าทำยังไง ที่ทำได้แม่นๆ เลยก็พวกคำนวณ ใช้ logic แบบเนี้ยะ เป๊ะเลย เราคิดว่า functions พวกนี้ความจริงมันเรียนรู้ได้นะ มันก็แค่ functions เอง บางอย่างไม่เคยใช้เลย ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่นะ สุดท้ายเราก็ได้งานค่ะ จากคุณ : . (zezari) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 19:44:54

ความคิดเห็นที่ 47 เก็บข้อมูลเอาไปปรับใช้ ..... จบใหม่อ้ะ จากคุณ : กระต่ายขาเป๋ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 20:00:46 A:171.4.170.211 X: TicketID:381444

ความคิดเห็นที่ 48 ผมกลับมองว่า(มองแทนHR) กลุ่มที่สมควรใช้ MS office ได้คล่องน่าจะเป้น พวกจบ บริหาร พวกบัญชี อะไรพวกนี้นะครับ ถ้าจบพวกเทคนิคคอมถ้าใช้ไม่คล่องแคล่ว ผมไม่ถือว่าผิดปกตินะครับ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 20:11:58

ความคิดเห็นที่ 49 มันเป็นเรื่องที่คุยแล้วชวนทะเลาะจริงๆ แหละครับ คนที่มีประสบการณ์แล้วก็ต้องมองคนที่ไม่มีประสบการณ์ว่าด้อยเป็นธรรมดา เด็กจบใหม่ประสบการณ์ยังไม่มี ยังไงเขาก็ดูไร้ค่าในสายตาคุณ ใจเขาใจเราครับ ลองนึกถึงตอนที่คุณเป็นเด็กจบใหม่ดูสิ ผมไม่ได้จบสายคอม แต่ต้องทำพวก Excel เกี่ยวกับรายงานการผลิต เชื่อไหม ตอนจบใหม่ ผม Sort ข้อมูลไม่เป็นด้วยซ้ำ ปัจจุบันเขียน VBA in Excel ผูกสูตรซ้อนกัน 5-6 ชั้นยังได้ เด็กจบใหม่มีเป็นร้อยเป็นพัน คุณอาจจะเจอคนไม่เก่งเยอะ แต่ผมบอกได้เลยว่า ผมเคยเจอเด็กจบใหม่ที่เก่ง แก้ปัญหาที่คนเก่าแก้ไม่ได้มาแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าเหมารวมนะครับ จากคุณ : Dragonfly7Colors (Dragonfly7Colors) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 20:27:46

ความคิดเห็นที่ 50 ปกติค่ะที่เด็กจบไอทีหรือ com sci จะใช้ excel และ word ไม่เป็น พวกนี้เรียนหนักไปทางการเขียนโปรแกรมค่ะ โปรแกรมสำเร็จรูป ใช้ไม่ค่อยเป็นกันหรอก ถ้าพวกบัญชี บริหารทางโน้น ถึงจะใช้กันคล่องค่ะ ** ชักจะนอกเรื่องกันจริงๆ ละ เราเจอเคสนึงค่ะ น้องจบใหม่มาปรึกษา พี่คะ หนูเขียน CV อย่างนี้โอเคไหม กวาดตาดู ทุกอย่างโอเคหมด ยกเว้น e-mail address ชื่ออีเมล์บ้าบอมาก เลยไล่ให้ไปสมัครใหม่ แยกตะหากเอาไว้สมัครงาน ^^ เราค่อนข้างใหม่สำหรับห้องสีลม เลยไม่รู้ว่าหัวข้ออย่างนี้ดีเบทไม่ได้ ขออภัยด้วยนะคะ 555 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 20:55:52 จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 20:45:37

ความคิดเห็นที่ 51 #48 อย่าคิดแบบนั้นครับ คนจบบัญชีบริหารเขาไม่ได้มานั่งสอนลงบัญชีกับคอมครับ เราลงกับกระดาษ แถมปกติไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Exel เลยด้วย บัญชีมีแค่บวกลบคูณหาร ใช้เป็นแต่เครื่องคิดเลขครับ จริงๆ แล้วผมก็สงสัยว่ามีคณะไหนเขาสอนเน้นที่การใช้โปรแกรมออฟฟิซอยู่มั้ย เพราะโปรแกรมพวกนี้มันทำงานเอกสารได้แทบหมด ต่อให้มีสอนก็คงสอนแต่ที่เกี่ยวกับเนื้อหา ไม่มีทางคลอบคลุมงานทุกแบบได้แน่ๆ คนที่ทำได้ดีคือพวกที่ขวนขวายเองครับ คนทั่วไปก็ใช้ได้แค่ทั่วไปนั่นแหละ วันๆ ไม่มีโอกาสได้ใช้หนิ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 21:03:25

ความคิดเห็นที่ 52 #51 เท่าที่ทราบนะครับ เด็กที่จบสายอาชีพมา ปวช ปวส กลุ่มพาณิชยการ พวกนี้ จะมีทักษะการใช้ ไมโครซอฟออฟฟิสมากกว่าคนจบสายสายสามัญมานะครับ ถ้าปริญญาตรีกลุ่มเอกที่คิดว่าใกล้ชิดการใช้งาน MS office ที่สุด  น่าจะเป้นเอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้เน้นการใช้งานMS office เลยทีเดียว จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 21:15:54

ความคิดเห็นที่ 53 อย่างแรกเลยที่อยากพูด การสัมภาษณ์ใดๆ ของฝ่ายบุคคล ถือเป็นข้อมูลส่วนตัวระหว่าง คนสัมภาษณ์และคนถูกสัมภาษณ์ คนที่จะได้ข้อมูลไป คือ คนที่จะเป็นหัวหน้างานในอนาคตของคนถูกสัมภาษณ์ อย่างที่สอง ฝ่ายบุคคลไม่ใช่เจ้าหน้าที่ชำนาญงาน ที่คุณจะไปรู้ทุกๆสาขา คุณแค่สัมภาษณ์คนที่เขาดูไม่เป็นอันตรายกับองค์กรคุณ ส่วนในด้านเทคนิค หรือความชำนาญเฉพาะทาง มันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าในอนาคต มาช่วยยืนยันว่า คนที่จบวิศวกรคอมฯ ไอที วิทยาศาสตร์คอมฯ ไม่มีใครเก่งเอ๊กเซล แน่นอน เขาต้องรียนรู้อะไรที่มันมีมากกว่า Excel และ Excel สำหรับเด็กจบใหม่ที่เก่ง ๆ แค่อาทิตย์เขาก็สามารถเขียนมาโคร ได้ดีกว่าคนใช้คล่องมาสิบปี ไม่มีถูกผิด มีแต่เหมาะกับไม่เหมาะสม กับแต่ละองค์กร จากคุณ : UlingChi เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 21:34:52

ความคิดเห็นที่ 54 ตกลงนี่กระทู้เด็กสัมภาษณ์งานหรือ เจาะลึก database ออกอ่าวไปสายคอมได้ไง ปล พวก MS office มันไม่มีสอนเปิดเป็นรายวิชาหรอก แต่พวกสายบริหารมันต้องใช้ทำรายงานบ่อยๆ ไม่รู้มันก้ต้องรู้ ไม่งั้นก้ทำรายงานไม่ได้สิ  อาจมาจากการถามเพื่อนๆ พี่ๆ ไม่ก็กูเกิลนรค่แหละ ส่วนพวกเรียนเอกคอม จากที่คุยก่าเพื่อนๆ เค้าดูไม่ค่อยได้ใช้พวกนี้จริงๆแหละ เพราะเค้าเน้นเขียนโปรแกรมกันเอง แต่ ms office มันโปรแกรมสำเร็จรูป เราว่านะ พวกสายคอมถ้าได้เรียนรู้ ก็จะใช้และไปได้เร็วและดีกว่าสายบริหารอีก เพราะเขามี พฐ. ด้านนี้อยู่แล้ว โปรแกรมพวกนี้มันสอนกันได้ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 21:43:07 จากคุณ : คุณหนูผลไม้รูปไข่ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 21:40:22

ความคิดเห็นที่ 55 แค่เอามาแชร์ เอามาเล่า ในที่นี้คงไม่เสียหาย เพราะบางอย่างน้องๆก็ไม่สมควรจริงๆ เช่น ในรองเท้าแตะ เคี้ยวหมากฝรั่ง คนที่เห็นว่า มันเป็นเรื่องของเขา ไม่ควรมาเล่าต่อ คิดอะไรอยู่ HR สมควรจะต้องยอมรับหรือ หึๆ ถ้างั้นปิดห้องนี้ไปเลยดีกว่า เพราะมันก็มีแต่เรื่องของประสบการณ์ มาแชร์กันทั้งนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้น มันไม่มีการก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ชัดเจน จากคุณ : ไหวปะ (paradoxe) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 22:17:00

ความคิดเห็นที่ 56 อันนี้ สัมภาษณ์กับฝรั่งนะครับ ตำแหน่ง วิศวกรโยธา จุดอ่อนของผมคือ เกรดห่วยมากกกกก แถมเรียนจบช้า ฝรั่งก็ถามเข้าจุดเลยว่า ตอนเรียนมีแฟนรึเปล่า ผมตอบว่ามี (เพราะรู้ว่าเขาต้องถามเรื่องเกรด) ฝรั่งก็บอกว่า ว่าแล้ว ดูจากเกรดแล้วก็คงต้องมี แล้วทำไมถึงเรียนหลายเทอม ผมก็ตอบไปมั่วๆเลยว่า ถ้าผมจบสี่ปีจะไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพ ผมยอมจบช้าเพื่อใบประกอบวิชาชีพ แล้วก็พลิกเอกสารไปหน้าที่เป็นสำเนาใบประกอบวิชาชีพครับ (วินาทีนั้นคิดว่าตอบแบบนี้ดูดีสุดแล้ว 555 ป.ล.อันที่จริงถ้าจบมาแบบมาตราฐานก็จะได้ใบ กว ทุกคนแหละครับ แต่ผมมั่นใจว่าฝรั่งไม่รู้ระบบการขอใบอนุญาตของวิศวกรบ้านเราหรอก อิอิ) เท่านั้นแหละ ฝรั่งขอเช็คแฮนด์ แล้วบอก คอนเกรตูเลชั่น ยังแมน! อย่างที่บอกตอนแรกว่าตอนเรียนเหรดผมแย่มาก เพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียนตอนเรียน ทำให้ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนทำงานต้องเค้นทุกอย่างที่เรียนมาออกมาใช้เต็มที่เลย เหนื่อยโฮกกก แต่ก็ฝรั่งก็แฮปปี้กะผม ทำได้ไม่ถึงครึ่งเดือน ได้ขึ้นเงินเดือนซะแล้ว > <" แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 55 22:51:37 จากคุณ : iamfirst เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 22:49:10

ความคิดเห็นที่ 57 จบวิศวะคอมมาค่ะ ตอนเรียนจบใหม่ๆ สารภาพว่าใช้ Excel ไม่เป็นเลยค่ะ  เพราะสมัยเรียนไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เขียนโปรแกรมเป็นนะ พอมาทำงานแล้วจึงได้รู้ว่า excel มันช่างมีประโยชน์ ^^ จากคุณ : ไม้ไต่คู้ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 22:56:09

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าไม่มองในแง่ของการเอาเรื่องคนอื่นมาพูดคุย แต่เป็นการศึกษาด้านพฤติกรรมศาสตร์ก็ถือว่าเป็นการดีนะครับ เราศึกษาคนเพราะเราต้องการเข้าใจคน เข้าใจว่าจะเลือกใช้คนหรือช่วยแก้ปัญหาคนได้อย่างไร จากคุณ : 908auan เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 23:58:22

ความคิดเห็นที่ 59 คนไม่ได้ใช้ sql ได้ทำแต่ javascript html5 silverlight ยังงี้ หรือใช้แต่ framework LINQ EF NHibernate ถ้าให้ทำโจทย์ที่ว่าแล้วเขียน syntax ไม่ถูก มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันไม่ใช่สิ่งที่ทำทุกวัน สมองไม่จำเป็นต้องจำอะไรไร้สาระขนาดนั้น จะใช้ค่อย google เอาก็ได้ แค่ให้รู้ว่ามันมีวิธีทำประมาณนี้ที่เป็นไปได้ก็น่าจะพอ ไม่รู้ว่า candidate คนนั้นเค้าอึกอักยังไงขนาดไหน คุณแสดงท่าทีว่าต้องการความเป๊ะขนาดไหน เป็นผม ผมคงตอบ select from ชื่อเทเบิล where เงื่อนไข แล้วก็ลืมใส่ * หลัง select ก็ปกติไม่ได้เขียนอ่ะ ถ้าทำตำแหน่ง db admin ก็อาจจะพิจารณาว่าแย่จริง จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 01:09:51

ความคิดเห็นที่ 60 เราว่าจบประเด็น MS Office (Excel),กับเอกคอมพิวเตอร์กันดีมั้ยคะ??? เพราะจากที่อ่านจนถึง คห.59 แล้วเนี่ย สรุปว่า คนที่จบเอกคอมมาอาจจะทำโปรแกรมจัดการข้อมูลเอกสารไม่ได้ ทั้งๆที่เขียนและพัฒนาโปรแกรม.....เข้าใจกันกระจ่างแล้วเนอะ เรามาลองอ่านแชร์ประสบการณ์อย่างอื่นกันอีกบ้างมั้ยยยยย??? (คือจะบอกว่าเราไม่ได้จบคอมฯมาอ่ะค่ะ แล้วไม่เข้าใจ SQL หรือกลุ่มอะไรพวกนั้นเท่าไหร่ มันทำให้ยิ่งอ่านแล้วยิ่งงงอ่ะนะคะ) จากคุณ : Wingie เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 01:51:17

ความคิดเห็นที่ 61 SQL Command นี่ง่ายมาก ๆ เข้าใจครั้งเดียว ประยุกต์ใช้ได้กับทุก Relational Database เห็นบอกว่าจะต้องพึ่งพา Google  ถ้าที่ทำงานไม่เน็ตทำไงล่ะครับ (ก็ดู Help เอาก็ได้) เมื่อ 10 ปีก่อน ทำงานที่หนึ่ง เค้าก็ไม่ให้ใช้เน็ตครับ แต่ก็ทำงานกันได้ปกติ พวกนี้พื้นฐานมาก ๆ ส่วนเรื่อง MS Office ผมว่าสมัยนี้มีเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมแล้วนะครับ ที่เหลือก็แค่ความใฝ่รู้ครับ เพราะกว่าจะจบมันก็ต้องพึ่งพาหลายครั้งอยู่ ยิ่งการคำนวณบ้างอย่าง Excel เขียนสูตรให้ได้ผลลัพธ์ง่ายกว่าเขียนโปรแกรมอีก แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 55 02:10:27 จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 02:07:28

ความคิดเห็นที่ 62 กระทู้นี้เด็กคอมทั้งหลายเค้าคุยกันหรอคะ ทำไมเราไม่รู้เรื่องอ่ะ ตั้งใจมาอ่านเรื่องดีๆน่าแชร์ น่าเอาไปคิดไปปรับปรุงแท้ๆ ดั๊นกลายมาเป็นกระทู้มาม่า sql database excel google .... T_T เสียดายพื้นที่กระทู้แนะนำดีๆ ที่ปรกติห้องนี้จะมีเสมอ จะรออ่านต่อไปนะคะ เผื่อข้างล่างจะมีอะไรดีๆมาเล่ามาแชร์กัน  :) คว่ำชามมาม่า ... ไม่ต้ม ไม่กิน ไม่มีประโยชน์(ผงชูรสเยอะ) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 55 03:59:21 จากคุณ : ข้าวเหนียวถั่วดำ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 03:56:40

ความคิดเห็นที่ 63 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 05:02:06

ความคิดเห็นที่ 64 เถียงกันเรื่องคอมซะงั้น จากคุณ : ฮานาก้า เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 06:11:11 A:182.52.48.46 X: TicketID:369642

ความคิดเห็นที่ 65 อีกหน่อยเวลา hr สัมภาษณ์งานก็ให้คนถูกสัมภาษณ์ สามารถค้นคำตอบได้จาก google เลยนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรกันเองแล้วหรือไง จากคุณ : Nay_sia เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 07:34:21

ความคิดเห็นที่ 66 เรื่องของพ่อเราได้มั้ยอะ พ่อเราจบแค่ ปวช. เทคนิค ช่างไฟฟ้า แต่ว่า ไปสัมภาษณ์งานเข้าบริษัทน้ำมัน ตอนนั้นคนทำไม่เยอะ ฝรั่งเลยรับไว้ก่อน แล้วเอาไปเทรน ตอนนี้ได้เป็น คนเทรนลูกน้อง พ่อบอกว่า เด็กที่จบวิศวะ จุฬา จะเก่งในห้องแอร์ ให้คำนวณ นู้นนี้นั้น ให้พูด จะเก่งมาก แต่ว่า ถ้าเรื่องสู้งาน เด็กที่จบเกรดไม่ดี ม.อื่น หรือ ไม่ได้จบม. จะสู้งานกว่า ชำนาญได้เร็วกว่ามาก ยิ่งเป็นหารแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับเครื่องมือ เด็กจุฬาได้แต่ยินถือ mac book pro พ่อบอกว่า พวกนี้เข้ามาไม่นาน จะลาออก ไม่รู้ทำไม จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 08:58:11

ความคิดเห็นที่ 67 #66 อย่าพูดแบบนั้นเสะ ทุกชีวิตก็ถนัดในทางของตัวเองทั้งนั้นแหละ คนจบปวช. ก็ต้องมีบางอย่างที่เด็กจุฬาทำไม่ได้ แล้วเด็กจุฬาก็ต้องมีบางอย่างที่คนจบปวช.ทำไม่ได้ ไม่งั้นคนเราก็ไม่ต้องไปร่ำไปเรียนอะไรกันมาหรอก แหม จากคุณ : ZzIqka เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 09:11:02

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ จริงๆแล้วกระทู้นี้ผมตั้งเพื่อแชร์ประสบการณ์เด็กจบใหม่ที่ไม่ธรรมดา คือ ผมเองก็สัมภาษณ์น้องๆจบใหม่มาหลายสิบคน ได้งานทำก็หลายคน ทุกวันนี้ทำงานจนบางคนโดนโปรโมต ไปตำแหน่งที่สูงกว่าเก่าแล้ว เจอกันหน้าออฟฟิศยังยกมือไหว้สวัสดีอยู่เลย คนดีก็ชื่นชมครับ  แต่ที่ขอแขร์กันนี่คือ คนที่แปลกๆครับ มีทั้งอวดอ้างความรู้ที่เกินจริงๆ พอให้ทำเทสต์ตกม้าตายไม่เป็นท่า หรือว่า การแต่งกาย คำพูดคำจาแบบแปลกๆกว่าน้องๆจบใหม่ครับ แนะนำว่า น้องจบใหม่ที่ผ่านเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ผมเชื่อว่าทุกบริษัทยินดีต้อนรับนักศึกษาจบใหม่ทั้งนั้นครับ ขอเพียงคุณไปด้วยความสุภาพ อ่อนน้อม พร้อมจะทำงาน ไม่เลือกงานมาก และรักที่จะเรียนรู้ มีสัมมาคารวะ และที่สำคัญ อย่าโกหกเวลาสัมภาษณ์ครับ รู้ก็บอกรู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ครับ ไม่ใช่อ้างอะไรไปเรื่อย ถ้าHRจับได้ว่าคุณพูดโกหก โอกาสได้งานก็หายไปกว่าครึ่งแล้วครับ คนเราไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง ทุกอย่างมันเรียนรู้กันได้ครับ จากคุณ : kimji_bkk เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 09:22:27

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่องที่จขกท. ถาม เราไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงแชร์ไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้เฉพาะเจาะจงทำให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเสียหาย ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่ใช่สายงาน HR แค่ด้วยหน้าที่แล้วต้องสัมภาษณ์ผู้สมัคร เราอาจจะมีวิธีคิดไม่เหมือน HR ต้องขอโทษด้วย แต่เราคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเด็กจบใหม่ที่มาอ่าน จะได้รู้เห็นมุมมองของคนอื่นๆ เพราะเราก็เคยเป็นเด็กจบใหม่มาก่อน บอกตรงๆ ว่าเด็กจบใหม่มันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอก จริงๆ บางอย่างมันก็ทำไปเพราะไม่รู้ เช่น รูปที่ใช้สมัครงาน หรืออีเมล อย่าว่าไป บางคนไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากเราเป็นเด็กยุคนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเด็กจบใหม่ยุคอื่นเป็นยังไง ที่เขาว่ากันว่าเด็กจบใหม่สมัยนี้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่อดทน ไม่สู้งาน หรือทำอะไรเสร่อๆ ต่างๆ นานา เราก็ไม่รู้ว่าเด็กสมัยก่อนเขาไม่เป็นกันจริงรึเปล่า ที่เราเคยเจอ และอยากแนะนำรุ่นน้อง ก็คือเวลาอีเมลมาสมัครงาน ในอีเมลควรเขียนเป็น application letter มาด้วย ไม่ใช่แค่แนบ resume มาเฉยๆ แล้ว subject ว่าสมัครงานอะไรแค่นั้น เคยเจอน้องคนนึง ส่งมาแบบนั้น มีแต่ resume ทำให้เราไม่ค่อยอยากเรียก แต่สุดท้ายก็ได้สัมภาษณ์ พบว่าน้องเขาเพิ่งสมัครงานครั้งแรก อาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะ แต่เราว่าจะน่าสนใจกว่าถ้าแนะนำตัวมาสั้นๆ สรุปว่าน้องเขาก็ได้งานนะ เพราะทำเทสต์ผ่าน สัมภาษณ์แล้วประทับใจ แต่ส่วนตัวทัศนคติที่เราไม่ค่อยชอบ คือการพูดอะไรก็ได้เพื่อให้ได้งานไว้ก่อน แล้วพอมันไม่ใช่อย่างที่คิด หรืองานหนักทำไม่ไหว ก็ไม่มาคุยกันตรงๆ เรามั่นใจว่าเวลาสัมภาษณ์ งานหนักงานเบา ข้อดีข้อเสีย เราบอกชัดเจน เพราะเราอยากได้คนที่รับได้กับข้อเสนอนี้จริงๆ เราไม่มีเวลามาเสียกับการหาคนใหม่บ่อยๆ แต่บางคนพูดไว้ซะดี พอทำไม่ได้ก็แอบไปลาออก หรือแอบไปสมัครงานที่อื่นไว้รอ ค่อยมาบอกตอนหลัง แล้วเหตุผลที่จะออกมันขัดแย้งกับตอนที่เข้ามา เช่น เคยบอกว่าบ้านไกลไม่ใช่ปัญหา อยู่หอได้ แต่ตอนหลังมาลาออกเพราะบ้านไกล เป็นต้น หรือเคยบอกว่าเลิกงานดึกได้ แต่ตอนหลังมาออกเพราะเลิกงานดึก คือเราเข้าใจว่าบางทีคนคิดว่าตัวเองทำได้ แต่เอาเข้าจริงมันไม่เหมือนที่คิด แต่ชอบให้มาบอกกันตรงๆ มากกว่า มีปัญหาอะไรก็คุย จะออกก็บอกกันก่อน จะด้วยเหตุนี้รึเปล่าที่เขาถึงบอกว่าเด็กจบใหม่ไม่สู้งาน เพราะเคยพูดว่าทำได้ แต่เอาเข้าจริงไม่ได้ อีกเคสคือตอนสัมภาษณ์บอกเงินเดือนทุกอย่างชัดเจน ให้ถามอะไรไม่ถาม แต่พอมาทำงานจริง หาว่าเราให้เงินเดือนน้อย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนตอบรับเอง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ เราว่าไม่ใช่แค่จบใหม่นะ จบมานานแล้วก็มีเหมือนกัน ที่ดีๆ ก็มี อย่างเช่น ผู้สมัครพูดคุยจริงใจ ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ เตรียมตัวมาดี หาข้อมูลบริษัทมาบ้าง อะไรรู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ พอเปิดโอกาสให้ถามก็ถาม มันดูกระตือรือร้นและสนใจงานจริงๆ ผู้สมัครดีๆ ต่อให้เขาจะไม่เลือกทำงานกับเรา เราก็ไม่เฟลนะ มีแต่จะเสียดาย จากคุณ : ZzIqka เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 09:46:36

ความคิดเห็นที่ 70 กลายเป็นกระทู้  Excel SQL ไปซะแล้ว จากคุณ : lufia64 เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 09:56:08

ความคิดเห็นที่ 71 ^ ^ ^ โดนใจผมเลย  มีน้องจบใหม่หลายคน ที่ทั้งผมและ ต้นสังกัดอยากwด้ร่วมงาน และน้องก็อยากทำงานกับบริษัทด้วย แต่ด้วยปัจจัยบางอย่างทำให้ไม่ได้ร่วมงานกัน ถึงวันนี้ยังไม่คลิก แต่โอกาสหน้าในอนาคตอาจจะได้ร่วมงานกันครับ เด็กที่ไปลา มาไหว้ ผู้ใหญ่เอ็นดูเสมอครับ ^_^ จากคุณ : kimji_bkk เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 09:58:58

ความคิดเห็นที่ 72 สันดานคนเราไม่เหมือนกันค่ะ บางทีต้องส่องกระจกดูเงาตัวเอง จากคุณ : nong_ao เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 10:42:16

ความคิดเห็นที่ 73 # 35 คุณดูถูก google มากเลยนะครับ google คือ คุณครู ผู้ที่รุ้ทุกอย่างบนโลกนี้ ผมเป็น system engineer ที่ดูแลระบบ ผมสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จาก google คน IT ผมว่าใหญ่เขาศึกษาและหาวิธีแก้ปัญหา จาก google ทั้งนั้นละครับ ยกตัวอย่าง ตอนสัมภาณ์เข้าทำงาน เขาถามว่าคุณจะแก้ปัญหาต่างๆที่เกินขึ้นได้อย่างไร เพียงผมตอบไปว่า หาข้อมูลจาก google ทาง คนสัมภาษณ์ก็ให้คะแนน เต็มแล้วครับ   อีกนิดและเรื่อง MS Excel    ผมก็ไม่ค่อยเก่งครับ  พอได้ไม่ได้ได้รู้เยอะอะไร   ถามคนพวกนี้บางที่เขาจำไม่ได้หรอกครับ มันต้องอยุ่หน้าคอมด้วย เมนูเยอะแยะครับ    ยกตัวอย่างง่าย  MS Excel 2003 กับ MS Excel 2007  แค่นี้ก็หาเมนูกันไม่ถูกแล้วครับ   IT เปลี่ยนแปลงเร็ว บางที่พวกเราถ้าไม่ได้ใช้งานจะตามไม่ทันครับ ยกมานี้สำหรับสาย IT นะครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 55 12:33:23 จากคุณ : eakarat1141 (eakarat1141) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 12:28:53

ความคิดเห็นที่ 74 มีคนมาสมัครงาน  สวย สูง หน้าตาดี พูดภาษาอังกฤษคล่อง ส่งไปให้เจ้านายสัมภาษณ์ พอนายสัมภาษณ์จบ เดินออกมาส่ายหัวกับเรา "แม้แต่ตอนที่ผมสัมภาษณ์เค้า เค้าก็ยังกดบีบี เค้าไม่ยอมวางเลย ตอบคำถามผมไป กดบีบีำไป"........ . . . . เราก็คิดว่าคงไม่รับแล้วอะค่ะ ที่ไหนได้ดันรับ -_-" ก็เจ้านายแหละรับ (บ้าพอๆกัน) พอรับแล้วมาทำงานได้ 2 วัน แม่ม ตอนที่ว่างๆแทนที่จะศึกษางาน แม่คุณบีบีตลอดเว กินข้าวก็ยังบีบี  ...สรุปทำได้ 2 วันค่ะ แล้วก็ออก บอกว่าได้งานใหม่ที่ ตจว.ละ เหอๆๆ มาเร็วเคลมเร็ว ป่านนี้ไม่รู้ไปบีบี ที่ไหนแล้ว (ตอนนี้คงเล่น LINE แล้วมั้ง มีสติ๊กเกอร์กุ๊กกิ๊กกว่าบีบีเยอะเลย ฮิๆๆ) จากคุณ : ฮิปโปกระโดด เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 13:21:43

ความคิดเห็นที่ 75 ในฐานะที่เคยเป็นเด็กจบใหม่นะครับ ผมรำคาญพวก HR บางคนที่ไม่เคยทำงานอย่างอื่นแล้วมาสัมพาษณ์งานมากครับ การดูคนบางทีนีเอาตามตำราเป๊ะๆ ตัวอย่างเช่นเมื่อ 1-2 เดือนก่อนที่ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำที่ จขกท เลือกรับผู้สมัครที่เป็นวิศวกรจากการสัมพาษณ์เพราะว่า "เขาแต่งตัวเรียบร้อยกว่าอีกคนที่มีความสามารถพอๆกัน" เอิ่ม.... คือแบบว่าวิศวกรที่จะมากทำงานนี่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นที่ทำงานผมคงมีแต่พวกวิศวกรที่ไม่รู้จักกาลเทศะกันเดินไปมากันเต็มเลยครับ อยากรู้จริงๆว่าพวก HR หลายๆคนนี่เคยไปดูตำแหน่งอื่นเค้าทำงานกันบ้างหรือเปล่า คนที่อยู่ในแผนกตอนนี้เป็นแบบไหน แล้วคนยังไงที่เค้าต้องการจริงๆ ผมสังเกตมาว่าการสัมพาษณ์จากคนที่มาจากสายงานโดยตรงส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีคำถามจุกจิกและละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าพวกที่มาจาก HR นะครับ จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 13:25:07

ความคิดเห็นที่ 76 ทำไมเมืองไทยถึงไม่มีวิชาสอนเกี่ยวกีบการสัมภาษงานก็ไม่รู้ เราไปเรียนญี่ปุ่นมา ที่นั้นเปิดเป็นคอสเลยเกี่ยวกับสัมภาษ ว่าต้องแต่งกายยังไง มีแบบทดสอบลักษณะนิสัยและความถนัด เทคนิคการแอพพีล หนังสือบางเล่มแนะนำการแต่งหน้าแบบสุภาพหรือแต่งหน้าตามงานที่ต้องสัมภาษ แต่ของไทยไม่มีไรเลย เด็กจบใหม่ต้องลองผิดลองถูกเองแล้วก็มาโดนผู้ใหญ่ด่าว่าไม่รู้จักมารยาท จากคุณ : hypopanda เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 14:11:59

ความคิดเห็นที่ 77 อืมมม เราเคยตั้งกระทู้ถาม HR หรือคนที่มีประสบการณ์รับเด็กเข้าทำงาน ว่าเดี๋ยวนี้ตลาดแรงงานเขาต้องการเด็กแบบไหน และไม่ต้องการแบบไหน แต่ไม่เห็นมีใครเข้ามาตอบ เพราะมันดราม่าแบบนี้นี่เอง แต่เราว่าการมาแชร์ประสบการณ์กันของ HR หรือคนที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มันดีมาก ๆ สำหรับเด็กจบใหม่ที่กำลังหางานทำและกำลังจะเข้าสัมภาษณ์งาน เพราะเส้นทางการสัมภาษณ์งานครั้งแรก มันมึดมนมากสำหรับเด็กจบใหม่ (อาจจะเว่อร์ไปนิด) จากคุณ : พูดแล้วเศร้าเล่าแล้วขำ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 14:46:27

ความคิดเห็นที่ 78 เอ่อ ผมเป็นเด็ก(กำลัง)จบใหม่ ว่าจะเข้ามาดูแนวเกี่ยวกับเรื่องสัมภาษณ์ ไหงกลายเป็นกระทู้อะไรก็ไม่รู้ จากคุณ : ผมอยู่ตรงนี้แล้ว เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 18:11:28

ความคิดเห็นที่ 79 รกบอรด จิงๆ เถียงกันมั่วแล้วฮะ จากคุณ : นายผักดอง เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 18:39:02

ความคิดเห็นที่ 80 #รีพลาย 75 ครับ คุณรุ้จักคำว่า มารยาท และ กาละเทศะ ไหมครับ ผมถามแค่นี้แหละ จากคุณ : kimji_bkk เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 19:11:28

ความคิดเห็นที่ 81 #76 ในมหาวิทยาลัยเมืองไทย ไม่ถึงกับมีเป็นคอร์สสอน แต่ฝ่ายกิจการนักศึกษา หรือคณะ จะมีจัดอบรมนะคะ (ไม่รู้ว่ามีทุกมหาลัยหรือเปล่า แต่มหาลัยหมูมี ในสมัยที่หมูเรียนอ่ะนะ สมัยพวกพี่หมูไม่รู้) ตั้งแต่หมูเข้าปีหนึ่งมา ก็เห็นจะมีจัดอบรมทุกปีทั้งของคณะบ้าง และของกองกิจบ้าง ทั้งในเรื่องของการสัมภาษณ์งาน การเตรียมตัวก่อนทำงาน การแต่งหน้าก็ยังมี ก่อนจบบางทีภาควิชาก็จัดการประชุม พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเตรียมตัวนักศึกษาก่อนจบ ทั้งนี้ทั้งนั้นคิดว่าขึ้นอยู่กับการจัดการ และการเอาใจใส่ของฝ่ายกิจการนักศึกษาและภาควิชาด้วยส่วนหนึ่ง ประเด็นคือเด็กที่กำลังจบเนี่ยได้ติดตามข่าวสาร หาข้อมูล เตรียมตัวบ้างอะไรบ้างหรือเปล่า รุ่นพี่ก็มี ถามได้ อาจารย์ก็มี ถามได้ google ก็มี search (อย่างในวิชาเรียน อาจารย์ก็จะมีเล่าประสบการณ์ในการทำงานบ้าง หรือแนะนำโลกในการทำงานว่าควรทำตัวอย่างไร) ไม่ใช่มหาลัยไม่ช่วยนะ อย่างเอกที่หมูเรียน เอกภาษา... เคยมีประวัตินักศึกษาหญิงแต่งกายไม่สุภาพ (ก็แต่งนักศึกษานี่แหละ แต่นางใส่สั้นซะ -*-) ไปสัมภาษณ์ฝึกงาน ณ บริษัทแห่งหนึ่ง T.... โดนด่ากลับมาเลยจ้ะ เสียชื่อสถาบัน คณะ ภาควิชาเลย อาจารย์งี้อายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน แค่เรื่องการแต่งกาย หมูคิดว่า อายุขนาดนี้ เรียนขนาดนี้ ก็น่าจะรู้ว่าควรแต่งกายเช่นไร ในสถานการณ์แบบใด หรือเป็นเพราะเค้ามีชุดความคิดที่ต่างจากชาวบ้านมากก็เป็นได้ - - แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 20:08:31 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 20:07:44 จากคุณ : หมูหิมะ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 20:07:37

ความคิดเห็นที่ 82 เคยเป็น HR จำเป็น เจ้านายให้ประกาศรับคนแล้วต้องช่วยดูใบสมัครให้ มีน้องส่งจดหมายมาสมัคร เอกสารขนาด A4 พับใส่มาในซองขนาดเล็ก เล็กกว่าซองส่ง Statement บัตรเครดิตสักครึ่งหนึ่งค่ะ แถมไม่ได้ติดแสตมป์มาด้วย เราออกไปรับจดหมาย โดนปรับอีก ส่วนการส่ง email มาสมัครงาน ก็ขอให้ตั้งชื่อ email address ที่ดูเรียบร้อยสักหน่อยนะคะ พอได้รับ email จาก ILoveYou2@xyz.com หรือ IAmSoCute@xyz.com ไม่แน่ใจว่าส่งมาสมัครงานหรือเปล่านะคะ ขอ email address ใหม่เป็นชื่อ นามสกุล ที่ดูเรียบร้อยนิดหนึ่ง จะดีกว่าค่ะ จากคุณ : มังกรอ้วน เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 20:54:20

ความคิดเห็นที่ 83 น้องใช้ excel ไม่เป็น แต่น้องเค้าจบธุรกิจคอมพิวเตอร์ครับ ไม่ได้จบโปรแกรมเมอร์ครับ ผมก็ไ่ด้จ้างเค้ามาเขียน java c cobol ครับ บางความเห็นว่าผมซะเสียหายเกินไปหรือเปล่าครับ จากคุณ : LuPangBig เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 21:39:01

ความคิดเห็นที่ 84 เฮ้อ... ความอดทนน้อยจริง เด็กสมัยนี้ เท่าที่ผมเห็นนี่ คนที่อดทนมาก ส่วนใหญ่ก็มานั่งบ่นกันทุกคน งานเครียด น่าเบื่อ ไม่อยากทำงาน ไม่มีความสุข ฯลฯ ส่วนคนที่อดทนน้อย ผมเห็นออกไปหางานทำที่มีความสุขทำ มาลองสัมภาษณ์ดูเฉยๆ หรือบางคนไปทำธุรกิจของตัวเอง รายได้วันเดียวเยอะกว่าเงินเดือนทั้งเดือน อันนี้แชร์ให้ฟัง จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 21:40:53

ความคิดเห็นที่ 85 สัมพาทย์เด็กจบใหม่มา จบโทนอก เซ็นสัญญาเรียบร้อย เราก็ต่อรองเงินเดือนกับ HR ให้ เพื่อให้น้องได้งาน และจะได้เริ่มได้เลย วัน orientation วันแรก ดันไม่มาซะงั้น บอกไม่อยากทำที่นี่ละ ถ้าไม่เอาโทรมาบอกหน่อยจะไม่ว่าเลย จะได้เรียกคนลำดับถัดไปมาแทน จากคุณ : Dragon_L เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 21:48:12

ความคิดเห็นที่ 86 เคยรับเด็กคนนึงมาเป็นเซล แต่งตัวมาเรียบร้อยมาก แต่เรารับน้องเขาเพราะทัศนคติต่อการงาน พอมาเริ่มงาน มาเปรี้ยวเลยค่าาท่านผู้ชม แต่งหน้า ทำผมจัดเต็มตลอด เสื้อผ้ายังกะหลุดจากเเมกกาซีน ทีมติดกันถามว่าเอามาจากไน๋ อยากได้แบบนี้บ้าง จัง เรา  ฟลุ๊กค่าาา ตอนนี้น้องเป็นซุปฯแล้วจ้าาาา จากคุณ : บ้านนี้สีเขียว (บ้านนี้สีเขียว) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 22:28:40

ความคิดเห็นที่ 87 ของเรารายที่มาสัมภาษณ์แบบแปลกๆก็มีค่ะ 1. พนักงานธุรการ (ทำงานเอกสาร รับโทรศัพท์ ประชาสัมพันธ์ เป็นคนแรกที่ลูกค้าจะเจอ ตำแหน่งนี้เป็นหน้าตาของบริษัทเลยนะ) แต่เธอแต่งชุดแซ็กกางเกงขาสั้นสีชมภู มัดแกะผูกโบว์ ก็สัมภาษณ์จนจบแต่ไม่รับ เพราะอายุ 35 แล้วแต่งกายควรให้ถูกกาละเทศะมากกว่านี้ ตามเนื้องานที่เราลงประกาศไป 2. พนักงานบริการลูกค้า (เพราะเราเข้าใจว่าบางครั้งลูกค้าก็....ติ้ด...และเราก็เป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ลูกค้าคือพระเจ้า) เราตั้งการสัมภาษณ์โดยให้candidateนั่งรอเฉยๆ 1 ชม. รอดูอารมณ์ แล้วค่อยเรียก ถ้าเค้าอดทนได้เราก็เบาใจที่จะให้ไปเจอลูกค้าแบบ....ติ้ด.....ได้ ถ้าทนไม่ได้ก็คงปล่อยไป เพราะลูกค้าบางครั้งก็แบบไม่ไหวเหมือนกันนะ แต่พระเจ้าก็คือเงินในกระเป๋าลูกค้า 555+ แต่บางทีเราก็โดนต่อว่าจากcandidateเพราะบททดสอบนี้เหมือนกัน ก็ได้แต่ทำใจ ยิ้มรับกันไปแบบขำๆ ใครเคยโดนก็เข้าใจกันนิดหนึ่งนะคะ เราจำเป็น 3.เด็กมาทำงานเช้า เที่ยงทานข้าว บ่ายหายไปเลย (พี่ยังไม่ทันให้งานอะไรน้องเลยนะคะ และกว่าพี่จะได้น้องมาพี่ก็เหนื่อยนะ T^T) แชร์ๆกันนะคะ จากคุณ : ผ้าที่ทอค้างไว้ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 22:32:46

ความคิดเห็นที่ 88 เอาจริงๆ โปรแกรม office นี่สมควรเป็นทุกคนตั้งแต่มัธยมแล้วครับ หนียังไงก็ไม่พ้นแน่ อย่าเถียงกันเลย จบนั่นไม่ ไม่ได้ใช้ จบนี่ไม่เคยเรียน จากคุณ : RapidasH เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 22:33:40

ความคิดเห็นที่ 89 ตอนจบใหม่ไปสัมภาษณ์วิศวกรโยธากับบริษัทต่างชาติ เข้าคิดคำนวณแรงที่เกิดขึ้นกับคาน ผมก็ทำไปผิดๆถูกๆ   เขาบอกว่าไม่ต้องการคำตอบ แค่อยากดูหลักการ วิธีการหาเอาตอนหลังก็ได้ บางคนบอกว่าgoogle หาได้หมด แต่คุณต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่หา แล้วคำตอบนั้นถูกหรือไม่ ยิ่งพื้นฐานในสายวิชาชีพนั้นสำคัญ   ms office ควรมีพื้นฐานบ้าง   สมัครไปเป็นลูกจ้าง ไม่ใช่เป็นผู้บริหาร แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 00:42:56 จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:34:34

ความคิดเห็นที่ 90 ตอบ คห 80 (จขกท) ความสามารถไม่ได้ขึ้นอยู่กับมารยาทและกาละเทศะนะครับ และอีกอย่าง พวก HR ทีถามเรื่องส่วนตัวมากๆนี่รู้จักคำนี้บ้างหรือเปล่าครับ อาจารย์ที่สอนผมใส่เสื้อยืดขาสั้นมาสอนก็บ่อย แต่ผมว่าเค้าเก่งกว่าพวกที่วันๆใส่สูทแล้วคิดว่าตัวเองเก่งแน่นอนครับ ปล. ผมสัมภาษณ์งานผมก็เสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนนี่ละครับไปสัมภาษณ์ โลกเราวัดที่ความสามารถครับไม่ใช่การแต่งตัว จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:40:35

ความคิดเห็นที่ 91 เอิ๊กๆๆ อย่างวิศวกรถ้าเข้าประชุม พบผู้บริหาร หรือเจ้าของการ แต่งตัวเรียบร้อยกันไหม ผมเห็นเรียบร้อยนะ แต่เวลาทำงานคนละเรื่อง อย่างนี้ คือมารยาท กับกาละเทศะ ไม่เกี่ยงว่า ถ้าคุณเป็นเบอร์หนึ่งในประเทศ คนอื่นต้องมาขอให้ทำงานให้ โลกวัดที่ความสามารถ  มีอีกหลายคนมีความสามารถ และ มีมารยาท กาละเทศะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 00:52:45 จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 00:52:04

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ^ ^ แล้วนี่เราพูดถึงเรื่องเข้าประชุมหรือเรื่องสัมภาษณ์งานครับ อาจารย์ผมสมัยเรียนเข้าประชุมหรือเข้าสอนก็ใส่เสื้อคอโปโลขาสั้นเข้า ไอสไตน์ก็เคยใส่เสื้อยืดขาสั้นพบคนใหญ่คนโตมาแล้ว ส่วนเรื่องเข้าประชุมที่ๆผมทำงานอยู่เขาก็เข้ากับแบบเสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนนี่ละพบเจ้าของโครงการเลย (เจอมา 2-3 ที่แล้วด้วยนะครับ) ต่างคนต่างประสบการณ์ครับ แต่อย่างว่า วัฒนธรรมประเทศเราเน้นเรื่องพวกนี้ผมก็เข้าใจครับ คำว่ากาลเทศะสุดท้ายก็เป็นเรื่องความรู้สึก บางคนอาจจะรู้สึกว่าการแต่งกายบางอย่างสุภาพพอแล้ว แต่สำหรับผู้สัมภาษณ์อาจจะไม่พอก็ได้ คนรุ่นเก่าก็มีความคิดของคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ก็มีความคิดของเขา ถ้าเน้นเรื่องกาลเทศะหนักหนา ทำไมหลายทีถึงยังมีการสัมภาษณ์ถึงเรื่องครอบครัวหรือวิจารณ์การแต่งตัวของผู้ถูกสัมภาษณ์อีกละครับ แก้ไข 1 เพิ่มเติมข้อความ แก้ไข 2 แก้การสะกดคำ แก้ไข 3 ใส่คำว่าแก้ไข 1 และ 2 -*- แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 01:54:33 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 01:51:14 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 55 01:17:58 จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 01:03:58

ความคิดเห็นที่ 93 ขอแสดงความคิดเห็นบ้างน่ะคะ ในฐานะเด็กจบเกือบใหม่ทำงานมาได้เกือบปี จากก้นบึ้งของหัวใจเลยนะคะ เรารู้สึกว่ารุ่นพี่เก่าๆที่ทำงานมานานๆก็มีพฤติกรรมแปลกๆเหมือนกันน่ะคะ อย่างเช่น ยึดติดกับอะไรเดิมๆ คิดว่าวิธีที่เค้าคิดเท่านั้น คือถูก ใจแคบ แล้วก็ไม่ค่อยเปิดใจยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นๆ เวลาเด็กใหม่ๆเข้าไป เสนอความคิดเห็นอะไรก็เห็นเป็นเรื่องตลก ไม่คิดว่าเป็นไอเดียใหม่ๆ หรืออะไรที่คุณไม่รู้เพราะเค้ายังไม่ได้สอนเมื่อสิบปีที่แล้วบ้างหรอ พอเจอเด็กใหม่ มั่นใจ กล้าพูด กล้าคิด ก็ไม่ชอบใจ หาว่าไม่นอบน้อม ไม่เคารพรุ่นพี่ มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป คุณพึ่งเข้ามาใหม่ จะไปรู้อะไร ที่พูดทั้งหมดหมายถึงแค่บางคนนะคะ รุ่นพี่ดีๆมีมากเหมือนกันค่ะ แต่ในความรู้สึกเราน่ะคะ อย่ามาวัดกันเรื่องอายุ ประสบการณ์ หรือ อะไรเลยค่ะ อยากให้ดูที่ความสามารถ รวมถึงสอนงานกันแบบไม่ปกปิด เอาความรู้เก่าใหม่มารวมกัน ดีกว่ากั๊กๆไว้ แล้วปล่อยในน้องใหม่มั่วๆไปเอง เพื่อที่สุดท้ายจะคอยยิ้มเย๊าะว่า ฉันว่าแล้วแกต้องทำไม่ได้ ส่วนตัวเรามองว่าคนรุ่นเก่าแบบนั้น น่าจะผันตัวเองไปทำอย่างอื่นได้แล้วค่ะ เพราะใจแคบจนตามโลกไม่ทัน โลกมันหมุนไปเป็นยี่สิบปีแล้ว จะให้เหมือนสมัยก่อรได้ยังไง งง ถ้าคำพูดใดกระทบจิตใจ ขอโทษด้วยน่ะคะ ไม่ได้เจตนาจริงๆ อยากแสดงความคิดเห็นในฐานะรุ่นน้องคนนึงค่ะ จากคุณ : มีนมีนา เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 05:42:41

ความคิดเห็นที่ 94 เพิ่มอีกนิดนึงนะคะ พวก ms office อะคะ คนที่ใช้คล่องๆ ไม่ได้แต่แปลว่าเก่งน่ะคะ แปลว่าคุณแค่ใช้บ่อยๆ โปรแกรมง่ายๆแค่นี้อย่าเอาเป็นตัววัดความสามารถเลยค่ะ ใช้เป็นไม่เป็นมาก่อน ถ้าต้องใช้ฝึกแป๊ปเดียวก็เป็น แค่อาจจะต้องรื้อฟื้นในช่วงแรก เค้าเรียนจบมหาลัยมาได้ เค้าก็คงมีวิธีใช้โปรแกรมพวกนั้นให้ได้เหมือนกันแหละค่ะ เพราะเราก็ไม่ค่อยได้ใช้ excle สมัยเรียน มาทำงานก็ต้องรื้อฟื้น พวกพี่ที่ทำงานก็พูดประมาณว่าจบมาได้ไงโปรแกรมแค่นี้ใช้ไม่เป็น เหมือนสะใจที่ได้ว่าเรา ถึงจะแซวเล่นๆก็เถอะ สุดท้ายเราก็ใช้ได้คล่องไม่เห็นจะยากตรงไหน แถมค้นพบความจริงว่าที่พี่เค้าไม่ค่อยชอบเรา เพราะเราเข้าใหม่แต่เงินเดือนเยอะกว่า เลยพยายามจะพูดเพื่อแสดงว่า เงินเดือนไม่เห็นจะคุ้มกับความสามารถ น่าเอาเงินเดือนที่เราได้ไปขึ้นให้เค้าดีกว่า ทั้งๆที่ความรับผิดชอบของเราเยอะกว่า แล้วในระดับตำแหน่งเราก็สูงกว่า แต่ในฐานะน้องใหม่ที่ต้องร่วมออฟฟิตกันเราก็ไม่อยากว่าอะไร แต่ความเคารพมันก็หมดไปตั้งแต่ตอนนั้นแหละค่ะ จากคุณ : มีนมีนา เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 05:52:20

ความคิดเห็นที่ 95 ผมมองในฐานะเด็กที่ยังเรียนไม่จบนะครับ ประเด็นที่ จขกท ต้องการจะสื่อ ก็คืออยากให้แชร์ประสบการณ์ เล่าสู่กันฟัง     ผมเองก็ชอบอ่านนะ  ในห้องสีลม มีกระทู้ทำนองนี้อยู่เยอะ อ่านไปก็ได้รู้ได้เห็น ชีวิตการทำงาน  การสัมภาษณ์ มากขึ้น   มันทำให้เรารู้  ในสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เป็นบทเรียนให้นำไปใช้ในอนาคต   ถ้าเด็กรุ่นหลังไม่เรียนรู้ความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน   อนาคตก็จะมีความผิดพลาดแบบนี้ช้ำชาก     เอาประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนมาแชร์ ก็ดีนะครับ ต่อไปในอนาคตความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะน้อยลง   ผมมองว่าการแชร์ประสบการณ์เป็นเรื่องที่ดีครับ  ดีกว่าปล่อยให้เป็นความลับของคนทำงาน หรือ ฝ่าย HR เพียงอย่างเดียว จากคุณ : real_lover เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 09:57:58

ความคิดเห็นที่ 96 โสคราสิต ก็เคยพูดแบบ จขกท. นั่นแหละครับ คือด่ารุ่นหลัง ว่าไม่มีสัมมาคาราวะบ้าง ไม่เก่งเท่ารุ่นก่อนบ้าง แต่ว่า ด่ามา 2000 ปีแล้ว ปัจจุบัน คนที่มีอายุก็มักจะด่ารุ่นหลังเสมอๆ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 11:52:26

ความคิดเห็นที่ 97 เด็กรุ่นหลังๆ เกิดมากับความง่าย และสะดวกสบายจากคนรุ่นก่อนๆที่สร้างไว้ รุ่นกลางๆอย่างเราที่ทันแค่ Adobe Photoshop7 Cs2 ที่เต็มไปด้วยสารพัดBug และเครื่องที่ไม่แรงเท่า เด็กรุ่นนี้มาพร้อมกับ Lightroom cs5 ที่สเป็คแรงแค่ใหนก็เอาอยู่ ถ้าพูดถึงสายศิลปะเขามีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย แต่จะเอาออกมาใช้ได้ใหมก็อีกเรื่องหนึ่ง วิชาจริยธรรม การสอนมารยาทก็ไม่ได้บรรจุในรุ่นหลังๆแล้ว เด็กมันจะดูเหมือนไม่มีสัมมาคาระวะมันก็คงจะเหลือแค่การอบรมสั่งสอนจากบิดามารดา ที่พร้อมจะโอ๋เวลาเขาล้ม พอมาสมัยมหาลัย ความไกล้ชิดของรุ่นแต่ละรุ่น และอาจารย์มักจะห่างไกลกัน คณะใหญ่ๆโอกาสเข้าถึงอาจารย์ผู้สอนน้อยมาก และเด็กก็ไม่เข้าหาอาจารย์ อาจารย์ไม่เข้าหาเด็ก นอกจากมีปัญหาเรื่องเกรด และหลายมหาวิทยาลัยเอกชน"สอนให้นักศึกษาเป็นเจ้าคนนายคน" ต่างจากเมื่อก่อนที่สอนให้เข้าไปเป็นลูกน้องความมีสัมมาคาระวะ ก็หายไป เพราะยังไงก็ไปทำงานในกิจการของที่บ้านอยู่ดี นอกเรื่องซะเยอะเลยขอสรุปความคิดเรานะ เด็กรุ่นใหม่มีความเป็นตัวเองสูง เด็กไม่รู้มารยาททางสังคมเกิดจากตัวเด็กเอง น้อยคนที่จะได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่หรือโรงเรียน อย่างมากก็แค่เรื่องการทานอาหาร คหสต หากเป็นเมื่อก่อน คนทำงานออฟฟิสย่อมมีมารยาททางสังคม หรือการได้รับการสังสอนจากโรงเรียน เป็นเบสิคติดตัว การปลูกฝังให้เป็นคนทำงานมากกว่าเป็นเจ้านาย ทำให้คนรุ่นก่อนมีความเก่งกาจ และเข้าใจโลกมากกว่าคนรุ่นนี้ ความรู้ ต้องไปหาเองถ้าไม่หาก็ไม่มี ส่วนยุคนี้ ความรู้มีทุกที่ ทั้งในgoogle แต่ไม่ไปหากันหรอก ไม่อยากรู้ สรุปความคิดเราก็บอกได้แค่ว่า การเลี้ยงดูเด็ก ที่เกิดมาก็เกิดจากคนรุ่นๆราวๆวัยทำงานในปัจจุบันนี่แหละคะ พ่อแม่ลำบากแต่อยากให้ลูกสบาย อะไรๆก็ประเคนให้ เลี้ยงลูกด้วยเงิน และโรงเรียนกวดวิชา เรียนมัน7 วัน ส่วนพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยความรัก เหตุผล และสอนมารยาททางสังคม เราว่าน้อยคะ   ข้างบนเป็นความเห็นส่วนตัวคะ จากการสังเกตุคนรอบข้าง และการรับฟังการระบายจากหลายๆคน ปล เมื่อสองปีก่อนไปเดินฟิวเจอร์ พาร์ค เราอยู่ในลิฟต์ มีแม่ลูกกับเพื่อนแม่เข้าลิฟต์มา เด็กผู้หญิงราวๆป1 กับคุณแม่ราวๆ 30 ต้นๆ ยังสาวสวยเลยคะ ลูกดันไปกดปุ่มเปิดประตูค้าง ตัวแม่ด่าเลยคะ esud นี่ เล่นไม่รู้เรื่อง เดี๋ยว gu ตบ ปากฉีกเลย eha นิ เราละนึกเป็นห่วงว่าน้องเขาถ้าโตขึ้นจะเป็นยังไง จากคุณ : DekArtKvc เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 14:00:53

ความคิดเห็นที่ 98 ตามนั้นครับ คห.97 ลองอ่าน คห.98 ดูครับ มันเป็นเรื่องปกติครับ มันเป็นเรื่องของคนครับ ไม่ใช่อายุ เพราะถ้าอ่านข่าวจริงๆ คนอายุเยอะๆ ก็ทำผิดกันเยอะกว่าที่เด็กๆ ทำผิดครับ ป.ล. ถ้าจะบอกว่าเด็กแว๊นมันเพิ่งมี ขออนุญาตเถียงอย่างเบาๆ ว่า พวกเด็กแว๊นซ์มันมีตั้งแต่100 ปีก่อนนู่นแล้วครับ เพียงแต่ตอนนั้นไม่มีมอไซค์ให้แว๊นเท่านั้นเอง จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 14:40:47

ความคิดเห็นที่ 99 เข้ามาก็นึกว่าจะได้อะไรดีดีใช้ในการสัมภาษณ์บ้าง เจอมาม่าซะงั้น จากคุณ : nuu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:05:50 A:180.180.57.178 X: TicketID:376681

ความคิดเห็นที่ 100 ต้ม มาม่า ต่อ อิอิ     ปล.มุมมองส่วนตัว    จากคุณ : มารหุ้นแสวงพ่าย เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 19:21:25

ความคิดเห็นที่ 101 ทำไมกลายเป็นกระทู้เถียงกันแล้วอ่ะ เด็กกำลังจะจบ งงเลยทีเดียว?? จากคุณ : ตัวกินหญ้า เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 19:24:22

ความคิดเห็นที่ 102 จริงๆ เิริ่มต้น ก็เป็นกระืูทู้ที่ดี เพียงแต่มีพวกน้ำล้นแก้ว เข้ามาป่วนเยอะไปหน่อย มันเลยกลายเป็นมาม่าครับ และก็เป็นแบบนี้ทุกทีด้วย เวลาที่มีกระทู้ คนทำงาน HR เข้ามาบ่นผู้สมัครงาน แต่ถ้าเป็นกระูทู้ด่า HR ผมเห็นน้อยครั้งนักที่คนทำงา่น HR จะเข้ามาเถียง แปลกดี จากคุณ : Knight เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 20:40:51

ความคิดเห็นที่ 103 คุณ มีหลายใจแต่ไร้แฟน  กำลังจะบอกว่า วิศวกรเก่ง ๆ ต้องแต่งตัวไม่เรียบร้อยใช่เปล่าครับ? ถ้าวิศวกรคนไหนแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ใส่สูทผูกไทด์ แสดงว่าเป็นวิศวกรที่ไม่เก่ง จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 20:52:42

ความคิดเห็นที่ 104 เอ็กซง เอ็กเซลอะไรผมใช้ไม่เป็น ผมใช้แต่ Lotus123 จากคุณ : rutchpong (rutchpong) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 21:26:41

ความคิดเห็นที่ 105 อืม ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง อ่ะนะ แบบนี้ทะเลาะกันไปก็ไม่จบ จากคุณ : หนอนทอดกระเทียม เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 21:49:58

ความคิดเห็นที่ 106 คห 103 ผมแค่เสนออีกมุมมองหนึ่งให้ดูเท่านั้น เผื่อ HR รุ่นเก่าๆเขาจะได้มีมุมมองอื่นบ้างครับ ที่อ้างประสบการณ์ผมเพราะทางคนอื่นเขาอ้างประสบการณ์เขาก่อนก็เท่านั้น จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 23:35:39

ความคิดเห็นที่ 107 5555  ดีครับ.......ดี เราจะได้รู้ทัศนคติ  hr แต่ หละคน จากคุณ : ง.งูเดินย่อง เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 00:08:50

ความคิดเห็นที่ 108 กระทู้นี้ทำให้ผมรู้ว่า 1. ถ้าโลกนี้ไม่มี google โปรแกรมเมอร์ก็จะทำงานไม่ได้เลย (หรือ?) แล้วโปรแกรมเมอร์สมัยก่อนทำงานยังไง ทั้ง ๆ ที่ software, application ต่าง ๆ เกิดมาก่อน google อีก 2. บางคน คิดว่าการเป็นคนเก่งและไม่รู้จักกาละเทศะเป็นเรื่องธรรมดา โดยไม่รู้ว่า คนที่เก่ง มีมารยาทและรู้จักกาละเทศะ มีเยอะกว่ามาก ๆ ปล. กระทู้ดี ๆ เจอพวก ego สูงพาออกทะเลซะงั้น จากคุณ : akac เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 11:28:48

ความคิดเห็นที่ 109 #108 1. ถ้าโลกนี้ไม่มี google โปรแกรมเมอร์ก็จะทำงานไม่ได้เลย (หรือ?) ถ้าสมัยก่อนเค้าก็เปิดหนังสือเอาสิครับ อะไรที่ใช้บ่อยๆก็จำได้เอง อะไรที่ไม่ได้ใช้ก็ลืม หนังสือ reference ก็ไม่ใช่ว่าจะเขียนได้เคลียร์อ่านรู้เรื่องทั้งหมด บางทีก็กั๊กๆ framework ไว้เพราะไม่ทัน release ดูอย่าง Windows Phone ก็ได้ bug issue ที่ไม่ได้เขียนไว้ใน reference อีกล่ะ โลกของโปรแกรมเมอร์มันไม่ได้มีแค่ array loop ที่เรียนในห้องเรียนนี่ครับ ของเกิดใหม่ทุกวัน อัพเดททุกวัน โปรแกรมเมอร์ต้องคอยตามตลอด แล้วจะไม่พึ่ง google ได้ยังไง จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 12:53:42

ความคิดเห็นที่ 110 พี่ๆทุกคนขา หนูเข้ามาเพราะตอนนี้หนูเป็นนิสิตปี  4  เรียนเทอมสุดท้าย  และหวังว่ามากระทู้นี้แล้วจะได้เข้าใจว่าะไรที่ควรทำ  และไม่ควรทำในการสมัครงาน หรือว่าเด็กจบใหม่คนไหนไฟแรง  มีความสามารถล้นที่ทำให้พี่ๆตะลึง  หนูจะได้พิจารณาตัวเองได้ถูกว่าควรเพิ่มและลดจุดไหนบ้าง อย่าเถียงกันเลยนะคะ  กลับเข้าประเด็นกันเถอะค่ะ  หนูอยากได้ความรู้จริงๆ จากคุณ : TinkElena เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 16:39:01

ความคิดเห็นที่ 111 #108 2. บางคน คิดว่าการเป็นคนเก่งและไม่รู้จักกาละเทศะเป็นเรื่องธรรมดา โดยไม่รู้ว่า คนที่เก่ง มีมารยาทและรู้จักกาละเทศะ มีเยอะกว่ามาก ๆ คนรุ่นเก่าบางคนนี่ก็มีตรรกะแบบโลกแคบๆเหลือเกิน เหมือนกับคุณบอกว่าสิ่งที่มีคนทำน้อยกว่าคือสิ่งที่ไม่ธรรมดา อย่างนี้ก็เหมือนกับคุณพูดว่า "บางคน คิดว่าการขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็นเป็นเรื่องธรรมดา โดยไม่รู้ว่า คนที่ขี่เป็นนั้นมีเยอะกว่ามากๆ" ถามว่า คนที่ขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็นเป็นพวกแปลกแยกเลยเหรอครับ ส่วนเรื่องกาละเทศะและมารยาท ผมไปลามาไหว้ พูดกับผู้ใหญ่ลงท้ายว่าครับทุกครั้ง การลางานผมแจ้งล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไปเป็นอย่างน้อยถ้าไม่ใช่เหตุฉุกเฉินจริงๆ มีขยะอยู่ผมทิ้งในถังขยะหรือที่ๆจัดไว้ ถามว่ามารยาทแค่นี้ก็มีผู้ใหญ่หลายๆคนทำไม่ได้ละ แต่ก็ชอบต่อว่าเด็กๆกันจังว่าไร้มารยาท จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 17:37:23

ความคิดเห็นที่ 112 ขออนุญาตบ่นบ้่างนะครับ เพราะเห็นเกิดมาม่ากันมาหลายทีแล้ว กระทู้นี้ หัวข้อกระทู้ก็ค่อนข้างจะชัดเจนว่า เป็นเรื่องของคนทำงาน HR พูดถึงคนที่มาสมัครงาน ซึ่งผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่า ในมุมมองของคนทำงานสายนี้ เขาเห็นอย่างไร คิดอย่างไร และมีประสบการณ์อย่างไร ผมไม่ได้คิดว่าคนทำงาน HR จะต้องถูกเสมอ หรือ ผิดตลอด แต่อยากฟังประสบการณ์ ของพวกเขา เพื่อเป็นความรู้เปิดโลกทัศน์ของผม ในเรื่องการทำงานกับคน ในภายภาคหน้่า หรือ อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับ คนที่กำลังคิดจะสมัครงาน จะได้มีการเตรียมความพร้อม ขจัดจุดอ่อนของตัวเอง แต่ทำไม มักจะมี specialist บางราย เข้ามาเถียงอย่างโน้น อย่างนี้อยู่เรื่อย ผมเชื่อครับว่า คนที่เป็น specialist น่ะ เก่งครับ เก่งมาก เก่งที่สุด แต่คุณเก่งในงานของคุณครับ ไม่ใช่งานของ HR ระหว่างคนที่สัมภาษณ์งานไม่กี่ครั้ง พบปะ HR ไม่กี่หน กับคนทำงาน HR ที่ต้องพบปะผู้สมัครนับสิบคน หรือ อาจหลายสิบคน ในรอบ 1 ปี กระทู้นี้ ผมอยากอ่านประสบการณ์ของคนที่ผ่านงานโดยตรงมามากกว่าครับ ถ้า specialist คนใดเห็นว่า HR ที่คุณเคยประสบพบพานมา มันห่วยแตก มันโบราณ มันล้าหลัง มันใจแคบ มัน...etc. แนะนำว่า ตั้งกระทู้ตำหนิติเตียน แยกต่างหากจะดีกว่าไหมครับ การที่ specialist เข้ามาเถียงในนี้มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรหรอกครับ คุณไม่สามารถ เปลี่ยนมุมมองของ HR ได้ เช่นเดียวกับ HR ก็ไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของคุณได้ แต่คุณกำลังทำให้คนที่เขาอยากอ่าน อยากรู้ เสียประโยชน์ครับ จากคุณ : Knight เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 20:54:37

ความคิดเห็นที่ 113 ได้อ่าน คห ของคุณ Knight แล้วลองคิดดูก็เรื่องจริงครับ ขออภัยที่ลากกระทู้ออกทะเลครับ จากคุณ : มีหลายใจแต่ไร้แฟน เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 21:39:49