ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รู้นะครับ แต่ส่วนตัว ก็กำลังคิดทำธุรกิจ ของตัวเองเหมือนกัน ร้านเล็กๆ แต่เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนๆ หลายๆคน กลุ่มแรก คือ คนทำงานออฟฟิต ส่วนใหญ่ มักจะแนะนำให้ทำงานเป็น พนง บ. ทั่วๆไป เพราะอย่างที่รุ้มั่นคง เงินเดือนขึ้น มีเงินใช้ทุกเดือน กับอีกกลุ่ม คือ เพื่อนๆที่ทำ ธุรกิจ ของตัวเอง ที่ทั้ง รุ่งเรื่อง และรุ่งริ่ง มันจะแนะนำให้ลองธุรกิจ ของตัวเอง บอกไม่ลองตอนนี้ ก็ไม่รู้จะลองตอนไหน ไปเป็น พนง บ. ซักวันก็ต้องออกมาหาอะไรทำเองอยู่ดี เริ่มเลยดีกว่า กับอีกอย่าง ที่คอนข้างแปลกใจ คือคำตอบ ของเพื่อนๆที่ ทำธุรกิจ ส่วนตัว ที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือเจ๊ง นั้นเอง ตอนแรก กลับคิดว่าคนกลุ่มนี้จะแนะนำให้ ทำงาน บ. เพราะตัวเองเคยเจ๊งมาแล้วกับ ธุรกิจส่วนตัว แต่ผิดคาด กลับ แนะนำให้ทำธุรกิจส่วนตัว ขณะเดียวกัน เราก็บอกเพื่อนไปว่า ถ้าทำธุรกิจ แล้วเจ๊ง ทำไม ไม่ลองหางานทำ มันบอกว่า ไม่เอา ทั้งนั้น ทั้งๆที่ ธุรกิจเจ๊งนะ มันบอกว่าคนเคยหาเงินได้เอง เคยเป็นนายตัวเอง มันไม่มีใครอยากกลับไปเป็นลูกน้องเขาหลอก ถ้าหากไม่เหลือบากกว่าแรงจริงๆ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 01:09:40

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนแรกๆ ทำควบคู่กันไปก่อนครับ จากคุณ : อาคารกระดาษ (อาคารกระดาษ) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 02:40:32

ความคิดเห็นที่ 3 การทำธุรกิจส่วนตัวก็ดีครับ  แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าจะทำธุรกิจอะไร หลายๆคนมักจะคิดไม่ออกครับ จึงไม่กล้าเสี่ยงลาออกจากงาน เท่าที่เห็นก็มีเซลล์ขายสินค้าที่ออกขายตามต่างจังหวัดครับ  ได้พบปะลูกค้ามาก  เซลล์บางคนก็อัทธยาดี มีความจริงใจกับลูกค้า  เขาฝากซื้อหรือโทรไหว้วานอะไร ก็ยินดีบริการ  ไม่พูดมาก ไม่เสียดสีเจ้าอื่น ไม่นินทานาย  เมื่อมาบ่อยก็เกิดความคุ้นเคยกับลูกค้าครับ  เซลล์อย่างนี้ถ้าออกมาทำธุรกิจเองมักจะประสบความสำเร็จ  เพราะรู้แรงซื้อแรงขายของลูกค้า รู้การเงินเป็นอย่างไร  อีกทั้งลูกค้าก็สมัครใจจะซื้อด้วยครับ   เซลล์บางคนก็ขายสินค้าให้หลายบริษัท  โดยสินค้านั้นไม่กระทบกับสินค้าบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่  จึงทำให้รู้จักกับเจ้าของหลายบริษัท  ไม่คดโกง ทำผลงานดีมาตลอด จนบริษัทอื่นเชื่อใจ เพิ่มปริมาณสินค้าฝากขายครับ เซลล์เหล่านี้เมื่อจะลาออก นายมักจะเสียดาย เพราะซื่อสัตย์และผลงานดี ก็จะพยายามขอร้องให้อยู่ต่อ ถ้าขอไม่ไหวก็จะให้เครดิตสินค้า ภายในระยะเวลาและวงเงิน ให้มาเอาไปขายได้เลย  บริษัทอื่นๆที่เขาเคยช่วยขายสินค้าให้ ก็ให้เครดิตทำทองเดียวกัน  เขาจึงไม่ต้องใช้ทุนมากครับ  และยิ่งมีรายชื่อลูกค้าอยู่ในมือแล้ว เขาออกไปทำเองไม่นาน ก็จะสร้างฐานะเป็นปึกแผ่นได้ครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 08:00:11

ความคิดเห็นที่ 4 ขึ้นอยู่กับว่ามีช่องทางที่ทำแล้วรุ่งหรือเปล่า และมีความพร้อมแค่ไหน เพราะการทำธุรกิจส่วนตัว หลายครั้งที่เราต้องทำงานตลอดเวลาจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว และมีเรื่องให้ตัดสินใจมากมาย ทั้งเรื่องจุกจิกและเรื่องใหญ่ๆ โดยเฉพาะการรับมือกับคนหมู่มาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จากคุณ : ANC เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 55 10:18:05

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าไปยึดติดครับ.. นิสัยคนไม่เหมือนกัน คุณจะรู้จักตัวเองก็ต่อเมื่อคุณเป็นอิสระ ไม่มีกฏระเบียบคุมโน่นนี่มากมาย... ทีนี้หละ ทำบ้างไม่ทำบ้าง หรือทำงานเข้ม เป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง หรือแสดงอำนาจบาทใหญ่... นิสัยชั่วๆดีๆ จะทันคนหรือไม่รู้ทัน จะประมาทผ่านๆไปไม่ค่อยตรวจ หรือเอาแน่เอาชัวร์จี้ติดงาน มันแสดงออกเห็นกันตอนนั้นครับ.. และคุณจะได้เรียนรู้ระเบียบก็เมื่อมีคนที่สามารถบังคับคุณได้ครับ .... ถ้าทำงานประจำแล้วได้เงินเก็บเรื่อยๆทุกเดือนแนะนำให้แบ่งเงินไปลงทุนครับ แต่ทำเล็กๆก็พอ ทำไปเรื่อยๆนั่นบ้างนี่บ้างเดี๋ยวก็เจอตัวทำเงินเองหละ...วางแผนดีๆ ทำเล็กๆ คืองานส่วนมากคุณจะไม่ขาดทุนหรอกนะ ถ้าเสมอตัวนี่สำหรับมือใหม่ถือว่าเจ๋งพอแล้วครับ... อาจปรับปรุงให้ทำกำไรได้ต่อไป... ถ้าขาดทุนก็เสียเล็กน้อยยังเหลือของให้เซ้งต่อได้บ้าง... ถ้าทำงานอิสระแล้วไม่เหลือตังค์ แค่ถูไถไปวันๆแนะนำให้หยุดลงทุนครับ ไปทำงานประจำเสียเถอะ คนเราเกิดมาแล้วตาย.. มีปัจจัยสี่ใช้ก็บุญแล้ว.. ที่คิดฝันทำกันตั้งมากมายถ้าเกิดตายไป..มันไม่เหลืออะไรแล้ว ดังนั้น... อะไรที่พอจะทำมาหากินไปได้ ไม่ผิดกฏหมาย ไม่ค้านกับศีลธรรม ก็ลองเถอะครับ ลองไปเรื่อยๆ ดีก็ทำต่อ ไม่ดีก็ปรับปรุง ปรับปรุงแล้วไม่รอดก็หาคนมาช่วย หาคนมาช่วยแล้วยังไม่รอดก็หยุดซะ.. ไปทำอย่างอื่นต่อ... มันไปได้เรื่อยๆของมันเอง... ถ้าคุณทำงานอิสระบ้าง ทำงานเป็นลูกจ้างบ้าง....ฝึกไปเรื่อยๆแล้ววันหนึ่งคุณจะรู้จักนิสัยชั่วและนิสัยดีของตัวเองอย่างดีเยี่ยม จากคุณ : BlueDelphi เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 55 21:02:27