Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คำแนะนำนิดๆหน่อยๆสำหรับผู้ที่กำลังหางาน ติดต่อทีมงาน

ช่วงนี้กำลังช่วยญาติที่จบใหม่หางานอยู่ เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองบ้าง
เผื่อจะมีประโยชน์สักนิด เป็น ความเห็นส่วนตัวนะครับ ขออภัยหากผิดพลาดใดๆ


1. ภาษาอังกฤษ
ใครแย่เรื่องภาษา พยายามเข้าไว้ อย่าปล่อยความกลัวหรือความขี้เกียจครอบงำ
ฝึกเข้าไว้ เพราะเงินเดือนคนได้ภาษากับไม่ได้ต่างกันมาก แถมการเติบโตก้าวหน้า
ก็ห่างชั้นกันเหลือเกิน ภาษาอังกฤษในงานนั้น ทักษะสำคัญที่สุดไม่ใช่การพูด การอ่าน
หรือการเขียนให้ถูกตามไวยกรณ์ มันคือการ ฟังครับ ฟังให้รู้เรื่อง ฟังให้เข้าใจ
** เขียนเพิ่ม
การเขียน และการอ่านนั้น เรามี"เวลา" และเครื่องแปลภาษาในการทำให้ลุล่วง การสื่อสารโดยมาก
ทำผ่านทาง e-mail ภาษาที่ใช้ในงานไม่สลับซับซ้อนเท่าใด

การพูดเรื่องงานนั้น หากเราเป็นนายใหญ่สุดขององค์กร กะว่าฉันพูดสั่งงานม้วนเดียวจบ
ก็ไปท่องที่อยากพูดมา เจื้อยแจ้วเป็นนกขุนทองไป อันนี้ไม่ยากแต่โชคร้ายที่เราอาจ
ไม่ใช่นายใหญ่ ดังงนั้นเราต้องฟังครับ

การฟังนั้น เป็นลักษณะเดียวของการสื่อสารที่เราไม่มี"เวลา" ไปเปิด google แปลภาษา
และถ้าคนที่เราคุยด้วยคือคนเดียวกับคนคอยขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งให้ รับรองเลยครับ
ว่า คุณย่อมอยากรู้เรื่องนั้นแทบใจขาดดิ้น

2. วางแผนอนาคต
สมัยผมเรียนจบใหม่ๆ เพื่อนๆทั้งหมดได้งานกันหมดแล้ว เหลือไอ้แม็กยังหางาน
อยู่ ก็สงสารมัน มันกลับเทศน์ให้ฟังว่า พวกผมวางแผนไม่เป็น กลัวตกงานจนลนลาน
กลัวคนดูถูก กลัวจน ส่วนมันหางานตำแหน่้งที่มันต้องการ ถ้าไม่ใช่มัน
ไม่เอา ตำแหน่งแรกของแม็กคือ ผู้ช่วยผู้จัดการครับ ไปทำที่ระยอง จากนั้น 3ปี
แม็กกลับมากรุงเทพ ได้งานเป็นรองผู้จัดการ และอีก 2 ปีก็ได้เป็นผู้จัดการฝ่าย
จัดซื้อของบริษัทแบรนด์เนมแห่งหนึ่ง ผมเองก็มาตั้งตัวคิดว่า เอ้อไอ้การ
วางแผนมันสำคัญจริงๆเสียด้วย

3. สเปคของคนเงินเดือนสูง
ก็อยู่ในประกาศหางานไงล่ะครับ ถ้าท่านไม่เคยดูตำแหน่งพวกนี้ ขอแนะนำ
ว่าให้ดูอย่างละเอียดทำการวินิจฉัย เช่น งานผู้จัดการฝ่ายขาย เงินเดือน 2.5-3.5แสน
ประสบการณ์ 10ปี ปริญญาตรี อย่าคิดว่า เราจบใหม่ หรือประสบการณ์เราไม่ถึง ไม่เกี่ยวกับเรา
ถ้าคุณอ่านหน้าที่ ความรับผิดชอบแล้วชอบใจถ้างั้นก็ ให้ไปดูที่ Qualification อื่นๆครับ
ว่าคนนั้นต้องผ่านประสพการณมาอย่างไร ด้านไหนบ้างจากนั้นก็ ไปทำตัวเองให้มี สเปค
แบบนั้นเสีย ในระหว่างนั้นเงินเดือนคุณจะสูงไปเรื่อยๆ ถ้าคุณไม่หลงลืมเป้าหมายของตนเอง
เสียก่อน ผ่านไป 10 ปี คุณอาจไม่ดีพอสำหรับเงินเดือน 3.5แสน แต่ถ้าได้สักครึ่งก็ถือว่า
ใช้ได้นะครับ

4 ทำงานที่นี่ดีแล้ว เพื่อนน่ารัก ไม่เครียด ใกล้บ้าน เงินเดือนน้อยหน่อยก็โอ
หากคิดแบบนั้นก็คิดถูกแล้วครับ แต่อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ให้พอเหมาะ
ด้วยนะครับ ส่วนท่านที่ไม่พอใจรายได้ก็หาที่ทำงานใหม่ up เงิน เดือนซะ ทำไปเรื่อยๆจนได้
เงินเดือนและสภาพแวดล้อมที่ถูกใจ

5. รอบริษัทโปรโมต-เลื่อนตำแหน่ง
บริษัทจำนวนมาก ไม่ชอบโปรโมตคนใน แต่จะจ้างคนนอกเข้ามาเป็นผู้จัดการ ดังนั้น
อย่าฝันลมๆแล้งกับที่ทำงานเดิม หางานอื่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ ตำแหน่งที่เราพอใจ

6. เรียนต่อโทดีไหม
ดีครับ แต่อย่าถึงขั้นลาออกจากงานประจำเลยนะครับ ทำงานไปด้วยเรียนไป ด้วย ดีที่สุด
บันทึกประสบการณ์ไม่สะดุด แถมได้ทักษะการทำงานหนักมาด้วย

7. ยังหางานที่ใช่ไม่ได้ ทำงานนี้ไปพลางๆก่อน
ถ้างานที่ทำไปพลางๆก่อนไม่ขัดขวางอนาคตท่าน ไม่ทำให้ท่านเพลิดเพลินจน
ลืมเป้าหมายก็ทำไปเถอะครับ แต่ระวังงานพวกเข้ากะ เช่นงานบริืหารร้านอาหาร
ในห้างสรรพสินค้า งานพวกนี้หาได้โดยง่ายแต่งานหนัก เงินเดือนน้อย เลิกดึกถึงดึกมาก
สูบกินพลังชีวิตและการเรียนต่อโทหรือภาษาอังกฤษ ถึงจำเป็นก็ไม่ควรทำ
ยกเว้นท่านมีวิธีแก้ไขเอง

8. สมัครไปแล้วเขาไม่เรียก
ท่านสมัครไปกี่บริษัทครับ สมัยผมทำงานผมวางเป้าไว้ ว่าสมัครซัก 200 บริษัท แต่ไปสมัครได้
30 บริษัทก็ได้งานถูกใจแล้วครับ ดังนั้นหากท่านเพิ่งสมัครไป 3-4 บริษัท เพิ่มสักหน่อยก็ดีนะครับ

9. สัมภาษณ์งานตั้งหลายที่เขาไม่เรียก เสียใจจุงเบย
การสัมภาษณ์งานนั้น ผู้ถูกสัมภาษณ์ถ้าไม่ถูกเรียกตัวไปทำงานก็อย่าไปท้อถอย
เลยครับ ถือเสียว่ีามีคนมาฝึกการสัมภาษณ์คุณ "ฟรีๆ" ดังนั้นทักษะด้านการถูก
สัมภาษณ์และ ความชำนาญจะสูงขึ้น ไม่ควรกลัวหรือเครียดนะครับ การคาดหวัง
ต่างๆนาๆนั้นไม่มีประโยชน์ รังแต่กดดันตนเอง

10.  การเตรียมตัวไปสมัครงาน
ห้ามขี้เกียจในการหาข้อมูลของบริษัทและ ตำแหน่งงานเด็ดขาด คุณจะทราบว่า
คุณอยากทำงานนี้จริงไหม ฝู้สัมภาษณ์งานจะรู้สึกดีที่คุณเตรียมตัวมาดี

11. เคล็ดลับของต่าย
ต่ายเป็นชื่อเพื่อนผมครับ เป็นคนไม่เก่งด้านทักษะภาษาอังกฤษเลย ก็พยายามเรัยนอย่างหนักหน่วง
พอมีโอกาสเข้าประชุมกันเป็นประจำกับนายฝรั่งปรากฎว่า เจ้านายฝรั่งรักต่ายมากกว่าคนอื่นอีก
เด็กจบนอกก็ดี ผู้จัดการชาวสิงค์โปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย แก้ตัวเป็นพัลวัน โดนนายดุกันทั่วหน้า
พอมาถึงต่าย เด็กสุรินทร์ ไทยแลนด์ นายยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ด้วยความชื่นชม
ต่ายพูดคำเดียวครับว่า "Yes"
คือมันเตรียมงานมาก่อน ทำให้เรียบร้อย อ่านใจนายล่วงหน้า นายถามทำได้ไหม ต่าย "Yes"
ลูกเดียว ผมถามว่า เองฟังรู้เรื่องเรอะ มันก็ว่า แรกๆก็ไม่รู้้เรื่องพอนานเข้าก็สบายแล้ว ถ้าตอนแรกๆ
ไม่ "yes" ไว้ก่อนก็ไม่มีโอกาสทำงานสำคัญๆต่อ

แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 55 07:39:44

แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 55 18:50:08

จากคุณ : DBM999
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 55 17:24:02




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com