ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับอีกหลายๆคน อย่าง เถ้าแก่น้อย หรือฟร์ามโชคชัย นี้ผมยังว่าเขายังโชคดี ต่อให้มีหนี้เยอะ ยังขายทรัพย์สิน แล้วยังมีเงินเหลือ หรืออย่างเถ้าแก่น้อย ยังมีเงินให้ลงทุนอีกหลายแสน กว่าจะประสบความสำเร็จได้ แต่ก็ถือว่าเขาพยายามและเก่งด้วย ส่วนคนที่ผมยกมา ส่วนใหญ่ เริ่มจาก 0 กันทั้งนั้น บ้านไม่รวย นามสกุลไม่ดัง ทำมาจากสองมือ เท่านั้นเอง ......................... ใครมีประวัติ คนอื่น อีกก็แชร์ได้นะครับ เพื่อจะเป็นแรงใจให้ใครหลายๆคน มีแรงฮืดสู้อีกครั้ง .......................... อีกคนครับ ประวัติน่าสนใจดี เส้นทางนักธุรกิจหนุ่ม วัย 45 ปีพลิกชีวิตตามล่าฝัน เจ้าของโรงแรมหรูใจกลางเมืองกระบี่      นายสมบูรณ์ ไทยมิตร อายุ 45 ปี เรียนจนจบ ระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบหลักสูตรการท่องเที่ยวและการโรงแรม จนสามารถหางานทำเลี้ยงตัวเองได้ แต่งงานมีครอบครัว การทำงานหลายหลายอาชีพ เพื่อตามล่าหาฝันของชีวิต ตามประสาลูกผู้ชายที่มีฝันเป็นของตัวเอง ฝันของลูกผู้ชายคนนี้คือเจ้าของโรงแรม ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความฝันเป็นของตัวเอง คือต้องการมีธุรกิจที่ตัวเองชอบ แม้ชีวิตผ่านประสบการณ์ชีวิตมากมาย      สำหรับนายสมบูรณ์ซึ่งเป็นคนจังหวัดสุราษฏร์ธานี การหลีกหนีชีวิตอะไรบางอย่างมายังจังหวัดกระบี่เพื่อตามล่าฝัน การดำเนินชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สู่จังหวัดกระบี่ครั้งแรก ด้วยการยึดอาชีพพ่อค้าขายเสื้อผ้าแฟชั่น เมื่อประมาณปี 2538 ด้วยเงินติดมือมาเพียง 50,000 บาท ก็ได้กำไรไม่พอกิน เลิกกิจจากการขายเสื้อผ้าแฟชั่น หันเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง โดยให้ภรรยาเป็นแม่ครัว ตัวเองเป็นเด็กเสริฟ มีเงินเก็บเพียง 1 แสนบาทก็เลิกกิจการ เนื่องจากยังไม่ใช่อาชีพที่คนเองรัก อยู่กระบี่มาทำหลายอาชีพทั้งพ่อค้าขายเสื้อผ้า เปิดร้านอาหาร เป็นพนักงานขายรถยี่ห้อหนึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ      มุ่งๆหนึ่งของลูกผู้ชายที่สมองคิดและฝันถึงการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เริ่มหันมามองเมืองกระบี่ใหม่ กระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว เราน่าจะหันมาทำธุรกิจด้านท่องเที่ยว ปี 2540 นายสมบูรณ์ เริ่มเข้าสู่แวดวงการท่องเที่ยวของกระบี่อย่างจริงจัง ได้การเปิดบริษัทไทยมิตรการท่องเที่ยว บริการเช่ารถจิ๊ป ซื้อรถจิ๊ป มาให้ฝรั่งเช่า 3 คัน พร้อมทั้งบริการให้เช่ารถตู้ โดยการกินค่าหัวคิว บริการจองห้องพักตามโรงแรมต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทั้งอ่าวนาง ไร่เล เกาะพีพี และเกาะลันตา การตอบรับที่ดีมาก      มีนักท่องเที่ยวใช้บริการไม่ขายสาย ทำให้นายสมบูรณ์และภรรยามีรายได้เพิ่มขึ้น ตามลำดับ จากหลักพัน เพิ่มเป็นหลักหมื่น หลักแสน จนบริษัทไทยมิตรการท่องเที่ยว เป็นที่รู้จักในแวดวงด้านการท่องเที่ยว อันนี่แหละคืออาชีพที่แต่จริง บริษัทไทยมิตรการท่องเที่ยวโด่งดังสุดขีดเมื่อปี 2542 ซึ่งในปี 2542 นี้เอง นายสมบูรณ์ ได้เปลี่ยนแนวคิดในด้านการท่องเที่ยว ในการทำตลาด หารายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว โดยการเปิดเว็ปไซต์ด้านการท่องเที่ยว รับจองห้องพัก แนะนำแหล่งท่องเที่ยว ในนามwww.krabiholiday.com และ http://www.krabirailay.com จนมาถึงปัจจุบัน นายสมบูรณ์มีรายได้เข้าบัญชีตัวเองเพิ่มเป็นหลักล้าน      แต่ความฝันของนักธุรกิจที่เติบโตมาจากลูกทุ่งเผชิญชีวิตหลายหลายรสชาติ ข้าว 1 กล่องนั่งกินพร้อมภรรยา และหมาที่เลี้ยงไว้ แบบกินทั้งน้ำตา ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ จากการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รู้ถึงเวลาห้องพักเต็ม นักท่องเที่ยวไม่มีที่พักในช่วงหน้าฮาซีซั่นของจังหวัดกระบี่ โรงแรมเลือกหรือคัดนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวไม่มีที่พัก ผมต้องเป็นเจ้าของโรงแรมในตัวเมืองกระบี่ให้ได้ และเป็นโรงแรมที่มีรูปร่างหน้าตาที่ไม่เหมือนใคร เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่สำคัญเพื่อให้คนกระบี่ได้พักโรงแรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับคนกระบี่โดยเฉพาะเช่นกัน ในราคาที่พูดคุยกันได้ ผมอยู่ได้คุณพักได้ ถือว่าจบ      ปี 2552 นายสมบูรณ์ ได้ทุ่มงบประมาณจากการสถาบันการเงิน จำนวน 55 ล้านบาท สร้างโรงแรมในพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน เป็นโรงแรมสูง 7 ชั้น สไตล์ร่วมสมัย แนวบูติคสุดคลาสสิค ผสมแนววินเทจ สวยอย่างมีสไตล์ ใจกลางเมืองกระบี่ สร้างเสร็จเมือวันที่ 25 ตุลาคม 54 โดยใช้ชื่อว่า ดีอันดามัน DEEANDAMAN HOTEL KRABI มีห้องพักทั้งหมด 35 ห้อง ราคาเริ่มต้นที่ 1,800 – 2,300 บาท ตั้งอยู่เลขที่45/19 ถนนรัตน์ดิลก ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ หรือ www.DEEANDAMANHOTEL.COM ซึ่งนายสมบูรณ์มุ่งมั่นภายใน 7 ปี โรงแรมของเขายืนได้ตัวเองและเป็นสถานที่พักชั้นนำของจังหวัดกระบี่อีกแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นสีสันสถานที่พักอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ ด้านการท่องเที่ยว ในด้านการออกแบบรูปร่าง ตัวอาคารที่แต่ต่างออกไป เป็นการเพิ่มเสน่ห์ในเรื่องของตัวอาคารให้กับจังหวัดกระบี่ได้อีกมุ่งหนึ่งใน งานด้านออกแบบ ตบแต่งภายใน และงานสถาปัตย์      นายสมบูรณ์ ไทยมิตร อายุ 45 ปี และนางสมคิด ไทยมิตร อายุ 43 ปีสองสามีภรรยา เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะประสบความสำเร็จจนมานั่งบริหารโรงแรม เป็นเจ้าของโรงแรมดีอันดามัน เจ้าของเว็ปไซต์ www.krabiholiday.com และ http://www.krabirailay.com ถ้าใจไม่นิ่งไม่เชื่อใจกัน ไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คงไม่มีวันนี้ ไม่มีวันที่จะมานั่งบริหารโรงแรมด้วยกัน ความรักความเข้าใจทุ่มเทการทำงานคือกำลังใจที่เราสองคนมีให้กันตลอดมา      นายสมบูรณ์ เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เรียนจบระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และไปเรียนหลักสูตรการท่องเที่ยวและการโรงแรมมา ความฝันก็คืออยากจะเป็นเจ้าของโรงแรมเล็กสักแห่งหนึ่งที่ไหนก็ได้ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน ผมก็พยามตามล่าความฝันมา 10 กว่าปี การเผชิญชีวิตสมัยเรียนก็ทำงานส่งตัวเองเรียนโดยตลอด จบมาก็ทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี สมัยนั้นผมใช้ชีวิตไปกับวงเหล้าเพื่อนฝูงจนชีวิตของผมเริ่มจะล้มเหลว จนไม่สามารถที่จะอยู่ในพื้นที่ที่ผมเคยอยู่ได้ จึงตัดสินใจเพื่อต้องการแยกระหว่างเพื่อนฝูง และครอบครัว ในวันนั้นผมเลือกครอบครัว ชวนภรรยาออกจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่จังหวัดภูเก็ต บังเอิญมามืดที่จังหวัดกระบี่ในคืน 31 ธันวาคม 2538 พักค้างแรมที่กระบี่ 1 คืน ซึ่งในคืนนั้นจังหวัดกระบี่มีงานประจำปี งานปีใหม่มีผู้คนเยอะมาก คิดอยู่ในใจว่าจังหวัดกระบี่น่าจะมีศักยภาพด้านการทำธุรกิจ เป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบ เป็นเมืองที่ผมและภรรยาต้องการที่จะลองใช้ชีวิตอยู่      รุ่งเช้าตัดสินใจไม่ไปแล้วเมืองภูเก็ตอยู่เมืองกระบี่นี่แหละ ตัดสินใจชวนภรรยาไปหาที่พัก ได้ที่พักใน ซอยสอง บ้านราชฟฤกษ์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง ก็เช่าอยู่เดือนละ 2,500 บาท จากนั้นวันสองวันก็เริ่มหาทำเลที่จะค้าขาย ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอะไรในช่วงนั้น มันจับต้นชนปลายไม่ถูก คิดง่ายๆขายเสื้อผ้าไว้ก่อน เลยมาเช่าแผงข้างร้านขายของตรงข้ามห้างโวคกระบี่ เริ่มขายตั้งแต่ 5โมงเย็น จนถึง 3 ทุ่ม สมัยนั้นจ่ายค่าเช่าที่เดือนละ 3 พันบาท ก็ถือว่าแพงอยู่มากเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ก็ลุ่มๆดอนๆ จากเงินทุนที่มีอยู่ 4 - 5 หมื่น ขาดทุนมาเรื่อยๆจนเหลือประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท อาชีพนี้คงไม่เหมาะกับตนเอง เอาเงินที่เหลือทำร้านอาหารเป็นร้านอาหารตามสั่ง ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก ตัดสินใจเพื่อที่จะพาครอบครัวให้รอด      ไปสมัครเป็นเซลล์ขายรถยนต์เบนซ์ เมื่อปี 2539 ขายรถยนต์อยู่ได้ 1 ปี พอฟองสบู่แตกบริษัทก็เลิกกิจการ เพื่อไปตั้งหลักใหม่ ตัวผมเองในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเปลี่ยนชีวิตของผมและภรรยา จากเงินเดือนที่ได้จากการเป็นเซลล์ขายรถยนต์เบนซ์บวกค่าคอมมิชั่น เดือนละ 1 หมื่นกว่าบาท เก็บหอมรอมริบได้ประมาณ 5 หมื่นบาท ปรึกษากับภรรยาว่าทำธุรกิจรถเช่าดีกว่า เลยไปหาซื้อรถจิ๊ปมา 1 คัน 7 หมื่นบาทในสมัยนั้น ทำเอกสารส่งไปตามโรงแรม รีสอร์ท ที่อ่าวนาง คลองม่วง เพื่อให้เขาทราบว่ามีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเช่ารถ มีรถตู้ มีรถกระบะ โดยให้เจ้าของรถทั้งหลายเข้าร่วมในการทำงาน ผมหวังค่าหัวคิว และค่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น      ซึ่งผลตอบรับดีมากทางโรงแรมติดต่อขอเช่ารถอย่างต่อเนื่อง จำเป็นที่จะต้องขยายธุรกิจเลยติดต่อไปทางคุณแม่ ขอยืมเงินทุน 2 หมื่นบาท เพื่อที่จะสมบทกับเงินอีก 5 หมื่น ที่เก็บมาได้ซื้อรถจิ๊ปเพิ่มอีกคัน ซึ่งทางคุณแม่ก็สนับสนุน ทำให้กิจการเป็นไปด้วยดี จนมีรายได้เข้ามาเรื่อย สามารถซื้อรถเพิ่มขึ้นเพื่อไว้ให้ฝรั่งเช่า ไว้บริการนักท่องเที่ยว เป็นการทำงานที่สนุกและเครียด มีรายได้ค่อนดีแต่อัตราความเสี่ยงค่อนข้างสูงเช่นกัน ในมุนมองของผมคิดอยู่ในใจว่า สักวันหนึ่งบริษัทรถเช่าขนาดใหญ่ที่เป็นแบรนด์แนมใหญ่ๆ ชั้นนำก็คงจะมาอยู่ในจังหวัดกระบี่ เราเป็นโลค่อนเล็กๆก็คงจะอยู่ไม่ได้ เลยหันมาหาลูกทางอย่างอื่นทำควบคู่กันไปด้วย เลยตัดสินใจเปิดบริษัททัวร์ ชื่อไทยมิตรการท่องเที่ยว ทำเว็ปไซต์ ชื่อว่า www.krabiholiday.comเป็น เป็นเว็ปที่บริการทางด้านการท่องเที่ยว ช๊อปปิ้งด้านการท่องเที่ยว มีทั้งขายโรงแรม ขายทัวร์ บริการรถเช่า ที่เกี่ยวข้องกับวงการทัวร์ทุกอย่าง ทุกเรื่องของการท่องเที่ยวในกระบี่รวมอยู่ในเว็ปไซต์นี้ทั้งหมด      ผมเดินสายไปขอถ่ายภาพตามโรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก ห้องอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ทั้งเกาะพีพี เกาะลันตา อ่าวงนาง ไร่เล ทุกแห่งในจังหวัดกระบี่ เพื่อเอามาลงในเว็ปไชต์krabiholiday.com ขายทางอินเตอร์เน็ต ผลตอบรับดีมากในปีแรกมียอดขาย 4 ล้านกว่าบาท หลังจากนั้นยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ 8 ล้าน 10 ล้าน และอยู่ได้ในตัวของมันเองจนผมมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และภูมิใจกับผลงานของตัวเอง      ความฝันของผมที่ผมล่ามาทั้งแต่หนุ่มเริ่มเข้ามาใกล้ตัวผมแล้ว เนื่องจากเวลาที่เราจองให้พักให้กับลูกค้าทางอินเตอร์เน็ตมักประสบปัญหาในช่วงฮายซีซั่น โรงแรมเต็มหมด คิดดูแล้วผมหาแขกส่งให้โรงแรมต่างๆเยอะมากแล้วสักวันหนึ่งหากมีโรงแรมเป็นของตัวเองเราสามารถหาแขกเข้าโรงแรมของเราได้ไม่อยาก ความฝันที่ผมเคยตั้งเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆมันมาครึ่งทางแล้ว เงินทองมีหรือไม่มีไม่ใช่ปัญหามันอยู่ที่วินัยทางด้านการเงิน ซึ่งผมให้ความสำคัญกับการเดินตัวเลขบัญชีกับแบงก์ วันหนึ่งคุยกับภรรยาว่าอยากจะกู้เงินสร้างโรงแรม มีเงินเก็บอยู่ 3 แสน ฝันที่กำลังล่า การมีเงิน 3 แสนมาสร้างโรงแรมหลัก 50-60 ล้าน เป็นเรื่องอยากมากแทบเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เลยหาแบบที่เป็นอาคารพาณิชย์ คำนวณความสูงเป็นตึก 7 ชั้น ใช้พื้นที่ 1 ไร่เศษๆนำเสนอกับแหล่งเงินทุนที่เราจะไปกู้ ผมเดินบัญชีทุกแบงก์ ติดต่อทุกแบงก์เช่นกัน ติดต่อก็หลายครั้งเริ่มชักท้อ นึกในใจว่าโปรเจคนี้สงสัยคงไม่ผ่าน      แต่สุดท้ายไปเจอสถาบันการเงินอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งท่านให้โอกาสผม ผมนำเสนอโดยมีรูปแบบแปลนคร่าวๆ แต่ลงลึกในเรื่องของ ปริดเน็ตแพน คือธุรกิจที่จะทำ มีอัตราการคุ้มทุนกี่ปี มีจุดเสี่ยง จุดดี จุดด้อย ซึ่งผมวิเคราะห์พื้นที่ที่จะสร้างโรงแรมในรัศมี 5 กิโลเมตร มีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไร มีคู่แข่งอย่างไรบ้าง ฟรีเซ็นต์ให้ทางผู้ใหญ่ของสภาบันการเงินเขาทราบ ให้เขาเห็นในความตั้งใจจริงของผมในการที่จะสร้างโรงแรม การยื่นเอกสารต่อแหล่งเงินทุนก็เริ่มเดินตามสเตปตามกระบวนการทางด้านการเงิน นับจากวันนั้นถ้าสะดุด ยุติอยู่ตรงนั้น เพราะว่า ผมไม่มีเงินมากมาย200-300ล้านบาท ไปเขียนแบบเหมือนนักธุรกิจรายอื่นๆ แต่วันนั้นโชคเข้าข้างผม การดำเนินการทางการเงินไม่สะดุดอะไร       จนมาวันที่ทางสถาบันการเงินซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนอนุมัติเงินกู้ให้ผมในการสร้างโรงแรม เหมือนกับว่าชีวิตของผมเดินทางมาถึงฝันอีกจุดหนึ่งแล้ว ตอนแรกกลัวไม่ได้สร้างเพราะไม่รู้หาเงินมาจากไหน แต่ตอนนี้ได้สร้างแล้ว โจทย์ต่อไปคือสร้างอย่างไรสร้างให้จบภายในระยะเวลาที่กำหนด การบริหารจัดการเงินทุนที่มีให้มันอยู่ตรงนี้ในเรื่องของการสร้างโรงแรม อย่าให้หลุดออกนอกเส้นทาง หรือนอกเป้าหมาย ผมเลยจำเป็นที่จะต้องควบคุมการก่อสร้างเองทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนการตกเสาเข็ม การวางรากฐานของตัวอาคาร รูปแบบ ความแข็งแรง ความปลอดภัย ระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภคทุกอย่าง การตกแต่งภายในทุกอย่าง ดูแลเองทั้งหมด      จนถึงวันที่ผมสร้างโรงแรมเสร็จ ในวันที่ 25 ตุลาคม 54 ใช้ชื่อว่า ดีอันดามัน DEEANDAMAN HOTEL KRABI ใช้พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน ด้วยเงิน 55 ล้าน เป็นโรงแรมตัวอาคารสูง 7ชั้น สไตล์ร่วมสมัย แนวบูติคสุดคลาสสิค ผสมแนววินเทจ สวยอย่างมีสไตล์ มีห้องพักทั้งหมด 35 ห้อง ราคาเริ่มต้นที่ 1,800 – 2,300 บาท ตั้งอยู่เลขที่45/19 ถนนรัตน์ดิลก ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ หรือ www.DEEANDAMANHOTEL.COM      จุดเด่นของโรงแรมนอกเหนือจากตัวอาคาร 7 ชั้น สไตล์ร่วมสมัย แนวบูติคสุดคลาสสิค ผสมแนววินเทจ ภายในห้องพักยังตกแต่งด้วยความปราณี ผสมกลิ่นอายของทางภาคเหนือและกลิ่นอายของทางภาคใต้ได้อย่างลงตัว ชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นชั้นที่ 7 สามารถมองวิวทิวทัศน์รอบเมืองกระบี่ เป็นสถานที่นั่งดื่ม พักผ่อนยามเย็นและยามเช้า ใจกลางเมืองกระบี่ เป็นความภาคภูใจที่ได้สร้างโรงแรมจากเงินที่เรามีเพียงน้อยนิด สามารถพลิกชีวิตสร้างโรงแรมตามฝันของตัวเองได้จริงๆ      ซึ่งในโลกนี้มีโรงแรมมากมาย แต่มีเพียงโรงแรม 1 ใน 100 ที่เจ้าของโรงแรมสร้างโรงแรมด้วยปากกัดตีนถีบจริงๆ ซึ่งเป็นคนที่มาจากศูนย์ไม่มีอะไรเลย พ่อผมมีอาชีพปั่นสามล้อรับจ้าง คุณแม่อาชีพรับจ้างซักเสื้อผ้าในตัวเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี ผมเกิดมาไม่มีที่ดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว จนวันนี้ผมสร้างโรงแรมได้เสร็จเรียบร้อย โจทย์ต่อไป คือการทำอย่างไรให้โรงแรมอยู่ได้ ในเรื่องของการตลาด การบริหารจัดการซึ่งเป็นองค์กรเล็กจากความมุ่งมั่นทุ่มเท ตามล่าฝันจนประสบความสำเร็จเพียงเราสองคนเท่านั้นที่ช่วยกันสร้างช่วยกันสานฝัน ซื่อสัตว์ อดทน ขยัน มีวินัยทางการเงิน คือสิ่งที่ท่องอยู่ในใจเสมอ กับพนักงานที่ทำงานอยู่ในโรงแรมของผมคือญาติสนิทของผมไม่ใช่ลูกน้องนายสมบูรณ์กล่าวทิ้งท้าย ที่มาครับ มีวีดีโอ ด้วย http://77.nationchannel.com/video/194701/ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:09:09

ความคิดเห็นที่ 2 อีกคน นี้ก็เป็นคนแถวบ้านครับ เป็นแม่ค้าส้มต่ำ ถ้าใครเป็นคนพิษณุโลก จะรู้จักดี ส้มต่ำนิตยาแป้นวงศ์ อยู่แถวบ้านผม ผมจำได้เลยว่าผมซื้อแก่ กินตั้งแต่เป็นร้านรถเข็น มีโต๊ะให้นั่งอยู่โต๊ะเดียว ขายกันอยู่ สองคนผัวเมีย ร้านรถเข็นเล็กๆ พอขายซักปี ลูกค้าเริ่มติด เริ่มย้ายเข้าไปขายในตึก ห้องแถว 4 ชั้น 1 คูหา ฝั่งตรงกันข้าม กับที่เคยขายอยู่ ขายอีกซัก ปีสองปี ผมกลับมาบ้านตอนจบ แกย้ายไปขายอีกที ใหญ่กว่าเดิม เรียกได้ว่าผมเห็น แก่ตั้งแต่ เปิดขายวันแรก จนมาร้านใหญ่โต จนทุกวันนี้เลยครับ ดีใจกับแก่จริงๆ ผมไปกินที่ไร แก่จำผมได้ตลอดเลย บ่นตลอดว่าหายไปนานเลยนะ บอกไปเรียนมา เพิ่มกลับมาบ้าน แก่คุยเก่งดีครับ แถมเลี้ยงลูกน้องดีด้วย แก่มีลูกน้องอยู่คน ช่วยงานกันมาตั้งแต่แรกๆที่ร้านยังขายไม่ดี ตอนหลังลูกน้องคนนี้ ป่วยเป็นโรคเท่าช้าง เดินไปไหนมาไหนไม่สดวก แก่ก็ยังจ้างอยู่ ให้แค่นั่งเช็ดจานที่ล้างเสร็จแล้ว แค่นั้น ผมยังว่าแก่ซื้อใจลุกน้องได้ดีจริงๆ ตอนนี้ร้านใหญ่โต ผมก็ยังเห็นลูกน้องคนนี้ยังช่วยแก่อยู่เลย จากวันนั้น มาวันนี้ น่าจะเกือบ 10 ปีได้แล้วมังครับ ................................. เงินมีอยู่ทั่วไป ขอแค่ให้กล้าไปทำแค่นั้นเอง สำหรับเคสนี้ผม ว่าแกลงทุนแบบคอยเป็นคอยไปนะครับ ทำจากเล็กไปใหญ่ ผิดกับอีกร้าน ที่ทำจากใหญ่ โดยการซื้อตึก ตอนนี้ผ่อนไม่ไหวแล้วครับ เห็นประกาศขายตึกอยู่ ยังขายไม่ได้เลย เปิดร้านขายส้มต่ำแต่ส่งตึก เดือนๆละ 5-6 หมื่น นี้ ผมว่ามันก็ไม่น่าไหวหรอกครับ ........................... สำหรับใครที่ท้อแท้ สู้ๆนะครับ คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ ลองดูครับ จากคุณ : Miracle Boy เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 17:17:04

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณ จขกท.มากค่ะ จากคุณ : The_Hardest_Thing เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 18:39:10

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคับ...ได้แรงใจที่จะสู้ต่อไปคับ.. จากคุณ : luffy&the gang เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 21:15:02

ความคิดเห็นที่ 5 เยี่ยมครับ กระทู้อย่างนี้ ผมว่าได้เเง่คิดดีกว่ากระทู้ถาม " ห้องนี้ใครเงินเดือนเกือบเเสน หรือ หลายแสนบ้างครับ/ค่ะ  " .... จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 55 12:49:04

ความคิดเห็นที่ 6 สุดยอดครับผม จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 08:24:21

ความคิดเห็นที่ 7 คนแรกนี่สุดยอดครับ สามีเก็บเงิน 2 ปี ได้ 4-5 หมื่นบาทในสมัยนั้นซึ่งค่าแรงเดือนละ 500 โหดร้ายกับชีวิตตอนไปกู้นอกระบบมาเนี่ยแหละ ถ้าเจ๊งมานี่ ไม่ต้องสืบเลย คนต่อมา ตั้งตัวด้วยเงิน 50,000 อันนี้ก็แจ่ม ปีไล่เลี่ยกับคนแรก ผมชอบคนสุดท้าย อิอิ เพราะดูเป็นจริงเป็นจัง จับต้องได้ จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 55 14:38:00