ความคิดเห็นที่ 1 ทัศนคติ ของจขกท.น่ากลัวจังค่ะ เราว่า คนที่สอบเข้าราชการได้ ( ที่ไม่ใช่เส้น ) ถือว่าเป็นคนเก่งนะคะ เพราะต้องแข่งกับคนจำนวนมาก ความหมายของคำว่ามั่นคง อาจจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับคคห.ของ จขกท. ตัวเราเองไม่เก่ง ไม่ได้ทำงานราชการ แต่เรามองว่า งานราชการ มั่นคง คือ มีสวัสดิการถูกต้องตามกม.   เราทำแต่เอกชน เห็นว่าหลายที่ เอาเปรียบลูกจ้างเหลือเกิน อย่างที่นึง ตกลงค่าจ้าง ราคานึง  พอจะเซ็นสัญญากดซึ่งๆ หน้า, บางที่ เอาตัวเลขมาล่อว่าเป็นเงินเดือนเท่านี้ๆ  เอาเข้าจริง คือ คิดเป็นรายวัน วันหยุด ไม่จ่าย, ไม่มีประกันสังคม, บาดเจ็บจากงานออกเอง ฯลฯ ความมั่นคงอีกอย่างคือ ที่ทำงานไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ก็ปิดกิจการ   เราคิดว่า คนที่ถูกไล่ออก ต้องเลวร้ายจริงๆ  คือ ลูกจ้างเลวร้าย  หรือไม่บางกรณี ก็เจ้านายนั่นแหละที่เลวร้าย จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 19:05:03

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วตัวผมไม่ได้ทำราชการ เพราะเป็นคนอยู่ไม่นิ่ง ทำงานเรื่อยๆ แบบระบบราชการไม่ได้ แต่คำว่ามั่นคงในความหมายของผม ไม่ได้หมายถึง ไม่โดนไล่ออก แต่หมายถึง สวัสดิการที่มีให้ตัวเองและครอบครัว พอเกษียร แล้วมีเงิน บำเน็จ บำนาญ อื่นๆ  บรา บราบรา  (ไม่ใช่ราชการเลยไม่รู้รายละเอียดนัก) จากคุณ : อัญชันริมรั้ว เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 19:21:37

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าคุณคิดตื้นไปนิดนะคะ ราชการที่ไม่ใช่แบบเช้าชามเย็นชามมีเยอะ คุณอาจไม่เคยได้สัมผัส เลยเหมารวมไปหมด เปิดสอบราชการแต่ละครั้ง คนสมัครมหาศาล รับนิดเดียว คนสอบได้ก็ต้องมีความสามารถ ไม่นับเด็กเส้น ที่มีทั่วไปแทบทุกวงการ ไม่เฉพาะราชการหรอก ที่ทำงานเรา ปัจจุบันนี้รับจบโทเป็นส่วนมาก ตรีรับน้อย แต่ละคนที่สอบมาได้ก็ profile ดีๆทั้งนั้นนะ ทุนรัฐบาลก็หลายคน เปิดใจมองกว้างๆนะคะคุณเจ้าของกระทู้ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 19:34:08

ความคิดเห็นที่ 4 ถามว่าคนเข้าราชการเก่งไหม....เก่งครับ ยิ่งถ้าไม่มีเส้นแล้วเข้าได้ ยิ่งเก่ง ราชการมั่นคงกับคนทำงาน ใช่ แล้วคนทำงานมั่นคงกับราชการหรือเปล่า อยู่ไปนานๆก็เบื่อเหมือนกัน คนลาออกกันเองเยอะแยะ ถ้าถามว่าทำไมอยากเข้าราชการ ส่วนใหญ่จะบอก วันหยุดเยอะ สบาย สวัสดิการดี มั่นคง ซึ่งเป็นเรื่องความสบายของตัวเองทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครจะตอบเลยว่า อยากรับใช้ประชาชน อยากตอบแทนคุณแผ่นดิน ชอบงานบริการ จึงไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมไปตามที่สถานที่ราชการ ข้าราชการถึงทำหน้าตูด ไม่รับแขก ต่างกับเอกชน บรรยากาศจะอบอุ่นสำหรับลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการเสมอ ผมได้คุยกับวิทยากรอบรมอิสระท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า เสียดายท่านเป็นข้าราชการนานไป ท่านทำงานราชการมาหลายปี ได้แค่บ้านทาวเฮ้าส์หลังหนึ่ง ออกมาทำเป็นวิทยากรอิสระ มีทั้งบ้าน รถ ที่ดินมากมาย ท่านบอกว่าเป็นข้าราชการมานานเพราะเข้าใจสวัสดิการผิด พอว่ารู้ข้าราชการหลังเกษียณ รักษาตัวได้คนเดียว รักษาครอบครัวไม่ได้ ท่านลาออกเลย ออกมาซื้อกองทุน ซื้อประกันเอกชนเอง สบายตอนแก่เหมือนกัน จากคุณ : safetymind เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 19:36:55

ความคิดเห็นที่ 5 ทำงานราชการค่ะ ในส่วนของเรื่อง สวัสดิการอาจจะดีจริง แต่รายได้ค่อนข้างต่ำค่ะ เมื่อเทียบกับงานตำแหน่งเดียวกันในระบบเอกชน แต่อาจารย์จะสอนเสมอว่า "เราเป็นข้าของแผ่นดิน เป็นข้าของในหลวง" คนบางคนเขาก็ไม่ได้ทำงานราชการด้วยเรื่องของความมั่นคงหรอกค่ะ ส่วนเรื่องวันหยุดเยอะ ข้าราชการบางสายก็ไม่ได้หยุดงานบ่อยหรอกค่ะ ถึงอยากหยุดใจจะขาด เดือนนี้ทั้งเดือน เราได้หยุดแค่ 2 วันเองค่ะ อีกอย่าง เรารู้สึกว่าโชคดีได้เป็นข้าราชการ เพราะการทำงานของเรา เหมือนการได้ทำบุญทุกวันค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 20:28:24 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 20:26:26 จากคุณ : ผักกาดกับนกฮูก เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 20:20:47

ความคิดเห็นที่ 6 ไอ้ขี้แพ้   ไอ้ขี้แพ้  ไอ้ขี้แพ้ คำนี้ไม่ว่าจะใช้เรียกใคร มันก็ไม่สุภาพเอาซะเลย จากคุณ : ole (trufa) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 20:47:02

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเลือกได้ ก็อยากกลับไปรับราชการ อายุใกล้จะเกินแล้ว สอบได้ ก็ไม่น่าจะย้ายถิ่นฐาน เพราะตั้งรกรากอยู่กับที่แล้ว ใครอายุน้อยๆ คิดดูให้ดี เพราะบั้นปลาย สวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาลดี ถ้าเกิดป่วยมากๆ สวัสดิการตรงนี้แหละ ทำให้เบาใจเรื่องค่ารักษาไปเลย เพราะเราไม่รู้ว่า อนาคตจะป่วยเป็นโรคอะไร จากคุณ : 908auan เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:22:24

ความคิดเห็นที่ 8 เอาความคิดมาจากคุณ อืม ในกระทู้นี้ใช่ไหมคะ >> http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K12986451/K12986451.html จากคุณ : หมาฉันมันเป็นตุ๊ด เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 9 องุ่นเปรี้ยวรึเปล่าครับ มาเต็มเชียว ผมว่าเอาเข้าจริงแล้ว บริษัทเอกชนหลายๆที่เข้าง่ายกว่าราชการหลายเท่านะ ราชการนี่ตำแหน่งธรรมดาๆหมูหมากาไก่ก็ต้องมีหลักพันคนแย่งกันสอบเข้า แล้วก็เบื่อเหลือเกินกับคำว่าเงินเดือนมาจากภาษีของคุณหรือของใครๆเนี่ย มันก็ทำงานแลกค่าจ้างเหมือนกัน ต่างกันที่นายจ้างเป็นรัฐบาลกับนายจ้างเป็นเอกชน นอกนั้นข้าราชการก็เสียภาษีเหมือนกันแหละครับ แหม่ จากคุณ : invisibleoff เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:41:03

ความคิดเห็นที่ 10 ผมทำงานราชการเพราะเป็นงานที่มีเกียรติครับ สวัสดิการ และเงินบำนาญ ก็เป็นสิ่งสำคัญลำดับรองลงมา อาชีพหมออย่างผมและเพื่อนๆไม่มีทางตกงานอยู่แล้ว งานเอกชนเมกมันนี่มีให้ทำเยอะแยะ เป็นลูกจ้างเขาเดือนนึงเมกได้หกหลักแน่ๆ ถ้าเปิดเองรายได้ครึ่งล้านต่อเดือนมีให้เห็น แต่ผมและเพื่อนๆหลายคนเลือกรับราชการดีกว่า ได้ช่วยเหลือคนไข้ยากจนที่ไม่มีเงินค่ารักษา ได้บุญดีด้วยครับ ไม่อยากถูกตราว่าเป็นแพทย์พาณิชย์ มันดูหน้าเงินยังไงไม่รู้ จริงอยู่ที่ว่า เงินสำคัญ แต่ไม่ใช่ที่สุดครับ ทำอะไรที่ทำแล้วสบายใจไม่เดือดร้อนใคร ก็ทำครับ รับราชการก็เป็นอาชีพสุจริตครับ เคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า สิบพ่อค้า ไม่เท่าพระยาเลี้ยง ไหมครับ สุดท้าย ทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดีทั้งนั้น อย่าเหมารวมครับ ทัศนคติแบบ จขกท ไม่ไหวครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 21:52:06 จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 21:48:22

ความคิดเห็นที่ 11 เราเป็นลูกข้าราชการ ภูมิใจที่พ่อทำงานราชการ ก็ไม่เคยเห็นพ่อทำงานสบายนะคะ วันหยุด(ที่สำคัญ วันพ่อ วันแม่ ....)ก็ไม่ได้หยุดต้องทำพิธี วันไหนข้าราชการผู้ใหญ่มาจังหวัดก็ต้องไปต้อนรับ ไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้โอที ข้าราชการก็คนทำงานทั่วไป มีทั้งดี ไม่ดี อย่าเหมารวมค่ะ และเราทำงานเอกชน ก็ไม่เคยคิดว่าต้องถูกไล่ออกค่ะ จากคุณ : larku_jay เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 22:21:04

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นมาหลายกระทู้แล้ว เกรียนได้ใจจริงๆ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 22:42:12

ความคิดเห็นที่ 13 คุณพ่อของผมทำงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนคุณแม่ของผมรับราชการครับ เงินเดือนของคุณพ่อผมถือว่าค่อนข้างเยอะนะครับแต่คงเทียบเอกชนไม่ได้อีก 5 ปีจะเกษียณแล้วตอนนี้ท่านเงินเดือนประมาณ 109,000 บาทกว่าๆ ส่วนคุณแม่ผมรับราชการครับ ท่านตัดสินใจลาออกเองเนื่องจากปัญหาเพื่อนร่วมงาน เจ้านายไม่ดี เพื่อนร่วมงานไม่ยอมทำงาน เจ้านายทำงานไม่เป็น คุมลูกน้องไม่อยู่ เจ้านายยืมเงินแม่ประจำ แล้วยังยืมเงินลูกน้องคนอื่นด้วย ผมเคยเห็นบรรยากาศทำงานที่นี่ด้วยครับ สมัยอยู่ ม.ปลาย สำหรับที่นี่มันเช้าชามเย็นชามอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ คุณแม่ผมลาออกเมื่อปีที่แล้วอายุ 52 เงินเดือนครั้งสุดท้ายประมาณ 33,000 บาท ถือว่าน้อยมากครับถ้าเทียบอายุเท่านี้ถ้าทำงานเอกชน แต่ท่านได้บำนาญเดือนละ 24,000 บาท หลังจากลาออกครับ ยังมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่ หลังจากที่ท่านลาออกมา ที่ทำงานแม่เรียกได้ว่าล่มจมเลยครับ เพราะตอนที่แม่อยู่แม่ทำงานคนเดียวจริงๆ ลาออกแล้วคนที่ทำงานยังโทรศัพท์มาถามเรื่องงานไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งๆ ที่แม่ได้ส่งมอบงานให้แล้ว หัวหน้าก็ไม่ทำอะไร วันๆ ก็พาก๊วนไปขูดรีดไถเงินจากผู้ประกอบการ ขอย้อนไปหน่อยนะครับ คือก่อนที่คุณแม่จะลาออกประมาณซักเกือบ 1 ปี ตอนนั้นหัวหน้าฝ่ายของคุณแม่ถูกย้ายไปที่อื่นหรือลาออกผมไม่แน่ใจ แต่ตำแหน่งว่างต้องหาคนมาลง แล้วมีผู้ใหญ่เสนอให้แม่ผมขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่าย แต่ก็แพ้อำนาจเงินของคนอื่นที่มาซื้อตำแหน่งนี้ไปครับ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเจ้านายแม่คนใหม่ถึงทำงานไม่เป็น แต่งานรัฐวิสาหกิจของคุณพ่อต่างกันราวฟ้ากับเหว แม้ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจแต่การทำงานก็เหมือนกับเอกชนเลยครับ แต่ก็ดีกว่าเอกชนมากเช่นกันในเรื่องอื่นๆ คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็อยากให้รับราชการหรือทำงานรัฐวิสาหกิจครับ แต่ก็อย่าให้ไปทำองค์กรคุณแม่ ตอนแรกผมก็คัดค้านนะครับ จนผมสอบผ่านข้อเขียน + สัมภาษณ์ ของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งได้ ได้ทำงานใกล้บ้านอยู่ชานเมือง รถไม่ติด (คนละที่กับคุณพ่อ) ตอนอายุ 22 (ความสามารถล้วนๆ ครับ) ท่านก็บอกว่า "ราชการหรือรัฐวิสาหกิจมีคนอยากเข้าเยอะเห็นไหมสอมครั้งละเป็นพันเป็นหมื่น คนเข้าได้นี่ถือว่าเก่งมาก แล้วยิ่งไม่ได้ใช้เส้นด้วย" ผมก็เลยลองเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ครับ สำหรับผมไม่ค่อยซีเรียสมากครับเพราะว่าเป้าหมายของผมอยากทำธุรกิจ ที่ทำมาตั้งแต่อายุ 17 ใช่พนักงานรัฐวิสาหกิจ ทำให้ผมมีเวลาดูแลธุรกิจซึ่งปกติไม่ต้องดูอะไรมาก ที่ทำงานก็อยู่ใกล้บ้านมากไม่ต้องตื่นเช้ามาก รถไม่ติด ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที อันนี้เป็นมุมมองและประสบการณ์จากครอบครัวผมครับ รับราชการหรือรัฐวิสาหกิจก็รวยได้ครับถ้ารู้จักการบริหารจัดการเงินและการลงทุน แล้วก็ถือว่าได้ทำงานเพื่อประเทศชาติด้วยครับ คนที่ทำงานราชการหลายๆ ท่านก็เก่งกว่าหรือพอๆ กับคนที่ทำงานเอกชนนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 55 22:50:28 จากคุณ : อาคารกระดาษ (อาคารกระดาษ) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 22:43:19

ความคิดเห็นที่ 14 เอาอาชีพแต่ละอาชีพมาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ ความชอบ ความเชื่อ ความต้องกาีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จากคุณ : Sauce เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 22:44:46

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท สามาารถได้ครึ่งของคนที่สอบเข้าราชการโดยไม่ใช้เส้นบ้างไหมล่ะ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 23:07:05

ความคิดเห็นที่ 16 เอกชนบางที่เงินเดือนมาก ข้าราชการเงินเดือนน้อย เอกชนงานหนัก ข้าราชการงานเบา จริงๆมันก็แค่คำพูดรวมๆ คุณไปเหมาไม่ได้ ผมรู้จักเอกชนหลายที่ที่เงินเดือนน้อยกว่าข้าราชการ(ข้าราชการ 15000 แล้วนะครับ ต่างจว.นี่ ไม่มีเอกชนใหนสู้ ตอนนี้ตัวท็อปๆต่างจว.แข่งสอบราชการหมด) และผมรู้จักหน่วยงานราชการหลายที่ ที่งานยุ่งกว่าเอกชน ที่เป็นเช่นนี้เพราะทั้งสององค์กรมันกว้าง ข้าราชการมีตั้งแต่ หมอ นักบิน ครู ทหาร เอกชนเช่นกันมีตั้งแต่ผู้บริหารยันกรรมกร มันอยู่ที่คุณไปเจออะไรใครที่ใหน ระดับใหน การเหมารวมมันไม่ถูกอยู่แล้ว ข้าราชการระดับปฎิบัติการที่ทำงานผม จบโทนอกกัน 50% มหาลัยดังๆ ทั้งนั้น แต่บางที่ก็ระดับ ปวช. ปวส. เกือบหมด มันขึ้นอยู่ว่าภารกิจของแต่ละหน่วยคืออะไร ความก้าวหน้าก็ไม่เหมือนกัน ความสบายก็ต่างกัน มันเทียบกันยากครับ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 23:37:18

ความคิดเห็นที่ 17 ให้ผมเข้าไปทำแทนไหมครับ กำลังต้องการทำมากครับ จากคุณ : own_kcw เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 04:50:12

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าพูดกลับกัน ย้อน จขกท.นะครับ คนที่ทำงานเอกชน ไม่ได้มาสอบราชการ กลัวสอบไม่ได้เหรอครับ หรืออ่อนเอง หรือไม่กล้า ครับ แน่จริงก็สอบและบรรจุให้ได้ครับ แล้วค่อยลาออกหลังจากบรรจุสัก 1 เดือน จะเท่มากครับ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 08:10:27

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นทัศนคติ ของคนเสื้อแดง ครับ แบบนี้ กลับไปราชดำเนิน ถิ่นของผู้ชนะของคุณเถอะครับ ตรรกคับแคบแบบนี้ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 09:08:50

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ หมอ อย่าเอาการเมืองมาปนดีกว่า ผมว่าหมอนะแหละควรกลับไป ห้องราช ถิ่นเดิมของหมอ จากคุณ : สายน้ำ...ไม่ไหลกลับ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 09:35:03 A:101.78.12.52 X: TicketID:365179

ความคิดเห็นที่ 21 งานมั่นคงไม่ได้หมายถึงโดนไล่ออกนะ จขกท. แต่หมายถึงตัวบริษัทที่จะไม่ปิดตัวเองลง และทำให้ตัวเองโดนลอยแพ ไหนจะเรื่องการกู้ยืม ต่างๆนานา สวัสดิการราชการเปิดกว้างกว่าบริษัทเอกชนอีก จากคุณ : jubjibja เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:15:42

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ด่ากันไป มันมีดีมีเลวทุกวงการแหล่ะครับ แต่ไอ้ที่ไม่ดีๆ คนชอบจำกัน ข้าราชการที่สบายน่ะ พวกระดับสูงทั้งนั้น และมีไม่เยอะ ก็สุดแท้แต่จะด่าตามปมในใจของแต่ละคนครับ จากคุณ : BKforever บีเค ฟอร์เอฟเวอร์ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 11:37:18

ความคิดเห็นที่ 23 กรุณาอย่ามาดูถูกงานข้าราชการนะคะ ข้าราชการหมายถึง ผู้ที่นำงานของ "ราชา" มาปฏิบัติให้บรรลุผล ข้าราชการที่มีความสามารถก็มีอยู่ถมเถไป เช่น นายปราโมทย์  ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน  นายพลากร  สุวรรณรัฐ,   หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล เป็นต้น ดิฉันเป็นข้าราชการ คนนึง กว่าจะสอบได้ ผ่านสนามสอบมา 5 สนาม และไม่ใช้เส้นด้วย ไม่ได้คิดแค่เรื่องความมั่นคงในชีวิต  ความสบาย  แต่ดิฉันรู้สึกพอใจและภูมิใจที่ได้รับใช้ประชาชน และรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จขกท. อย่าคิดชั่วๆและใจแคบแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมกับข้าราชการที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  ถ้างานราชการไม่ดีจริง  ไม่งั้นคงไม่มีคนมาแห่สมัครสอบกันเป็นหมื่นๆ แสนๆ อ่านหนังสือกันเป็นเดือนๆ  ดิฉันคิดว่า จขกท. นั่นแหละ คนขี้แพ้ตัวจริง จากคุณ : meiohhades เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 13:08:55

ความคิดเห็นที่ 24 ประเทศจีนคนสมัคร 1.5 ล้านคน รับแค่ 20,000 ตำแหน่ง สูงมากเป็นสถิติ  http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=vinitsiri&month=27-11-2012&group=210&gblog=180 ผมว่าอัตราการแข่งขันก็สูสีกับไทยเลยนะ เผลอๆไทยอาจสูงกว่าหน่อย เพราะต้องแข่งขันกับเด็กเส้นด้วย ใครที่เข้าได้โดยไม่ใช้เส้นในปัจจุบันนี้นะ ผมว่าเทพเลยอ่ะ เทรนด์ด้านนี้จะสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะธุรกิจทุกวันนี้แข่งขันกันสูงมาก ไหนจะเปิด AEC อีก NOKIA เคยยิ่งใหญ่มาก ดูปัจจุบันสิ จะโดนเทคเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ Layoff ไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ แล้วใครจะไปรู้วันนึง เจ้าตลากรถยนตร์ในไทยอาจจะเป็นฮุนไดก็เป็นไปได้ แต่อะไรที่เป็นของรัฐล้มยากครับ ดูอย่างการบินไทย เคยจะล้มกี่รอบ แต่รัฐก็เข้ามาอุ้ม ผมว่า จขกท.ลองสอบเข้าให้ได้ก่อนแล้ว แล้ววันมอบตัวไม่ต้องไปมอบตัวก้ได้ครับ อย่างนี้สิเท่จริง ไม่ต้องกลัวใครว่าองุ่นเปรี้ยวด้วย อุอุ จากคุณ : treser[*_-] เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 14:36:40

ความคิดเห็นที่ 25 พ่อกับแม่ของเรารับราชการครูทั้งคู่ เราว่างานราชการเป็นงานที่มีเกียรติมากนะคะ กว่าจะได้มายืนอยู่จุดๆ นี้ได้ ต้องสอบแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งกับคนกี่ร้อยกี่พันคนที่ไม่ใช้เส้นสายใดๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ แม่ของเราทำงานจนวันสุดท้ายของลมหายใจ มองถึงอนาคตของเด็กๆ มากกว่าตัวเองเสียด้วยซำ้้ เปลี่ยนทัศนคติใหม่นะคะ คุณ จขกท. จากคุณ : Nam_O'le เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 15:37:28

ความคิดเห็นที่ 26 นิทานอีสป องุ่นเปรี้ยว สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งกำลังหิวโซมันเริ่มออกหากิน ทันใดนั้นมันเห็นกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งเข้าไปในป่า มันจึงวิ่งตามไปเจ้ากระต่ายวิ่งหนีเข้าโพรงไม้เล็ก ๆ สุนัขจิ้งจอกไม่สามารถจับได้ มันก็เดินเข้าไปในผืนนาแห่งหนึ่งซึ่งมีแม่ไก่และลูกไก่หลายตัว ก่อนที่มันจะไปจับลูกไก่กิน ชาวนาเห็นก็ไล่สุนัขจิ้งจอกออกจากผืนนา สุนัขจิ้งจอกวิ่งเข้าสวนองุ่นที่มีสีม่วงมากมาย มันน่ากินมาก สุนัขจิ้งจอกพยายามจะเด็ดแต่มันสูง มาก มันพยายามอยู่นานแต่ก็เด็ดไม่ถึง มันรู้สึกผิดหวังมาก มันเริ่มเหนื่อยและได้แต่มองพวงองุ่นตาละห้อยและเห่าใส่ผลองุ่นแล้วพูดขึ้นว่า “มันต้องเป็นองุ่นที่เปรี้ยวแน่ ฉันไม่เห็นอยากกินเลย” แล้วมันก็เดินจากไป นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สิ่งใดที่หมายมั่น แต่พลันฝันสลาย ก็อย่าไปกล่าวร้าย เช่นนิสัยคนพาล จากคุณ : kidsaren เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 15:57:56 A:49.48.94.118 X: TicketID:359770

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็รับราชการ (กทม.) ได้ปีจะครบสองปีแล้ว (ธุรการปฏิบัติงาน) สอบแทบตาย ท้องถิ่น 7 สนาม กองทัพไทย 1 ครั้ง สอบ กทม.ครั้งแรกปี 54 ติดเลย เหนื่อย ยาก กว่าจะสอบได้ แต่ก็คุ้ม เชื่อไม๊ บางคนด่าๆว่าๆ ราชการโน้นมั่ง นี้มั่ง แต่พอ กพ. ไม่ก็ อปท. เปิดสอบ ดันไปกับเค้าซะงั้น ขรก.ไม่ได้กินเงินหลวงฟรีๆ เพราะต้องทำงานแลกเงินเหมือนเอกชนเหมือนกัน ไม่ได้มีบุญคุณกับใครทั้งนั้น สรุป ราชการทำให้ชีวิตผมดีขึ้นอย่างทันตาเห็น กลับบ้านไปก็มีแต่คนอิจฉา (ภาษาอิสานเรียก เป็นตาสะออนแท๊ะ) คิดแล้วก็อยากใส่เครื่องแบบกลับบ้านสักที จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 17:02:42

ความคิดเห็นที่ 28 กรณีพวกรับราชการเพื่อใช้ทุน เช่น พวกเด็กทุน ถ้าได้ไปเรียนต่างประเทศหลายปีหน่อย ระหว่างเรียนก็เก็บเงิน ทั้งจากทุนที่ได้รับ และการทำงานพิเศษ เช่น เป็นอาจารย์, ล่าม, สอนภาษา ฯลฯ เห็นจบกลับมา เก็บเงินได้หลักแสน ( หลักล้าน ก็เห็นมาแล้ว ) มาดาวน์คอนโด  ซื้อรถยนต์ ฯลฯ กันได้ทั้งนั้นน่ะ ถ้าประหยัด พวกนี้จะไม่ค่อยคิดว่า ชีวิตตัวเองรันทดสักเท่าไร เงินเดือนไม่แคร์ เพราะมีเงินอยู่บ้าง จากการเก็บเงินที่ ตปท.แล้ว งานเอกชน เป้าหมายสูงสุดคือ ทำให้คนกลุ่มหนึ่งร่ำรวย ( เจ้าของบริษัท และคนที่นามสกุลเดียวกับเจ้าของบริษัท ) เช่น เภสัชกร รู้ว่าอาหารเสริมเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็ต้องขายอาหารเสริมให้ได้ ...... แต่ถ้ารับราชการ เช่น เป็นเภสัชกร ใน รพ.รัฐ  มันจะเป็นการเอางบประมาณส่วนรวม มากระจาย ให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านและสังคมนะ จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 17:18:18

ความคิดเห็นที่ 29 สั้นๆ " ไม่จำเป็น ต้องไปคิดแทนคนอื่น " ปล. เข้าใจว่า จขกท ยังเป็นนักศึกษา แล้วก็ " จินตนาการชีวิต " มองชีวิตของคนอื่น  ว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้  ชอบตั้งคำถามแบบนี้บ่อยๆ  ซึ่งจริงๆมันสรุปอะไรไม่ได้หรอก ต้องลองเรียนจบ หางานทำ หาเงินเอง แล้วจะเข้าใจคำตอบของชีวิตนะ ถ้า จขกท ยังต้องขอเงินพ่อแม่ ยังหาเงินเองไม่ได้ ยังไม่ได้ลองหางาน  หาเงิน  ไม่มีคุณสมบัติเรียกคนอื่นว่า ขี้แพ้ นะเออ.... จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 17:27:13

ความคิดเห็นที่ 30 ที่ตอบไปคคห.แรก คือแค่ความมั่นคง ที่จขกท.พูดถึง ถ้าจะพูดถึงเรื่องการบริการ  เราว่าไม่ได้แยกกันระหว่างข้าราชการ หรือเอกชน แต่มันเป็นนิสัยเบื้องลึกของแต่ละบุคคลมากกว่า ข้าราชการ ที่ให้บริการดีๆ ช่วยเหลือคนอื่น เราเจอก็เยอะนะคะ ส่วนเอกชนบางคนก็จวักไม่แพ้กัน   คนนิสัยแบบนี้ ให้สอน ให้บังคับ แค่ไหน คงไปสอนสามัญสำนึก, มโนคติไม่ได้   อีกไม่นานก็จวักเหมือนเดิม เพราะความคิดไม่เคยเปลี่ยน จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 01:36:55

ความคิดเห็นที่ 31 เด็กรุ่นใหม่ดูถูกข้าราชการกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ น่าตกใจจังเลย หนูๆ รู้มั๊ยว่ากว่าจะสอบเข้ารับราชการได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต่อให้เป็นลูกคนมีเส้นก็เถอะ เพราะหนูต้องผ่านภาค ก ของสำนักงานกพ.ให้ได้ 60%เสียก่อน ถึงจะผ่านเข้าไปสอบภาค ข และ ค ตามระดับ และขอยืนยันว่าก็สอบภาค ก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย สอบเพื่อเอาชนะตัวเองไม่ใช่ว่าแข่งกับคนอื่น ส่วนใหญ่สอบกันครั้งละเป็นหมื่นๆ แต่ก็ตกกันเป็นหมื่น       พี่เขยป้าก่อนเกษียณ ทำงานรัฐวิสาหกิจความรู้น้อย ก่อนเกษียณเงินเดือน 7 หมื่นกว่าๆ เกษียณมากับเงินเก็บที่มีอยู่ 8 หลักภูมิใจมาก แต่ทุกวันนี้เป็นมะเร็งเหลือเงิน 7หลักต้นๆ ถ้าเค้ารับราชการค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องเสีย อะไรจะดีกว่ากัน       ข้าราชการสบายตอนแก่ค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วค่ะ ระบบเช้าชามเย็นชามหมดสมัยมานานแล้ว พูดกันไปเองทั้งนั้น ป้ารับราชการมา 20 กว่าปีแล้ว ยังไม่รู้จักเลยว่างานที่กระทรวง ทบวงไหนสบายบ้าง ช่วยบอกหน่อยเถอะ จากคุณ : เอ๋ (เอ๋ กจ.) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 10:59:04

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าไม่ใช่นะ มันขึ้นกับความชอบของแต่ละคนนะครับ ลางเนื้อชอบลางยา จากคุณ : Kazai เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 55 21:02:58