ความคิดเห็นที่ 1 จับย้ายไปทำงานที่ไม่สำคัญ เงินเดือนต่ำๆ... ถ้าไม่ไป.. ก็บอกว่าให้เวลา 3 เดือนในการไปหางานใหม่... จากคุณ : S.S. - [ 1 ก.ย. 46 08:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออนุญาตออกความเห็นนิดนะครับ ลองพักเรื่องการคิดในการให้ออก  เป็นลองเข้าไปหาเขาก่อนดีมั้ยพี่  ลองหาสาเหตุว่าทำไมเขาถึงได้เป็นอย่างที่พี่ว่า  ดูก่อน  บางครั้งคนเราไม่จำเป็นต้องตัดสินใจรุนแรงไปทุกเรื่องหรอกครับ  ตัดปัญหาผมว่าง่ายนะ แก้ปัญหาซิน่าทำมากกว่า น้องๆ บางคนทำไปเพราะแรงขับภายใต้ภาวะการณ์ความคับข้องใจหรือเปล่า  มีแรงเค้นอะไรหรือเปล่า บางครั้งการที่บอกว่าเขาถูกไล่ออกจากที่เก่า  มันก็ยังไม่ได้หมายความว่าเราต้องไล่เขาออกเหมือนที่เก่าด้วยนี่ครับ เรียกคุยดูซิครับ  แบบ 1 By 1   เราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว  เขาก็น่าจะเป็นผู้ใหญ่ด้วย  รับเขาเข้ามาแล้วน่าาา  ตัดบทกันง่าย ๆ อย่างนี้ เสียลาย หมดนะพี่ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 46 13:25:25 จากคุณ : ยอดกระบี่ซิลลี่ - [ 1 ก.ย. 46 13:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล วิธีเดียว คือไล่ออก หรือปลดออกแบบไร้เหตุผล พอดี ผมมันชอบแบบถึงลูกถึงคน เลยใช้วิธีนี้ได้ แต่ถ้าคุณขี้เกรงใจ หรือกลัวพนักงาน คงต้องใช้ระดับหัวหน้าหรือผู้จัดการ ไล่ออกทางอ้อม หากคุณไม่กล้า หรือเกรงใจ นอกจากงานของคุณจะไม่เดินหน้าแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ ระบบงานของคุณจะเสียทั้งระบบ และในที่สุด ก้ไปไม่รอด ต้องปิดตัวเอง พร้อมหนี้สินอีกบาน การปกครองคน คุณต้องให้ผลประโยชน์กับพวกเขาสูงสุด ใครทำดีก็ย่อมได้ดี ใครไม่ทำ ก็ไม่ต้องเลี้ยงเอาไว้ อย่าเกรงใจนะครับ จากคุณ : อนัตตา (godjiwa) - [ 1 ก.ย. 46 13:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเรียกมาคุยแล้วค่ะ 1 : 1 เลย ปิดห้องคุยกัน ถามเหตุผลทำไมถึงทำงานผิดพลาด ก็อ้างโน่นอ้างนี่ว่าไม่เข้าใจ เลยถามว่า ไม่เข้าใจทำไมไม่ถาม ก็บอกว่า งานเยอะเลยลืม แล้วก็ถามว่า แล้วที่เอาแต่ชวนผู้อื่นคุยกันจนเสียงานเสียการ ทำไมถึงมีเวลา แล้วที่เดี๋ยวเปลี่ยนแผ่นซีดี เดี๋ยวก็เดินไปโต๊ะโน้นโต๊ะนี้ เพื่อคุยโดยไม่สนใจผู้บังคับบัญชา ทำไมถึงมีเวลา ก็เงี่ยบ แล้วก็ย้อนว่า ทำงานก็ต้องมีเหนื่อย ก็ต้องคลายเครียดบ้าง ก็เลยถามต่อว่า คลายเครียดทั้งวันเลยนี่น่ะเหรอ หลังจากนั้น ก็ย้ายมาตำแหน่งที่ไม่ค่อยสำคัญ กลับหนักกว่าเก่า คราวนี้ชุดฟอร์มพนักงานก็ไม่แต่งเลย เรียกมาคุยอีก กลับโดนต่อว่า ว่าเอาเขามาทำงานที่ไม่ถนัด เสียความรู้สึกมากเลยรู้หรือเปล่า ป่อย..ย..ย ฟังแล้วเลือดขึ้นหน้า จะเรียกมาตักเตือนกลับโดนต่อว่าอีก เอาเข้าไป เลยตักเตือนเรื่องแต่งชุดฟอร์มและการคุยกันจนเสียงานเสียการ ได้คำตอบเดิม ๆ ก็มันเครียดนี่ จะให้ทำยังไง เดือนก่อนรับลูกน้องมาคนหนึ่ง เขาก็เข้าไปพูดเรื่องว่า งานเยอะนะ ทำไม่ค่อยจะไหว เงินเดือนน้อย (ลูกน้องอีกคนมาบอก) ไปทำที่อื่นเถอะ ปรากฎว่า วันนี้พนักงานใหม่ไม่มาซะแล้ว ได้รับใบลาออกวางไว้ที่โต๊ะ เป็นอย่างนี้ 2 คนแล้ว รับมาก็ออก ๆ จะไล่คนออกนี่ยากจริง ๆ เลยนะคะ ทำใจไล่คนไม่ค่อยจะได้ แต่ขืนเก็บเอาไว้ ธุรกิจคงเสียหายมากกว่านี้แน่นอน ที่คุณยอดกระบี่ซิลลี่ว่าไว้ จริง ๆ ก็พยายามอยู่นะคะ เพราะถือว่า การที่ลูกน้องอยู่กับเรา เราก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ถือว่ามีบุญที่ได้มาร่วมงานกัน ถึงไม่เคยไล่ใครออกเลยไงคะ และที่ผ่านมาก็ถือว่ามีบุญพอควรที่ไม่เจอลูกน้องไม่ดีเลย มาเจอก็ครั้งนี้แหละ กำลังกลุ้มใจมาก และไม่อยากมีลายอะไรอีกแล้วค่ะ จากคุณ : ท้อใจ - [ 1 ก.ย. 46 13:23:39 A:202.133.161.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอากฏระเบียบบริษัทฯ มากางเลยครับ แล้วบอกให้เค้าปฏิบัติตาม ถ้าหากทำไม่ได้ ทำเป็นจดหมายให้เค้าเซ็นรับทราบว่าเค้าทำผิดอะไรไปบ้าง ถ้าหากไม่เซ็นก็บอกเค้าไปเลยว่าให้เค้าพิจารณาตัวเองทันที เพราะปรกติ บริษัทหรือกิจการใด ๆ จะมีการออกจดหมายเตือนเรื่องความประพฤติ หรือ การทำผิดกฏให้กับพนักงานนั้น ๆ อยู่แล้วนะครับ เข้าใจว่า กฏหมายแรงงานก็มีบอกไว้อย่างชัดเจน ลองศึกษาดูละกันนะครับ จากคุณ : ต่างดาว (ต่างดาว) - [ 1 ก.ย. 46 13:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราคิดว่า ควรมอบหมายงานให้ทำตามหน้าที่และความสามารถที่ควรจะเป็น และตั้งเป้าวัดผลงานตอนปลายปีหรือในแต่ละ quarter. ระหว่างใน quatrter และหรือในแต่ละช่วงเวลาในแต่ละปีควรจะมีการเรียกมาตักเตือนถ้าทำงานบกพร่อง. ครั้งแรกตักเตือนด้วยวาจา ครั้งต่อไป (ถ้าทำผิดเรื่องเดิมๆอีก) ควรจะมีหนังสือตักเตือนและให้เซ็นรับรู้ด้วย. ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเอาอยู่ให้มีหัวหน้าหรือบุคคลที่สามอยู่ด้วยในระหว่างการว่ากล่าวตักเตือนนั้นๆ. ถ้าการตักเตือนและการลงโทษมีระบบและแบบแผน ปัญหาคงลดน้อยเรื่อย. บันทึกช่วยจำบางครั้งจะช่วยเราได้มาก. ใช้จดปัญหาที่เกิดขึ้น วันเวลา ความเสียหายและผลกระทบอื่นๆที่มี ให้เขาเซ็นรับทราบและถ่ายเอกสารให้เขาด้วย 1 ชุด. ลองทำดูครับ. จากคุณ : A - [ 1 ก.ย. 46 14:37:53 A:203.113.32.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเป็นเราคงไล่ออกไปนานแล้ว ทนไม่ได้หรอกกิจการเป็นของเรา มีปลาทูเน่าก็ต้องเอาออก ขืนเกรงใจก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง แต่ก็มีขั้นตอนพอไม่ให้เขาอาฆาตแค้นและมาฟ้องร้องเอาเงินก็คือเรียกมาคุยกันว่าเขามีข้อดีอย่างนี้ๆ แต่..... แล้วก็ขอร้องให้ปรับปรุงตัว ควรต้องทำด้วยความละมุนละม่อมให้พนักงานคนอื่นเข้าใจ ถ้าเห็นท่าทางพนักงานคนอื่นจะไม่พอใจก็ควรเรียกมาคุยให้เข้าใจ คิดว่าระหว่างนายจ้างกับเพื่อนร่วมงาน นายจ้างย่อมจะมีแรงโน้มน้าวใจมากกว่านะ ถ้าไม่ดีขึ้นก็ทำจดหมายตักเตือน รู้สึกว่า (คือเคยอ่านเจอกระทู้อื่นว่า) ถ้าตักเตือนครบ 3 ครั้ง ก็มีสิทธ์ไล่ออกได้โดยลูกจ้างไม่มีสิทธ์มาเรียกร้องใดๆ (ลองถามกรมแรงงานดูเพื่อความชัวร์) จากคุณ : สู้ๆ - [ 1 ก.ย. 46 16:33:08 A:203.144.204.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไล่ออกดื้อๆ ไม่ได้นะครับ ต้องทำให้ถูกกฎหมาย จ่ายชดเชยให้ถูกต้อง ด้วย แล้วเขาจะไม่มีสิทธิมาเรียกร้องอะไร จากคุณอีก แต่ถ้าจะไล่ออกแบบไม่จ่ายอะไรเลย ต้อง วางแผนลึกกว่านี้สักหน่อย ศึกษากฎหมายแรงงานให้ดีครับ จากคุณ : Knight - [ 1 ก.ย. 46 18:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่อยากแนะนำ แต่หากว่าเขาใช้ไม่ได้เลย และไม่สมควรจะจ่ายค่าชดเชยอะไรให้ จะลองใช้วิธีนี้ดูบ้างก็ได้ จัดโตะหนึ่งชุดในห้องทำงานของคุณ ให้เขาเข้ามาทำงานกับคุณตลอดเวลา จะไปไหนต้องขออนุญาต ถ้าเห็นว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องอนุญาต ให้ไปเฉพาะเข้าห้องน้ำก็พอ ให้หนังสือพิมพ์เก่าจำนวนมาก ให้เขาตัดข่าวที่เกี่ยวกับข่าวธุรกิจหรืออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ ให้เขานำไปแปะลงในกระดาษ A4 ทำเป็นรายงานเสนอคุณทุกเช้า ทำแบบนี้ทุกวัน คุณไม่ต้องสนใจอะไรให้ทำเหมือนไม่มีเขาอยู่ในที่ทำงานคุณ ไม่เกินสัปดาห์หรือสองสัปดาห์เขาก็ขอลาออกไปเอง เท่าที่ผมเคยเห็นไม่มีใครทนได้สักคน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะทนได้ไหม แค่นั้นแหละ หากอึดอัดก็หาคนเขามานั่งคุยหรือปรึกษาเรื่องงานบ่อยๆ ในห้องของคุณจะได้รู้สึกไม่อึดอัด คนที่ดีที่สุดก็ควรเป็นแฟนของคุณ หากกลัวว่าจะทำให้คนอื่นขวัญเสียไปด้วย ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจและบอกปัญหาที่เกิดขึ้นให้เขาเหล่านั้นได้รับรู้ด้วย วิธีที่ดีก็เรียกใครบางคนมานั่งปรับทุกข์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเดี๋ยวข่าวก็กระจายไปเองแต่คุณต้องคุมให้อยู่เดี๋ยวข่าวจะผิด ถามว่าผิดกฎหมายคุ้มครองแรงงานไหม ตอบว่าไม่ผิดตราบใดที่คุณยังไม่ลดค่าจ้างและตำแหน่งของเขา จากคุณ : Stereophony - [ 2 ก.ย. 46 09:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ให้คิดง่าย ๆ ครับ เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด คนแบบนี้ต้อง ให้ออก สถานเดียว ส่วนสิ่งที่ต้องคิดต่อคือ จะให้ออกแบบดี ๆ หรือ เสีย ๆ ดี ๆ คือคุยกันเลย พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานนะ แล้วนี่เงินเดือนล่วงหน้า อีก 2 เดือน เสีย ๆ คือ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ ส่วนค่าชดเชย ในฐานะที่คุณไม่สามารถทำงานได้ตามที่บริษัทคาดหวังไว้ ทางบริษัทคงต้องริบเงินค่าชดเชยไว้ ถ้าต้องการจริง ๆ ขอให้ไปฟ้องร้องเอา ละกัน แค่นี้แหล่ะครับ อย่าห่วงหรือกังวลเรื่องอื่น ถ้า สิ่งนั้น มันจะกระทบทำให้ระบบโดยรวมไปทั้งหมด เพราะถ้าคุณไม่สั่งการวันนี้ บริษัท ตัวคุณ ลูกน้องทั้งหมด คงต้องกินแกลบ เพราะสงสาร คนคนเดียว ...... วาระนี้ ต้องใส่หมวกของเจ้านาย ต้องใช้คำว่า เด็ดขาด ครับ หลังจากนั้นค่อยใส่หมวกของลูกพี่ ให้กำลังใจลูกน้องที่เหลือ ให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง จากคุณ : FishLover - [ 2 ก.ย. 46 17:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หากฟังๆ ดูการไล่ออกประหนึ่งเป็นการทำผิด ทำบาป แต่หากมองดีๆ นะครับ ธุรกิจไม่ใช่มูลนิธิที่ต้องคอยอุ้มชูคนที่ไม่สร้างสรรค์ เพราะเท่าที่ลองอ่านๆดูแล้ว ไม่ใช่ประเด็นที่เค้าไม่มีขีดความสามารถในการทำงาน ที่พอจะพยุงช่วยเหลือให้ไปอบรม เรียนรู้หาประสบการณ์มาเพิ่มเติมให้กับการทำงานได้ น้องผู้โชคร้ายท่านนั้นกลับมีทัศนคติที่เป็นลบต่อการทำงาน และยังได้กระจายแนวคิดอันเป็นผลร้ายต่อธุรกิจไปยังคนอื่นๆในออฟฟิตด้วย ถ้าจะไล่ออกตามกฎหมายแรงงานแล้ว หากพ้นช่วงทดลองงานเกิน 4 เดือนขึ้นไป จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมายครับ ซึ่งเมื่อมีกรณีพิพาทระหว่างผู้ประกอบการกับแรงงานผู้เสียหายแล้ว ศาลมักจะพิจารณาให้แรงงานเป็นฝ่ายชนะซะเป็นส่วสนใหญ่น่ะครับ ทั้งนี้น้องคนนั้นอาจจะรู้หลักการนี้จึงอาจจะอยากให้ทางบริษัทไล่ออกก็ได้ ทำงานที่ใหม่ๆ ไม่นาน รอให้เค้าไล่ออกแล้วมาฟ้อง ได้เงินอีกสามสี่เดือน คุ้มจะตายครับ ก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกแบบไหนครับ คคห.ของหลายๆ ท่านก็ดีครับ ที่จะเลือกช่วยเหลือคนๆ หนึ่งเอาไว้ เพื่อให้เค้าเกิดการปรับตัว แต่ถ้ามองในระยะยาว รวมถึงผลเสียต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทแล้ว ลองพิจารณาความคุ้มค่าก็แล้วกันกับค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไประหว่างค่าชดเชยไม่กี่เดือน กับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจาก OT รวมถึงการหาพนักงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมาทำงานให้ได้ประสิทธิภาพเช่นเดิมครับ จากคุณ : นายเอ็ม - [ 3 ก.ย. 46 10:21:03 A:203.146.114.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 Up to you ครับ..... แต่ถ้าเป็นผม....... ผมคงให้ออกไปตั้งแต่ช่วงทดลองงานแล้วหละครับ เพราะช่วงนั้นเป็นเพียงการเซ็นต์สัญญาเรื่องทดลองงาน ไม่ต้องมีเบี้ยปรับใด ๆ ทั้งสิ้น....... จากคุณ : จ่าปุ้ย - [ 4 ก.ย. 46 10:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่รับรู้เรื่องราวของคุณมา คิดว่าคุณคงไม่สามารถตัดใจทำกับลูกน้องคุณได้แน่ อาจเป็นเพราะอุปนิสัยของคุณเป็นคนรอมชอม และ อื่น ๆ คงต้องขอให้ผู้จัดการคนอื่นทำแทน การไล่คนออกทำได้ไม่ยาก...ย้ายหรือสั่งให้ทำงานที่เขาไม่ชอบ อ้างระเบียบบริษัทเข้ามาควบคุม หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ก็สามารถตักเตือนด้วยวาจา ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และไล่ออกได้ โดยไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างไร เพียงแต่ว่าต้องไม่ใช่สั่งให้ทำงานโดยเป็นงานที่มีความลำบากมาก ๆ เกินกว่าที่พนักงานจะทำได้ สามารถเลือกงานที่ทำซ้ำ ๆ และต้องมีการขออนุญาตทุกครั้งถ้าต้องไปไหนมาไหน จากคุณ : คนงานคนหนึ่ง - [ 7 ก.ย. 46 07:18:09 A:203.170.142.117 X: ]