ถึงตอนนี้ก็เป็นบทสุดท้ายของ คุณสมบัติของพนักงานขาย
ที่ชื่อว่า Friendliness หรือ ความยิ้มแย้มแจ่มใส หรือ ความเป็นมิตร ก็ใช้ได้
ที่บ้านลุงมีลูกหมาพันธุ์พุดเดิลอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อ แม็กกี้ จำได้ไหมที่เคยเล่าให้ฟังตอนเซลส์ขายวิตามินดี ไปหาที่บ้านนะ
พอมันได้ยินเสียงรถของลุงเท่านั้น ก็กระวีกระวาด ตัวสั่นระริกที่จะวิ่งออกไปต้อนรับ พอเปิดประตูปั๊บ เจ้าแม็กกิ้วิ่งนำหน้าออกไปต้อนรับที่ประตูเป็นตัวแรกเลย ลุงสังเกตเห็นว่า
หมามัน ยิ้มไม่เป็น แต่มันมีหาง ที่สั่นกระดิ๊กๆ ๆ ทำให้ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นไปด้วย พร้อมโผเข้ากอดหน้ากอดหลัง
คนเราไม่มี หาง จึงสั่นกระดิ๊กๆ ๆ อย่างเจ้าแม็กกี้ไม่ได้ แต่เรามี ใบหน้า ซึ่งแสดงออกถึงไมตรีจิตได้ด้วย การยิ้ม
การยิ้ม นี้มีหลายชนิด ยิ้มแย้ม ยิ้มยั่ว ยิ้มอย่างไร้เดียงสา ยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มกวนตีน ยิ้มเยาะ ยิ้มเย้ย ยิ้มหยัน ยิ้มแหยๆ ยิ้มสะแหยะ ฯลฯ
แต่จะเป็นยิ้มอะไรก็ตาม เขาบอกว่า ถ้าจะทำให้คนเราไม่แก่เร็ว ต้องยิ้มออกมาจากข้างใน คือยิ้มออกมาจากใจ ถ้าไม่ยิ้มออกมาจากใจ ใบหน้าจะดึงเส้นเอ็น กล้ามเนื้อต่างๆ ให้ข:-)ตึง จนเหี่ยวย่น ยิ่งแกล้งยิ้ม หรือฝืนยิ้ม หรือ ยิ้มฝืดๆ ยิ่งทำให้แก่เร็วเข้าไปใหญ่
มียิ้มอีกชนิดหนึ่ง คือ ดาบยิ้ม พวกเราคงรู้ผลการตัดสินคดีนี้ลงไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวของดาบยิ้ม คงต้องยิ้มเหี่ยวๆ ส่วนของพ่อดวง คงจะยิ้มลิงโลด อย่างงั้นกระมัง
เฮียแกมีลูกน้องอยู่คนหนึ่งชื่อ สุดฤทธิ์ เจ้าหมอนี่จบจากมหาลัยที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เข้ามาขายเครื่องจักรทำบัญชีที่บริษัท
ซึ่งคุณสุดฤทธิ์แกก็ขายดีพอไปวัดไปวาได้ คือขายได้เดือน เว้นเดือนหนึ่งเป็นประจำ ตอนนั้น เครื่องจักรลงบัญชีอย่างถูกๆ เครื่องหนึ่งก็หกหมื่นกว่า (ราคาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว) เฮียแกให้ไปขายธนาคารแห่งหนึ่ง พอขายได้แล้วก็ต้องไปดูแลลูกค้าเป็นประจำ ต้องไปเข้าประชุม เป็น Account Manager อย่างสมัยนี้
วันหนึ่ง เฮียแกได้รับโทรศัพท์จากผู้อำนวยการฝ่ายธุระการของธนาคารแห่งนี้ ขอเชิญไปพบเพื่อปรึกษาเรื่องงานบางประการ พอเฮียแกไปถึง ก็ได้รับทราบว่า ธนาคารเขาขอเปลี่ยนตัวผู้ดูแล Account นี้เป็นผู้อื่น เฮียแกก็ขอทราบเหตุผล ซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายเขาก็บอกว่า คุณสุดฤทธิ์ ก็บริการดีอยู่หรอก ความรู้เครื่องบัญน้ำบัญชีก็ดี เหมาะสมกับเป็นเซลส์ที่ดีทุกประการ แต่ที่ต้องขอให้เปลี่ยนก็เพราะ เวลาแกมาประชุมทีไร
รอยยิ้ม อันอำมหิต ของแก ทำให้ผู้จัดการฝ่ายต่างๆ ผู้เข้าร่วมประชุมเกิดความไม่สบายใจกันไปตามๆ กัน เฮียแกก็พยายามซักว่า มันเป็นอย่างไร ไอ้ยิ้มแบบว่านั่นนะ ผอ.แกก็อธิบายไม่ถูก บอกว่าคุณไปพิจารณาดูเอาเองก็แล้วกัน เวลามันมาประชุม มันต้องยิ้มอย่างนี้ทุกที จนพวกเราทนกันไม่ไหว ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัว ก็จะเลิกซื้อเครื่องกันไปเลย
เฮียแกสั่งให้เจ้าสุดฤทธิ์เข้าบริษัททันทีในวันนั้น พลางบอกให้สุดฤทธิ์นั่งตัวตรงๆ แล้วยิ้มให้แกดู
พอแกเห็นเจ้าสุดฤทธิ์ ยิ้ม เท่านั้นเอง แกก็เข้าใจความหมายของท่านผอ.ได้ทันทีว่าทำไมเขาจึงขยาดรอยยิ้มของเจ้าสุดฤทธิ์กันถึงขนาดนั้น
คือเจ้าสุดฤทธิ์ เวลายิ้ม มันจะทำหน้าเอียงๆ นิดหน่อย แบบ พระเอกคนหนึ่งในหนัง แล้ว ยิ้มนิดหนึ่งที่มุมปาก
ใครไปลองทำก็คงไม่เหมือน แต่เจ้าสุดฤทธิ์มันลอกเลียนมาจาก ลือชัย นฤนารถ หรือใครที่แสดงเป็นพระเอกในเรื่องเล็บครุฑของพนมเทียนในสมัยโบราณ ช่างทำได้เหมือนเป๊ยบ
ดูแล้ว จะยิ้มเย้ยก็ไม่เชิง ยิ้มเยาะก็ไม่ใช่ แต่เป็นยิ้มกวนๆ น่าเตะเสียมากกว่า เราจึงตั้งชื่อยิ้มแบบเจ้าสุดฤทธิ์ว่า ยิ้มอำมหิต เพราะเจ้าสุดฤทธิ์ไม่ค่อยได้อยู่ออฟฟิต เราเลยไม่ได้เห็น เจ้าสุดฤทธิ์มันยิ้มกันเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้ก็ฮือฮากันลั่นออฟฟิต เจ้าสุดฤทธิ์มันแสนจะอาย บอกว่า มันไม่มีเจตนาอะไรเลย เพียงแต่ยิ้มแบบนี้จนติดเป็นนิสัยเท่านั้น
สรุปว่า เฮียแกโทรกลับไปถึงผอ.ธนาคารท่านนั้น พร้อมทั้งขอโทษขอโพยตามระเบียบ พร้อมทั้งขอโอกาสให้นายสุดฤทธิ์มันแก้ตัว โดยไปหัดยิ้มมาใหม่ จนรับรองได้ว่า ยิ้มได้ถูกใจลูกค้า จึงจะส่งกลับไปดูแล Account นั้นใหม่
พร้อมทั้งเฮียแกขออนุมัตินาย ติดตั้งกระจกบานเบ้อเริ่มตรงประตูทางออกของบริษัท เพื่อจะให้พนักงานขายทุกคน หยุดสำรวจเครื่องแต่งกาย เครื่องมือ กระเป๋าเจมส์บอนก่อนว่าเรียบร้อยไหม และก่อนออกจากบริษัท จะต้อง ยิ้ม
ให้กระจกเสียหนึ่งครั้ง เพื่อถามตัวเองว่า ยิ้มอย่างนี้ ถ้าคุณเป็นลูกค้า คุณจะซื้อไหม
ไม่ทราบเดี๋ยวนี้กระจกบานนั้นยังติดตั้งอยู่ที่เดิมหรือเปล่า
ใครที่ไม่เคยสำรวจตัวเองก็รีบสำรวจเสียนะครับ เดี๋ยวจะโดนเปลี่ยนตัว Account Manager แบบไม่รู้ตัวอีก
ปัญหาสำหรับวันนี้ (Quiz for today)
* เมื่อพบกับลูกค้าที่มักไม่ค่อยยินดีต้อนรับ ท่านจะ
ก. นานๆ จึงจะเยี่ยมสักครั้ง
ข. เลิกการติดต่อ
ค. ขยันไปเยี่ยมสม่ำเสมอ และพยายามตีสนิทกับเขาให้ได้
ง. ขอให้ผู้จัดการฝ่ายขายส่งพนักงานคนอื่นออกไปติดต่อลูกค้ารายนั้นแทน
ปัญหาวันนี้ง่าย เป็นการเอาใจคนตอบครับ
จากคุณ :
ลุงแอ็ด
- [
5 เม.ย. 47 09:51:17
]