Idea คือ น่าจะคิดต้นทุนเวลาที่เราลงทุนไปด้วย
เรียก Opportunity cost ครับ
เช่น เราจะสู้พวกคนจีนได้หรือ ที่นั่งขายอยู่ที่ร้านทุกวัน ทำนองนี้...
หรือ เราอาจทำอย่างอื่น ในการใช้ปริมาณ เวลาเดียวกันได้ผลตอบแทนได้มากกว่าหรือเปล่า
แน่นอนต้องลองหาดู.. อาจไม่ง่าย แต่คุ้มค่ากว่าครับ
ข้อมูลเบื้องต้น/โอกาสทางธุรกิจ
1. หอพักที่พักอยู่กำลังสร้างโครงการใหม่ เสร็จประมาณเดือนมีนาคม
2. จำนวนห้องพักทั้งหมด 40 ห้อง เฉลี่ยพักห้องละ 2 คนเป็นอย่างน้อย (80 คน)
3. ลูกค้าเป็นกลุ่มวัยทำงาน เงินเดือนเฉลี่ย 8,000 - 30,000 บาท (8,000 บาทต่อคนคือค่าเฉลี่ย)
4. มีบ้านและหอพักอยู่ในรัศมี 30 เมตรประมาณ 30 หลังคา (60 คน)
5. ร้านค้าของชำที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างประมาณ 50 เมตร
6. 7-eleven ที่ใกล้ที่สุดห่างประมาณ 500 -700 เมตร
ดังนั้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่คาดหวังไว้มีประมาณ 140 คน - 200 คน
สิ่งที่คาดหวังไว้
อยากเปิดร้านค้าของชำเพื่อ
2. มีเงินสดหมุนเวียน
3. มีรายรับเพิ่มเติม
ทำเล
ทำเลอยู่ที่ใจกลางของหอพักทั้ง 2 ที่ ในรัศมี 30 เมตรไม่มีร้านร้านค้าอยู่เลย
ค่าใช้จ่ายประจำเดือน
- ค่าเช่า 2,500
- เงินเดือน พนักงาน + สวัสดิการ 3,500 บาท
- ค่าคอมมิสชั่น 0.25 % จากยอดขาย
โดย
1. 15,000 - 35,000 = 0.25 %
2. 30,501 - 45,000 = 0.50 % (ไม่รวมข้อ 1)
3. 40,501 - ขึ้นไป = 1 % (ไม่รวม ข้อ 1 และ ข้อ 2)
เงินลงทุนก้อนแรก
- 20,000 บาท
โดยแบ่งเป็น
- ค่าเช่า = 2,500
- ค่ามัดจำ = 2,500
- ต้นทุนสินค้า = 10,000 บาท
ลงทุนไม่เยอะ เพราะจะอาศัยการจัดการ Stock การบริหารการจัดซื้อมากกว่า
ลงทุน Stock เพียงแค่ 1 Par (หน้าร้าน)
ถ้าเป็นระบบ 7-eleven จะมี 3 Par (หน้าร้าน,หลังร้าน,ในตู้ Stock)
อาจจะค่อยๆเพิ่มการลงทุน หากเห็นว่าเป็นไปได้ จะทดลอง ทำ 12 เดือน หากไม่คุ้มทุน ไม่ Cover ค่าใช้จ่ายจะหยุดทำ
เรื่องเงินลงทุน มีเงินซื้อสินค้าครั้งแรก 10,000 บาท
เงินหมุนเวียน 4,000 บาท
หากซื้อสินค้าเดือนละ 4 ครั้ง (4,000 X 4 ) = 16,000 บาท + (10,000 /2 ) X 4 = ( 20,000)
รวมเป็นจะมีเงินหมุนเวียนในร้าน 36,000 บาท / เดือนครับ
- เก็บเงินสดเป็นเงินทุนหมุนเวียน 4,000 บาท
- 1,000 บาทเป็นเงินสดติดร้าน เพื่อจ่ายเป็นเงินทอน / น้ำ/ น้ำแข็ง หรือกรณีซื้อของสด
ประเภทสินค้าที่จะขายและสัดส่วนการลงทุนจากยอดเงินรวม 10,000 บาท
เครื่องดื่ม = 20 %
น้ำดื่ม = 10 %
เครื่องกระป๋อง = 20 %
อาหารแห้ง = 10 %
ขนมขบเคี้ยว = 25 %
สบู่ = 5 %
ผงซักฟอก = 5 %
ยาสีฟัน = 5 %
รวม = 100 %
ราคาสินค้าในร้าน เฉลี่ยไม่เกิน 15 - 20 บาท เป็นชิ้นเล็กๆ ซื้อฉุกเฉิน
เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซึ่งมักจะซื้อที่ Super Store หรือ ร้าน 7-eleven อยู่แล้ว
ไม่ต้องเดินไกล และตัดสินใจง่ายในการเลือกซื้อต่อชิ้น
ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
วัสดุอุปกรณ์ - ทรัพย์สิน
1. ตู้เย็น มีอยู่แล้ว คิดเป็นเงินลงทุน = 4,000 บาท
2. พัดลม มีอยู่แล้ว คิดเป็นเงินลงทุน = 250 บาท
3. โต๊ะ - เก้าอี้ มีอยู่แล้ว คิดเป็นเงินลงทุน = 500 บาท
4. ชั้นวางของ , ขอจาก Sunsilk , Fab , Colgate
5. ชั้นวางของมีอยู่แล้ว คิดเป็นเงินลงทุน = 500 บาท
6. Accessory(กระดาษ,ปากกา,สมุดบัญชี) = 500 บาท
รวมส่วนเงินลงทุน + ทรัพย์สินร้าน
20,000 + (1+2+3+5) = 25,750
ทำเล
อยู่ที่ใจกลางของหอพักทั้ง 2 ที่
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์
เปิดรอบแรก 07.00 - 11.30
พักปิดร้าน 11.30 - 12.30
เปิดรอบสอง 12.30 - 20.30
วันอาทิตย์ ปิดทำการ ช่วงเช้า
เปิดบริการ 13.00 - 20.30
วันพุธปิด 18.00 น.
การเช็คสต็อค
เช็คสต็อคย่อย
- สุ่มตรวจ 3 - 5 วัน / ครั้ง
เช็คสต็อคใหญ่
- กลางเดือน ทุกวันที่ 15 และสิ้นเดือน ทุกวันที่ 30
เงินทุนหมนุเวียนเพิ่มเติม
- ให้ร้านยืมในกรณีจำเป็นเดือนละ ไม่เกิน 3,000 บาท/เดือน (เงินส่วนตัว) / ต้องหักคืนเมื่อมีกำไร
- คาดว่าจะมีรายรับ จาก ลูกค้า 140 คน เฉลี่ยคนละ 500 บาท / เดือน /คน (ค่าเฉลี่ยในการซื้อสินค้าอยู่ที่ 50 %)
โดยมีผลตอบแทนประมาณการดังนี้
ส่วนของต้นทุน
1. Fix Cost 7,000
2. ยอดขายต่อเดือนดังนี้ (140 X 500) X 50% = 35,000
3. โดยมีต้นทุนจากสินค้า (35,000) X (ต้นทุน 70%) ) = 24,500
4. กำไรเบื้องต้นก่อนหักค่าใช้จ่าย (2) - (3) = 10,500
5. หักค่าใช้จ่ายประจำเดือน (4) - (1) = 3,500
ส่วนของกำไร
6. เงินสะสมเพื่อลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต(ส่วนของร้าน) = 1,000 บาท
7. เงินสะสมเพื่อการปรับปรุงร้าน(ส่วนของร้าน) = 1,000 บาท
8. ยอดเงินคงเหลือสุทธิปันผล(ส่วนของผู้ถือหุ้น) (5)-(6+7) = 1,500 บาท
9. ถวายสิบลด (6+7+8) X (10%) = 350 บาท
10. เงินคงเหลือปันผลผู้ถือหุ้น (6+7+8) - (9) = 1,150 บาท
11. จุดค้มทุน (25,750) / (10) = 22 เดือน หรือน้อยกว่า
จากคุณ :
tanoy_delphi
- [
12 ก.พ. 48 13:34:58
]