ความคิดเห็นที่ 70
หนี้หายนะ
หลายคนต้องเป็นหนี้ธนาคาร บัตรเครดิต เพื่อชื้อบ้าน ซื้อของตกแต่งบ้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ การไปกู้คือยืมเงินซึ่งเราไม่มีในขณะนี้ แต่จะเอารายได้ในอนาคตมาผ่อนชำระ การชำระขึ้นอยู่กับอนาคตซึ่งไม่แน่นอน ทำให้ชีวิตเราต้องกล้าเสี่ยงมากขึ้น การตัดสินใจของเราก็ต้องเร่งรีบ เสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่หวังว่าจะได้สูงขึ้น ยอมทนทำงานที่ไม่อยากทำ โกง เบียดเบียน หลอกลวงคนอื่น เพื่อความจำเป็นที่จะต้องหาเงินมาใช้หนี้ เพื่อความเครียดให้ตัวเองและคนรอบตัว และที่สำคัญเราไม่รู้จักต้นทุนที่แท้จริงของนี้
เสือน้อยและเสือใหญ่เริ่มทำงานเมื่ออายุ 17 ปี พ่อแม่ให้เงินเท่ากันคือ 80,000 บาท เสือน้อยเอาเงินไปซื้อรถมือสองคันเล็กๆ ขับไปทำงาน
ในขณะที่เสือใหญ่เอาเงินไปดาวน์รถ ราคา 300,000 บาท โดยกู้เงิน 220,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี ผ่อน 5 ปี
เสือใหญ่ผ่อนรถเดือนละ 4,675 บาท เป็นเวลา 5 ปี เป็นเงิน 280,500 บาท
ส่วนเสือน้อย ไม่ต้องผ่อนรถ เอาเงินที่จะต้องผ่อนรถไปฝากธนาคารทิ้งไว้ทุกเดือนได้ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ครบ 5 ปี เงินฝากเดือนละ 4,675 บาท รวมดอกเบื้อทบต้นเป็นเงิน 365,024 บาท
เสือน้อยทิ้งเงินฝากไว้อย่างนั้น โดยไม่ฝากเพิ่มและไม่ถอน ปล่อยให้ดอกเบี้ยทบต้น ทำงานของมัน วันที่เสือน้อยเกษียณอายุ ตอนอายุ 60 ปี 2 เดือน เงินจำนวนนั้นทบต้นเป็นเงิน 23,361,536 บาท
ส่วนรถของเสือใหญ่ กลายเป็นเศษเหล็กในเวลาไม่นาน
นี่คือเหตุผลที่เราต้องออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย หักห้ามใจต่อแรงยั่วยุของสิ่งต่างๆ เสือน้อยออมเงินทุกเดือนเพียง 5 ปี แล้วหลังจากนั้นก็ใช้เงินเดือนของตัวเองได้เต็มที่ทุกบาททุกสตางค์ ด้วยเงินต้นเพียง 365,024 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี เงินต้นและดอกเบี้ยกลายเป็น 23,361,536 บาท ภายในเวลา 40.2 ปี
(สูตรคำนวณว่าเงินจะเพิ่มเป็นเท่าตัวเมื่อไหร่คือ 72 /อัตราผลตอบแทน เช่น 72 / 10 = 7.2 ดังนั้นที่ดอกเบี้ย 10% เวลา 7.2 ปี เงินก็เพิ่มเท่าตัว)
เช่น ถ้าดิฉันฝากเงินให้ลูก 5 ล้านบาท ที่ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ทุกๆ 7.2 ปี เงินฝากจะโตเป็น 10 ล้านบาทและ 20 ล้านบาท 40 ล้านบาท และ 80 ล้านบาทตามลำดับ รวมเวลา 28.8 ปี เงิน 5 ล้านบาท โตเป็น 80 ล้านบาท
ถึงแม้เวลานี้ ดอกเบี้ยเงินฝากของเราจะต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดออมก่อนจะชื้ออะไร ลองหยุดคิดสักนิดว่า ค่าเสียโอกาสในชีวิตเป็นเท่าไหร่ รวมถึงโอกาสอื่นๆ ที่สูญเสียไปนอกจากเงิน
การสร้างหนี้เป็นการสร้างความหายนะให้ชีวิตได้อย่างง่ายดาย การมีหนี้เป็นทุกข์เป็นภาระทางใจอย่างยิ่ง แล้วมันคุ้มหรือเปล่ากับการเป็นหนี้ เพื่อสิ่งของที่มีหรือไม่มีแตกต่างกัน เราอาจจะเป็นหนี้ได้อย่างรอบคอบเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือ การเริ่มลงทุนไม่จำเป็นต้องมองทุนที่เป็นเม็ดเงินอย่างเดียว มันสมองความคิด แปลงกระแสความนิยมให้เป็นประโยชน์ มีสิ่งมากมายที่ใช้แทนกันได้ ถ้าเราเป็นหนี้จากบ้าน รถ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การซื้อของ ซึ่งไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกผลมาช่วยใช้หนี้ก็ยิ่งแย่ใหญ่ อาจจะถึงเวลาต้องทบทวนว่าเมืองนี้ บ้านนี้ รถคันนี้ โรงเรียนนี้ อาจจะไม่เหมาะกับชีวิตของเราจริงๆ ลองปล่อยถั่ว ปล่อยความยึดมั่นในชีวิตบางอย่างดู เราอาจจะรู้ว่า ชีวิตมีทางเลือกอีกมากมาย
จากคุณ :
OnceInTheBlueMoon
- [
24 พ.ค. 48 20:44:34
]
|
|
|