จริงๆแล้ว หลายๆคนจะมองว่า แฟรนไชน์เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว คิดว่า แฟรนไชส์ เป็นช่องทางการจัดจำหน่าย หรือการกระจายสินค้าของธุรกิจหนึ่งๆมากกว่า เพราะเมือไหร่ก็ตามที่เราบอกว่า เป็นธุรกิจ นั่นหมายความว่า เราจะต้องมีรายได้หลักจากการขายลิขสิทธิ์ แฟรนไชส์ (ซึ่งเดี่ยวนี้ ก็น่าจะมีแล้วนะ...)
แต่เอาเป็นว่า มีหลายๆกระทู้ ถามเรืองนี้กันมาก เท่าที่อ่านๆดูคะ มีบ้างที่ถามว่า แฟรนไชส์ ควรซื้อดี หรือว่าทำเอง....... จะเป็นผู้ขายแฟรนไชส์ ควรทำอย่างไร......ก็เอาเป็นว่า เรามาทำความรู้จัก แฟรนไชส์ให้มากขึ้นดีกว่าคะ ..... แล้วคุณจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอให้โชคดีนะคะ
^
^
^
ลักษณะทั่วไปของการประกอบธุรกิจที่ซื้อแฟรนไชส์
การลงทุนในธุรกิจโดยการซื้อแฟรนไชส์ คือ การซื้อสิทธิในการประกอบธุรกิจ ซึ่งเน้นที่ผู้ซื้อสิทธิสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้โดยการดำเนินตามนโยบายที่ได้กลั่นกลองจากเจ้าของสิทธิ และด้วยความเชี่ยวชาญของผู้สร้างระบบงานจนทำให้เกิดความสะดวกและมีมาตรฐานในการผลิตหรือการให้บริการ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ซื้อสิทธิสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจได้โดยลดความเสี่ยงของการลงทุนด้วย1 โดยการขายสิทธินี้ผู้ซื้อต้องจ่ายค่าตอบแทนต่าง ๆ ให้กับผู้ขายด้วยเช่นกัน
ในปัจจุบันมีธุรกิจที่มีการนำรูปแบบแฟรนไชส์มาเป็นส่วนหนึ่งในการทำการตลาดมีให้พบเห็นในหลายประเภทธุรกิจเช่น ธุรกิจงานพิมพ์, ธุรกิจซักอบรีด, ธุรกิจสุขภาพและความงาม, ธุรกิจเสื้อผ้า, ธุรกิจเครื่องประดับ,ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจไอที, ธุรกิจบริการ, ธุรกิจการศึกษา, ธุรกิจหนังสือ, ธุรกิจอาหาร ฯลฯ
โดยสรุปลักษณะของธุรกิจที่มีการซื้อขายแฟรนไชส์จะประกอบด้วยปัจจัยหลัก 3 ประการคือ
1. มีแฟรนไชซอร์ (ผู้ขายสิทธิ) และแฟรนไชส์ซี (ผู้ซื้อสิทธิ)
2. มีการถ่ายทอดความชำนาญ ขั้นตอนต่าง ๆ เทคโนโลยี เครื่องหมายการค้า ฯลฯ
3. มีการจ่ายค่าตอบแทนอย่างน้อย 2 อย่างคือค่าแรกเข้าในการใช้เครื่องหมายการค้า (Franchise Fee) และค่าตอบแทนผลดำเนินการ (Royalty Fee)
การจัดรูปแบบของสิทธิที่จะให้แฟรนไชส์ซีหลัก ๆ แบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ แบบแฟรนไชส์เฉพาะ (Individual Franchise) และแบบมาสเตอร์ แฟรนไชส์ (Master Franchise)
รูปแบบของแฟรนไชส์เฉพาะ (Individual Franchise) ยังแบ่งการให้สิทธิย่อยได้ 2 แบบคือ สิทธิแฟรนไชส์เฉพาะบุคคลหรือองค์กรหนึ่ง (Single Unit Franchise) โดยเน้นการให้เปิดสาขาเพียงสาขาเดียวต่อราย และแบบการให้สิทธิทั้งบุคคลและองค์กร (Multi Unit Franchise) โดยผู้รับสิทธิสามารถเปิดร้านสาขาได้มากกว่าหนึ่งสาขา แต่ไม่มีสิทธิในการขยายแฟรนไชส์ด้วยการสร้างร้านที่รับสิทธิต่อ
ส่วนรูปแบบของมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ได้แบ่งการให้สิทธินี้เป็น 2 ลักษณะเช่นกัน คือ Sub Franchise เป็นแฟรนไชส์ที่ต้องสร้างระบบงานมาเพื่อขยายงานเสมือนเป็นแฟรนไชส์ซอร์และให้สิทธิในการขยายระบบแฟรนไชส์ ซึ่งอาจจะรับผิดชอบในระดับประเทศ ส่วนใหญ่จะเรียกแฟรนไชส์ลักษณะนี้ว่า มาสเตอร์แฟรนไชส์ ส่วนรูปแบบที่ 2 เรียกว่า Area Development Franchise เป็นแฟรนไชส์ที่ให้สิทธิในการขยายระบบแฟรนไชส์แต่เน้นการให้ตามเขตพื้นที่ โดยการกำหนดพื้นที่การขยายสาขาในเขตพื้นที่นั้น ๆ ไม่มีสิทธิในการขายแฟรนไชส์ต่อได้ แต่รับผิดชอบต่อการขยายสาขาให้ครบตามที่รับสิทธิ
จากคุณ :
pinkoptio
- [
23 ก.ย. 48 20:58:23
]