ความคิดเห็นที่ 1 ขายของบนเน็ตต้องขยันโปรโมทร้านทุกวันครับ  ต้องโพสไว้หลายๆเว็บด้วย  ยิ่งคุณโปรโมทมากๆโอกาสที่จะมีคนเข้ามาชมสินค้าในร้านก็มากขึ้น ยิ่งมีคนเข้ามาในร้านมากขึ้นก็มีโอกาสสั่งซื้อมากขึ้นด้วย     มันเหมือนการหว่านแหครับ  โพสน้อย+ไม่กี่ที่ = แหเล็ก -----> ได้ปลาน้อย  โพสเยอะๆ+หลายๆที่ = แหใหญ่ -----> ได้ปลาเยอะ   ใหม่ๆก็แบบนี้แหละครับ คนยังไม่ค่อยรู้จักร้าน และคนที่รู้จักก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในสินค้าและบริการ  ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อพิสูจน์ว่าสินค้าใช้ดีจริงไหม บริการรวดเร็วทันใจไหม      ถ้าสินค้าใช้ดีเห็นผล+บริการดี +ขยันโปรโมทร้านเรื่อยๆ  คุณจะได้ลูกค้าประจำและลูกค้าประจำจะช่วยคุณโปรโมทร้านให้อีกแรงแบบปากต่อปากอีกด้วยครับ ปล.โพสในหมวดที่ทางเว็บเขาจัดไว้ให้ซื้อ-ขายเท่านั้นนะครับ อย่าโพสไปเรื่อยกระทู้ไหนใครตั้งไว้โพสแหลกก็ไม่ดีนะครับ คนอื่นๆจะพากันแอนตี้ร้านคุณซะเปล่าๆ ปล.2 ขอให้ประสบความสำเร็จ เป็นเถ้าแก่ไวๆนะ จากคุณ : ความลับสวรรค์ - [ 5 พ.ย. 48 16:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 summitter ครับ จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 5 พ.ย. 48 16:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วยบอกที่อยู่เว็บหน่อยสิครับ จะได้วิจารณ์ถูก ที่ลงโฆษณา "sanook" นี่เป็นแบบเสียเงินหรือฟรีครับ จะหาลูกค้าเข้าร้านนี่ บอกได้เลยว่าง่ายมาก เพราะ e-commerce เมืองไทยนั้นมีการแข่งขันกันแบบ low สุด ๆ จะทำ project สักอัน(อะไรก็ได้)ก็สำเร็จได้สบาย ๆ เพราะคนไทยรู้เรื่องการตลาด e-commerce กันเล็กน้อยเท่านั้น ปัญหาจึงอยู่ที่การบริหารจัดการระบบภายในของคุณเองมากกว่า คนเข้าร้าน 4 พันกว่าคน วัดไม่ได้หรอกครับ ผมเข้าใจว่าระบบส่วนมากนับเป็น page view มากกว่า (เช่นของ market at home) ตัวเลขมันหลอก ความจริงต้องนับแบบ ip รายวันถึงจะถูก เรื่อง stat นี่สำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์มากในการบริหารจัดการ และวางแผนกลยุทธ์ รวมถึงประเมินผลงานที่ได้ทำไป ตรงจุดนี้ http://truehits.net ช่วยท่านได้ จากคุณ : cyberaddict - [ 5 พ.ย. 48 22:03:49 A:61.91.148.209 X: TicketID:106466 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้าถึงแหล่งชุมชนบนเวบทุกที่ที่มีกลุ้มเป้าหมาย นอกเหนือไปจากเวบที่มีไว้เพื่อการค้าขายอยู่แล้วโดยเฉพาะ เช่น ถ้าเป้าหมายเป็นผู้หญิง ก็เข้าไปโพสตามเวบบอร์ด (ที่เขาอนุญาตให้ซื้อขายของได้เท่านั้น ไม่งั้นถ้าโพสสุ่มสี่สุ่มห้า จะกลายเป็นที่รังเกียจได้นะคะ) ที่ผู้หญิงเข้าไปกันเยอะๆ แล้วก็ดูร้านคู่แข่งด้วยค่ะ ว่าราคาของเราสูงเกินไปหรือเปล่า บางทีราคาสูงมากๆ ลูกค้าก็คิดแล้วคิดอีก คิดนานมาก จนบางทีไปเจอร้านที่ราคาถูกกว่า ก็เลยเลือกซื้อจากร้านอื่นแทน ส่วนวิธีส่งเมล์โฆษณา หรือ spam นั้น คิดว่าวิธีนี้ให้ผลดี แต่ก็ให้ผลเสียมาก (คิดว่ามากกว่ามากๆด้วย) เพราะจะเป็นที่รำคาญ รังเกียจ และเกลียดชังจากผู้รับที่ไม่ต้องการหรือไม่สนใจสินค้าของเรา อาจถึงขั้นต่อต้าน หมายหัวไว้เลยก็ได้ ส่งเมล์โฆษณานี้เราไม่เคยทำนะคะ ตั้งปณิธานไว้เลยว่าจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะว่าเราเองก็โดน spam ทุกวัน นั่งลบจนละเหี่ยใจ -_-" จนบางอันอยากจะตอบเมล์กลับไปตะโกนบอกคนส่งดังๆว่า ..... รู้แล้ววววววววววววว พอแล้วววววววววว ส่งมาอยู่ได้ วันละ 7-8 รอบบบบบบบบ โอ้ยยยยยยยยย ... แห่ะๆ อันนี้นอกเรื่องนิดนึงค่ะ ^^" ส่วนเรื่องที่ว่ายังไม่มียอดสั่งซื้อนั้น ... ใจเย็นๆค่ะ อย่างที่บอก บางทีลูกค้าเข้าร้านมาครั้งแรก (หรือ 2-3-4) อาจจะยังไม่ตัดสินใจซื้อ เทียวไปเทียวมาสักพักถึงค่อยซื้อ แล้วต้องดูด้วยว่าของที่เราขายนั้น เป็นที่ต้องการของลูกค้าหรือเปล่า มีคนอยากได้มากมั้ย มีคนอื่นขายอยู่บ้างมั้ย ไปดูร้านอื่นๆดูด้วย ดูว่าร้านขายดีๆเค้าทำยังไงกันบ้าง ส่วนคุณ #3 ตอนนี้ marketathome เขาเปลี่ยนจากการนับแบบ page view ไปเป็นแบบ ip รายวันแล้วค่ะ (เพราะว่าเปิดร้านอยู่เหมือนกันเลยทราบ) จากคุณ : สู้ๆค่ะ - [ 5 พ.ย. 48 23:50:13 A:58.8.108.181 X: TicketID:110902 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็เปิดร้านเหมือนกันที่ maketathome แต่ไม่ได้ขายเครื่องสำอางนะคะ แรกๆ ก็ยอมรับว่าเฮ้อ!เมื่อไรจะมีคนมาซื้ออย่างร้านอื่นบ้างนะ เวลาเช็คเมล์ก็แห้วตลอด จนตอนนี้เริ่มมีลูกค้าประจำบ้างแล้วค่ะ แต่ก็ยังน้อยอยู่ เราเลยคิดว่าทำธุรกิจทางเน็ตนี่ต้องอดทนอย่างเดียวค่ะ จากคุณ : แฮมสเตอร์ (แฮมสเตอร์) - [ 6 พ.ย. 48 07:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่ค่ะ ต้องอดทนมากๆ แต่เราว่าคนไทยยังไม่นิยมซื้อของทางเนตด้วยนะ (ในปัจจุบัน)อาจมีหลายสาเหตุ เช่น ไม่คุ้นเคย ไม่เชื่อใจ ฯ ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ ที่มีคนเข้าไปดูมากมาย แต่กลับไม่มียอดสั่งซื้อ คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ลูกค้าหรือ กลุ่มเป้าหมายหรอกค่ะ เข้าไปดูกันเล่นๆ หรือดูเพื่อ จุดประสงค์อื่น เหมือนการหว่านแห อย่างที่บอก ข้อมูลที่คนอื่นบอกเกี่ยวกับยอดจำหน่ายของเขา ก็อย่าไปยึดถือมากเลยค่ะ ไม่มีอะไรจะมายืนยันได้ คุณได้ลงมือทำแล้วผลเป็นอย่างไรนี่คือข้อมูลจริงๆของเรา ศึกษา และพัฒนาไป วันนึงก็จะประสพความสำเร็จเอง จากคุณ : นัช (irobot) - [ 6 พ.ย. 48 09:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เฮ้อ กลับมาอ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากเลยค่ะ ทางเว็บที่เราเช่าพื้นที่อยู่ เค้าก็โทร.มาสอบถาม เค้าก็บอกให้เราขยันโพสเยอะๆ +มาอ่านคำแนะนำตรงนี้ มันทำให้เรามีแนวทางที่จะเจาะกลุ่มลูกค้า ให้ตรงตามเป้าหมายค่ะ เราก็แอบไปดูเว็บเพื่อนบ้าน เค้ามีการแลกลิ้งค์กันด้วย ก็น่าจะทำให้เว็บเราผ่านตาผู้ซื้อบ้าง แต่ยังทำการแลกลิงค์ไม่เป็น ยังง งง อยู่ ส่วนของสนุกนี่เรา ลงโฆษณาแบบเสียเงินค่ะ อยู่ในหมวดเครื่องสำอางค์ กรอบไม่ใหญ่ลองทดลองน่ะค่ะ ตำแหน่ง A3 ไม่กล้าลงลิงค์ที่นี่ เดี๋ยวจะกลายเป็นโฆษณาแล้วโดนแจ้งลบค่ะ แต่ถ้ามีหลังไมค์จะลองส่งไปให้ลองวิจารณ์ค่ะ เรามือใหม่ทำไม่เก่งด้วย ตอนนี้เราเลยลองซื้อหนังสือ รวมรวมWEB HOT&HITมาลองดูค่ะ ยังเข้ามาดูเรื่อยๆนะคะ แนะนำเพิ่มเติมได้ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ^^ จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 6 พ.ย. 48 11:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วันนี้กลับเข้ามาดูอีกครั้ง พอมีเวลา ขอให้คำแนะนำเพิ่มเติมขยายความจากเดิมอีกนิด ทุกท่านในนี้ล้วนมีความหวังดีต่อคุณ นับว่าเป็นโชคของคุณแล้ว ลองนำสิ่งต่าง ๆ ที่คุณได้บวกกับที่ผมจะกล่าวต่อไป ให้คุณนำไปคิดเอง การทำ e-commerce เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ความอดทนใด ๆ แบบความเห็น 5 (ด้วยความเคารพทุกความเห็น) เพราะไม่เหมือนธุรกิจ offline (ต้องอดทน) สามารถเริ่มแล้ว run business ให้ใหญ่ สร้างยอดได้เยอะได้ทันที ไม่ต่างจากบริษัทใหญ่ ๆ คนไทยแม้จะยังไม่นิยมซื้อของทางเน็ตนั่นใช่แน่นอน (ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ) แต่การันตีได้เลยว่า แทบทุก business จะมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะหาข้อมูลทาง online แล้วสั่งซื้อทันทีเมื่อถูกใจเขา การเริ่มทำ e-commerce แบบระดับสากลนั้น ต้องเริ่มด้วยการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจก่อนเลยว่าเป็นไปได้หรือไม่ ด้วยการวิเคราะห์คู่แข่ง ลักษณะการวิเคราะห์คู่แข่งนั้น ต้องวิเคราะห์คู่แข่งในช่องทาง traffic ที่พาลูกค้าเข้าถึงด้วยกัน เช่น คู่แข่งในเว็บบอร์ด, คู่แข่งในโฆษณา, คู่แข่งใน search engine สมมติว่า ถ้าคู่แข่งมี 1,000 ราย ไม่จำเป็นต้องไปดูทั้งหมด ดูแค่ line ในช่องทางที่ส่ง traffic แบบเดียวกับเว็บของเรา ซึ่งอาจจะเหลือแค่ 5-8 รายที่ต้องวิเคราะห์กันจริง ๆ เดี๋ยวมาต่อครับ จากคุณ : cyberaddict - [ 6 พ.ย. 48 22:11:50 A:61.91.146.69 X: TicketID:106466 ]

ความคิดเห็นที่ 9 e-commerce ทุกชนิดอยู่รอดได้เพราะ traffic ถ้าไม่มี traffic คือทุกอย่างดับสนิท ดังนั้นจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้ traffic มาด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ แต่ traffic ที่ได้นั้นมีทั้งแบบหว่านแห กับแบบเจาะจง ซึ่งนักการตลาดจะให้ความสำคัญกับแบบเจาะจงมาก เพราะเขาจะคำนวน conversion rate เสมอ (คือ sale / visitor) traffic ที่เจาะจงมักให้ conversion rate ที่สูง ในขณะที่ traffic แบบหว่านแห แทบจะได้มี conversion rate เลย เช่น คนเข้าเว็บ 1,000 คน แต่ไม่ซื้อ สู้หาคนเข้าเว็บแบบ 10 คน แต่ต้องการมาซื้อของจริง ๆ ไม่ได้ อันนี้คือคุณภาพของ traffic ของการตลาดที่คุณทำ คราวนี้ก็ลองมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของ ธุรกิจเครื่องสำอางดู ธุรกิจเครื่องสำอาง เพียงแค่เปิดดูจากกูเกิ้ลดูก็รู้ว่า เป็นธุรกิจที่ทำได้สบายมาก แทบจะไม่มีคู่แข่งเลยในสายตาผม ที่ทำ ๆ กันอยู่นั้นเรียกว่ามองข้ามไปได้เลย แทบจะไม่มี professional เลย คุณเพียงลองทำตามนี้ดู พิมพ์คำว่า เครื่องสำอาง หรือ เครื่องสำอางค์ ใน google ผลลัพธ์คือ "เครื่องสำอาง" มี 57,400 กับ "เครื่องสำอางค์" มี 12,400 ผลการค้นหา ไล่ดูลำดับที่ 1-10 แทบจะไม่เจอร้านค้าที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเลย คราวนี้คุณลองพิมพ์คำว่า cosmetic ดูบ้าง ผลการค้นหาปรากฎว่ามี 26,300,000 ผลการค้นหา คุณเห็นความแตกต่างไหมว่ามันต่างกันกี่เท่าระหว่าง e-commerce ในระดับประเทศไทย กับ e-commerce ในระดับสากล search engine เป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างหนึ่งสำหรับ e-commerce ที่ผมให้น้ำหนัก 20% ของเครื่องมือทางการตลาดทั้งหมด ซึ่งลักษณะเฉพาะของ search engine คือจะได้ specific traffic ที่ผมได้กล่าวข้างต้น จะได้ลูกค้าที่มีความต้องการในสินค้านั้นเป็นเดิมพันอยู่แล้ว conversion rate จึงสูงสำหรับเครื่องมือการตลาด 20% ชนิดนี้ แต่บอกได้เลยว่าเพียงเครื่องมือนี้ตัวเดียว สามารถ run business ได้อย่างรวดเร็วและแทบจะการันตีความสำเร็จได้เลย ผมถึงกล่าวว่าการทำ e-commerce ในเมืองไทยนั้นง่ายเหมือนปอกกล้วย ถ้าคุณลองทำ e-commerce ระดับสากล ที่มีการแข่งขันกันดุเดือดประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็แทบจะทำ e-coomerce ในระดับประเทศสำเร็จได้แทบจะทุกธุรกิจอย่างไม่ยากเย็นเลย ลองเทียบกันดูครับ ระดับ 26 ล้าน กับ 5 หมื่นกว่า เปรียบเทียบกันแล้ว ...ยิ่งมาดูอันดับต่าง ๆ ใน 5 หมื่นกว่าผลการค้นหาของกูเกิ้ล(เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งคร่าว ๆ ) เหมือนเด็กเล่นขายของ ดังนั้นการจะสร้างธุรกิจเครื่องสำอาง e-commerce นั้น เห็นความสำเร็จแค่เอื้อมแล้วครับ สมการการตลาดทางเน็ตคือ มี traffic --> มี order, มี order --> มี sale, มี sale --> let's get profit ! จากคุณ : cyberaddict - [ 6 พ.ย. 48 22:45:40 A:61.91.146.69 X: TicketID:106466 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รายละเอียด่าง ๆ นั้นมันเยอะมาก ซึ่งคุณต้องค่อย ๆ เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป ปกติผมไม่ค่อยมีเวลา คงจะเพิ่มเติมเป็นความเห็นสุดท้ายครับ พอดีเห็นว่าคุณตั้งใจทำจริง พยายามเข้าครับ รับรองว่าธุรกิจนี้สำเร็จไม่ยากครับ เอาให้เป็น no.1 (วัดจากจำนวนคนเข้าชม) เลยก็ได้ ง่ายนิดเดียว เมื่อเป็น no.1 แล้วจะสร้าง sale ในระดับแสนต่อเดือนจึงเป็นเรื่องที่ธรรมดาสุด ๆ เมื่อคุณทำได้จะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับตัวเลขนี้เลย คราวนี้มาเพิ่มเติมเรื่องการหา demand นิดนึง นอกเหนือจากการวิเคราะห์คู่แข่งที่ได้กล่าวไป วิธีการหา demand ของตลาดแบบคร่าว ๆ นั้น คุณไปดูที่นี่ได้ http://directory.truehits.net/keyfile/key_5.php พิมพ์ keyword ที่คุณต้องการ แล้วจะตัวเลขจำนวนที่คนสนใจออกมา นอกจากเป็นการหา demand แล้ว ยังเรียกว่า keyword research ก็ได้ ซึ่งถ้าคุณทำ e-commerce แบบ international รายละเอียดด้าน keyword research จะละเอียดมาก และสำคัญมาก ๆ แต่ในที่นี้ไม่เกี่ยวจึงขอข้ามไป ตัวเลขนี้เหมือน sample size กลุ่มหนึ่งทาง stat ซึ่งถ้าดูคำว่า "เครื่องสำอาง" หรือ "เครื่องสำอางค์" ผลรวมกันเกือบ 200 อันนี้คือ demand ที่คุณมองเห็นที่คุณต้องตอบสนองเขาผ่าน search engine แต่มันยังมี "demand ที่มองไม่เห็น" ที่มากกว่านี้อีกหลายสิบเท่า คือคนสนใจสินค้าพวกนี้ในช่องทาง online อื่น ๆ อีกนับหลายสิบช่องทาง รวมถึงผู้ที่สนใจสินค้าพวกนี้ แต่ไม่ได้ค้นหาข้อมูล แต่ก็พร้อมที่จะซื้อหากได้มีสิ่งใดมากระตุ้นความต้องการของเขา คิดแบบง่ายที่สุด เพียงแค่ demand ที่มองเห็น เพียงระดับ 200 คุณก็สามารถสร้าง automated online business ได้สบาย ๆแล้วครับ ณ ตอนนี้คุณก็ทราบแล้วว่า เครื่องสำอาง มี demand รองรับแน่ ไปได้แน่ ....... หันมาดูคู่แข่งแล้ว ก็ไม่มีที่ร้ายกาจเลย (ยิ้มได้เลย หวานหมูล่ะ) สิ่งที่คุณจะทำต่อไปคือ ..... โหมันเยอะครับ คุณต้องเรียนรู้ให้เยอะ ๆ แล้วคุณจะเก่งขึ้น รู้มากขึ้น คร่าว ๆ ก็คือ คุณต้องสร้างเว็บ (ก็มีอยู่แล้วเนอะ) จากนั้นก็ประชาสัมพันธ์เว็บ หนังสือเกี่ยวกับด้านนี้มีเยอะ ให้ไปหาความรู้เพิ่มเติมจาก se-ed ดู สิ่งสำคัญที่ผมรู้สึกว่า e-commerce คนไทยไม่ไปไหนก็เพราะว่า จ้องแต่จะขายของลูกเดียว คือเข้ามาปุ๊บก็มีแต่สินค้าต่าง ๆ มากมายจนตาลาย วิธีนี้จะสร้าง negative attitude ให้กับลูกค้า สิ่งที่เขาทำการวิจัยมาแล้วก็คือ ควรทำ e-commerce แบบ pre-sell หมายความว่าควรให้ infomation ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ business ของเราหรือสินค้าต่าง ๆให้มากที่สุด วิธีนี้ค่า conversion rate ผลออกมาจะต่างกันหลายเท่าเลยทีเดียว เวลาลูกค้าเข้ามาจะมี positive attitude ที่พร้อมจะซื้อสินค้าด้วยความไว้วางใจ แล้วพร้อมจะบอกต่อคนอื่นๆ ต่อไป พอเท่านี้ก่อนครับ พยายามเข้าครับ ขอให้โชคดีและประสบความสำเร็จด้วยใจจริงครับ จากคุณ : cyberaddict - [ 6 พ.ย. 48 23:15:37 A:61.91.146.69 X: TicketID:106466 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำครับ อ่านยากนิดหนึ่ง แต่ก็เข้าใจมากขึ้น [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 7 พ.ย. 48 07:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ..ปกหลัง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 7 พ.ย. 48 07:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 7 พ.ย. 48 07:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รู้เขารู้เรา ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับหนังสือนะครับ  เห็นว่าเป็นหนังสือที่ดี และแปลกกว่าหนังสือการตลาดทั่วๆไป  จึงมาแนะนำ... จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 7 พ.ย. 48 07:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่เหลือไปหาอ่านเอาเองนะครับ ;) จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 7 พ.ย. 48 07:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กลับมาอ่านค่ะ ต้องขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ โดยเฉพาะคุณcyberaddict อ่านแล้วมันเหมือนแบบว่า เห็นทางสว่าง เห็นช่องทางขึ้นเยอะเลย ไม่ได้ชมเว่อร์นะคะ คือรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันเหมือนเป็นไกด์บอกแนวทางที่เราจะเดินไป บอกตามตรงก่อนหน้าที่จะมาโพสถามในห้องสีลมนี้ ยอมรับค่ะ มันเกิดอาการที่เหมือนจะท้อ แต่ยังสู้ค่ะ พอดีได้คุยกับเพื่อนเลยหดหู่ แต่พออ่านบทความที่แนะนำความรู้สึกมันสดชื่นขึ้นมาทันที  รู้สึกอบอุ่นกับเพื่อนๆในpantip จริงๆ ความจริงมีพี่ชายทำการตลาดอยู่ แต่เค้าเสนอตัวที่จะไม่ช่วยหรือแนะนำเลย คือไม่ยุ่งอยากทำก็เรื่องของเอ็ง กำลังใจตอนแรกเลยยิ่งตก แต่ตอนนี้ความฮึดมันเกิดขึ้นอีก จะทำให้เห็นว่าเราก็สามารถทำได้ค่ะ ขอบคุณทุกๆคน คุณ=[ชงเข้ม]= คะ ขอบคุณสำหรับหนังสือเดี๋ยววันนี้จะไปหาซื้อมาอ่านค่ะ พอดีหาหนังสือแนวนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่เจอเลย เดี๋ยวจะจดไปให้พนักงานร้านหนังสือหาค่ะ ปล.ตอนนี้เก๋พริ้นกระทู้มาเก็บไว้อ่านแล้วค่ะ แต่จะยังแวะมาอ่านอีกนะคะ ใครมีประสบการณ์อยากแนะนำรุ่นน้องก็ได้เลยนะคะ ^^ จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 7 พ.ย. 48 13:03:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 SEO จากคุณ : มือก็พายเท้าก็ราน้ำ - [ 9 พ.ย. 48 05:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถึงคุณแพนด้าตัวกลม แลกลิ๊งค์กับกอล์ฟก็ได้แหล่ะ ร้านกอล์ฟคนดู10,300 แล้ว แต่ยอดขายมี7 oreder เองเปิดเมื่อเดือน 7 ต้องทำการตลาดหนักมาก แล้วก็กังวลในเรื่อง e-loyalty ด้วยคุยกันได้นะ จากคุณ : boogyzz - [ 23 พ.ย. 48 21:14:38 ]