ไปค้นคำว่า "temple boxing" เล่นๆในกู่เกิ้ล
ไปเจอข้อความข้างล่างนี้เข้า โพสไว้นานแล้ว
แต่กลับเข้ากับบรรยากาศหุ้นตอนนี้พอดี
เลยถือโอกาสเอามารีโพสอีกรอบ
ราคาตลาดของหุ้น
ถ้ามันเป็นไปตามแรงกรรมของผลประกอบการล้วนๆ
ไม่จำเป็นต้องรู้ว่า
ใครเป็นเจ้ามือ ใครเป็นผู้ครอบครองเงินที่มีอำนาจซื้อนำจริง
ความจริงที่น่าเจ็บปวดคือ
ราคาหุ้นในกรอบแรงกรรมของผลประกอบการ
จะไม่มี "เจ้ามือ" ตัวจริงเสียงจริง
ทำให้หุ้นตัวนั้นกลายเป็น
"หุ้นไม่มีสภาพคล่องคอ"
พอมันไม่มีเจ้ามือ ที่จะใส่เงินก้อนยักษ์เข้ามาปั่นหุ้นตัวนั้น
หุ้นก็จะขึ้นลงอยู่ในกรอบบริเวณของ
ราคาตลาด ตามแรงกรรมของผลประกอบการ
ซึ่งในกรอบบริเวณนี้ เราดูแค่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น
บวกลบ สภาพคล่องคอ และข่าวดีร้ายจริงตามปัจจุบันก็พอ
แต่ถ้าหุ้นมีความเป็น "ตลาด" เมื่อไร
ก็จะเกิดอุปสงค์ อุปทานที่แตกต่างกันมาก ในหุ้นนั้นๆขึ้น
เงินกับหุ้น จะอยู่สลับตำแหน่งกันตลอดเวลา
หุ้นได้หลุดเข้าไปอยู่กรอบราคาตลาดตาม
แรงกรรมแห่งความโลภและความกลัวแบบเข้มข้น
เกมล่าส่วนเกินทุน
จะมีข่าวดีและข่าวร้ายเกินปัจจุบัน
เป็นตัวทวีคูณ ทำให้ราคาหุ้นขึ้นลงได้แบบไร้เหตุผล
ด้วยปริมาณเงินที่อัดใส่เข้าไป พร้อมกับความโลภของคน
ราคาหุ้นจะขึ้นไปได้เรื่อยๆ
"เมื่อมีเงินก้อนใหม่ๆ ใส่เข้าไปในหุ้นตัวนั้นเพิ่มขึ้น
และหรือไม่ก็มีการกักปริมาณหุ้นหมุนเวียนที่แท้จริง
ออกจากตลาดชั่วคราว
ถ้ากักออกจากตลาดด้วยแรงกรรมของผลประกอบการ
ราคาหุ้นสามารถไปต่อได้เรื่อยๆ แบบมั่นคงในระยะยาว
แต่ถ้าถูกกักออกไป
เพราะมีเจตนาจะหลอกล่อให้คนที่ยังไม่ได้ถือครองหุ้น
ถูกออสโมซิสความคิด
จากฝั่งกลัวมาอยู่ฝั่งโลภ
ราคาหุ้นจะลงได้เร็วมากยิ่งกว่าขาขึ้น
ราคาหุ้นที่ลอยอยู่ในกรอบแรงกรรมแห่งความโลภฯ
เงินกับหุ้น จะสลับตำแหน่งกันเร็วมาก
เร็วจนคนที่รวยอย่างแน่นอนที่สุดคือ
คนเก็บค่าต๋ง
แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 49 08:55:00