ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำให้  กลับไปทบทวน  แนวคิดอีกรอบนะครับ หรือหาอ่านได้จาก กระทู้เก่าๆ ก็ได้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I3990755/I3990755.html ขออภัยนะครับ  ถ้าคำตอบไม่ตรงใจครับ จากคุณ : Vprawat - [ 5 ม.ค. 49 14:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แนะนำเพิ่มเติมนะครับ ลองไปเริ่มต้นที่พื้นฐาน กระทู้คุณเด่นศรี 2 กระทู้เริ่มต้น นะครับ :) ผมเข้ากรุงเทพเมื่อวานเย็น เพิ่งรู้ว่าหุ้นขึ้น :) สำหรับแผนของผมแล้ว วันไหนมีเวลาก็ดูมากหน่อย เวลาน้อยก็ดูน้อยหน่อย ช่วงออกไปเที่ยวหรือทำงานก็จะไม่ดูเลยครับ หาวิธีที่เหมาะสมและวางแผนที่เหมาะสมกับตัวเองนะครับ :) จากคุณ : BeSmile - [ 5 ม.ค. 49 17:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อก่อนผมก็เป็นครับ เด้งแล้วซื้อคืนไม่ทัน แต่เดี๋ยวนี้ กลายเป็นว่ามีเด้งให้ซื้อคืนเยอะไปหมด แต่ไม่มีเงินจะมาซื้อคืนง่ะ แต่ก็ยังยิ้มแย้ม เบิกบานเหมือนเดิม จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 5 ม.ค. 49 19:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ในวิธีนี้ แนะนำให้อ่านหลาย ๆ รอบ ด้วยคนครับ ขออนุญาต แนะนำหน่อยครับ ถ้าเราคิดว่าจะลงทุนในหุ้น อย่ามองหากำไรครับ มันไม่ยั่งยืน มองหาวิธีที่เป็นระบบ ดีกว่าครับ  ทุนไม่หาย ไปไหนหรอก เดี๋ยวมาเอง จากคุณ : Littlebigman - [ 5 ม.ค. 49 23:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีใครที่จะตอบแบบจริงใจบ้าง ในที่นี้ เสียดาย ที่คุณเด่นศรี ได้ถ่ายทอดวิชาให้ แต่คนที่เป็นรุ่นหลังกลับใจคอคับแคบ เสียใจ เสียใจ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ เห็นแก่ตัว มิน่าคุณเด่นศรี จึงไม่มาตอบกระทู้อีกเลย ถ้าคุณเด่นศรี ใจคับแคบเหมือนพวกคุณ พวกคุณจะมีวันนี้ไหม????? ได้โปรดตอบคำถามอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาให้เหมือนที่คุณเด่นศรี ได้สอนพวกคุณ ด้วยอย่าได้เก็บภูมิ ความรู้แบบอัตตาไว้เลยครับ อย่างไรผมต้องขอโทษสำหรับพวก Dsmersที่ดีด้วยครับ พวกที่มีจิตใจไม่ดีก็ให้รับกันไปแล้วกัน จากคุณ : chaiyan - [ 6 ม.ค. 49 12:53:21 A:58.9.210.189 X: TicketID:100832 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ข้าน้อยน้อมรับการสั่งสอนจากท่าน chaiyan โปรดกรุณาด้วยครับท่าน จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 6 ม.ค. 49 14:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความเห็น5 คุณสายัณห์ ตอบตรงประเด็นที่สุด จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 6 ม.ค. 49 16:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มันเป็น วาไรตี้ครับ แบบฉบับ อยู่ที่ อาจารย์เด่นศรี ศึกษาอย่างมุ่งมั่น แล้วจะ(ยิ้ม) ครับ (ยิ้ม) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 ม.ค. 49 21:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทุกคนต่างก็เกิดมาต่างกัน ผมบางครั้งได้มีโอกาสอยู่ใกล้คุณเด่นศรี ยังรู้สึกอบอุ่นเลยครับ อิอิ ถ้าเป็นผู้หญิงจะแอบจีบจริงๆด้วย ถ้าทุกคนเป็นอย่างคุณเด่นศรี แล้วโลกนี้จะเป็นอย่างไร? ทุกคนที่เข้ามาตอบ ผมคิดว่า เขาก็มีจิตใจเอื้อเฟื้อในแบบฉบับของเขาแล้วครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 6 ม.ค. 49 22:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีครับ พี่กุ้ง คุณ chaiyan ครับ แบบไหนเรียก จริงใจ แบบไหนเรียก ใจแคบครับ? เท่าที่ผมอ่าน ผมว่าตรงๆดีแล้ว เพราะจากคำถามของ จขกท แล้ว ดูเหมือนยังไม่เข้าถึงคอนเซป ของ DSM DSM ไม่ใช่แค่วิธีการ ที่จะบอก ออกมาเป็นข้อๆแล้วจบ และถ้าเอาไปแค่วิธีการ อาจหลงทางได้ และสุดท้าย คำถามเกือบทุกคำถามเคยเกิดขึ้นในบอร์ดแห่งนี้แล้ว หลายๆคนที่ตอบจึง ให้กลับไปอ่านๆๆๆ ในกระทู้เก่าๆ เรื่องซื้อคืนไม่ได้ ทำงัย ต้องซื้อตัวอื่น(แปลงร่าง) ไม๊ ต้องเฝ้าจอหรือเปล่า เหล่านี้ถามกันมาจนทำเป็น FAQ ได้แล้วนะครับผมว่า จากคุณ : มือใหม่DSM - [ 7 ม.ค. 49 09:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ไอ้ที่อยากตอบ กลับไม่มีใครอยากรู้แฮะ 555 แถมเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาด้วย กว่าจะรู้ได้ไม่ใช่ง่าย ลองผิดลองถูกหลายรอบ กว่าจะเก็ต สงสัยชอบแบบ สำเร็จรูป ไม่มันเลยแบบนี้ ผมชอบแบบหนังซีรี่ ครับ จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 7 ม.ค. 49 10:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สรุปว่าไม่มีใครตอบผมเลยครับ ว่าจะทำอย่างไร แงๆ T_T ปัญหาของผมคือ อ่านหลายรอบแล้ว ไม่รู้ว่าที่เข้าใจนั้น ที่ตีความไปเองนั้น ถูกต้องหรือเปล่า ก็เลยมาถาม T_T ผมซื้อ TPI ตอน 7.80 มา 20000 พอหุ้นตก ขายไปเรื่อยๆ ไม้ละ 2000 จนถึง 6.80 ขายหมดมือ จากนั้นไม่ได้ดูหุ้นเลย จนมาพบอีกที 7.90 คิดว่าเดี๋ยวคงตกมาให้ซื้อ ก็รอ หายไปพักนึง (ไม่มีเวลาดู) มาอีก 8.50 แล้ว T_T รู้งี้เก็บไว้ก็ดี ผมจะทำไงดีครับ 1. รอลงมาซื้อจับคู่ (คงลงยากช่วงนี้) 2. เอาเงินที่ขายไปมาซื้อต่อ ไม่สนใจเงินที่หายไป แล้วทำ DSM ต่ออีก ถ้าขึ้นก็ดี ถ้าลงก็มาช้อนของเก่าได้ แล้วถ้าซื้อ เข้าที่เท่าไหร่ดีครับ แล้วซื้อกี่หุ้น ถ้าจะมีใครกรุณาก็ช่วยตอบผมหน่อยนะครับ มารออยู่ ขอบคุณครับ ขอบคุณคุณ Chaiyan มากที่ช่วยเร่ง แต่ผมก็ไม่อยากให้มีกระทบกัน ช่วยตอบผมหน่อยดีกว่าครับ ซื้อ? ขาย? รอ ? ทำอะไรไม่ถูกแล้ว ฮือๆ T_T จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 7 ม.ค. 49 11:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ   ผมขอตอบในสไตล์ของผมนะครับ   (โดนใจใครป่าว มะรู้ )  ผมขอตอบกว้างๆ นะครับ ขายหุ้นเพื่อ ?       สร้างโอกาสซื้อ ขายเป็นส่วนๆ เพื่อ ?       เหลือหุ้น ไว้เล่นได้ตลอด  ทั้งสองทาง ซื้อหุ้นคืน  เมื่อ ?     ซื้อให้ถูกกว่าขาย   และรอซื้อคืนได้ตราบนานเท่านาน ผมขอแนะนำเพิ่มว่า   ควรจะเลือกหุ้นให้เหมาะสมกับวิธีการและเวลาในการดูแลหุ้น ให้ดีกว่านี้จะดีกว่านะครับจะได้สบายใจ  และ ลงทุนอย่างเป็นสุขใจ มีอะไรเชิญถามต่อได้ครับ   มีคนอยากตอบเยอะแยะ  อิอิ เข้ามาตอบครับ   ปล. คำตอบบางคำตอบไม่เหมาะสมที่จะตอบในที่สาธารณะครับ ปล.2  ผมคิดว่า  ถ้าจะให้ดี  มีอมยิ้มมาคุยกันดีกว่าครับ  จะได้  ยิ้ม  ยิ้ม  และ ยิ้ม.........กว้าง  ครับ   สุดท้าย  (ไม่ยอมจบสักที  อิอิ)   พี่ท่านหนึ่งที่เป็นที่เคารพและรักของผม  บอกว่า  "DSM  ไม่เหมาะกับคนทุกคน"  (เป็นท่านใด  คนที่อยู่ในคลับนานๆ คงจะทราบครับ  อิอิ) จากคุณ : Vprawat - [ 7 ม.ค. 49 12:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 -ข้อ2 ไม่แนะนำให้ทำถ้าคิดจะทำ dsm ซื้อต้องถูกกว่าขาย เท่าที่อ่านดู คุณไฟล์ท B ทีน้ำเงิน ยังไม่เข้าใจ dsm ดีพอ และยิ่งอันตราย ถ้าเอามาใช้ไม่หมด เอาบางอย่างของdsmมาใช้ ส่วนข้อที่1ก็ทำได้ ยังไงต้องรอถ้าทำ dsm แต่เราก็มีทางแก้โดยอย่าปล่อยให้เงินขี้เกียจ จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 7 ม.ค. 49 12:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ควรจะเลือกหุ้นให้เหมาะสมกับวิธีการและเวลาในการดูแลหุ้น เล่นหุ้น ร้อนๆๆๆๆ แต่ไม่มีเวลาดู มันก็ไม่สมดุลซิครับท่าน ขอให้โชคดีมีเงินใช้ สู่อิสรภาพโดยเร็ววันนะครับท่าน จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 7 ม.ค. 49 14:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอออกตัวก่อนครับว่า ผมพึ่งได้ศึกษา DSM ได้ไม่นาน (จริงๆแล้วยังไม่ได้มี port เป็นของตัวเองด้วยซ้ำ) แต่ขอตอบคำถาม จขกท ตามความเข้าใจนะครับ จากความคิดเห็นที่ 12 "ผมซื้อ TPI ตอน 7.80 มา 20000 พอหุ้นตก ขายไปเรื่อยๆ ไม้ละ 2000 จนถึง 6.80 ขายหมดมือ จากนั้นไม่ได้ดูหุ้นเลย จนมาพบอีกที 7.90 คิดว่าเดี๋ยวคงตกมาให้ซื้อ ก็รอ หายไปพักนึง (ไม่มีเวลาดู) มาอีก 8.50 แล้ว T_T รู้งี้เก็บไว้ก็ดี" .........................ผมเห็นว่า ...................การขายเมื่อลงทุก 2 ช่อง จำนวน 10 %นั้น ก็ตามสูตรมาตรฐาน ถูกต้องแล้วครับ (แดง2ขาย.............แต่ตรงนี้ใครจะไปปรับประยุกต์อย่างไรแล้วแต่สไตล์ส่วนตัวครับ) แต่เราต้องคอยจังหวะซื้อคืนด้วย (กฏซื้อคืน สามข้อ) กรณี จขกท ขายได้แล้วจนหมดไม้แต่ไม่ได้เฝ้าตอนจะซื้อคืน (ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก) จึงทำให้พลาดโอกาสสร้าง กงสฝ ........................................................... ปัญหาใหญ่คือ ไม่มีกองกลาง และกองหน้าด้วย เพราะขายจนหมดตัก แบบนี้ถ้ามองว่าว่าหุ้นทั้ง 100% นั้นคือกองหลัง ก็คงต้องรอให้ราคากลับมาต่ำกว่า 6.8 (TPI).........เวลาเป็น infinity (แต่จริงๆก็คือขาดทุนไปแล้วหละถ้ามองในแง่เล่นเก็งกำไร แต่ถ้าตามหลัก DSM ก็คงไม่เอาราคาคูณ volume ให้เสียสมาธิแน่) จะแปลงร่างก็คงจะไม่ใช่กรณีนี้ ข้อมูลย้อนหลังยังไม่มี หุ้นตัวอื่นยังไม่มี ผมคงต้องบอกว่าด้วยสถานการณ์ที่ตลาดปรับฐานอยู่ตอนนี้ คงต้องรออย่างเดียวครับ.....................หรือไม่ก็คิดซะว่าเรายังศึกษาไม่แม่นพอแล้วไปใช้ DSM คงต้องยอมตัดใจขาดทุนไป แล้วเริ่มเล่นรอบใหม่ครับ ไม่แน่ใจว่าคำตอบจะตรงใจหรือไม่ ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง ต้องขออภัยและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้รู้ด้วยครับ จากคุณ : freefree (Freefree) - [ 7 ม.ค. 49 14:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมขอตอบดูบ้างน๊ะครับ..ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยครับผมติดตามอ่านและได้ทำ DSM มาหลายเดือนแล้ว ตัวผมเองเข้าใจว่าเราควรจะมองที่การสะสมหุ้น ดังนั้นผมจะไม่ปล่อยหุ้นให้หมดมือ โดยถ้าหุ้นลงมาแล้ว และได้ขายไปทีละ 10% จำนวน 3 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 4 ผมจะซื้อคืนให้หมด และถ้าลงอีกผมจะทำเหมือนเดิม ดังนั้นหุ้นของผมจะมีอย่างน้อย 70% ตลอดครับ ไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่าแต่ก็สะสม กสงฝ ได้มาบ้างแล้วขอสำคัญต้องเก็บข้อมูลและทำบัญชีให้ดีๆ คุณจะขายและซื้อคืนได้แน่นอนครับ จากคุณ : นายขนุน (นายขนุน) - [ 7 ม.ค. 49 16:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ คุณมือใหม่DSM ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ สบายดีหรือเปล่า? สวัสดีครับ จขกท ผมคิดว่า จขกท คงเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อแน่นอน สิ่งนี้ก็เป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่าครับ ผมคิดว่า ท่านจูล่ง ตอบได้น่าสนใจครับ นิสัยของหุ้น กับ นิสัยของ จขกท มันต้องหาจุดที่สมดุลขึ้น หรือไม่? ผมเองเคยผ่านจุดนี้มาแล้วครับ ตอนนั้นขาดทุนมากมายมหาศาลทีเดียว ส่วนตัวแล้วตอนนั้นผมเองให้เวลา หรือ สนใจพอร์ทของ ตัวเองน้อยกว่า ความคาดหวัง ในการลงทุน ครับ แล้วผมก็คอยปลอบใจตัวเองว่า ต้องทำงาน ทำให้มีเวลาใส่ใจพอร์ทน้อย พอร์ทเลยเสียหายมากมาย คำแก้ตัวต่างๆ ไม่สามารถแก้ไข พอร์ทได้ครับ ทำได้ก็แต่ลืมๆมันไป แล้วกลับมาตั้งต้นใหม่ ทำได้คือ จดไว้ในสมุดบันทึกความผิดพลาดว่า จะไม่ทำอย่างนี้อีก เป็นครั้งที่สองครับ ผมเชื่อว่า ไม่ว่าท่านใดจะตอบ จขกท เช่นไร ก็คงจะไม่ถูก ใจท่านเป็นแน่แท้ เพราะความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว ที่ทำได้ก็คือ ทำใจ ครับ จดจำไว้เป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่า อยู่ในตลาด ต้องหนักแน่น พอควรครับ ไม่งั้น เขว เอาง่ายๆ ตอนนี้ คนที่ทำดีเอสเอ็ม แบบเข้าใจ คงมีแต่ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม เป็นแน่แท้ครับ ยิ้ม ยิ้ม ด้วยคน จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 7 ม.ค. 49 21:24:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พอดีพี่หมอ Vprawat บอกให้มาแจมก็ขอตอบหน่อยแล้วกันครับ ผมติดใจคำพูดนี้ครับ "ขาดทุนไปมากเลย" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จขกท. ยังไม่เข้าใจ DSM ในฐานะที่เป็นมือใหม่เหมือนกัน ผมขอแนะนำให้ทำความเข้าใจ DSM ที่คุณจูล่งได้ทำไว้ให้อ่านอีกหลายๆรอบครับแล้ว "คุณจะรู้เองว่า   เมื่อมันลง   แล้วมันก็ต้องขึ้น      เมื่อมันขึ้น   เดี๋ยวมันก็ต้องลง" ผมขอยืมคำพูดพี่เด่นศรีมาให้คิดกันครับว่า "หากเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลงทุน      แม้จะขายหมู    ก็จะยังสามารถต้อนหมูกลับเข้าเล้าได้     และในขณะที่ซื้อแล้วอยู่บนดอย    ก็สามารถลงดอยได้อย่างสบาย ๆ     ....    ขอเพียง      มีคำตอบและทางออกให้เรียบร้อยก่อนที่จะเข้าซื้อหรือขายหุ้น" จากคุณ : Nuatja - [ 7 ม.ค. 49 22:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาให้กำลังใจคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงินครับ "dsm ต้องมีทำผิด" "ทำผิดต้องมีแก้ไข" "มองแง่ดีสิครับ  ว่าคุณได้ประสบการณ์ที่ดีแล้ว เพียงแค่ยังขาดอีกขั้นตอนคือ  ซื้อเมื่อราคาหักหัวขึ้นไงครับ ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายไป ถ้าคุณรวบหมด ก็ได้หุ้นคืนครบ + เงินแฝงแล้ว" "สรุปบทเรียน  ทบทวนใหม่แล้วก้าวต่อไป" "ไม่ควรซื้อหุ้นที่แพงกว่าราคาที่ขายไป เพราะจะงงในการทำบัญชี ได้ บัญชีต้องเก็บเอาไว้ ถ้าจะซื้อก็ไปซื้อตัวใหม่ครับ" "dsmer ที่ดี ใจไม่เสียศูนย์กับเรื่องอย่างนี้หรอกครับ" "ทำได้แค่.....ยิ้ม....ยิ้ม....."  เพราะเราก็ผิดอยู่บ่อยๆ "เมื่อไหร่ที่แก้ได้แล้วสิ  จะยิ้มแบบไม่หุบ แต่อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์ด้วยนะครับ"                       แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 00:01:09 จากคุณ : ขวัญชัย - [ 7 ม.ค. 49 23:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โจทย์คือ ขายหมดมือตอนหุ้นลง แต่ตอนมันเด้งขึ้น ท่านจขกท.ซื้อกลับไม่ทัน คาดว่าท่านคงไม่ได้เฝ้าหน้าจอ เลยกังวลว่าทำไงดี ต้องเฝ้าหน้าจอหรือไม่? ถ้าผมได้มาตอบคนแรก ก็คงแนะนำให้ไปอ่านคลังกระทู้เหมือนกัน...และคงถูกด่าไปแล้วเหมือนกัน เอาเป็นว่า ผมตอบแบบจริงใจสุดๆเลยดีกว่า กรณีแบบนี้ ผมมี 3 ทางเลือก 1.รอมันลงมาจนกว่าจะถึงจุดซื้อได้... DSM เวลาเป็นอนันต์ครับ ไม่ซื้อวันนี้ก็ซื้อวันหน้า ไม่มีใครบังคับผมต้องซื้อกลับภายในเดือนนี้ หรือไตรมาสนี้นี่นา หรือถ้ามันจะขึ้นไปเรื่อยๆ ชาตินี้ไม่ลงอีก อย่างน้อยๆ ผมก็ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวผมเอง (เช่น ถ้าผมเฝ้าจอไม่ได้ ก็จะไม่เลือกหุ้นประเภทติดจรวดแน่ๆ) 2.ซื้อตัวอื่นไปเลยครับ... สบายใจดี เหมือนเลิกกับแฟนเก่า ก็ไปหาแฟนใหม่ ไม่เจ็บไม่ปวดไม่ทรมานดี แต่วิธีนี้ต้องมีเงินสำรองบ้างนะครับ เพราะขณะที่เราสนุกกับของใหม่ ตัวเก่าตกลงมา ให้ซื้อ แต่ไม่มีเงินจะซื้อ เราจะเจ็บใจอีกเที่ยว 3.ถ้าคิดอีก 4-5 ตลบแล้ว รักหุ้นนี้จริงๆ ชาตินี้ไม่ถือตัวนี้คงเสียชาติเกิดเป็นแน่ ก็ซื้อเข้าไปใหม่สิครับ แพงกว่าก็แพง ช่างมัน ฉันไม่แคร์ แต่จะทำแบบนี้ได้ ผมคิดว่าท่านจขกท.ต้องเข้าใจ DSM ขนาดคิดระบบบัญชีเองได้นะครับ เพราะ ถ้ายังยืมระบบคนอื่นใช้อยู่ จะงงซะเปล่าๆ รวมทั้งท่านต้องใจนิ่งสุดๆ ต้องมองมูลค่า Port ลดลงไม่ต่ำว่า 50%ได้โดยไม่ต้องกินยาแก้เครียด ข้อ3 นี้ผมว่าทำยากที่สุด ทั้งงง ทั้งทรมานใจเหลือเกิน และจะนำไปสู่การไม่แน่ใจใน DSM ---> แล้วท่านก็จะเลิกกลางคัน ---> แล้วท่านจะเจ๊งหุ้น แบบวินาศสันตะโรทันที เป็นไงครับ ตอบแบบนี้ ถูกใจหรือเปล่าครับ? จริงๆขอสารภาพว่าผมเข้ามาอ่านตั้งแต่คุณหมอwat มาตอบแล้วล่ะครับ และผมก็ว่าจะตอบแบบนั้น ถ้าไม่มีคำตอบของคุณหมอwat มาก่อน วันนี้มาอ่านอีกที เจอบางความเห็นแล้วงงไปเลย ผมไม่ตอบละเอียดนี่ มีความผิดด้วยเหรอครับ มันแสดงถึงความไร้น้ำใจต่อเพื่อนนักลงทุนด้วยกันขนาดนั้นเลยเหรอ แถมบางกระทู้..ล่างๆ หาว่า DSM ติงต๊องอีก เอ หรือผมจะเงียบๆไปเลยดีกว่า ถ้าตอบไม่ Clear ใน 2-3 บรรทัด ก็ไม่ต้องตอบ หรือใครมาถามอะไรที่มีในคลังกระทู้ก็ไม่ต้องตอบดีไม๊ครับ ถ้าผมแนะนำให้ไปอ่านวิธีจับปลาแต่ไม่ชอบกัน..จะรอให้ผมปรุงมาเสริฟถึงโต๊ะ ผมคงออกเรือไปจับปลาเองกินเองดีกว่ามั้งครับ...อย่างน้อยๆก็ไม่โดนด่าล่ะ ปล.ขอเสนอแนะว่า ถ้าคราวหลัง ท่านใดตั้งกระทู้ เพื่อต้องการคำอธิบายแบบละเอียดๆเท่านั้น กรุณาหมายเหตุไว้ด้วยนะครับ ผมจะได้ไม่ไปเสร่อตอบให้ท่านขุ่นข้องหมองใจอีก จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ - [ 8 ม.ค. 49 02:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณท่านพี่ ไม่เก่งแต่อยากตอบ เสริมนิดหนึ่งนะครับ ผมว่า ถ้าจะรอให้ tpi ลงต่ำกว่า 6.8 บาท คงอีกนานนะครับ เพราะช่วงนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ของหุ้นตัวนี้นะครับ มีทางออกสองอย่างที่อยากจะเสนอ หนึ่ง เปลี่ยนตัวหุ้น แต่จะบอกว่าเปลี่ยนต่อนี้ได้กสงสฝเร็วทันใจแน่นอนครับ สอง รวบรวมเงินซื้อตัวเดิม ถึงราคาจะแพงกว่าที่ขาย แล้วเริ่มต้นใหม่ ส่วนที่ผ่านมาก็ถือเป็นประสบการณ์และก็จดเอาไว้ ว่า ขายราคาอะไรบ้างนะครับ สู้ๆๆนะครับ ท่าน ปล.ขอเสนอแนะว่า ถ้าคราวหลัง ท่านใดตั้งกระทู้ เพื่อต้องการคำอธิบายแบบละเอียดๆเท่านั้น กรุณาหมายเหตุไว้ด้วยนะครับ copy มาจากไม่เก่งแต่อยากตอบ จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 8 ม.ค. 49 15:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับ คุณพี่กุ้ง สบายดีครับผม ไม่ทราบ ไมเกรน ของคุณพี่กุ้งเป็นอย่างไรบ้างแล้วครับ จริงๆอยากรบกวนให้คุณพี่ช่วยแบ่งปันความรู้เรื่องที่ ซื้อทรัพย์ธนาคารไว้ ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะถามหลังไมค์หรือว่าตั้งกระทู้ดี แฮะๆ เรื่อง ที่ซื้อคืนไม่ได้ ผมก็เป็นครับ อย่าง ITD ขายหมดไปตั้งแต่ 9 บาทกว่าๆ แล้วมันก็วิ่งไปโน้น 11 บาทได้มั๊ง แต่ผมใจร้อน หาซื้อนั้น ซื้อนี่มาแทนเต็มไปหมด จนเมื่อรอบที่ผ่านมา มันลงไปทำนิวโลว์เหลือ 7 บาท แต่ขอโทษ ไม่มีเงินพอซื้อคืน นี่วิ่งกลับมา 9 บาทอีกแล้ว ไอ้ตัวที่เข้ามาแทนยังวิ่งเร็วไม่เท่านี้เรย แต่ราคาทุกๆราคา ผมยังจดไว้ เชื่อว่า เมื่อสร้างกระแสเงินสดได้มากพอแล้ว จะค่อยๆรับคืนได้หมด ถามว่าที่ผมทำถูกหรือเปล่า ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูก อย่างน้อยก็ไม่ถูกใจผม ผมว่าผมขยายพอร์ตเร็วเกินไป อีกอย่าง ถ้าผมรอ ITD จริงๆ ผมว่า กระแสเงินสดแฝงผมจะเยอะกว่าตอนนี้ อย่าง TPI ผมได้ยินว่าราคาอัพไซด์มีอีกไม่เกิน 15 % หลายโบรกให้ราคาแค่ 6-7 บาท ดังนั้นผมว่า ถ้าจะรอก็ไม่ผิด ถ้าไม่รอ ซื้อตัวเดิม หรือซื้อ ตัวอื่นมาทำก็ไม่ผิด สำคัญว่า ต้องรู้ว่า ซื้อทำไม หรือทำไมไม่ซื้อ คิดให้รอบคอบ วางแผนไว้ให้หมด หุ้นขึ้นจะทำไร หุ้นลงจะทำไร เหลือเงินเท่าไหร่พอซื้ออะไรคืนที่ราคาเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ แล้วถามตัวเองว่าสบายใจกับวิธีไหน และสุดท้าย ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน ให้จดราคาขายทั้งหมดไว้ เพราะ ซักวันเราจะซื้อมันคืน จากคุณ : มือใหม่DSM - [ 8 ม.ค. 49 21:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ้อ ลืมครับ ขอบคุณ จขกท และ คุณ Chaiyan ที่ทำให้บอร์ดคึกคักขึ้นมาหน่อยครับ ^_^ จากคุณ : มือใหม่DSM - [ 8 ม.ค. 49 21:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับ คุณมือใหม่ ขอหลังไมค์ด้วยครับ จากคุณ : กุ้งไร้สาร - [ 8 ม.ค. 49 22:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จับเข่าคุยกัน คุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน(ขอต้อนรับสมาชิกใหม่) สรุปคือ  คุณจะทำอย่างไรก็ได้  ที่จะจิตใจไม่เสียศูนย์  บัญชีไม่เสียสูญ  (ซื้อตัวเดิม  ซื้อตัวใหม่) เพราะทุกคนที่เกิดสถานการณ์อย่างที่คุณบอก  ส่วนมากจะจิตใจจะเสียศูนย์  เช่น เบื่อ  เซ็ง  เสียดาย  เจ็บใจ ฯลฯ ส่วนมากจะซื้อคืนในราคาที่สูงขึ้น เพราะฉะนั้น  ใจต้องนิ่ง  บัญชีต้องนิ่ง  ไม่เสียรูปขบวน  (พูดซะอย่างกับอยู่ในสถานการณ์รบแน่ะ)  อย่าลืมถ้าผู้นำกองทัพเสียขวัญ  สมรภูมิต่อไป  กองทัพของคุณจะมีสภาพเช่นไร   "สมรภูมินี้  พลาดท่าไป   ยังมีโอกาส แก้ไขสมรภูมิหน้า"                         จากคุณ : ขวัญชัย - [ 8 ม.ค. 49 23:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน  ผมเห็นใจในความกังวลของคุณ ผมถือว่ายังใหม่ใน DSM เริ่มเทรดหุ้นแบบ DSM เมื่อต้นปี 48 นี้เอง อ่านแทบทุกกระทู้ สงสัยอะไรก็กลับไปอ่านซ้ำ ลอกกระทู้ที่มี ทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ออกมาแปะใน word แก้ไข ตกแต่งคำ พิมพ์ออกมารวมเป็นเล่มไว้อ่านส่วนตัว ทุกวันนี้ผมยังไม่เคย post ถามคำถามเลยสักครั้งเดียว แต่จะใช้การอ่านทบทวน และคิดหาเหตุและแนวทางการแก้ไขด้วยตนเอง  หนึ่งในหุ้นที่ผมเทรดปัจจุบันคือ TT&T-W1 คุณไฟล์ท ทีน้ำเงินลองดูแล้วกันว่าผมควรจะกลุ้มหรือไม่ หุ้นตัวนี้ผมเริ่มที่ประมาณ 110,000 หุ้น ผมติดกองหลังอยู่ที่ 1.56 4,000 หุ้น ที่ 1.58  24,900 หุ้น ที่ 1.60  33,700 หุ้น  ปัจจุบันราคาไปอยู่ที่ 2.04  ผมก็กังวล ขุ่นใจ เหมือนคุณนั้นแหละ และจำได้ว่ามีอยู่แค่ช่วงเวลาเดียว ในตอนนั้นที่ราคาถึงจุดซื้อคืนได้แล้ว แต่ซื้อไม่ทัน (ผมเทรดทาง pocket pc) ปัจจุบันผมก็เอาเงินส่วนนี้ไปลงที่ตัวอื่นแล้ว และพยายามเทรดตัวอื่น ๆ สะสม กสงสฝ เผื่อราคาจะลงมาให้เก็บ ที่หลาย ๆ ท่านให้คุณกลับไปอ่านนะ ถูกแล้วครับ อ่าน ๆ ๆ แล้วพยายามคิดว่าจะมาประยุกต์ใช้กับปัญหาของเราตรงไหนได้บ้าง เมื่อมีคำถามให้ไปถามอาจารย์ที่อยู่ในหนังสือให้ครบทุกหน้า ปิดตลาดทุกสิ้นวันให้มองย้อนกลับไปว่าเราพลาดตรงไหน เดาตลาดหรือไม่ จะแก้ตัวอย่างไรให้พลาดน้อยลง สบายใจเถอะครับ อย่างน้อยยังมีผมที่หนักกว่าคุณ จากคุณ : จรัลฯ - [ 9 ม.ค. 49 00:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 " ปัญหาของผมคือ อ่านหลายรอบแล้ว ไม่รู้ว่าที่เข้าใจนั้น ที่ตีความไปเองนั้น ถูกต้องหรือเปล่า ก็เลยมาถาม T_T " คำถามคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน นั้น ผมขอตอบ ข้อที่ว่า ตามความคิดเห็นของผมนะครับ เรื่องเดียวกันนั้น แต่ละคนจะตีความออกไป ตามความคิดที่ผ่านประสบการณ์ นั้น ๆ มา หรือถ้ายังไม่ผ่านเหตการณ์เหล่านั้น สมองเราก็จะเปรียบเทียบกับเหตุการณืที่ใกล้เคียงกัน (ซึ่งตรงนี้แหละครับทำให้เกิดความคิดเห็น ซึ่งสำคัญมาก ๆ :) แล้วประสบการณ์ที่ผ่านมาเกิดจากอะไร ประสบการณ์เกิดจาก 1. ลองลงมือทำเอง (ถ้าลงทุนในหุ้นเราจะเรียกว่า ค่าเทอม อิ อิ ถูกหรือแพง แล้วแต่บุญพา วาสนาส่ง ให้เหยียบยอดดอยหรือตกเหว ใช้เงิน+เวลาของเราเอง :) 2. อ่านหนังสือ ฟัง หรือเรียนรู้จากประสบการณคนอื่น (ลงทุนโดยใช้เวลาของเราในการอ่าน แต่ใช้เวลาและเงินของคนอื่นเยอะมาก) แต่ประสบการณืข้อนี้ จะเป็นรองข้อ 1 ในการเรียนรู้และจดจำ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมจะแนะนำหนังสือไปให้อ่านอีก 1 เล่ม :) *** ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่าน ๆ ที่ได้แสดงความเห็นในกระทู้ต่าง ๆ อีกครั้งหนึ่งครับ :) หลังจากที่เราตีความตามประสบการณ์แล้วนั้น จะเกิดเป็นความคิดความเข้าใจของเราเอง นำมาลงมือปฎิบัติ :) ลองทำใจเย็น ๆ นะครับ ประสบการณ์ที่คุณได้รับไปคราวนี้ ถ้าคุณได้เรียนรู้มัน แล้วนำกลับมาปรับปรุงแก้ไข จะมีประโยชน์สำหรับคุณ ในอนาคตแน่นอน :) ******** ของแถมก่อนจาก เคล็ดลับในการอ่าน กระทู้เพื่อวิเคราะห์ ทุกข้อความ จะมี 1. ข้อเท็จจริง 2. ความคิดเห็น หรือข้อสมมติฐาน 3. กฏ ในเบื้องต้น ถ้าคุณสามารถแยกได้ว่าอะไรเป็นข้อเท็จจริง อะไรเป็นความคิดเห็น นับว่าได้ทะลวงจุดได้ 1 ขั้นแล้ว ในขั้นถัดมา ให้เทียบลำดับความสำคัญ เช่น ข้อเท็จจริงและกฎ มีลำดับความสำคัญกว่าความคิดเห็น และความคิดเห็นเองก็มีหลายระดับ และในตอนเริ่มต้นผมเลยอยากให้ยึดของ พี่เด่นศรีเป็น หลัก :) เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ได้ ลมปราณของคุณก็น่าจะอยู่ในขั้นท่องยุทธจักรได้แล้ว แถมอีกหน่อยหนึ่ง ในเรื่องการท่องยุทธจักรนั้น ยอดฝีมือมีมากหลาย จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผู้น้อยนั้น ในสำนักใหญ่ ๆ มาตรฐาน ก่อนที่จะปล่อยเหล่าศิษย์ออกมาประกอบการ มีขบวนการหลัก ๆ คือ 1. เรียนรู้จากคัมภีร์หรือศิษย์พี่ หาแนวทางที่เหมาะสมกับตนเอง 2. พัฒนาแนวทาง หาท่าไม้ตาย 3. ควบคุมลมปราณ ควบคุมกระบี่ ใช้ได้ดังใจ รวมทุกขั้นตอนใช้เวลาหลาย ๆ ปี สุดท้ายนี้ ขอแนะนำหนังสือ Retire rich Retire Young อีกหนึ่งเล่ม ไว้อ่านประกอบเพื่อหาเคล็ดวิชาจากตำราวิชาพี่เด่นศรี :) จากคุณ : BeSmile - [ 9 ม.ค. 49 12:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คนอื่นก็บอกหมดแล้วครับว่าควรทำยังไง สำหรับผม ถ้าจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้ ก็อยู่ที่แผนของคุณไฟลท์ B สีน้ำเงินนะครับ จะนำไปใช้ทั้งหมด(แปลงร่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวเดิมหรือตัวใหม่)ก็ได้้โดยไม่กลับมาสนใจมันอีกเลย แต่ผมไม่ค่อยแนะนำ นำไปใช้บางส่วนและควรจำกัดขอบเขตครับว่าถ้าส่วนนี้นำไปใช้แล้วยังไม่ได้คืนจะยังไม่มีการขยายพอร์ตมากไปกว่า ซึ่งก็จะไปจบอยู่ที่ข้อแรก คือ "รอ" ครับ เพราะไม่งั้นจะเกิดอาการชอร์ตของเงินครับ ผิดถูกอย่างไรรบกวนแนะนำด้วยครับ จากคุณ : zARKa - [ 9 ม.ค. 49 16:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเสริม ครับว่า ใช้ dsm ต้องใช้ ทั้งกระบวนท่าและกำลังภายใน ครับ หรือง่ายๆ ก็ ใช้แนวคิด แนวทำ เป็น dsm ครับ แต่ก็ถือว่าดีครับ เพราะตัวนี้เจ้าของกระทุ้เจอแบบทดสอบทางแนวคิดของ dsm อยู่ ถ้าผ่านไปได้ อีกหน่อยก็สบาย เหมือนหลาย ๆคนที่นี่เคยเจอ จากคุณ : i-angel - [ 10 ม.ค. 49 12:14:04 A:161.200.255.161 X: TicketID:111128 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผม ขอ โชว์ วัว ตามความคิดผมนะครับ ยึดหลัก ขายแพง ซื้อถูก  แต่ก็ ไม่น่าจะทิ้ง ซื้อถูก ขายแพง นะครับ ค่อยๆ สร้าง และวางแผน ครับ สะสมข้อมูลไว้ ถือเป็นการเสียค่าลงทะเบียนเรียน วิชา จะได้สบายใจ ^^ ถ้าได้ ลองวางแผนทุกวัน รับรองว่าจะต้องมีไอเดียออกมาคุยกันแน่ๆ ครับ พี่ๆ แถวนี้ใจดี ทั้งนั้นแหละครับ แต่เพราะความปรารถนาดี อยากให้ ทุกคนเจอแนวทางของตนเอง อาจทำให้เข้าใจผิดกันไปได้ และที่ผมแน่ใจก็คือ ทุกคนได้ เริ่มต้น จากกระทู้ซ้อสี่ เหมอืนๆ กันครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับว่า จะมีการปกปิด อะไรไว้ ทุกอย่างอยู่ใน คลับนี้ หมดแล้วจริงๆ ^^ ค่อยๆ ศึกษาครับ เปิดใจให้กว้าง แหะๆ พูดซะยืดยาวเลย ถ้ามีส่วนไหน กระทบใครเข้าผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้ นะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 49 20:42:34 จากคุณ : Golden-Bullet - [ 10 ม.ค. 49 20:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอโชว์วัวบ้าง นะครับ  คนอื่น ๆ คงตอบไปหมดแล้วถึงทางออกต่าง ๆ นะครับ ก็คือ.... 1. รอ ร้อ รอ จนลงมาให้ซื้อ                 อันนี้ก็ถูกครับ ซุปเปอร์เบสิก DSM ที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหุ้นขึ้นแล้วก็อาจไม่ลงมาถึงจุดเดิมให้ซื้ออีกก็ได้ ถึงแม้จะบอกว่า DSM มีเวลาเป็น Infinity ก็ตาม แต่ในความเป็นจริง เงินมันนอนนิ่ง ๆ เฉย ๆ คงไม่ดีแน่  เช่น ptt คุณคิดว่าเมือไรมันจะลงมาให้ซื้อที่ราคา 40 บาทอีกรอบ?  ไม่ใช่ว่าไม่แนะนำวิธีนี้นะครับ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าอาจใช้เวลานานมากกกกกกกกกก 2. แปลงร่างมันซะเลย ขี้เกียจรอ                 อันนี้ก็ได้ครับ แต่ต้องระวัง เงินสดขาดมือ ไม่มีเงินมาซื้อคืนตอนหลังนะครับ  เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้วิชานี้ได้แก่กล้า แล้วก็ทำบัญชีได้เองแบบที่คุณไม่เก่งแต่อยากตอบได้บอกไว้ข้างบน นะครับ 3. ลืม ๆ มันซะแล้ว ซื้อมันมาเลยที่ราคาปัจจุบันแล้วเริ่มทำ DSM ใหม่                ไม่แนะนำครับ เพราะคุณไม่ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มเติมเลย เมื่อคุณไม่ได้คิด การพัฒนามันก็ไม่เกิดแน่นอนครับ ความผิดพลาดมันเป็นประสบการณ์ให้คุณไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะโละ ลืมจำนวนหุ้นเก่าไปหรือไม่ เพราะฉะนั้นคิดหาทางออกดีกว่าครับ เพื่อพัฒนาตัวเอง อีกทางที่อยากแนะนำ อาจใช้ร่วมกับ วิธีที่ 2 ควบคู่กันไปก็ได้ ก็คือการคำนวณกระแสเงินสดแฝงล่วงหน้า แล้วใช้มันในการซื้อหุ้น คุณสามารถหาอ่านได้ในกระทู้เก่าที่ คุณปลาดาวถามคุณเด่นศรีครับ อย่างน้อยส่วนหนึ่งของเงินที่คุณขายไปและนอนนิ่ง ๆ อยู่นั้น มันจะได้ทำงานผลิตกระแสเงินสดแฝงให้คุณได้บ้าง คิดว่า วิธีอื่นคงมีอีกนะครับ อยากให้คุณได้คิดเองบ้าง มากกว่า สุดท้ายของให้คุณ จขกท ท่องใจความสำคัญต่อไปนี้ให้ขึ้นใจนะครับ ถ้าคิดจะทำ DSM 1. กำไร ๆๆๆๆ ขาดทุน ๆๆๆๆๆๆๆ ของพอร์ท ถ้ายังไม่เลิกคิดถึงมันอีก เลิก DSM เถอะครับ ขาดทุนป่นปี้เปล่า ๆ 2. มันคือการเปิดร้านขายของครับ ไม่ใช่เล่นหุ้น หุ้นเป็นเพียงสินค้าที่ใช้ในการขายในธุรกิจของเราครับ เพราะฉะนั้น เราซื้อหุ้นครั้งแรก ก็เหมือนซื้อสินค้ามาลงร้านครับ เงินที่ซื้อไป ก็คือเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจนั่นเอง       ลองคิดดูนะครับ ให้สมมุติว่าคุณเปิดร้านขายของ คุณคิดว่ารายได้คุณมาจากไหนครับ ? กำไร ขาดทุน ของธุรกิจคุณคิดยังไงครับ? ที่ไงครับ บัญชีถึงสำคัญ ตราบใดที่คุณยังทำบัญชีเองไม่ได้ ไม่มีทางเติบโตได้เลยครับ มีแต่เจ๊ง กับ เจ๊ง เพราะฉะนั้น ตอนนี้คุณขายสินค้าไปหมดแล้ว คิดต่อเองสิครับว่าทำไงดี? ถึงจะมีสินค้ามาขายอีก? 3. ทุกๆ วันก่อนตลาดเปิด หรือหลังตลาดปิด คุณคิดไว้หรือยังว่า พอตลาดเปิดแล้ว คุณจะทำอะไร ถ้าหุ้นมันขึ้น ?  จะทำอะไรถ้าหุ้นมันลง ?        ไม่ใช่แค่คิดว่าจะทำอะไรอย่างเดียวนะครับ ควรจะคิดด้วยว่าถ้าขึ้นหรือลงแต่ละ step แล้วจะขายเท่าไรจะซื้อเท่าไร จนหุ้นหมดมือน่ะครับ เวลาเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงคุณจะได้ทำได้ตามแผนแบบไม่ลังเลไงครับ  การคิดแบบละเอียดจนถึง step สุดท้ายนี้ ทำให้คุณรู้ล่วงหน้าเลยว่าคุณจะได้กระแสเงินสดแฝงโดยประมาณเท่าไหร่ พอร์ทสมดุลแค่ไหน ช่วยลดความลังเลในการทำตามแผนไงครับ   จากประสบการณ์นะครับ ส่วนมากที่คนลังเลและไม่เป็นไปตามแผน ก็เพราะไม่เคิดประมาณการณ์แผนของตัวเองไว้จนสุดทางน่ะครับ ทำให้หุ้นพอขึ้นหรือลงมาก ๆ ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็หลุดจากแผนที่วางไว้เพราะโดนกดดัน     สุดท้ายนี้ คงย้ำอีกทีนะครับว่า DSM ที่คุณเด่นศรีบอก มันเป็นเพียง"แนวทาง" เท่านั้น วิธีการทำก็ตัวใครตัวมันนะครับ จะพัฒนาแค่ไหนอยู่ที่ว่าเราคิดมากคิดน้อย ขยันทำแผน ทางออก ฯลฯ มากแค่ไหน     ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ หรอกครับ. จากคุณ : Prime Number (Prime Number) - [ 10 ม.ค. 49 23:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอโชว์วัวบ้าง นะครับ  คนอื่น ๆ คงตอบไปหมดแล้วถึงทางออกต่าง ๆ นะครับ ก็คือ.... 1. รอ ร้อ รอ จนลงมาให้ซื้อ                 อันนี้ก็ถูกครับ ซุปเปอร์เบสิก DSM ที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหุ้นขึ้นแล้วก็อาจไม่ลงมาถึงจุดเดิมให้ซื้ออีกก็ได้ ถึงแม้จะบอกว่า DSM มีเวลาเป็น Infinity ก็ตาม แต่ในความเป็นจริง เงินมันนอนนิ่ง ๆ เฉย ๆ คงไม่ดีแน่  เช่น ptt คุณคิดว่าเมือไรมันจะลงมาให้ซื้อที่ราคา 40 บาทอีกรอบ?  ไม่ใช่ว่าไม่แนะนำวิธีนี้นะครับ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าอาจใช้เวลานานมากกกกกกกกกก 2. แปลงร่างมันซะเลย ขี้เกียจรอ                 อันนี้ก็ได้ครับ แต่ต้องระวัง เงินสดขาดมือ ไม่มีเงินมาซื้อคืนตอนหลังนะครับ  เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้วิชานี้ได้แก่กล้า แล้วก็ทำบัญชีได้เองแบบที่คุณไม่เก่งแต่อยากตอบได้บอกไว้ข้างบน นะครับ 3. ลืม ๆ มันซะแล้ว ซื้อมันมาเลยที่ราคาปัจจุบันแล้วเริ่มทำ DSM ใหม่                ไม่แนะนำครับ เพราะคุณไม่ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มเติมเลย เมื่อคุณไม่ได้คิด การพัฒนามันก็ไม่เกิดแน่นอนครับ ความผิดพลาดมันเป็นประสบการณ์ให้คุณไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะโละ ลืมจำนวนหุ้นเก่าไปหรือไม่ เพราะฉะนั้นคิดหาทางออกดีกว่าครับ เพื่อพัฒนาตัวเอง อีกทางที่อยากแนะนำ อาจใช้ร่วมกับ วิธีที่ 2 ควบคู่กันไปก็ได้ ก็คือการคำนวณกระแสเงินสดแฝงล่วงหน้า แล้วใช้มันในการซื้อหุ้น คุณสามารถหาอ่านได้ในกระทู้เก่าที่ คุณปลาดาวถามคุณเด่นศรีครับ อย่างน้อยส่วนหนึ่งของเงินที่คุณขายไปและนอนนิ่ง ๆ อยู่นั้น มันจะได้ทำงานผลิตกระแสเงินสดแฝงให้คุณได้บ้าง คิดว่า วิธีอื่นคงมีอีกนะครับ อยากให้คุณได้คิดเองบ้าง มากกว่า สุดท้ายของให้คุณ จขกท ท่องใจความสำคัญต่อไปนี้ให้ขึ้นใจนะครับ ถ้าคิดจะทำ DSM 1. กำไร ๆๆๆๆ ขาดทุน ๆๆๆๆๆๆๆ ของพอร์ท ถ้ายังไม่เลิกคิดถึงมันอีก เลิก DSM เถอะครับ ขาดทุนป่นปี้เปล่า ๆ 2. มันคือการเปิดร้านขายของครับ ไม่ใช่เล่นหุ้น หุ้นเป็นเพียงสินค้าที่ใช้ในการขายในธุรกิจของเราครับ เพราะฉะนั้น เราซื้อหุ้นครั้งแรก ก็เหมือนซื้อสินค้ามาลงร้านครับ เงินที่ซื้อไป ก็คือเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจนั่นเอง       ลองคิดดูนะครับ ให้สมมุติว่าคุณเปิดร้านขายของ คุณคิดว่ารายได้คุณมาจากไหนครับ ? กำไร ขาดทุน ของธุรกิจคุณคิดยังไงครับ? ที่ไงครับ บัญชีถึงสำคัญ ตราบใดที่คุณยังทำบัญชีเองไม่ได้ ไม่มีทางเติบโตได้เลยครับ มีแต่เจ๊ง กับ เจ๊ง เพราะฉะนั้น ตอนนี้คุณขายสินค้าไปหมดแล้ว คิดต่อเองสิครับว่าทำไงดี? ถึงจะมีสินค้ามาขายอีก? 3. ทุกๆ วันก่อนตลาดเปิด หรือหลังตลาดปิด คุณคิดไว้หรือยังว่า พอตลาดเปิดแล้ว คุณจะทำอะไร ถ้าหุ้นมันขึ้น ?  จะทำอะไรถ้าหุ้นมันลง ?        ไม่ใช่แค่คิดว่าจะทำอะไรอย่างเดียวนะครับ ควรจะคิดด้วยว่าถ้าขึ้นหรือลงแต่ละ step แล้วจะขายเท่าไรจะซื้อเท่าไร จนหุ้นหมดมือน่ะครับ เวลาเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงคุณจะได้ทำได้ตามแผนแบบไม่ลังเลไงครับ  การคิดแบบละเอียดจนถึง step สุดท้ายนี้ ทำให้คุณรู้ล่วงหน้าเลยว่าคุณจะได้กระแสเงินสดแฝงโดยประมาณเท่าไหร่ พอร์ทสมดุลแค่ไหน ช่วยลดความลังเลในการทำตามแผนไงครับ   จากประสบการณ์นะครับ ส่วนมากที่คนลังเลและไม่เป็นไปตามแผน ก็เพราะไม่เคิดประมาณการณ์แผนของตัวเองไว้จนสุดทางน่ะครับ ทำให้หุ้นพอขึ้นหรือลงมาก ๆ ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็หลุดจากแผนที่วางไว้เพราะโดนกดดัน     สุดท้ายนี้ คงย้ำอีกทีนะครับว่า DSM ที่คุณเด่นศรีบอก มันเป็นเพียง"แนวทาง" เท่านั้น วิธีการทำก็ตัวใครตัวมันนะครับ จะพัฒนาแค่ไหนอยู่ที่ว่าเราคิดมากคิดน้อย ขยันทำแผน ทางออก ฯลฯ มากแค่ไหน     ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ หรอกครับ. จากคุณ : Prime Number - [ 10 ม.ค. 49 23:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอโชว์วัวบ้าง นะครับ  คนอื่น ๆ คงตอบไปหมดแล้วถึงทางออกต่าง ๆ นะครับ ก็คือ.... 1. รอ ร้อ รอ จนลงมาให้ซื้อ                 อันนี้ก็ถูกครับ ซุปเปอร์เบสิก DSM ที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหุ้นขึ้นแล้วก็อาจไม่ลงมาถึงจุดเดิมให้ซื้ออีกก็ได้ ถึงแม้จะบอกว่า DSM มีเวลาเป็น Infinity ก็ตาม แต่ในความเป็นจริง เงินมันนอนนิ่ง ๆ เฉย ๆ คงไม่ดีแน่  เช่น ptt คุณคิดว่าเมือไรมันจะลงมาให้ซื้อที่ราคา 40 บาทอีกรอบ?  ไม่ใช่ว่าไม่แนะนำวิธีนี้นะครับ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าอาจใช้เวลานานมากกกกกกกกกก 2. แปลงร่างมันซะเลย ขี้เกียจรอ                 อันนี้ก็ได้ครับ แต่ต้องระวัง เงินสดขาดมือ ไม่มีเงินมาซื้อคืนตอนหลังนะครับ  เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้วิชานี้ได้แก่กล้า แล้วก็ทำบัญชีได้เองแบบที่คุณไม่เก่งแต่อยากตอบได้บอกไว้ข้างบน นะครับ 3. ลืม ๆ มันซะแล้ว ซื้อมันมาเลยที่ราคาปัจจุบันแล้วเริ่มทำ DSM ใหม่                ไม่แนะนำครับ เพราะคุณไม่ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มเติมเลย เมื่อคุณไม่ได้คิด การพัฒนามันก็ไม่เกิดแน่นอนครับ ความผิดพลาดมันเป็นประสบการณ์ให้คุณไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะโละ ลืมจำนวนหุ้นเก่าไปหรือไม่ เพราะฉะนั้นคิดหาทางออกดีกว่าครับ เพื่อพัฒนาตัวเอง อีกทางที่อยากแนะนำ อาจใช้ร่วมกับ วิธีที่ 2 ควบคู่กันไปก็ได้ ก็คือการคำนวณกระแสเงินสดแฝงล่วงหน้า แล้วใช้มันในการซื้อหุ้น คุณสามารถหาอ่านได้ในกระทู้เก่าที่ คุณปลาดาวถามคุณเด่นศรีครับ อย่างน้อยส่วนหนึ่งของเงินที่คุณขายไปและนอนนิ่ง ๆ อยู่นั้น มันจะได้ทำงานผลิตกระแสเงินสดแฝงให้คุณได้บ้าง คิดว่า วิธีอื่นคงมีอีกนะครับ อยากให้คุณได้คิดเองบ้าง มากกว่า สุดท้ายของให้คุณ จขกท ท่องใจความสำคัญต่อไปนี้ให้ขึ้นใจนะครับ ถ้าคิดจะทำ DSM 1. กำไร ๆๆๆๆ ขาดทุน ๆๆๆๆๆๆๆ ของพอร์ท ถ้ายังไม่เลิกคิดถึงมันอีก เลิก DSM เถอะครับ ขาดทุนป่นปี้เปล่า ๆ 2. มันคือการเปิดร้านขายของครับ ไม่ใช่เล่นหุ้น หุ้นเป็นเพียงสินค้าที่ใช้ในการขายในธุรกิจของเราครับ เพราะฉะนั้น เราซื้อหุ้นครั้งแรก ก็เหมือนซื้อสินค้ามาลงร้านครับ เงินที่ซื้อไป ก็คือเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจนั่นเอง       ลองคิดดูนะครับ ให้สมมุติว่าคุณเปิดร้านขายของ คุณคิดว่ารายได้คุณมาจากไหนครับ ? กำไร ขาดทุน ของธุรกิจคุณคิดยังไงครับ? ที่ไงครับ บัญชีถึงสำคัญ ตราบใดที่คุณยังทำบัญชีเองไม่ได้ ไม่มีทางเติบโตได้เลยครับ มีแต่เจ๊ง กับ เจ๊ง เพราะฉะนั้น ตอนนี้คุณขายสินค้าไปหมดแล้ว คิดต่อเองสิครับว่าทำไงดี? ถึงจะมีสินค้ามาขายอีก? 3. ทุกๆ วันก่อนตลาดเปิด หรือหลังตลาดปิด คุณคิดไว้หรือยังว่า พอตลาดเปิดแล้ว คุณจะทำอะไร ถ้าหุ้นมันขึ้น ?  จะทำอะไรถ้าหุ้นมันลง ?        ไม่ใช่แค่คิดว่าจะทำอะไรอย่างเดียวนะครับ ควรจะคิดด้วยว่าถ้าขึ้นหรือลงแต่ละ step แล้วจะขายเท่าไรจะซื้อเท่าไร จนหุ้นหมดมือน่ะครับ เวลาเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงคุณจะได้ทำได้ตามแผนแบบไม่ลังเลไงครับ  การคิดแบบละเอียดจนถึง step สุดท้ายนี้ ทำให้คุณรู้ล่วงหน้าเลยว่าคุณจะได้กระแสเงินสดแฝงโดยประมาณเท่าไหร่ พอร์ทสมดุลแค่ไหน ช่วยลดความลังเลในการทำตามแผนไงครับ   จากประสบการณ์นะครับ ส่วนมากที่คนลังเลและไม่เป็นไปตามแผน ก็เพราะไม่เคิดประมาณการณ์แผนของตัวเองไว้จนสุดทางน่ะครับ ทำให้หุ้นพอขึ้นหรือลงมาก ๆ ก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็หลุดจากแผนที่วางไว้เพราะโดนกดดัน     สุดท้ายนี้ คงย้ำอีกทีนะครับว่า DSM ที่คุณเด่นศรีบอก มันเป็นเพียง"แนวทาง" เท่านั้น วิธีการทำก็ตัวใครตัวมันนะครับ จะพัฒนาแค่ไหนอยู่ที่ว่าเราคิดมากคิดน้อย ขยันทำแผน ทางออก ฯลฯ มากแค่ไหน     ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ หรอกครับ. จากคุณ : Prime Number - [ 10 ม.ค. 49 23:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอโชว์วัวบ้าง นะครับ  คนอื่น ๆ คงตอบไปหมดแล้วถึงทางออกต่าง ๆ นะครับ ก็คือ.... 1. รอ ร้อ รอ จนลงมาให้ซื้อ                 อันนี้ก็ถูกครับ ซุปเปอร์เบสิก DSM ที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหุ้นขึ้นแล้วก็อาจไม่ลงมาถึงจุดเดิมให้ซื้ออีกก็ได้ ถึงแม้จะบอกว่า DSM มีเวลาเป็น Infinity ก็ตาม แต่ในความเป็นจริง เงินมันนอนนิ่ง ๆ เฉย ๆ คงไม่ดีแน่  เช่น ptt คุณคิดว่าเมือไรมันจะลงมาให้ซื้อที่ราคา 40 บาทอีกรอบ?  ไม่ใช่ว่าไม่แนะนำวิธีนี้นะครับ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าอาจใช้เวลานานมากกกกกกกกกก 2. แปลงร่างมันซะเลย ขี้เกียจรอ                 อันนี้ก็ได้ครับ แต่ต้องระวัง เงินสดขาดมือ ไม่มีเงินมาซื้อคืนตอนหลังนะครับ  เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้วิชานี้ได้แก่กล้า แล้วก็ทำบัญชีได้เองแบบที่คุณไม่เก่งแต่อยากตอบได้บอกไว้ข้างบน นะครับ 3. ลืม ๆ มันซะแล้ว ซื้อมันมาเลยที่ราคาปัจจุบันแล้วเริ่มทำ DSM ใหม่                ไม่แนะนำครับ เพราะคุณไม่ได้ประสบการณ์อะไรเพิ่มเติมเลย เมื่อคุณไม่ได้คิด การพัฒนามันก็ไม่เกิดแน่นอนครับ ความผิดพลาดมันเป็นประสบการณ์ให้คุณไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะโละ ลืมจำนวนหุ้นเก่าไปหรือไม่ เพราะฉะนั้นคิดหาทางออกดีกว่าครับ เพื่อพัฒนาตัวเอง (ต่อข้อความถัดไป)... จากคุณ : Prime Number - [ 10 ม.ค. 49 23:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แง ๆ โพสแล้วทำไม ไม่ขึ้น   ทียังงี้ล่ะ ดันได้ เซ็งจริง ๆ จากคุณ : Prime Number - [ 10 ม.ค. 49 23:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ฝากไว้  อีกนิดครับ   ว่า............... คุณอยากได้ "กำไรส่วนต่าง"    หรือ   "กระแสเงินสด" ให้คิดและพิจารณาดูให้ดี มาฝากไว้ครับ (มั่วๆดู อิอิ)   จากคุณ : Vprawat - [ 11 ม.ค. 49 12:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หวัดดีครับ     ผมคิดว่าคุณ ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน  ลองถามตัวเองก่อนว่ายังอยากจะอยู่กับหุ้นตัวนี้ไปอีกหรือเปล่า แล้ววิธีการที่ควรจะต้องทำจะตามมาเองดังที่ พี่ๆ เพื่อนๆ ได้เสนอแนวทางไปแล้ว      ผมยังเป็นมือใหม่หัดเคาะอยู่นะครับ เลือกหุ้นตัวร้อนๆเหมือนกัน   อิอิ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 49 01:05:24 จากคุณ : wayu_w - [ 12 ม.ค. 49 01:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อิอิ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 49 01:08:06 จากคุณ : wayu_w - [ 12 ม.ค. 49 01:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณทุกท่านที่ตอบครับ จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน - [ 13 ม.ค. 49 10:51:22 ]