CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ทำไหมถึงติดหุ้นบนยอดดอย

    1.  สัจธรรมทุกสัพสิ่งที่เรามีอยู่ปัจจุบันเกิดได้จากการกระทำของตัวเราเอง รวมถึงติดหุ้นบนยอดดอยมันก็เป็นฝึมือตัวเองหาใช่ผู้อื่นไม่ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเรามานั่งช่วยกันทบทวนย้อนรอยหาความจริงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

    2. สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อ 6-7 ปีก่อน สมัยนั้นในตลาดหุ้นเต็มไปด้วยนักลงทุนถือหุ้นระยะกลางยาววังทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ซื้อเช้าขายบ่ายหากินไปวันๆมีแต่น้อยมากแทบไม่มีอิทธิพลทำให้ราคาหุ้นย้ำอยู่กับที่ เวลาขึ้นๆที่เป็นบาทๆ  ผลต่างราคาต่ำสุดและสูงสุดของหุ้นบางตัวสามารถให้ได้ 100% มาถึงสมัยนี้แตกต่างราวฟ้ากับดิน ตลาดเต็มไปด้วยนักเก็งกำไรวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็น (๑) ต่างชาติ (๒) กองทุน (๓) รายย่อย ต่างก็ผันตัวเองมาเป็นนักพนันกันหมด ขึ้นสตางค์สองสตางค์ก็ถูกเทขายหนีเอาตัวรอดไปวันๆ แน่นอนผลตอบแทนที่เห็นอดีตไม่มี การที่จะหวัง 100% ในแต่ละรอบที่เคยได้หรือเห็นในอดีตเลิกคิดได้ เพื่อความอยู่รอดต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสภาวะตลาด นิสัยเดิมที่เคยใช้ต้องเลิกมิฉะนั้นไม่พ้นติดหุ้นบนยอดดอย

    3. ทฤษฎีว่าไว้

    3.1 ไม่เล่นหุ้นตอนขาลงเพราะไม่รู้ว่าจะลงถึงไหน ทีว่าราคาติดดินก็ยังมีราคาใต้ดินให้เห็น ไม่เท่านั้นยังได้เห็นราคาก้นเหวก้นอเวจีถึงทุกวันนี้

    3.2  ให้เล่นขาขึ้นหรือตอนหุ้นกำลังขึ้น โอกาสที่หุ้นจะขึ้นต่อมีมากทำให้สามารถทำกำไรได้ ยกเว้นไปซื้อตอนราคาสูงๆซึ่งถึงเป้าเจ้ามือต้องการจะทำ เรารายย่อยไม่มีทางรู้ว่ามันจะเป็นจุดไหน เราต้องหาทางแก้เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยจากการติดหุ้น ได้เข้าสัมนา มีนักวิทยากรท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ซื้อหุ้นตอนขาขึ้นแล้วปล่อยให้ทำกำไรขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดการหักหัวลงเมื่อไรให้ขายทิ้งทันที่ จะต้องมีจุด cut loss จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่ความต้องการแต่ละท่าน ต้องย้ำต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัดไม่ลังเลที่จะขายทิ้งทันที่

    4. ใครๆก็ตามทำได้อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นไม่ติดหุ้นแน่นอน

    5. ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นโดยเฉพาะจุด cut loss ที่ทุกคนรู้ดี ถึงแม้จะมีความตั้งใจที่จะทำแต่ก็ไม่กล้าทำเพราะคิดว่าเดียวหุ้นมันก็ขึ้นมาให้ขายได้ กว่าจะตัดสินใจก็สายมากๆเมื่อราคาหุ้นตกลงต่ำสุดๆ หรือไม่กล้าขายเพราะขาดทุนมโหฬารมหาศาลจนต้องปล่อยเลยตามเลย

    6. เราตอนนี้กำลังย้อนรอยหาความจริงในอดึต เราจะพบได้ว่าราคาหุ้นที่ติดบนดอยนั้น ซื้อตอน

    6.1 ราคาหุ้นขึ้นมาได้หลายๆวันและสูง เหตุที่เข้าซื้อเพราะนักวิเคราะห์หรือแรงเชียร์จากมาร์ออกมาย้ำหุ้นจะไปเท่าโน้นเท่านี้ ด้วยความโลภกลัวตกรถซื้อตามกระแส

    6.2  ขายหุ้นมีกำไรไป ด้วยกลัวตัวเองเป็นสัตว์ประลาดไม่ตามกระส รีบเข้าซื้อหุ้นทันที่ บ่อยๆครั้งซื้อคืนตัวที่เราขายไปที่ราคาสูงกว่า ขาดทุนก็ยอม เราไม่รู้เลยว่าการกระทำเข่นนี้ไม่ถูกต้องเพราะหุ้นตัวอื่นๆราคาก็ขึ้นตามดัชนี ราคาที่ซื้อก็เป็นราคาแพงอยู่ในระดับเดียวกับหุ้นที่เราขายไป ฉะนั้นเราไม่ได้อะไรจากกระกระทำนี้

    7. เราได้อะไรจากการย้อนรอยอดีตบาง ถ้าไม่ปรับปรุงสันดานการเล่นหุ้นเดิ้มๆผลก็ย่อมซ้ำรอยเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเหล่า ถึงแวลาแล้วหรือยังมาเริ่มต้นกันใหม่ มิฉะนั้นเวลาที่เสียไปวันนี้ไร้ประโยชน์  

    8.  ตลาดหุ้นไม่ต่างไปกับบ่อน ถ้าเราเข้าบ่อนทำกำไรได้จะมากมายเท่าไรก็ตามยังเข้าบ่อนเล่นทุกวันๆตั้งแต่เปิดบ่อนจำกระทั่งปิดบ่อน ไม่ช้าเงินที่ได้มาคืนหมดไม่เท่านั้นเงินตัวเองก็ให้เขาไปด้วย

    9. คิดว่าจะชนะได้เงินจากบ่อนก็ต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ได้กำไรและต้องรู้จักพอต้องหยุดออกจากบ่อน จะเข้าบ่อนเมื่อไรอีกที่ไม่รู้ได้เพราะไม่รู้เมื่อไรดวงถึงจะดี  แต่ในหุ้นเราพอที่จะรู้ได้ดูจากวัฐจักรวงจรภาวะตลาด "กระทิงและหมี"  ขายได้กำไรเก็บเงินเก็บทองฝากธนาคาร หยุดไม่ซื้ออย่างเด็ดขาย รอจั่งซื้อรอบใหม่

    10.  ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เพื่อนๆเลิกนิสัยเดิม จะได้พ้นห่วงวงจรอุบาทย์ติดหุ้นบนยอดดอย เคยให้ความเห็นก่อนหน้านี้ซึ่งอาจเป็นทางเหลือกหนึ่งในการเล่นหุ้นในบ่อนตลาดหุ้นแห่งประเทศไทย

    11.   ผมเลิกแล้ว ท่านเลิกหรือยัง  

    12.  ขอให้เพื่อนๆโชคดีประสพความสำเร็จเจริญก้าวหน้าทุกๆด้าน ร่ำรวยเงินล้านๆช้าหรือเร็วไม่สำคัญ

    แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 10:12:20

    แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 49 15:20:56

    จากคุณ : luck me - [ 7 ม.ค. 49 10:55:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป