PANTIP.COM : I4013822 สอบถามข้อคิดเห็นต่อการขึ้นของราคาหุ้น TMB ครับ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 1

ขอวิเคราะห์เท็จจริงการเงินที่แสดงในงบการเงินของ tmb

ไม่นานมานีมีข่าว tmb จะลดทุนโดยลดพาร์ทั้งหุ้นบุริมสิทธิ และ หุ้นสามัญ ได้วิเคราะห์งบการลดพาร์หุ้นบุริมสิทธิเป็นการปล้นประชาชน ได้กอปความเห็นไว้ข้างล่าง ซึ่งตรงที่ รมว คลัง ไม่เห็นชอบ

ถึงแม้ tmb มีกำไรในไตรมาส 3 และงบไตรมาส 4 กำลังออกมาจะมีกำไรเช่นกัน ก็ยังห่างไกลที่จะล้างขาดทุนสะสม -55,xxxx ล้านบาท จะทำกำไรกี่ปีถึงจะล้างขาดทุนสะสมหมด ถ้าหวังจากกำไรอย่างเดียว อีก 3-4 ปีก็ยังไม่สามาระจ่ายปันผลได้ ถ้าคิดที่จะลดทุนโดยลดพาร์จาก 10.00 บาทของหุ้นสามัญอย่างเดียว จะได้ส่วนเกินมาล้างขาดทุนสะสมเส้นยาแดงผ่าแปด ดั่งว่าไว้ในความเห็นก่อนหน้านี้

Caps หรือ Slips ที่ครบกำหนดไม่มีเงินจ่าย ต้องให้กระทรวงการคลังหาวิธีซึ่งก็ยังเป็นเงินกู้อยู่ดี สิ่งสำคัญมีข่าวออกมาบ่อยๆ tmb ได้หรือจะออกหุ้นกู้เท่าโน้นเท่านี้ให้ดอกเบียสูง หมายความว่าอะไร มันก็ไม่มีทรัพยากร(เงิน)นำมาดำเนินธุรกิจหาเงินเข้าธนาคาร ถึงต้องพึ่งเงินกู้ ด้วยเหตุนี้ต้นทุนของ tmb สูงกว่าธนาคารอื่นๆ ด้วยที่เป็นธนาคารเล็กๆกำไรน้อยอยู่แล้ว ยิ่งทำให้กำไรลดน้อยลงอีก

ด้วยความเห็นส่วนตัว ยังคิดว่า tmb จะต้องมีการเพิ่มทุนจากหุ้นที่ได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เงินได้มาไม่เสียดอกเบี้ย นำไปออกกู้จะได้กำไรเต็มอัตรา ท้ายสุดหนี้ไม่พ้นต้องลดทุน(ลดพาร์หุ้นสามัญ) ถ้าต้องการจ่ายปันผลใน 2 ปีหน้านี้

ถ้าพูดถึงราคาหุ้น ไม่ขอเดา ขอให้เป็นการตัดสินใจของเพื่อนๆเองแล้วกัน

**************
ความเห็นเก่า

หลังผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจต้มย้ำกุ้ง ธนาคารต่างๆได้ฟื้นตัวขึ้นมาจนสามารถจ่ายปันผลได้แทบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น bay, bbl, kbank และ scb สามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่เป็นหมื่นๆล้านหมดเพราะมีบุญเก่าที่ขายหุ้นเกินราคาถพาร์ทำให้มี "ส่วนเกินสุงกว่าทุน(พาร์)" เกินเพียงพอนำไปล้างขาดทุนสะสม ผิดกับ tmb ไม่มีบุญเก่าหาทางล้างขาดทุนหนีไม่พ้นต้องมีการลดทุนเพื่อเอาส่วนเกินไปล้างขาดทุน

ธนาคารที่ยังไม่จ่ายปันผลก็มี tmb รวมอยู่ด้วย ผู้บริหารได้ออกมาข่าวจะทำให้ธนาคารจ่ายปันผลให้ได้ในเร็วๆนี้ ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่เคยออกมาบ่อยๆจนเป็นที่สงสัยจะเป็นจริงหรือเปล่า เรามาพลิกดูงบการเงิน tmb ในด้านศักย์ภาพจ่ายปันผลอย่างเดียว

งบดุล ณ วันที่ 30/06/2548 กอปมาให้ดูประกอบข้างล่าง แสดงสัดส่วนผู้ถือหุ้นดังนี้

A. ก่อนลดทุนจดทะเบียนราคาพาร์ 10.00 บาทเป็น 1.00 บาท

1. ทุนจดทะเบียน 183,063.49 ล้านบาท ประกอบไปด้วย
1.1 หุ้นบุริมสิทธิที่ออกและชำระแล้ว 19,920,490 ล้านบาท 1,992.049 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ(พาร์) 10.00 บาท
1.2 หุ้นสามัญ 163,143.01 ล้านบาท จำนวนหุ้น 16,314.302 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ(พาร์) 10.00 บาท ประกอบไปด้วย
1.2.1 หุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 3,000.00 ล้านหุ้น ซึ่งตอนจดทะเบียนเพิ่มทุนหุ้นจำนวนนี้มีข่าวว่าจะมีการเพิ่มทุน ส่งผลราคาหุ้นในกระดานร่วงลงทำให้ผู้บริหารต้องออกมาปฏิเสธ
1.2.2 หุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว 133,143.02 ล้านบาท จำนวนหุ้น 13,314.302 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ(พาร์) 10.00 บาท ***ขอให้ความสนใจตัวเลขเพราะจะเป็นพระเอกที่จะอ้างอิงถึงในข้อต่อๆไป
2. ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น - สามัญ -67,757.75 ล้านบาท นั้นหมายถึงว่าขายหุ้นเพิ่มทุนที่แล้วๆมาราคาต่ำกว่าพาร์ 10.00 บาท ซึ่งแตกต่างไปกับธนาคารอื่นๆที่จ่ายปันผลได้มีส่วนเกิน tmb จะต้องล้างส่วนต่ำนี้ให้หมดก่อนที่จะจ่ายปันผลได้
3. ขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรร -51,556.66 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาระของผู้บริหารที่จะต้องหาวิธีลบล้างให้หมด ในเมื่อไม่มีส่วนเกินกว่ามูลค่าหุ้น tmb จะต้องทำกำไรมาล้างให้หมดก็จะต้องใช้เวลาอีกหลายปี ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากลดทุนจดทะเบียนพาร์ 10.00 บาทลงมา 1.00 บาท ผลจะออกมาดังนี้

B. ผลที่จะได้รับจากการลดทุนจดทะเบียน

4. หุ้นบุริมสิทธิ(ข้อ 1.1)พาร์ 10.00 บาท ถ้าบริษัทเลิกกิจการจะด้วยสาเหตใดก็ตาม หลังจากจ่ายเจ้าหนี้หมดหุ้นบุริมสิทธิจะได้เต็มเท่าที่จะจ่ายได้อย่างต่ำเท่าราคาพาร์ถ้ามีเงินเพียงพอ เหลือเท่าไรไปแบ่งกันระหว่างหุ้นสามัญ สถานะการเงินของ tmb สัดส่วนผู้ถือหุ้นมีเกินเพียงพอจ่ายหุ้นบุริมสิทธิ ในการที่ทางการออกมาว่าจะลดพาร์หุ้นบุริมสิทธิก็จะเป็นการปล้นเงินจากกองทุนฟื้นฟู จะเพิ่มหนี้สินให้กองทุนนั้นมันก็เงินภาษีของประชาชน ฉะนั้น รมว คลัง ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง

4.1 ลดทุนจดทะเบียน(ข้อ 1.2)หุ้นสามัญ 163,143.01 ล้านบาท จำนวนหุ้น 16,314.302 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ(พาร์) 10.00 บาท ลดลงเป็น 16,314.30 ล้านบาท จำนวนหุ้น 16,314.302 ล้านหุ้นเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ราคาหุ้นละ(พาร์) 1.00 บาท จะได้ส่วนต่างเฉพาะหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว 13,314.302 ล้านหุ้นเท่านั้น จะได้ 119,828.72 ล้านบาท ซึ่งต้องนำไปล้าง "ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น - สามัญ -67,757.75 ล้านบาท" จะเหลือ 52,070.97 ล้านบาท เพียงพอที่จะนำไปล้าง "ขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรร -51,556.66 ล้านบาท" ได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดคาบลูกคาบดอก ถ้าลดทุนจดทะเบียนมากกว่า 1.00 บาท เช่น ลดลงมาที่ 5.00 บาทก็จะไม่เพียงพอที่จะล้างขาดทุนสะสมให้หมด
5. ถ้ามีการจ่ายปันผลจะต้องจ่าย หุ้นบุริมสิทธิที่ 1,992.049 ล้านหุ้นก่อนเหลือเท่าไรนำไปจ่าย หุ้นสามัญ 13,314.302 ล้านหุ้น ดั่งที่กล่าวในข้อ 4.1 tmb แทบไม่มีกำไรสะสมอยู่เลย tmb จะต้องทำกำไรให้สะสมเพียงพอที่จะจ่ายปันผล คิดว่าคงใช้เวลาอีก 2-3 ปีถึงจะจ่ายปันผลได้

ฉะนั้นเราๆท่านๆคงจะได้เห็นการลดทุนของ tmb เพื่อจ่ายปันผลเช่นธนาคาร bay, bbl, ktb, kbank, scb & scib แต่ว่าจะเป็นธนาคารแรกที่มีการลดทุน ส่วนจำนวนหุ้น 3,000.00 ล้านหุ้นคงจะมีการเพิ่มทุนในอนาคตค่อนข้างแน่นอนเพื่อความแข็งแกร่งของธนาคาร

ท้ายสุดเช่นขอให้เพื่อนใช้วิจารณญานหามุมมองของท่าน ทำตามที่ตัวท่านเห็นว่าดีที่สุด ได้เสียเงินท่านทั้งสิ้น
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 49 21:01:00

จากคุณ : luck me - [ 10 ม.ค. 49 20:48:08 ]