PANTIP.COM : I4029296 เงิน 1 ล้านปล่อยกู้ร้อยละสองต่อเดือนคิดเป็นกี่เปอเซ็นต์ต่อปีอะครับ []

ความคิดเห็นที่ 12

มีการคิดดอกเบี้ย 2 แบบคือ ทบต้นกับไม่ทบต้นครับ หมายถึงว่าคิดทุกเดือนแล้วนำไปรวมกับเงินต้น หรือคิดรวมทีเดียวตอนคืนเงินต้นครับ
และยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือการจ่ายเงินต้นคืน จะเป็นแบบผ่อนชำระรายเดือนหรือ จ่ายคราวเดียวเมื่อเลิกกู้ครับ
ที่ยุติธรรม ก็คือการคิดแบบธนาคาร คือคิดดอกเบี้ยในแต่ละเดือนตามยอดเงินกู้คงค้างครับ แต่สำหรับผู้ให้กู้ทั่วไปเขามักไม่มาเสียเวลาคำนวณดอกเบี้ยในแต่ละเดือนให้หรอกครับ เขามักจะเหมารวมๆไปเลย เช่น กู้ แสนหนึ่ง 2 ปี ดอกเบี้ยเดือนละ 2 พันบาท ก็คือ 2 X 24 = 48 หรือสี่หมื่นแปดพันบาทครับ ครบสองปีเมื่อใดก็จ่ายมา แสนสี่หมื่นแปดพันบาทครับ หรือที่นิยมก็คือให้จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เงินต้นเท่าเดิมคิดง่ายดี เช่น เดือนละ 2 พันบาท มีเงินต้นแสนบาทมาเมื่อใดก็ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ก็ยุติธรรมดีครับ
สำหรับพวกไม่ยุติธรรมก็คือ พวกไฟแนนซ์ เงินกู้ส่วนบุคคลที่มักจะคิดดอกเบี้ยคงที่ ตลอดเวลากู้ในขณะที่เวลาผ่อนชำระ ผู้กู้ต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย(คงที่ตามยอดที่คำนวณจากยอดเงินกู้เต็มตอนแรก) ทุกเดือน ทำให้เมื่อมาเปรียบเทียบกับวิธีการคำนวณของธนาคารจะแพงกว่า 2 เท่าเสมอครับ
หลักการให้กู้มีอยู่ว่า
1.ต้องมีหลักทรัพย์สิ่งของค้ำประกัน ถ้าไม่มีก็ต้องใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน ทางสังคม ค้ำประกันไว้
2.ต้องทราบวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเงินว่าเอาไปทำอะไร ถ้าหากไปทำทุนกิจการ ก็น่าสนับสนุนให้กู้ ถ้าหากเอาไปใช้จ่ายจำเป็น ก็อาจให้กู้บ้างตามความจำเป็น แต่ถ้าเอาไปฟุ่มเฟือยก็ ไม่น่าให้
3.ต้องทราบรายได้ของลูกหนี้ก่อนว่า เขาทำงานอะไร มีรายได้ทางไหน ตลอดจนทราบสภาวะทางการเงินของลูกหนี้ด้วยว่า เป็นอย่างไร มีหนี้ค้างกับผู้อื่นเยอะไหม ใช้จ่ายอย่างไร มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไหม ตลอดจนการให้กู้ครั้งนี้ มีพยาน หรือคนรับรู้บ้างไหมครับ
ทางปฏิบัติ คนที่จะมาขอคุณกู้เงิน ผมบอกได้เลยว่า เขาต้องเคยลองพยายามกู้จากธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือกับญาติของเขาแล้ว หมดหนทางแล้วจึงจะมาหาคุณครับ
สำหรับเรื่องที่รัฐบาลให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 15% ต่อปีนั้นดูน่าขำครับ เพราะการปล่อยกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์เสี่ยงมาก ขืนปล่อย15% ก็มีหวังต้องหมดตัวได้ไม่นานแน่นอนครับ เพราะที่เจ้าหนี้นอกระบบเขาคิดดอกเบี้ยกันสูงๆเช่น 10%- 20% ต่อเดือนก็เพราะว่า เขาต้องดอกเบี้ยนี้ไปจ่ายให้กับพวกทวงหนี้ (ค้ำประกันหนี้สูญ) หรือชดเชยให้กับลูกหนี้ที่เบี้ยว เหมือนกับ บริษัทประกันครับ
เพราะถ้าหากผู้กู้เขามีหลักทรัพย์ที่น่าเชื่อถือเขาก็ไปกู้กับธนาคารแล้ว ยกเว้นว่าคุณจะรู้จักนิสัยเขาเป็นพิเศษ หลักทรัพย์ที่มาให้คุณยึดคุณก็รู้จักดี แม้จะอยู่ไกลในป่าเขาก็ตาม และที่สำคัญ คุณต้องมีอิทธิพล บารมีเพียงพอที่เขาจะเกรงใจ ไม่คิดหักหลังคุณ หรืออาจฆ่าคุณเพื่อล้างหนี้ได้ครับ
หลักทั่วๆไปในการปล่อยกู้คือ
1.กระจายความเสี่ยง อย่าปล่อยให้กู้รายใดรายหนึ่งมากเกินไป(เกินกว่าที่คุณจะยอมรับการสูญเสียได้)
2.คุณยอมรับการสูญเสียได้มากเท่าใด การปล่อยกู้ก็คือให้เงินไปทำงานแทนคุณ คุณจะไม่เห็นหน้าเงินเหล่านั้นเลยตลอดเวลาที่คุณได้ดอกเบี้ยจากมัน ถ้าคุณยังรู้สึกรัก หวงแหนเงินเหล่านั้นอยู่ก็ยากครับที่จะทำธุรกิจนี้ คุณต้องทำใจว่าเงินเหล่านั้นหายไป หรือไม่ใช่ของคุณ คุณมีสิทธิ์ได้เพียงดอกเบี้ยก็จะสบายใจครับ (มองเป็นสินค้า หรือ ยานพาหนะที่สร้างเงินให้คุณ) เมื่อใดที่ลูกหนี้เบี้ยวจะได้ไม่เสียดายครับ

จากคุณ : มิราชช (vilaithong) - [ 17 ม.ค. 49 16:30:12 ]