ความคิดเห็นที่ 1 ออมสามส่วน ใช้ หนึ่งส่วน ซิครับ จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 19 ม.ค. 49 13:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับตัวผมเอง ไม่ได้ตั้งว่าจะต้องใช้เท่าไร แต่ยึดหลักว่าใช้เท่าที่จำเป็น  ก่อนซื้อ ก่อนจ่ายอะไร  ถามใจว่าจำเป็นแค่ไหน  ไม่ใช้ได้มั้ย           แม่สอนมาตลอด  ไม่ต้องคิดว่าของแพงหรือถูก  แต่ให้ดูว่าจำเป็นมั้ย  จำเป็นราคาเท่าไรก็ซื้อ   ไม่จำเป็นบาทเดียวก็อย่าจ่าย แต่ในชีวิตจริง  มันก็นอกลู่นอกทางบ้างนะครับ จากคุณ : sutee - [ 19 ม.ค. 49 14:15:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1. ทรัพย์สินหักหนี้สิน ควรจะไม่น้อยกว่า 0.1xอายุ x รายได้ทั้งปี 2. ถ้าข้อ 1 ยังไม่ถึง ต้องเพิ่มเงินออมครับ จากคุณ : krit587 - [ 19 ม.ค. 49 14:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คล้าย ๆ ของพี่ Sutee   ยึดหลักอีกข้อหนึ่งว่า  "ทำมาหาเก็บ"  เก็บให้มากที่สุดเท่าที่สามารถ   โดยไม่ตระหนี่จนเกินไป  ใช้ชีวิตเรียบง่าย  ติดดิน  และให้รางวัลชีวิตตัวเองในบางโอกาส   ไม่ใช่ทำมาหากิน(จนหมด) จากคุณ : The Gollum - [ 19 ม.ค. 49 15:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แม่พี่สุธี สอนได้ยอดเยี่ยมเลยครับ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 19 ม.ค. 49 15:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดีใจที่เห็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจเรื่องการออม ถ้าคุณอยากจะ independent financial (มีอิสระภาพด้านการเงิน) อยากให้คุณทำดังนี้ คือ ช่วงระยะเวลา 5 ปีแรก เก็บเงินให้ได้ทุก ๆ เดือน จำนวน 60% ของรายได้รวม (อย่าผ่อนรถหรือบ้าน..ทั้งสิ้น) เมื่อครบ 5 ปี คุณนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนหุ้นสัก 1 - 2 พอร์ต ซึ่งจะมีรายได้จากดอกเบี้ยรับประมาณปีละ 6-7% โดยที่คุณไม่ต้องหันมามองเงินก้อนนี้เลย (คิดว่าเป็นเงินเย็น..และขวัญถุงของคุณก็แล้วกัน) ต่อจากนั้นถ้าคุณจะซื้อรถหรือบ้าน คุณต้องเริ่มใหม่ ซึ่ง ณ ขณะนั้นรายได้คุณจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคุณสามารถกันไว้ผ่อนบ้านหรือรถได้ อีกทั้งยังไม่บางส่วนฝากต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งการฝากโดยสม่ำเสมอนี้คุณจะต้องฝากให้ตลอดอย่าหยุดโดยเด็ดขาด และยอดหนี้สินไม่ควรเกิน 24 เท่าของเงินเดือน หรือ 2 เท่าของรายได้ทั้งปี ถ้าควบคุมการใช้จ่ายของตัวเองไม่ได้ ไม่ควรมีบัตรเครดิตทุกชนิด เพราะรูดปื๊ด หนี้ก็ท่วมป๊าด....เราอยากให้คุณรวย..คำว่ารวยไม่ได้หมายถึงมีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้าน แต่ไม่ลำบากตอนคุณไม่มีงานทำ หรือทำงานไม่ได้ อย่าลืมนะ..ว่าตอนนี้คุณทำงานได้แต่คุณก็ยังกิน แต่จะมีบางช่วงเวลาที่คุณกินได้ แต่คุณหาเงินไม่ได้ ซึ่งเวลาช่วงนี้จะยาวนานมาก จากคุณ : tiny - [ 19 ม.ค. 49 15:44:02 A:192.168.0.22 X:203.121.155.57, 203.121.158.237 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำงบรายรับ รายจ่าย แล้วจะมองเห็นทาง ระยะแรก จะยังไม่มีหลัก ต่อไปจะเริ่มเห็นถ้ามีรายนรับรายจ่าย เมื่อเริ่มมีเงินจะมีช่องทางมากมาย จดไม่จน อ่านพ่อรวยสอนลูกเพื่อเห็นมุมมองใหม่ทางการเงิน แล้วจัดแผนการเงินที่ต้องการ จากคุณ : trakulsom (trakulsom) - [ 19 ม.ค. 49 16:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หลักการออมและลงทุนที่ดี  มีดังนี้ครับ 1. มีเงินออมไว้ใช้กรณีฉุกเฉินหรือตกงาน 6 - 12  เดือน  และเพื่อความคล่องตัวควรฝากออมทรัพย์ 2.  กระจายความเสี่ยง  โดยการแบ่งไข่ไว้หลายตระกร้า  เช่น  ซื้อพันธบัตร ( ช่วงนี้ควรซื้อระยะสั้นเพราะอยู่ระหว่างดอกเบี้ยขึ้นจนถึงกลางปี 49 จะได้ไม่เสียผลประโยชน์ )  ลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ ( ไม่เสี่ยง ) หรือตราสารทุน ( เสี่ยงพอสมควร ) หรือซื้อหุ้นด้านกองทุนอสังหาริมทรัพย์  เช่น CPNRF  ปันผลประมาณ 6-7 %  และไม่เสี่ยงถ้าถือยาวมากกว่า  5  ปี ฯลฯ 3.  เงินออมประจำเดือนถ้าหน่วยงานมีสหกรณ์ออมทรัพย์ควรซื้อเรือนหุ้นทุกเดือน  ปันผลประมาณ 5 - 6 % และไม่เสียภาษี ( จ่าย 1 ครั้งต่อปี )  และค่อนข้างมั่นคงไม่เสี่ยง ( ขึ้นอยู่กับองค์กรด้วย ) ดีกว่าฝากธนาคารและซื้อพันธบัตรระยะสั้น 4.  ถ้าจะลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ ทั้งผ่านกองทุนหรือเล่นเอง สิ่งสำคัญต้องใช้เงินเย็นเท่านั้น ( ถือยาวได้มากว่า 5  ปี )  มีเวลาหาความรู้ด้านการลงทุน  ถ้าเล่นหุ้นเองอย่าซื้อหุ้นประเภทเก็งกำไร เพราะนักลงทุนรายย่อยส่วนมากคือแมงเม่า 5.  เคยฟัง ดร.สุวรรณ ทางคลื่น 96.5  จันทร์-ศุกร์  เวลา 16.00 - 17.00  น.  ไม่แนะนำให้ซื้อสลากออมสิน  เพราะโอกาสถูกรางวัลมีน้อยมาก  และถ้าไม่ถูกผลตอบแทนเมื่อครบอายุจะน้อยมาก  น้อยกว่าฝากธนาคาร  และไม่มีสภาพคล่อง ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Learn and Live - [ 19 ม.ค. 49 16:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอสนับสนุนเหมือนกันครับ ที่ว่าจดแล้วไม่จน ตัวผมเองเริ่มทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งมหาวิทยาลัย (ตอนทำ แม่, พี่น้อง, ญาติๆ ,เพื่อนๆ ชอบหาว่าบ้า จดทำไมไม่รู้) ตอนจบผมมีเงินเก็บประมาณ 300000 กว่าๆ ครับ ค่าเทอม ค่าขนมไม่เคยขอแม่ตั้งแต่เรียน ม. ปลาย แล้วครับ ตอนนี้ก็ทำงานมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว (นับหลังจบมหาวิทยาลัย) เงินเก็บก็เพิ่มขึ้นบ้าง เอามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปีที่แล้ว เน็ตแล้วขาดทุนประมาณ 80000 บาท แต่ไม่เป็นไรครับ ยังหนุ่มยังแน่นคิดว่ารับความเสี่ยงได้ แล้วก็หักฝากประจำเดือนละประมาณ 6000 บาท สำคัญไม่ได้อยู่ที่เราหาได้เท่าไหร่ แต่ว่าอยู่ที่เราจะออมเท่าไหร่มากกว่าครับ ยึดคติ ออมก่อนใช้ นะครับ จากคุณ : khanchang - [ 19 ม.ค. 49 16:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอแจมด้วยคนครับ ได้เงินเดือนมาเก็บในกองทุนตราสารหนี้ (ส่วนตัวซื้อ SCBSFF) ก่อนเลยครับ 20% (สิ้นปีเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อ LTF หรือ RMF เอากำไรอีกต่อจากภาษีครับ หรือบางทีก็ทยอยขายมาซื้อ LTF หรือ RMF ระหว่างทาง) 80% ไว้ใช้จ่าย แล้วพอก่อนสิ้นเดือนเหลือเท่าไหร่ (จาก 80%) จะเอาไปลงทุนในกองทุนแบบเสี่ยงๆ ครับเพื่อฟลุ๊กเงินจะได้โตขึ้นอีก (ส่วนตัวเล่น SCBSET ค่าธรรมเนียมถูกดีครับ เสียตอนขาย 0.1% แต่ถ้าดูๆ แล้วภาวะไม่ดีก็จะลงใน กองตราสารหนี้ที่เสี่ยงขึ้นมานิดครับ SCBRF แล้วจะไม่ดูอีกเลย เก็บยาวครับ) พอเริ่มเดือนให้ก็เอาอีกครับ........ ขอให้สนุกกับการลงทุนนะครับ ส่วนตัวแล้วไม่กล้าเล่นหุ้นครับเสียเวลางานมากเกินไป แล้วไม่กล้าด้วยครับ จากคุณ : pjuk - [ 19 ม.ค. 49 20:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เก็บให้ มาก ใช้แต่พอควร อย่าฟุ่มเฟือย...(กินผักเป็นอาหาร ต่อต้านเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น) แค่นี้..น่าจะรวยได้แล้วครับ..ฮืมลืมไปอย่าง..หาภรรยาดีๆๆให้ได้แบบ หญิงอ้อ..รวยแน่ๆๆ จากคุณ : taeoo - [ 20 ม.ค. 49 01:13:38 ]