ความคิดเห็นที่ 1 ต้องให้แบงค์ประเมินก่อน จากคุณ : jannypantip - [ 5 ก.พ. 49 23:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ราคา 18 ล้านบาทมีเงินสด 4 ล้าน เท่ากับต้องกู้ 14 ล้าน ดอกเบี้ยตกเดือนละ 8- 9 หมื่นบาท เดือนหนึ่งมีรายได้ 1 แสนบาท เหลือส่งต้นปีละประมาณ 2 แสนบาทได้ เหนื่อยนะครับ จากคุณ : ลกซุน - [ 5 ก.พ. 49 23:44:49 A:58.147.120.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 จะบอกว่าให้ดูอย่างอื่นประกอบด้วยนอกจากค่าเช่าที่ได้ 1 ตัวอพาทเม้นท์อายุกี่ปีแล้ว 2 สภาพของตึกเป็นยังไง ไม่ใช่ซื้อแล้วต้องมาตามแก้ที่หลัง 3 ค่าเช่าที่ได้ หักค่าใช้จ่าย เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าส่วนกลาง ค่าพนักงาน (ใหญ่ขนาดนี้ควรมีคนดูแลอยู่แล้ว) เหลือพอผ่อนจ่ายธนาคารหรือเปล่า ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าคิดจะซื้อ หรือทำอะไรที่มันคืนทุนช้าเกิน 8-10 ปีขึ้นไป เราควรมีเงินลงทุนเอง มากกว่าจะไปกู้ธนาคาร เพราะแค่ดอกเบี้ย ก็แทบไม่เหลือเงินให้คุณแล้วละครับ แถมกว่าจะผ่อนหมด ตัวตึกก็โทรมพอดี ถ้าไม่บำรุงรักษา คนก็ย้ายออกไปหาที่ใหม่ที่ดีกว่า กลายเป็นว่ารายได้ก็ลดลง สรุปผมว่า ถ้าไปกู้มาซื้อ ไม่คุ้มครับ เอาเงินไปลงอย่างอื่นดีกว่า ลองคิดให้ดีครับ จะลงทุนระยะยาว ต้องมองไกลๆครับ ผมว่าสู้เอาไปซื้อห้องชุดในคอนโด ตามสถานีรถไฟฟ้า แล้วปล่อยให้ต่างชาติเช่าดีกว่า ไม่ต้องลงทุนมาก เหมาะกับเงินในมือดี รับค่าเช่าคืนปีละ 8-12 % 10กว่าปีคืนทุน มีค่าใช้จ่ายก็ค่าส่วนกลาง จ่ายเป็นปี จากคุณ : 111111 - [ 6 ก.พ. 49 00:22:45 A:58.8.195.199 X: TicketID:111111 ]

ความคิดเห็นที่ 4 . แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 49 01:30:48 จากคุณ : I C U THERE - [ 6 ก.พ. 49 00:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องคิดให้ดีนะครับ มันผูกกับชีวิตเราเลยนะ ถ้าเป็นหนี้ 14 ล้านเนี่ย เอาใจช่วยครับ จากคุณ : ทอม (luckydog2) - [ 6 ก.พ. 49 08:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มาซื้อของผมดีกว่ามั๊ง ขาย13ล้านรายรับเดือนละแสนเหมือนกัน คนอยู่เต็มมา2ปีแล้ว 09-4455880 จากคุณ : 2024 - [ 6 ก.พ. 49 09:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆโดยผู้รู้เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนให้ซื้อเลยครับ ตัวเลขหนี้ 14 ล้านอยู่ในอากาศเท่านั้น ถ้าผู้เช่าเต็ม (ซึ่งก้อเต็มใช่มั้ย) หักที่ต้องผ่อน Bank แล้วคุณยังเหลือเงินกินหนมอีกโดยไม่ต้องควักเนื้อ เช็คให้ดีก่อนว่าทำไมคนเก่าเค้าถึงขาย เท่านั้นฃ โชคดีมีเงินใช้ครับ จากคุณ : ลุคลุค (ลุคสกายวอล์กเกอร์) - [ 6 ก.พ. 49 09:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่คุ้มครับ จากคุณ : VALID - [ 6 ก.พ. 49 09:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดอกเบี้ยมีแนวโน้มขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จะไปถึงเท่าไหร่ และ คงอีกนานเท่าไหร่ ระวังด้วยนะครับ ที่น่าเป็นห่วงก็ตัวนี้แหละครับ จากคุณ : ** jj-Ocu ** - [ 6 ก.พ. 49 10:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยคิดลงทุนทำหอพักเช่นกันครับ แต่คิดดีๆแล้ว ยังไม่อยากลงทุนมากๆ ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ คห.3 นะครับ ได้คิดเปรียบเทียบการลงทุนอื่นๆด้วยมั้ยครับ จากคุณ : ศาสตร์ - [ 6 ก.พ. 49 10:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จะลงทุนอะไรอย่ามองแต่ด้านกำไรน๊ะครับ   ถ้าดอก เบี้ยมันเพิ่มขึ้น     คุณสามารถเพิ่มค่าเช่าได้มั๊ย    ถ้าเป็น แหล่งที่มีห้องเช่าเย๊อะ   เค้าคงไม่ง้อคุณ      ผมว่าเงินที่ ลง  3-4 ล้านอาจจะหายไป   แถมได้หนี้ก้อนโต   ตามมา หลอกหลอนอีก    คิดให้ดีๆ   คิดให้เย๊อะๆ   ปรึกษาผู้รู้ให้ รอบคอบก่อนดีกว่าน๊ะครับ ...............   อย่าทำอะไรเกิน ตัว   ทำอย่างพอเพียง  ตามแนวพระราชดำรัส    น่าจะ ดีกว่าน๊ะครับ...... จากคุณ : ล้าน5 - [ 6 ก.พ. 49 10:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองคิดกำไรหลังหักทุกอย่างดูก่อนนะคะว่า ถ้าได้ไม่เกิน 10%แนะนำว่าอย่าทำดีกว่าคะ จากคุณ : WinStar - [ 6 ก.พ. 49 11:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับความเห็น 3 นะ ที่ว่ารายได้เดือนละแสน แล้วคุณได้คำนวนภาษีที่ต้องจ่ายหรือยัง แล้วต้องกันเงินอีกส่วนหนึ่งมาเป็นค่าบำรุงรักษานะปีหนึ่งไม่น้อยนะ แต่ถ้าคุณจะหาซื้อคอนโดมาให้เช่า ก็ต้องคิดอีกเรื่องคือ ต้องประมาณสัดส่วนของห้องว่างต่อห้องที่มีให้เช่าด้วย สมมุตปีหนึ่งมีห้องว่าง ประมาณ 10 % ต่อปีก็ต้องเอาตัวเลขนี้มาคำนวนในประมาณรายได้ด้วย ซึ่งในกรณีนี้ยิ่งมีห้องเช่าเยอะหลายห้อง ก็จะลดตัวเลขนี้ลงไปได้ เป็นการลดความเสี่ยงลงไป (คือสมมุตคุณมีห้องเช่าแค่ 2 ห้อง ไม่มีคนเช่า1 ห้อง ก็คือ 50 % แต่ถ้าคุณมี 10 ห้องไม่มีคนเช่า 1 ห้อง ก็จะเป็นแค่ 10 % ) จากคุณ : watasangkara (anitjung) - [ 6 ก.พ. 49 11:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดอกเอาไปรับประทานหมด คุ้มหรือไม่คิดเอาเองแล้ว ได้เดือนละแสนหักค่าใช้จ่ายแล้วหรือยัง จากคุณ : solarplexus - [ 6 ก.พ. 49 13:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดูจากสัดส่วนเงินกู้ต่อเงินลงทุนคุณอยู่ที่ 4.5 เท่าต่อ 1 ผมเห็นว่าสูงไปสำหรับการยื่นขอกู้ พวกธุรกิจที่เป็นธุรกิจบริการเช่นอพาร์ทเมนท์จะมี Margin ไม่มากเพราะกำไรจะเป็น Asset มากกว่า ค่าเช่าที่ว่ามาเป็นค่าเช่าตอนเช่าเต็ม แต่แบงก์จะคำนวณหาว่ากรณีต่ำสุดจะมีผู้เช่ากี่% (occupancy rate) สำหรับผมให้คิดรายได้ที่ 70 -80 %ของห้องเช่าไว้ก่อนว่าจ่ายหนี้ไหวไหม ส่วนค่าเช่าห้องเวลาคำนวณการจ่ายหนี้นั้นผมเห็นว่าจะปรับราคาได้มากหรือน้อย ขึ้นกับทำเลที่ตั้งเหมือนกัน หากทำเลดีๆก็จะปรับราคาได้ อีกอย่างอย่าลืมว่าธุรกิจคุณ ต้องมี Maintenance cost ด้วยซึ่งต้องหักออกจากรายได้อีก(ยังไม่รวมค่าแรงคนเฝ้าอพาร์ทเมนท์และอื่นๆ) เออ ห้องพักเต็มขนาดนี้น่ะเจ้าของเดิมทำไมขายทิ้งล่ะครับ จากคุณ : ปิ๊กกาจู - [ 6 ก.พ. 49 20:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รายได้เดือนละ 1 แสนบาท/เดือน = 1.2 ล้านบาท/ปี ยื่นรายได้ต่ำหน่อยก็ ซัก 50-60% ของรายได้จริง ก็ตก 5-6 หมื่นบาท/เดือน = 6 แสนบาท/ปี ภาษีโรงเรือน 12.5% = 7.5 หมื่นบาท/ปี = 6250บาท/เดือน + ดอกเบี้ยจ่ายจากเงิน 14 ล้านบาท (อัตราดอกเบี้ย~ 6.75%) ก็ตก 7.8 หมื่นบาท/เดือน   ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายพวกแม่บ้าน พนักงาน อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนกลาง ฯลฯ แต่ที่เด็ดสุดคือ กู้เงิน 14 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยอย่างเก่งก็ MLR ถ้วน (6.75%) กู้ลงทุนได้ 7 ปีเต็มที่ ก็ผ่อนเดือนละ 2.09 แสนบาท/เดือน cash flow ติดลบแล้วครับ ยังงัยก็ไม่คุ้มครับ จากคุณ : WealthySoon - [ 6 ก.พ. 49 22:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าทำเลยครับ ดอกเบื้ยขึ้นเรื่อยๆ เจอทั้งภาษีบุคคล+โรงเรือนแทบล้มเลยครับ กู้ 7 ล้าน นอกระบบ 1.5 ล้าน เงินตัวเอง 3 ล้าน ขนาดมีที่ของตัวเอง ยังจะไม่รอดเลยครับ ถ้าคุณไม่มีเงินเย็นจริงๆอย่าทำเลยครับ จากคุณ : เจ้าของอพาร์ทเม้นท์คนนึง - [ 8 ก.พ. 49 19:21:53 A:61.91.111.29 X: TicketID:076710 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีอพาร์เมนท์แล้วสองแห่ง กำลังทำแห่งที่สาม เห็นด้วยกับหลายความเห็น ยกเว้นความเห็นที่ 7 เชื่อว่าเธอไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้มากมายนัก บริหารงานห้องให้เช่านับว่าง่ายกว่าธุรกิจอื่น แต่มีอุปสรรค์ขวางไม่ให้เข้ามาลงทุน ก็คือเงินลงทุนนั่นเอง เพราะต้องการเงินลงทุนสูงในตอนแรก มีเจ้าของอพาร์ทเมน์ที่มีห้องหลายพันห้องในกทม เคยพูดไว้ว่า "ควรกู้ไม่เกิน20%" ตอนนี้ห้องเช่ามีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าขึ้นราคาแม้ร้อยสองร้อย เขาก็ย้ายออก ต้องปรับปรุงแข่งกับคนอื่น เวลาทำงานก็ต้องระวังเรื่องการเงิน คนงานทุจริตช่วยเจ้าของเก็บเงินทำง่ายมาก ภาระภาษีโรงเรือน12.5%ต่อปี ถูกบีบคั้นมากขึ้นในสมัยผู้ว่าพิจิตต (ท่านก็รวยมากคนหนึ่ง) ภาษีเงินได้จากการเช่า ก็ถูกบีบคั้นมากขึ้นมาสามสี่ปีแล้ว (ก็เป็นรัฐบาลที่มีนายกรวยสุดๆเช่นกัน) สรรพกรให้เซ็นว่าต้องแจ้งรายรับไม่น้อยกว่า80% แลกกับการไม่ถูกตรวจบัญชี ดอกเบี้ยกำลังขึ้น คำนวณดอกแล้วจะรู้สึกถึงมหัสจรรย์แห่งตังเลข แล้วคุณยังต้องทนหรือรู้วิธีDealผู้เช่าหรือลูกค้าได้ โดยคุณไม่เก็บมาเป็นความทุกข์ จากคุณ : จริงใจ (wattanita) - [ 17 ก.พ. 49 19:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลงทุนโครงการปลูกป่าเบ็จเสร็จครับ ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก  BOI  รับประกันความเสี่ยง 100 % ผลตอบแทน 16 -25 % ต่อปี ลงทุนขั้นตำ 82,500 ไปจนถึง 100 ล้าน  06-557-7092 จากคุณ : chukiat - [ 19 ก.พ. 49 01:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เงินสดในมือคุณมีน้อยเกินไป รายได้ไม่พอผ่อนแบงค์ (ไม่ใช่รายได้เหลือเก็บ แต่ของคุณคือรายได้"ไม่พอผ่อนแบงค์")และจะเป็นปัญหาในอนาคตแน่นอน เพราะรายได้จะไม่พอกับรายจ่าย คุณต้องการซื้อในราคา 18 ล.มีเงิน 4 ล. คือกู้ 14 ล้าน สมมุติแบงค์ให้ตามต้องการ 14 ล.(ในความจริงคุณจะกู้ได้ไม่ถึงจำนวนนี้แน่นอน) ระยะเวลาแบงค์ส่วนใหญ่จะให้คุณผ่อน 7 ปี ในช่วงนั้น จะต้องส่งต้น + ดอกเบี้ย ประมาณเดือนละ 2 แสน (คำนวนณ MLR 6.75 ) ในขณะที่คุณมีรายได้จากผู้เช่าเต็ม 100% เพียง 1 แสนบาท เท่ากับคุณต้องหาเงินมาจ่าย ธนาคารเพิ่มเดือนละ 1 แสน ยังไม่รวม ค่าดูแลซ่อมบำรุง ค่าคนดูแล ค่าจ้างยาม แม่บ้าน และปลายปี มีเงินสำรองไว้จ่ายภาษีหรือไม่ ภาษีโรงเรือนค่อนข้างสูง คิด 1.5 เดือนจาก รายได้ 12 เดือนของคุณ ถ้าสนใจทำอพาร์เม้นท์ ต้องมีเงินเย็น ค่อนข้างสูงก้อนหนึ่ง กู้ส่วนน้อยกว่า ค่ะ ถึงจะมีที่ดินเองก็ต้องมีเงินเย็น ของตัวเองก้อนหนึ่งเช่นกัน เงินร้อนต้องกู้เยอะอย่าทำเลย โอกาศเป็น NPL มีสูงมาก ของดิฉัน ที่ดินเอง ทำเลดีมาก กู้ 70% ของมูลค่าอาคาร(ไม่รวมที่ดิน) ยังหมุนเงินจนหัวปั่น ในแต่ละดือน จากคุณ : ฟ้าแสนสวย - [ 23 ก.พ. 49 10:46:34 A:202.183.142.252 X:202.183.143.245 TicketID:090955 ]