ความคิดเห็นที่ 1 สังเกตข้อ 2 เดิม จะไม่มีคำว่า "หรือเมื่อผู้มีเงินได้นั้นถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้งชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่..." ถ่ายมาไม่ชัดนิดนึง ต้องเพ่งหน่อย จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 16:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้เป็นประกาศ ฉบับที่ ๑๓๒ ชัดขึ้นมาหน่อย จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 17:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สังเกต (๒) นะครับ จะแตกต่างกับประกาศ ฉบับที่ ๙๐ จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 17:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อมีคำว่า "หรือเมื่อผู้มีเงินได้นั้นถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี นับแต่..." ก็น่าจะเป็น (๑) ถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี และ (๒) ไถ่ถอนเมื่อ     (ก) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๕๕ ปี หรือ     (ข) ถือหน่วยลงทุน RMF มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี คือมีสิทธิขายเมื่อถือมาแล้ว ๕ ปี โดยไม่เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี ตามแบบที่ อ.สุวรรณว่าไว้ ถูกไหม???? แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 17:12:01 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 17:11:16 จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 17:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากติดตามมานาน ผมอ่านแล้ว หลายรอบ ขอฟันธงเลยว่าขายได้ครับ (ถ้าฟันแล้วธงหัก เดี๋ยวไปฟ้องอาจารย์สุวรรณดีกว่า) ขอบคุณ คุณทวนลมฯ สำหรับ ราชกิจจาฯ ด้วยนะครับ จากคุณ : khanchang - [ 7 ก.พ. 49 17:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดังนั้น (1) ประเดินที่อ้างว่าพิมพ์ผิด คือไม่มีคำว่า "หรือเมื่อผู้มีเงินได้นั้นถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี นับแต่..." จึงตกไป (2) จะเห็นว่าเขาปลดล็อค อายุ 55 ปีแล้ว คือ เมื่อถือมาครบ 5 ปี ก็มีสิทธิขายตามประกาศฯ ฉบับที่ 132 ข้อ 1(2) โดยไม่ต้องรอให้ครบอายุ 55 ปี ดังนั้นที่ธนาคารก็ดี กองทุนก็ดี ก.ล.ต.ก็ดี บอกว่าต้องถือจนครบอายุ 55 ปีนั้น ไม่ถูกต้อง กฎหมายเขาให้สิทธิแล้ว ยังจะมาทำให้เสียสิทธิได้เยี่ยงไร เป็นอันว่าคงชัดเจนนะครับสำหรับ RMF แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 17:18:36 จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 17:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาติดตามเป็นระยะๆ ขอบคุณคุณทวนลมเรโชค่ะ แม้แต่สรรพากร โทรไปแต่ละทีก็ได้คำตอบไม่เหมือนกัน ทางกองทุนเองทุกกองก็บอกต้องถือจนครบ 55 ปี เราอ่านข้อกฎหมาย ก็ยังตีความไม่ค่อยออกว่าอะไรแน่ ต้องขอบคุณคุณทวนลมเรโชที่มาให้ความกระจ่างค่ะ จากคุณ : แพธารา - [ 7 ก.พ. 49 17:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลองเข้าไปค้นเจอในวารสารสรรพากรครับ ขออนุญาติแย้ง(ด้วยความเคารพ)คุณทวนลมนะครับ เพราะหลังจากไปค้นข้อมูลมาน่าจะสรุปได้ประมาณดังนี้คือ 1.ถ้าจะได้ครบทั้งการลดหย่อนทางภาษีและไม่ต้องนำกำไรจาก Capital Gain ตอนขายคืน ต้องถือจน 55 และครบ 5 ปี 2.ส่วนถ้าถือครบ 5 ปีแต่อายุไม่ถึง 55 จะได้รับยกเว้นเฉพาะ Capital Gain แต่ต้องคืนสิทธิ์ลดหย่อนทางภาษีย้อนหลัง 5 ปี 3.กรณีถือไม่ครบทั้ง 5 ปีและ 55 จะต้องคืนสิทธิทางภาษีและเสียภาษีในส่วนของ Capital Gain ด้วยครับ(โดน 2 เด้ง) 4.กรณีถือ 5 ปีที่ถกเถียงกัน(ตรงขีดเส้นใต้) น่าจะสำหรับคนที่ซื้อตอนอายุมากเช่นซื้อตอน 52 ก็ต้องถืออีก 5 ปี จะไถ่ถอนได้ตอน 57 ครับ หนังสือวางแผนภาษี Tax planing ของ อ.ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ผู้พิพากษาศาลภาษีอากรกลางก็ยกตัวอย่าง RMF ไว้ตรงกันครับ สรุปคือสมมุติซื้อตอนอายุ 30 ขายตอน 36 จะได้สิทธิไม่ต้องนำ กำไร Capital Gain มารวมคำนวณเป็นเงินได้ แต่จะต้องคืนสิทธิทางภาษี ถ้าอ่านข้อ 1 ใหญ่(ไม่มีวงเล็บ) ก็จะเห็นว่าเขาพูดถึงเฉพาะเงินได้จากการขาย RMF ไม่ได้รวมถึงสิทธิทางภาษีซึ่งถ้าขายก่อน 55 ต้องคืนสิทธินี้ย้อนหลัง 5 ปี จากคุณ : พานทองม้วน (พานทองม้วน) - [ 7 ก.พ. 49 18:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้างบนขอแก้ตำแหน่ง อ.ชัยสิทธิ เป็นประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลอุธรณ์ครับ จากคุณ : พานทองม้วน - [ 7 ก.พ. 49 18:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ที่อ่านมาจากคู่มือการลงทุนใน rmf  ก็ได้ใจความแบบเดียวกับคุณพานทองม้วน ปล. ชอบชื่อคุณจังเลย   น่าจะอร่อย จากคุณ : The Gollum - [ 7 ก.พ. 49 18:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตัวอย่างในหนังสือวารสารสรรพากรนะครับ นาย ก ซื้อ RMF ตอนอายุ 48 และลงทุนต่อเนื่องติดต่อกันจนอายุ 55 ในปีต่อมาได้ขายหน่วยลงทุน จะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆจากการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมด แม้ว่าหน่วยลงทุนที่ซื้อไว้ตอนอายุ 52 ถึง 55 ปีจะเป็นหน่วยลงทุนที่นาย ก.ถือครองน้อยกว่า 5 ปีก็ตาม หาก นาย ก. คืนหน่วยลงทุนทั้งหมดตอนอายุ 53 นาย ก.คงได้รับยกเว้นภาษีสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆจากการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมด แต่จะต้องคืนค่าลดหย่อนทางภาษีที่ได้ใช้สิทธิไปแล้วสำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อเมื่ออายุ 49 ปี ถึง 52 ปี เนื่องจากหน่วยลงทุนดังกล่าวมีอายุการถือครองน้อยกว่า 5 ปี ถ้าตามตัวอย่างสรุปก็คือปลดล็อกกรณีถือไม่ถึง 55 ปีเฉพาะ Capital Gain เท่านั้นอะครับ ดังนั้นพวกกองทุนต่างๆจึงแนะนำให้ถือจนถึง 55 เพื่อจะได้ไม่ต้องคืนสิทธิทางภาษี อีกอย่างกองทุนนี้ชื่อมันก็คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(ตั้งขึ้นเป็นให้เป็นการออมยามเกษียณ ) จากคุณ : พานทองม้วน - [ 7 ก.พ. 49 18:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฟันธง..... ถูกต้อง นะ คร๊าบ อ่านไม่รอบคอบ เกือบต้องคืนสิทธิทางภาษีไปแล้วมั้ยล่ะ อุตส่าห์ถือมาหลายปี จากคุณ : aa - [ 7 ก.พ. 49 19:28:17 A:202.142.219.55 X: TicketID:102256 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขออนุญาตถามคุณพานทองม้วนนิดหนึ่งนะครับ คือสงสัยว่าเอกสารอ้างอิงของคุณพานทองม้วน (วารสารสรรพากรกับหนังสือคู่มือวางแผนภาษี) พิมพ์ก่อนหรือหลังเดือนกันยายน 47 ครับ เพราะถ้าพิมพ์ออกมาก่อนประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 132 จะออกมา (3 กันยายน 47) แปลว่าข้อมูลอาจจะใช้ไม่ได้แล้วครับ เพราะมีประกาศฉบับนี้ออกมาแก้ แต่ถ้าพิมพ์ออกมาทีหลัง แม้จะขัดกับความรู้สึกกับคนที่ได้อ่านประกาศฯ ก็คงต้องยอมรับตามการตีความตามวารสารสรรพากรครับ ถ้าจะโต้แย้งก็ต้องไปสู้กันในศาลภาษีอากร ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องสนกสำหรับรายย่อย จากคุณ : Lepus - [ 7 ก.พ. 49 19:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พี่พานทองม้วนครับ ไม่เป้นไรหรอก ไม่ได้แย้งผมหรอก ดีอีก ช่วยกันคิดวิเคราะห์ นาย ก ซื้อ RMF ตอนอายุ 48 และลงทุนต่อเนื่องติดต่อกันจนอายุ 55 ในปีต่อมาได้ขายหน่วยลงทุน จะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆจากการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมด แม้ว่าหน่วยลงทุนที่ซื้อไว้ตอนอายุ 52 ถึง 55 ปีจะเป็นหน่วยลงทุนที่นาย ก.ถือครองน้อยกว่า 5 ปีก็ตาม อันนี้ไม่สงสัย แต่ยังสงสัยอีกอัน หาก นาย ก. คืนหน่วยลงทุนทั้งหมดตอนอายุ 53 นาย ก.คงได้รับยกเว้นภาษีสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆจากการขายคืนหน่วยลงทุนทั้งหมด แต่จะต้องคืนค่าลดหย่อนทางภาษีที่ได้ใช้สิทธิไปแล้วสำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อเมื่ออายุ 49 ปี ถึง 52 ปี เนื่องจากหน่วยลงทุนดังกล่าวมีอายุการถือครองน้อยกว่า 5 ปี ตามประกาศฯ ฉบับที่ 90 ข้อ 1  แก้ไขโดยประกาศฯ ฉบับที่ 132 บอกว่านับแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก สงสัยตรงนี้มากกว่า คำว่า "นับแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก" นี่แหละ ผมเห้นว่าเขาบอกว่า นับแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก งั้นส่วนที่ซื้ออายุ 49 ถึง 52 ก็ไม่น่าเอามานับด้วยสิ ซื้อครั้งแรกตอนอายุ 48 อายุ 48 นี้เป็นครั้งแรก พออีกปีก็อายุ 49,50,51,... 5 ปีนับแต่ซื้อครั้งแรก ดังนั้นปี 49 ปี 50 ปี 51 นี้ก้ไม่ใช่ครั้งแรก หรือว่าต้องนับ ปี 49 ปี 50 ปี 51 เป็นครั้งแรก ครั้งแรกหมายความว่าครั้งแรกที่ซื้อในปีนั้นหรือ เพราะปีนึงซื้อได้หลายครั้ง ต้องตีความอย่างนี้หรือเปล่า ส่วนที่ว่าต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งหมด นั้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ข้อ 2(56) วรรคท้าย คืนเมื่อไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขตามวรรคสาม ซึ่งก็คือตามประกาศฯ ฉบับที่ 90 นั้นแล ถ้าตีความตามที่ผมตีความในเรื่อง "นับแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก" ก็ไม่น่าต้องเสียสิทธิ ผมตีความเข้าข้างตัวเองไปไหม ไม่เป็นไร ยังไงซะที่ซื้อมาคงยังไม่ถึง 5 ปีกันยังมีเวลาอีกหลายปี ไว้เดี๋ยวมีเวลาไปถามท่านอาจารย์ชัยสิทธิกะตัวเลยดีเหมือนกัน ไม่อยากบอกเลยว่าผมก็เรียนกฎหมายภาษีมากับท่านอาจารย์ชัยสิทธินี่แหละ(เสียชื่ออาจารย์หมด) แต่ผมยังอ่อนอยู่เลย อิอิ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 21:40:19 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 21:38:56 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 21:34:12 จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 21:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่พานทองม้วนอย่าพึ่งเบื่อน่ะครับ อยู่คุยกันก่อน ยังมีประเด็นอีก เรื่องนับแต่ครั้งแรกนี่แหละ จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 7 ก.พ. 49 21:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า "เจตนา" ของกองทุนอันนี้ ค่อนข้างชัดเจนนะครับ คือต้องการให้เป็นเงินออมของคนในวัยชรา หรือเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ   ดังนั้นถ้ามองจากเจตนา ก็น่าจะแปลได้ว่ากฎหมายต้องการให้ขายคืนได้เมื่ออายุถึง55ปี ปีต่อมาเขาถึงได้ออกLTF มาเพื่อแก้จุดแข็งของRMF เรื่องการต้องถือยาวจนอายุ55 แต่ถ้าจะแกะกันทีละคำตามข้อความที่เขียน ก็อาจจะคิดไปในแนวที่ว่าไม่ต้องถือจนถึงอายุ55 ก็อาจจะได้ แต่สรรพากรเขาจะยอมคุณมั้ย?...ถ้าเขาบอกไม่ใช่อย่างนั้น ก็ต้องไปฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน สู้กันสุดท้ายอาจจะชนะ แต่ผมว่าสรรพากรไม่ได้ยอมตั้งแต่ยกแรกแน่ๆ ผมก็เคยถามสรรพากร ได้คำตอบไม่ชัดเจนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะแนวๆว่า ต้องถือจนถึงอายุ55   อาจเป็นเพราะเขาก็รู้ว่ากฎหมายมันดันเขียนมากำกวมอย่างนี้ จากคุณ : NV pooh - [ 8 ก.พ. 49 06:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าว ไหงกลายเป็นแบบนี้อีกแล้วอ่ะครับ ผมไม่ได้เรียนกฏหมายนะครับ แต่มีความสนใจอย่างมาก เนื่องจากคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับชีวิตเรา รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ประเด็นที่ถกกันอยู่ตอนนี้ผมชักเห็นด้วยกับ คุณ พานทองม้วน แล้วสิครับ หลังจากที่อ่านตัวอย่างที่คุณ พานทองม้วนยกมา แต่พออ่านมาถึง ความคิดเห็นที่ 14 ของคุณทวนลมฯอ่ะครับ เรื่อง "ซื้อครั้งแรก" ผมว่าสรรพากรหมายความถึงครั้งแรกในปีนั้นหรือเปล่าครับ คือจะพูดยังงัยดีครับ หมายความว่าเริ่มนับ 1 ใหม่ทุกปีงัยครับ เพราะฉะนั้นกองที่ซื้อมาตอน 49-52 เลยต้องคืนสิทธิอ่ะครับ ผมว่าสรรพากร (ตามหลัก) แล้วต้องตีความแบบนี้ คือ ตีความให้รัฐได้ประโยชน์ไว้ก่อน (เคยอ่านเจอในหนังสือ) แต่พอดีตอนนี้เรามีเหตุการณ์ที่สรรพากรตีความ กม. ให้รัฐเสียประโยชน์ไว้ก่อน ก็เลยทำให้พวกเราไม่แน่ใจมั้งครับ (ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ ที่คุยเรื่องภาษีอยู่ดีๆ แล้วผมชวนแวะไปเรื่องอื่น) แต่ว่าคนเก่งคุยกัน ผมเลยไม่รู้เรื่องเลย (-_- !) แต่ก็ดีครับ ช่วยกันถกช่วยกันคิด จะได้ได้คำตอบ จากคุณ : khanchang - [ 8 ก.พ. 49 09:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ได้ข่าวว่ากำลังจะแก้ให้ RMF เป็นถือให้ครบ 5 ปี โดยไม่ต้องถือจนถึงอายุ 55 ปี เหมือน LTF ตามที่อ.สุวรรณเคยแจ้งไว้ แต่รอความชัดเจนอีกครั้ง เพราะเรื่องมันยุ่งยากเลยไม่เคยซื้อเลย กลัวจะต้องจ่ายคืนภายหลัง จากคุณ : สมชาย บางพลี - [ 8 ก.พ. 49 09:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีตอนเช้าครับ ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญกฏหมายอะไรนะครับ แถมไม่ค่อยรู้เรื่องการลงทุนเท่าไร กระทู้ก่อนหน้าที่จะโยงมากระทู้นี้ผมก็เป็นเจ้าของกระทู้เองเพราะเกิดอาการ " งง " มากๆกับข้อกฏหมายเหมือนกับทุกท่าน....555 (๑) ถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี และ (๒) ไถ่ถอนเมื่อ (ก) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๕๕ ปี หรือ (ข) ถือหน่วยลงทุน RMF มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี จากข้อ (ข) และกรณี""นับแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก"ผมลองโทรสอบถามไปทางสรรพากร เขาบอกว่าสำหรับกรณีคนที่ซื้อกองทุน RMF ตอนอายุเกิน 50 อย่างเช่นซื้อตอนอายุ 52 ต้องถือจนถึง 57 อะครับจึงจะได้รับยกเว้นทั้ง Capital Gain + สิทธิทางภาษี คือถ้าไม่ต้องถือจน 55 เจ้า RMF กับ LTF มันก็จะเกือบเหมือนกันเปี๊ยบ(ยกเว้นต้องลงทุนต่อเนื่อง+นโยบายการลงทุน) RMF นี่(ถ้าจำไม่ผิด)น่าจะครบ 5 ปีในปีนี้ ดังนั้นกรณีคำพิพากษาศาลหรือคำวินิจฉัยกรณีการขายคืนหลังจากถือครบ 5 ปีแล้ว(แต่ยังไม่ถึง 55)เลยยังไม่น่าจะมีอะครับ เพราะถ้าอ่านตามข้อความ"""นับแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก"มันสามารถตีความหมายได้หลายทางเหมือนกัน ส่วนวารสารนี่ พอดีตอนนี้อยู่ที่ทำงานไม่ได้เอามาด้วยนะครับ แต่รู้สึกว่าจะเป็นปลายปี 2547 นะ ส่วนหนังสือวางแผนภาษีของ อ.ชัยสิทธิ์ เล่มที่ผมซื้อนี่พิมพ์ปี 2548(ชัวส์)ครับ ยังไงถ้ามีโอกาส ก็ฝากคุณทวนลมหรือผู้ที่สนใจทุกท่านสอบถามท่านอาจารย์ชัยสิทธิ์ หรือ อ.สุวรรณ วลัยเสถียร แล้วได้ผลเป็นยังไงอย่าลืมนำมาโพสต์เพิ่มเติมเพื่อเป็นวิทยาทานนะครับ :) จากคุณ : พานทองม้วน (พานทองม้วน) - [ 8 ก.พ. 49 10:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณพี่พานทองม้วนครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ผมก็ยอมตามครับ เรื่องถามอาจารย์ชัยสิทธิกะว่าจะกลับไปถามครับ แต่คงต้องรอประมาณเดือนมิถุนายนโน่นแน่ะครับ เพราะอาจารย์ท่านสอนที่เนติบัณฑิตย์ ภาค 1 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 15:19:44 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 15:17:21 จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ 8 ก.พ. 49 15:12:50 ]