ความคิดเห็นที่ 22
จขกท. หมายถึงเพื่อนบ้าน ลาว เขมร พม่า แซงไทยไปแล้วหรือไงครับ? หรือควรฟื้นตัวช้าแต่มั่นคงแบบเพื่อนบ้านลาว เขมร พม่า? __________________________________________ นายกฯลั่น5ปีผลงานชัด ต่างชาติกลับมาช้อนซื้อ ชี้เชื่อมั่นเศรษฐกิจแกร่ง โดย กระแสหุ้น 10/2/2549 รัฐบาลลั่นครบ 5 ปีพื้นฐานเศรษฐกิจแน่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวบรรยายเรื่อง "ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" (9 ก.พ.) ว่า เป็นวันที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบรอบ 5 ปี โดยผลการทำงานของรัฐบาลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมได้ผลและมีความแตกต่างจากที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มจาก 4.9 ล้านล้านบาท เป็น 7.1 ล้านล้าน หรือเพิ่มประมาณร้อยละ 40 หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท ในปัจจุบันนับจากรัฐบาลเข้ามาทำงาน รายได้ต่อหัวของประชากรอยู่ที่ 109,700 บาทต่อคน จากเดิมอยู่ที่ 79,100 บาทต่อคน โดยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มจาก 32,120 บาทต่อคน เพิ่มเป็น 52,320 บาทต่อคน โดยสูงขึ้นมากในสินค้ายางพารา สำหรับการกระจายรายได้ของประชากรนั้น สัดส่วนของผู้มีรายได้สูงระดับบนนั้นมีฐานลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 48.7 ของจีดีพี จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 57.8 ของจีดีพี สำหรับชนชั้นกลางที่มีสัดส่วนรายได้ ร้อยละ 38.3 เพิ่มขึ้นเป็นร้ยอละ 45.2 ของจีดีพี คนระดับล่างเพิ่มจากร้อยละ 4.2 เป็นร้อยละ 6.4 นับว่าคนระดับกลางและล่างมีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนปัญหาหนี้สาธารณะได้ลดลงจากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 57 เหลือร้อยละ 45.9 ของจีดีพี ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 32,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 53,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการเป็นหนี้ต่างประเทศจากเดิมสูงถึง 79,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดเหลือ 51,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น ภาระต่างประเทศลดลงไปมากและประเทศได้เปลี่ยนจากผู้กู้มาเป็นผู้ให้กู้มากขึ้น โดยสถาบันการเงินมีเงินกู้ระยะยาวมากกว่าระยะสั้นถึง 3 เท่า นับว่าสถาบันการเงินมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยเอ็นพีแอลลดลงจากร้อยละ 17.8 เหลือร้อยละ 8.2 และจะลดลงอีกมาก ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับเพิ่มจาก 297 จุด มาเป็น 747 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 300 เพราะมูลค่าตลาดรวมได้เพิ่มจาก 1.57 ล้านล้านบาท เป็น 5.37 ล้านล้านบาท และมูลค่าตลาดรวมจะวิ่งทันจีดีพีของประเทศซึ่งอยู่ที่ 7.1 ล้านล้านบาท ได้ในไม่ช้าซึ่งจะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น สำหรับอัตราการว่างงานนั้น ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2548 อยู่ที่ระดับร้อยละ 1.8 โดยทางเศรษฐศาสตร์การว่างงานระดับร้อยละ 2 ก็ถือว่าเป็นการจ้างงานที่เต็มที่แล้ว เนื่องจากในปัจจุบันเอกชนมีความต้องการแรงงานเพิ่มสูงขึ้น ใช้กำลังการผลิตของระบบประมาณร้อยละ 79 บางสาขาอยู่ที่ร้อยละ 89-90 ดังนั้น จึงต้องนำเข้าเครื่องจักรและแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้น ส่วนเส้นความอยากจนได้ขยับจาก 1,135 บาทต่อคนต่อเดือน มาอยู่ที่ 1,243 บาทต่อคนต่อเดือน โดยมีคนจนที่ต้องแก้ปัญหาต่อไปประมาณ 7.5 ล้านคน ดังนั้น การพัฒนาประเทศในช่วงต่อไปก็ยังเป็นการมองแบบ 2 ด้าน คือ ด้านสังคมและภาคเศรษฐกิจ โดยในเรื่องสังคมต้องมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการศึกษา ให้เด็กมีความรู้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาด้านต่างๆ ส่วนอีกด้านคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟฟ้า ระบบขนส่งมวลชน ระบบน้ำสาธารณสุข เพื่อเป็นการสร้างครั้งใหญ่ เพราะเมื่อมีระบบขนส่งมวลชนที่พร้อมจะทำให้การเดินทางง่ายสะดวกขึ้น และจะประหยัดในอีกหลายด้าน __________________________________________
จากคุณ :
หนึ่งมุมมอง
- [
10 ก.พ. 49 21:33:30
A:58.9.10.41 X: TicketID:109001
]
|
|
|