ความคิดเห็นที่ 1 UNI   ยูไนเต็ดฟูดส์ หุ้นในหมวดอาหาร ตัวนี้เข้าไปซื้อเพราะแอบแกะงบเก้าเดือน โดยบริษัทไม่ยอมแจ้งงบไตรมาสที่สาม แจ้งแต่งบเก้าเดือน พอหักลบกับกำไรหกเดือนที่ผ่านมา ที่แท้กำไรไตรมาสสาม ดีขึ้นมาก ก็เลยเข้าไปซื้อแบบ ไม่สนในสภาพคล่องคอเหมือนเดิม ที่ราคาแถวๆ ๑๐ - ๑๑ บาท โดยคิดว่า ขอให้พีอีต่ำ พีบีวีต่ำ มียีลด์ก็พอใจแล้ว ผมเข้าไปซื้อหลังประกาศงบไตรมาสสาม และก่อนที่จะมีการประกาศงบไตรมาสที่ ๔ บริษัทได้ออกข่าว ขอทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ราคา ๒๔ บาท !!!!!!!!! จำได้ว่าคืนนั้น หลังอ่านข่าวจากเวปตลาดฯ ผมนอนหลับสบายมากๆเลย เพราะว่า โชคดีจริงๆ  ที่มีอินไซด์เข้ามาแค่สิบนาทีสุดท้าย ก่อนจะปิดตลาดในวันศุกร์ ก็เลยยังงงๆ กับราคาที่กระโดดขึ้นมาแบบพรวดพราด ขายทิ้งไปแค่สิบเปอร์เซนต์ของที่ถืออยู่เท่านั้น ยูไนเต็ดฟูดส์เอาออกจากตลาดฯไปถือเอง ส่วนเอเจพลาสท์ ซึ่งตอนนั้นผลประกอบการยังเน่าอยู่ อยู่ในตลาดฯต่อ จนผลประกอบการเริ่มดีขึ้น และราคาหุ้นได้ถูกปั่น จนขึ้นไปมากกว่ายี่สิบเท่า   แถมแจกฟรีวอร์แรนท์ใช้สิทธิ์ได้ครั้งเดียวอีกด้วย ลืมเล่าไปนิด หุ้นตัวนี้ ผมขายทิ้งในตลาดฯจนหมด เพราะบางส่วนเสียส่วนต่างแค่ ยี่สิบห้าสตางค์ ส่วนที่เหลือ  มีมือดีมาตั้งซื้อเท่ากับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ ๒๔ บาท  เลยขายทิ้งจนหมด   ขี้เกียจจะเซนต์เอกสารกับรอรับเช็ค UTL   ยูนิไทไลน์เป็นหุ้นในหมวดขนส่ง ตัวนี้น่าจะเป็นเพียงตัวเดียว ที่ผมมั่นใจค่อนข้างมากว่า จะต้องมีการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อออกจากตลาดฯ เพราะจากการดูผู้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อปี ๒๕๔๖ ปรากฏข้อมูลดังนี้ 1 นาย ชวลิต เชาว์ 113,288,290  50.25 % 2 LIN HOLDINGS INC., MARSHALL ISLANDS 48,785,634 21.64 % 3 MACST TRUST INC., LIBERIA 45,587,710 20.22 % 4 CATHAY TRUST INC., LIBERIA 14,400,000 6.39  % ดูปั๊บก็เดาได้ว่า  มีซุกหุ้นแน่ๆ           ก็เลยซื้อไว้ที่หกบาทปลายๆ บวกเจ็ดบาทต้นๆ เหมียนเดิม  ใครๆก็บ่นว่า หุ้นไม่มีสภาพคล่องคอ ซื้อแล้วก็ถือรอ รอ และรอ   วันเวลาที่เจ้าของจะเอาหุ้นออกจากตลาด เพราะสภาพคล่องคอมันหมดแล้วจริงๆ รายย่อย ห้าร้อยกว่าคน ถือหุ้นรวมกันแค่ ๑.๕๐ % จังหวะที่คุณชวลิต เชาว์เข้ามาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ มันเป็นวงจรขาขึ้น ของพวกหุ้นเรือประเภทเทกองพอดี ตัวนี้ไม่แน่ใจว่า จะมีอินไซด์ค่อยๆตามเก็บหรือเปล่า แต่ราคาก็กระโดดจากแถว ๘ บาทต้นๆ ขึ้นไปที่ ๑๑ ในทันทีหลังข่าวออกแล้ว ถ้ามีอินไซด์  ก็คงทำกันแค่ พอหอมปากหอมคอ ประเภทซื้อตามน้ำ ซึ่งผมก็ได้ขายตามน้ำไปในตลาดฯ ในราคาที่มีส่วนลดประมาณสองสามเปอร์เซนต์ จากราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ ๑๑.๒๐ บาท ??? เรื่องตลกร้ายที่ตามก็คือ ถึงเจ้าของจะประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปแล้วหนึ่งรอบ ยังมีการขยับราคาเทนเดอร์เป็นก๊อกที่สองตามมาอีก ทำเอาต้องกัดฟันกรอดๆที่เสียรู้ (แต่ได้เงิน) ที่ตลกสุดโหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ พวกมืออาชีพในตลาดฯ จัดการปั่นยูนิไทยตามกระแสพวกเรือเทกอง ขึ้นไปอีก จนแพงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์เกือบหนึ่งเท่าตัว ราคาสูงสุดที่ปั่นคือ  ๒๑ บาท !!!!!!! ระหว่างนั้น บรรดาแมลงเม่าที่ตามเข้าไปเล่น ตามเสียงเชียร์ในเวปบอร์ด ตามเสียงเชียร์ของมาร์เก็ตติ้ง ก็เล่นไปเสียวไปกลัวหุ้นจะโดนเอาออกจากตลาดฯ แต่ก็มีพวกกูรู้  มาชี้แนะว่า ไม่ต้องกลัว  เจ้าของไม่เอาออกหรอก แค่ซื้อตามกฏของ กลต.   ไม่งั้นราคาไม่ขึ้นมาขนาดนี้หรอก ข้าพเจ้าอ่านเจอในเวปบอร์ดก็ได้แต่ปลงๆ ไม่กล้าออกความเห็น  เดี๋ยวจะกลายเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง เรื่องอะไรจะเอากระดูกมาแขวนคอ และแล้วสิ่งที่แมลงเม่าหุ้น   ไม่อยากจะได้ยิน ไม่อยากจะอ่านก็ตามมา ตลาดประกาศเพิกถอนหุ้นยูนิไทไลน์ออกจากตลาดฯ ตามคำเสนอซื้อของเจ้าของกิจการ นี่คือจุดจบที่ซ้ำชาก ของบรรดาแมลงเม่าหุ้น ที่ตกเป็นเครื่องมือของข่าว จบโดนหุ้นเล่น เข้าใจว่าแต่ละคนที่ซื้อเกินราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ คงเซนต์ขายหุ้นไป  น้ำตาตกไป TMD  หุ้นในหมวดหีบห่อ บรรจุภัณฑ์ การทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของถังโลหะไทย ดูราคาเสนอซื้อปั๊บ   ฟันธงทันทีว่า   เป็นการเสนอซื้อตามเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประเภท ข. แน่นอน แต่ราคาหุ้นก็ตกทันที ตอบรับกับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ มีอย่างที่ไหน  บุ๊คแวลู่ ๔๐ กว่า ดันประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แค่ ๙ บาท เลยทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ทำนอง ใจกล้าแต่ขาสั่น   ตั้งเสนอซื้อที่ราคาสูงกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์ประมาณ ๕๐ สตางค์ ด้วยใจที่เต้นตุบตับ กลัวเจ๊งจากราคาหุ้น (เรื่องออกจากตลาดฯไม่กลัวอยู่แล้ว) แล้วในที่สุด  อานิสงส์ของความใจกล้าแต่ขาสั่น ก็ทำให้ได้มาขายหมูหมดเล้าที่ ๑๕ บาทต้นๆ สำหรับ safe  คงเล่ากันจนเปื่อยหมดแล้ว ไม่ต้องเล่าซ้ำอีก แต่มีเกล็ดเล็กๆน้อยๆ ที่อยากจะบอกว่า "คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต" ตอนที่คุณปรัชญาเอาพอร์ตที่ผมลบทิ้งไปแล้วที่ห้องสินธร มาโพสที่ ทีวีไอ ผมเสียววาบเลย   คิดว่าเดี๋ยวต้องมีการกดราคารับซื้อแน่ๆ แล้วก็จริงๆด้วย   ราคาเริ่มไหลลงจาก ๗๐ ลงมาที่ ๖๗ ด้วยความไม่แน่ใจ  เพราะจริงๆแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาหุ้น ก็เลยตัดสินใจทิ้งไปก่อน หนึ่งหมื่นห้าพันหุ้น หยิบเงินล้านแรกขึ้นมาก่อน กำลังจะตัดสินใจขายต่อดีหรือเปล่า ก็ถึงเวลาที่ต้องไปรับลูก ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันพอดี ก็เลยตัดสินใจว่า   กลับมาจากรับลูกก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที ระหว่างทางที่ขี่จักรยาน พาลูกกลับมาจากโรงเรียน โบรกเกอร์ธนชาตได้โทรเข้ามือถือ แจ้งว่า วันนี้ เซฟ ขึ้นไปอีก สิบห้าบาท ผมเลยบอกว่า  ตอนนี้กำลังอยู่นอกบ้าน เดี๋ยวกลับบ้านค่อยโทรบอก ฟ้าลิขิตมาจริงๆ กลับถึงบ้าน หุ้นโดน halt ไปแล้ว ฟ้าคงลิขิตมา   ให้ได้ส่วนต่างอีกเกือบ สองล้านกว่าบาท เอวังก็มีด้วยปการฉนี้แล เดี๋ยวต้องไปรับลูกอีกแล้ว ====== หมดแล้วค้าบ เขียนโดยตั่วเล่าเฮียเคลี่ค้าบ จากคุณ : ขอบฟ้า จันทรา ดาบ - [ 17 ก.พ. 49 09:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณผู้กองเอ๊ดจี้  ที่ช่วยเป็นอัศวพักตร์ให้ (สำนวนคุณภรรโยโพเบีย) ความจริงที่ผมข้ามไปเมื่อวานนี้ เพราะโพสแบบแด็กส์ด่วนคือ ยังไม่ได้เล่าถึงการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ sst เดี๋ยวจะถือโอกาสโพสไว้ในนี้ก็แล้วกัน แล้วค่อยเอากลับไปตัดแปะที่ ทีวีไอ จากคุณ : endophine - [ 17 ก.พ. 49 10:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตั่วเฮีย เขียนหนังสือเหอะ เพื่อเป็นประโยชน์กับลูกหลาน .. จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 17 ก.พ. 49 10:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อาชาหมิ่ง  มาโหวตอีกหนึ่งครับ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 17 ก.พ. 49 10:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 >>>ขอบคุณครับ<<< จากคุณ : เมื่อคนึงก็ถึง เมื่อเห็นก็เป็น - [ 17 ก.พ. 49 10:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไปอ่านที่ tvi มาแล้ว ตามมาอ่านที่นี่อีกรอบ ยกมือสนับสนุนให้ออกหนังสือเลยค่ะ จากคุณ : หนูปูน - [ 17 ก.พ. 49 11:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สุดยอดเลยครับ เฮียendophine นับถือ นับถือ จากคุณ : รวยอยู่แล้ว ไม่เคยอิจฉาใคร - [ 17 ก.พ. 49 11:14:34 A:58.10.27.109 X: TicketID:111858 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่อยากขายก็ไม่ควรขายครับ จากคุณ : appendix - [ 17 ก.พ. 49 11:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : GABLIEL - [ 17 ก.พ. 49 11:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุนเรตติ้งครับ โอ้โฮ เกินไปมั่งคุณแกนดี้ ไว้วันงานมีตติ้ง จะลองคุยกับคุณบั๊กไลฟ์ดูครับ อาจจะยอมเจียดเงินซักแสน สองแสน มาเสี่ยงดู สำหรับตัวที่โพสข้ามไปคือ SST ทรัพย์ศรีไทยคลังสินค้า   sst  เป็นหุ้นในหมวดคลังสินค้า เดี๋ยวนี้ถูกยุบรวมเป็นหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ เริ่มซื้อครั้งแรกที่  ๑๖ บาท ก็ซื้อแบบเดิมๆเปี๊ยบ   เอามันง่ายๆไว้ก่อน พอร์ตสอนไว้ "พีอีต่ำ  พีบีวีต่ำ  ยีลด์ดี มีปันผล และสำคัญที่สุด โหงวเฮ้งเจ้าของต้องไม่หมกเม็ดแบบ บกพร่องโดยไม่รู้ไม่ชี้ ถ้าหมกเม็ดแบบไม่รู้ไม่ชี้ ต่อให้พีอีเหลือสอง ก็ไม่กล้าถือยาวหรอก" พอเริ่มซื้อเยอะขึ้น  ก็ต้องเร่งขยายผลแล้วซิ ตามเข้าไปแกะงบให้มันละเอียดมากขึ้น ปรากฏว่า  บริษัทไม่มีหนี้สินระยะยาวเลย หนี้สินระยะสั้น   ก็ประมาณว่า พวกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเด็กส่งเอกสารค้างจ่าย ที่สำคัญมากๆที่ทำให้กล้าเก็บยาวคือ   บริษัทไม่เคยตีราคาที่ดินใหม่เลย ตั้งแต่ตั้งบริษัทมา แถมระบุด้วยว่า เป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งรายใหม่ๆ เพราะราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา มันแพงเกินกว่า จะเอามาทำเป็นแค่โกดังเก็บของ พอซื้อเฉลี่ยขาชี้ฟ้า  เอ๊ยขาขึ้นเสร็จ ก็กินน้ำจิ้มเป็นปันผลมาเรื่อยๆ จนปันผลรวม มันท่วมราคาหุ้นล็อตแรกไปแล้วมั่ง ส่วนหุ้นล็อตหลังๆ  ก็ต้องรอ รอ และรอว่า เมื่อไร  เสี่ยเบียร์ช้างจะเข้ามาเทคเอาไปทำโรงแรม ทำเลสวยจะตายไป   อยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่พระปะแดง นอกจากฝันเห็นเสี่ยเบียร์ช้างแล้ว ยังเหลือบไปเห็นเสี่ยไทเก้นย่องเข้ามาเก็บหุ้น เข้าพอร์ตของ tta ด้วย ก็เลยฝันเฟื่องไปอีกหนึ่งเด้งว่า tta อาจจะเข้ามาทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์เหมือนกัน โอ้  ถ้าเทนเดอร์ออฟเฟอร์ตามมูลค่าตามบัญชีที่ปรับปรุงแล้ว แปดสิบเห็นๆ   หลังจากรอจนเหงือกแห้งมาเกือบสี่ห้าปี วิมานลอยที่วาดหวังไว้ ก็พังทะลายลง กลายเป็นว่า  เสี่ยโรงงานน้ำตาลเข้ามาเทคโอเวอร์จากไทยพาณิชย์ ที่ราคาแค่ ๕๑.๒๕ บาทเท่านั้น ลังเลจะตัดสินใจไปขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์ดีหรือไม่ ก็ให้สะดุดใจกับชื่อเสี่ยใหญ่ไมด้า ที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยเทค ตั้งสองล้านหุ้น แน่ใจมากๆว่า ไม่มีทางจะออกจากตลาดฯ ถึงออก ก็ต้องจ่ายแพงกว่าราคาเทนเดอร์ตอนนี้แน่ๆ ก็เลยตัดสินใจ  ยุให้เพื่อนไปตาย เอ๊ยขายแทน เผื่อเงินกำไรที่ได้  จะได้มาพาเที่ยวกำแพงเมืองจีนก็ยังดี เขาเลยขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไปหมื่นหุ้น ได้กำไรไปประมาณ สองแสนสามหมื่นบาท ส่วนของผมก็ชอร์ตอะเกนส์พอร์ตตามน้ำ สั่งขายในตลาดไปสองหมื่นหุ้น ที่ราคาต่ำกว่าเทนเดอร์ออฟเฟอร์หนึ่งสลึง จวบจนป่านนี้  ยังซื้อกลับในราคาที่ต่ำกว่าเดิม ไม่ได้แม้แต่หุ้นเดียว คงต้องปล่อยหุ้นที่เหลือ กินปันผล กับรอเมตตาจากเสี่ยไมด้าให้มาช่วยปั่นขึ้นหน่อยเถอะ ได้กำไรส่วนเกินทุนแบบเนื้อๆเมื่อไร ข้าพเจ้าจะได้ตามไปอุดหนุน "เพนเฮ้าส์" ซึ่งเคยเป็นของเสี่ยซักปี สองปี สำหรับ ทรัพย์ศรีไทย ได้เกาะกระแสเทนเดอร์เข้าไปแบบแด็กส์ด่วนเหมือนกัน คือตามเข้าไปเคาะซื้อเพื่อทำอาบริเทจ จากส่วนต่างราคาหุ้นในกระดาน  กับราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ปรากฏว่าญาติที่มีเงินสดจะเล่นอาบริเทจ กำไรไปสามหมื่นหกพันบาท  ในเวลาสิบกว่าวัน จากเงินลงทุนประมาณสองล้านห้าแสน โดยไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย ซื้อมา ๕๐ บาท ๕ หมื่นหุ้น ขายไป ๕๑ บาท จำนวนเท่ากัน และถ้าเกิดขายในกระดานไม่ได้   ก็จะตามไปขายให้คนทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แทน เอวังก็มีด้วยปการฉนี้แล้วจริงๆ   แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 11:53:08 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 11:49:51 จากคุณ : endophine - [ 17 ก.พ. 49 11:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ++++ ขอบคุณครับ(เดี๋ยวค่อยมาเก็บรายละอียด) ++++ จากคุณ : ลุค - [ 17 ก.พ. 49 11:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาอ่าน หนุกหนานมากๆ เลยครับ จากคุณ : m_ple - [ 17 ก.พ. 49 12:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใครมีข้อมูลการทำเทนเดอร์ของ GS แบตเตอรี่บ้างครับ (เห็นเป็นหุ้นที่คุณยรรยงค์ กล่าวถึงว่า ได้กำไรไป 20 เปอร์เซ็นต์ แน่ะ) จากคุณ : Big Father - [ 17 ก.พ. 49 12:53:26 A:unknown X:203.146.147.102 TicketID:021556 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากครับ ท่านพี่ คค. เป็น idol ทางการลงทุนหุ้น ของผมเลยครับ จากคุณ : reach target - [ 17 ก.พ. 49 13:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากครับที่เปิดเคล็ดลับให้น้องๆได้รับรู้ ผมขออนุญาติเฮียนำไปใช้ในการเลือกหุ้นนะครับ "พีอีต่ำ  พีบีวีต่ำ  ยีลด์ดี มีปันผล และสำคัญที่สุด โหงวเฮ้งเจ้าของต้องไม่หมกเม็ดแบบ บกพร่องโดยไม่รู้ไม่ชี้" โหวตให้แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 13:28:44 จากคุณ : คึกคัก15 - [ 17 ก.พ. 49 13:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับเฮีย ที่ทําให้ได้มีโอกาสอ่านกระทู้ดีๆแบบนี้  จะรออ่านฉบับรวมเล่มครับ   ขอโหวต จากคุณ : venice - [ 17 ก.พ. 49 13:45:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 phatra คุณ คลายเครียด กำไร ..กินส่วนต่างได้ในภาวะนั้นแล้วกำไร ถือว่าเป็นคนดวงดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ดิฉันทุน 258 บาท ต้องมาขายก่อนที่เขาจะมาตั้งโต๊ะซื้อ เพียง 4 บาท แทบจะกระอักเป็นเลือด ขายซะก่อนเพื่อความสะใจ ฟ้าไม่ได้ลิขิต แต่เราลิขิตและเลือกเดินเอง แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 15:08:03 จากคุณ : สุเกียง - [ 17 ก.พ. 49 14:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แจ๋วมากครับ จากคุณ : อาทิตย์จรัสแสง - [ 17 ก.พ. 49 16:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดิฉันมีหุ้นที่ถูกทำ tender ออกไป 2 ตัวคือ cmbt and UGP ล้วนเป็นหุ้นที่ฝรั่งเอาออกไป  อย่างไม่เต็มใจขายสักนิด หุ้น Phatra ก่อนฟองสบู่จะแตก ราคาแพงที่สุดในกลุ่มหลักทรัพย์นะ  ราคาเกิน 1400 ยังเคยเห็นเลย การทำ tender เกิดขึ้นในกลางปี 1998  หลังจากการปิดสถาบันเงินทุน 56 แห่งเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 1997   จึงไม่ใช่ทำก่อนฟองสบู่แตก  แต่หลังจากนั้นราวๆ 1 ปี   วันนั้น มีการประกาศว่าบริษัทฝรั่งขอซื้อส่วนหนึ่ง ทำให้บริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น  ราคาบนกระดานต่ำกว่าราคาที่ฝรั่งขอซื้อเกือบเท่าตัว ดิฉันเลยซื้อไว้ เป็นหุ้นตัวเดียวใน portfolio ที่เริ่มซื้อคืน หลังจากขายล้าง port ก่อนปิดสถาบันการเงิน เมื่อกลางปี 1997  ฉะนั้น ไม่จำสับสนแน่นอน จากนั้น มีธุระต้องไปหาซื้อหนังสือเรียนให้ลูกสาว เพราะที่โรงเรียนขายหมด  สั่งมาร์ให้ทิ้งซ้ายทุกราคาทันทีถ้าลงมาต่ำกว่า...(กลุ่ม finance ไม่น่าวางใจที่สุด หลุด 4 ช่องจากที่ซื้อให้ cut ทันที)   ปรากฎว่า กลับจากซื้อหนังสือ (ซึ่งหาไม่ได้ รุ่งขึ้นไปหาอีก 3 ที่จึงได้มา)  มาเจอ floor สนิท  จะบ้าตาย  สั่งขายทิ้ง floor 2  ตอนเปิดตลาดวันรุ่งขึ้น  และแล้วมันตีกลับไปที่ทุน แต่ไม่เป็นไร เพราะซื้อ nfs แทนราคา 3 บาท   ที่มันเป็นยังงี้  เพราะข่าวรั่วเรื่องการทำ tender offer นั่นเอง ถือว่าออกข่าวฝรั่งซื้อมาหลอกรายย่อยให้เข้าไปรับหุ้นราคาแพงๆไปส่วนหนึ่ง  แล้วกดราคาต่ำๆซื้อส่วนที่เหลือออกไป จากคุณ : prettypetite - [ 17 ก.พ. 49 18:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โหวตคราบบบ จากคุณ : asdf - [ 17 ก.พ. 49 19:22:44 A:161.200.173.179 X: TicketID:112236 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตครับโหวต ทำสถิติ2วัน1พัน1ร้อยกว่าคลิ๊กครับ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=15567&start=0 หรือตามอ่านผลงานของตั่วเฮียได้   >>> Temple Boxing School <<<(สำนักมวยวัด) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=prachaya555&group=7 จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 17 ก.พ. 49 20:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมขอเล่าบ้างครับ เท่าที่อ่านมาดูเหมือนจะจบกันที่เทนเดอร์ออฟเฟอร์เท่านั้นเอง หลังจากบริษัทพวกนั้นออกจากตลาดรู้ไหมว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรต่อ เอาตัวอย่างบริษัทดีๆละกัน CMBT เจ้ากระป๋อง ตอนอยู่ในตลาด กำไรดีมาก แต่ปันผลน้อยสุดๆ ผมจำได้ครั้งหนี่งมีการต่อรองกันในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าขอเพิ่มปันผลโดยที่ประชุมต้องยอมให้ขายบ.ลูกออกไปบริษัทหนึ่ง ปีนั้นปันผล 5 บาท และเป็นปีสุดท้ายก่อนจะถูกเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ออกจากตลาดไป ราคาดีด้วย ใจป้ำมาก 90 บาท หลังจากออกตลาด ปี48  ปันผลครั้งที่ 1  จ่าย 61 บาท                  ครั้งที่ 2  จ่าย 8 บาท                  ครั้งที่ 3 จ่าย 6 บาท ปี 49 ปันผลครั้งที่ 1   จ่าย 5 บาท ผลประกอบการก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่จ่ายปันผลง่ายกว่าเดิมเยอะ เสียอย่างเดียวผมมีแค่ 200 หุ้น ยังมีบริษัทที่เจ๋งกว่านี้อีกนะครับ EAC อีสต์เอเชียติ๊ก จากคุณ : ดูแล ให้ทาง - [ 17 ก.พ. 49 21:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ....หน้าแมว.... ตามมาเชียร์กระทู้พี่เอ็นโดฯ เหมือนเคย อิอิ จากคุณ : ม่ายสาว-พราวเสน่ห์ - [ 17 ก.พ. 49 21:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 24 EAC อีสต์เอเชียติ๊ก บริษัทเก่าแก่ อายุร้อยกว่าปี ทำเทนเดอร์ ออกจากตลาดไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่ราคา 29 บาท ราคาเทนเดอร์ กดต่ำสุดๆ แม่ของผมซื้อมาตอน 45 ทำใจขายราคานี้ไม่ได้ แม่บอกว่าเอาสิบริษัทดี มีชื่อเสียงและเก่าแก่ขนาดนี้ ออกตลาดไปแล้วจะไม่ได้เงินคืนก็ให้มันรู้ไปสิ ไม่เอาก็ได้ 29 บาท แม่ไม่ยอมเซ็นขายด้วยอารมณ์โมโห แม่โทรถามญาติๆ ในตอนหลังเทนเดอร์ไปแล้วว่าเขายอมขายขาดทุนเพื่อเอาเงินไปซื้อตัวอื่น เพราะเขาอ่านความเห็นที่ปรึกษาฝั่งผู้ถือหุ้น+ความเห็นกรรมการว่า ควรจะขายเพราะออกไปแล้วจะไม่มีสภาพคล่องและราคานี้ดีสุดแล้ว เอาละครับพอออกจากตลาดทีนี้ได้เรื่องเลย ก่อนจะมีการจ่ายปันผล มีหนังสือจากบริษัทแจ้งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้ขายเทนเดอร์ ให้ขายได้อีกครั้ง ที่ราคาเดิม 29 บาท แม่บอกยังไงก็ไม่ขาย เอาละไม่ขายก็ไม่ขาย ผลปรากฏว่าแม่ถูก ปีที่ 1 ปันผลครั้งที่ 1 เป็นกรณีพิเศษ 16 บาท                        2 ปันผลประจำปี 5 บาท                        3 ปันผลกลางปี 5 บาท ปีที่2 ปันผลปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 บาท ถึง 5 บาท ปีที่3 มีรายการพิเศษ ขอซื้อหุ้นคืนอีกครั้งในราคาประมาณ 45 บาท เอาละสิ ราคานี้ต้นทุนซะด้วย ขายก็ได้ทุนคืนบวกกำไรจากปันผลเลยนะ แต่คราวนี้ไม่ไว้ใจแล้วกลัวถูกหลอกเหมือนคราวก่อนที่กดราคาแค่ 29 แม่ผมไม่คิดเลยตอบว่าไม่ขายเพราะได้ทุนคืนหมดแล้ว อยู่เฉยๆก็ได้ รวม 3-4 ปีนี้รับปันผลอย่างเดียวเลย ไม่ต้องมาดูราคาหน้าจอ สบายใจจัง ปีที่แล้วนี้เอง บริษัทแจ้งว่าจะเป็นการซื้อหุ้นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ย้ำครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ขายจะบังคับแล้ว เดาสิครับว่าราคาเท่าไหร่ หมายเหตุ มันไม่ได้หมายความว่าหุ้นที่เทนเดอร์ออกจากตลาดมันจะไปได้ดีทุกตัว ตอนนี้ยังลำบากใจกับแก้วส่องอยู่เลย น่าจะยอมตอนเทนเดอร์ รอบที่แล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 2.91 แล้วเห็นว่าออกไปแล้วจะเอาไปเชือดปิดกิจการซะงั้น จากคุณ : ดูแล ให้ทาง - [ 17 ก.พ. 49 22:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 cmbt เป็นหุ้นที่ดิฉันเหลือค้าง port ตัวเดียวตอนล้างตัวอื่นๆออกหมด ก่อนปิด 56 สถาบันการเงิน และ SET ลงไป 204 ตั้งแต่ปี 1994 ตัวนี้เป็นหุ้นที่ถือยาวที่สุด ปันผลน้อยมากๆ  แค่ 1 บาท ต่อกำไร 4 บาท พอกำไรเพิ่มเป็น 8 ก็จ่ายแค่ 1 บาทนั่นแหละ  จนกำไร 16 ก็จ่ายแค่ 2 จนทะเลาะกับผู้ถือหุ้นรายย่อย ประชุมกันเช้าถึงค่ำ ได้มา 4 บาท  ไม่ใช่ 5  เพราะเขาเก็บเงินเอาไว้ทำ tender offer จากรายย่อยนั่นแหละ ไม่ fair กับผู้ถือหุ้นเก่าแก่เลย ตอนราคาหุ้น 72 บาท  ก็ไม่ขาย  และแล้วมีข่าวที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าใจผิด คิดว่าบริษัทประสบปัญหาจนต้องขายบริษัทลูก  หุ้นถูกทิ้งเละเทะทันที   รุ่งขึ้น ดิฉันไปห้องค้า printed ข่าวออกมาอ่านเอง เป็นภาษาอังกฤษไม่มีแปลไทย ยาวสัก 8 หน้า  ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นข่าวร้ายตรงไหนสักนิดเดียว เพราะบริษัทลูกนี้ไม่ทำกำไรและอาจจะขาดทุน  เก็บไว้จะทำให้บัญชีไม่สวย เลยขายฝากบริษัทแม่ไปก่อน โดยมีสัญญาให้ซื้อคืนได้ในราคาเดิม เมื่อมีกำไรแล้ว   เป็นเหตุให้ดิฉันไม่ขายออกไป เพราะไม่คิดว่าจะมีใครยอมขายตัดขาดทุนหุ้นเยี่ยมๆขนาดนี้  เพราะคนที่จะมีราคาต่ำคือคนที่ซื้อมาหลายปี  แต่นักลงทุนไทย มักจะหาเหตุผลในการซื้อขายไม่เจอ  หุ้นไหลลงไปเหลือ 40 บาท   เลยบอกให้เพื่อนๆคนไทยที่มีเงินเย็นๆซื้อเอาไว้ ตัวเองก็ยังคงถืออย่างทรหด จนเวลาล่วงไปหลายเกือบปี ราคาไม่ไปไหน  น้องชายเลยบอกให้ขายออกไปแลกตัวอื่นเล่น ดิฉันขายหมดราคา 40 กะสัก 1 อาทิตย์จะย้อนมาเอาคืน แต่แค่ 4 วันเท่านั้น พอขายทำกำไรตัวอื่นปั๊ป  บอกมาร์ให้ซื้อคืน มาร์ว่า เพิ่งแขวนป้ายเมื่อเช้านี้เอง จะเป็นลม ถือมา 5 ปี ดิฉันก็เลยเอาเงินไปซื้อ ssc ราคา 80 ขายไป 150 เพื่อเอาไปซื้อ UGP ราคา 120 เพราะปันผล 14 บาท ตอนนั้นตัวนี้ถือว่ากำไรสูงที่สุด และปันผลสูงที่สุดบนกระดาน มากกว่าแป๊ปซี่ 2 เท่า แต่ราคาถูกกว่า  เพื่อนๆในห้องค้าร้องยี้ (อีกแล้ว) วันที่ 11 กันยา ดิฉันตื่นแต่เช้าเพราะปวดหัวขนาดหนัก นอนไม่หลับทั้งคืน สังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้าย เลยโทรไปขายล้าง port หมดทั้ง 2 โบรก ให้เก็บแค่ UGP ไว้เพียงตัวเดียว จากนั้น นั่งเฝ้าจอทีวีช่อง CNBC จนได้เวลาละครหลังข่าว ลูกเปลี่ยนไปช่อง 3  ดูแป๊ปเดียว  รีบเปลี่ยนมาช่องข่าวต่างประเทศอีก ลูกๆเขาหาว่าแม่บ้า  ก็ทันดูข่าวสดเห็นเครื่องบินชนตึก world trade  รีบ MSN คุยกับเพื่อนที่อเมริกา บอกว่าไม่ทันดูลำแรกชนตึก เพราะลูกดูละครทีวี เพื่อนว่า นี่แหละถือว่าเป็นลำแรกที่เห็นกันทางทีวี   รุ่งขึ้น หุ้นทั้งกระดานลงเละทุกตัว เว้นตัวนี้ตัวเดียว ต่อมามีแรงซื้อเข้ามาผิดสังเกตุ  ไล่ราคามาขึ้นเรื่อยๆ จนราคาสูงที่สุดบนกระดาน ถือสัก 4 เดือน ประกาศปันผลให้ 16 บาท   จนวันหนึ่ง ปิดตลาดเห็นตั้งรอ 196 197 198 ขึ้นทีละบาท น่ารำคาญจัง  เลยสั่งซื้อที่ 206 บาทไปเลย  ได้หุ้นมาราคา 200 ...เฮ  ได้ขึ้นทีละ 2 บาทเสียที   ไม่กี่วันต่อมา เขาทำ tender offer ที่ 234 หรือไงนี่แหละ   ขายไปดีกว่า หากลุ่มที่ขายแก๊ซ และเคมีมาเล่นใหม่ก็ได้  เลยซื้อ ptt 28.25  atc 14   ขายหมูไปหมดก่อนจะขึ้นแรง   หุ้นที่ดิฉันเลือกซื้อ นอกจากจะต้องถูกแล้ว ยังต้องเป็นตัวที่เป็นผู้นำในกลุ่ม เช่นราคาสูงที่สุด ใหญ่ที่สุด หรืออย่างน้อยตัวรอง  เช่น advanc, true, bbl,  ptt, pttep, scc, kest, rcl, psl, amata, itd, lh, ohtl, tnl, bec เมื่อก่อนซื้อ แต่เลิกซื้อตั้งแต่หลุด 20 บาท หุ้นปั่น หุ้นเน่า หุ้นตัวเล็กๆ  ไม่ซื้อ เพราะพวกนี้อารมณ์แปรปรวนง่าย เอาใจไม่ถูก  ตัวที่นิ่งเฉยเป็นยามก็น่าเบื่อหน่าย จากคุณ : prettypetite - [ 18 ก.พ. 49 01:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบพระคุณครับ จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 - [ 18 ก.พ. 49 02:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ``พี่ prettypetite ลำดับเรื่องราวได้ดีจริงๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาพี่เล่ามาเป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ อยากย้อนกลับไป จะเก็บตัว advanc 42 บาท ptt 45 บาท scc 110 บาท rcl 15 บาท psl 107 บาท(ยังไม่แตกพาร์) amata 6.50 บาท itd 12 บาท (ยังไม่แตกพาร์) ปตทสผ.112 บาท ยังต้องขายไปที่ 108 บาทเลย เสียดายจนทำใจไม่ได้อยู่ทุกวันนี้ ล้วนแล้วมีหมด พอถือก็มีข่าวออกมาทุกที ในที่สุดก็ต้องปล่อยหมด หากถือมาทุกวันนี้ กำไรจนฟื้นทุนไปนานแล้ว เฮ้อ...อยากจะ...เจาะเวลาหาอดีต..เก็บหุ้นเก่าที่เคยถือไว้คืนมา ตอนนี้เป็นเพียงแค่รากฝอยที่อาศัยดินเกาะเท่านั้น รากแก้วมันช้ำจนเน่าไม่มีเหลือให้เติบโตต่อไป ที่ยืนยงอยู่ได้ทุกวันนี้ เป็นเพียงกำลังใจที่เหลืออยู่เฮือกสุดท้าย ที่เกาะเกี่ยวพลังชีวิตให้อยู่ได้ไปวันๆเท่านั้น ความอยากลองเสี่ยงมันฝังเข้ากระดูก ยากนักที่จะแยกไปจากชีวิต ก็คงจะต้องลุยไปจนความจำจะเสื่อมไป คงจะหยุดเองเมื่อนั้น นับถือความทรงจำของพี่ prettypetite มากๆ ให้ดิฉันเล่าก็คงเล่าไม่ถูก อยากลืม แม้หลับตื่นมายังนึกว่าที่ผ่านไปเป็นเพียงฝันตื่นหนึ่ง วงจรชีวิตคนเราผูกพันกับการพนันหลายๆรูปแบบ ล้วนแล้วแต่เป็นฉากของปลาใหญ่ล่อหวังเหยื่อตัวเล็กๆทั้งนั้น ฮาๆๆไม่อยากใช้คำว่าวันรำลึกหุ้นเก่าเลยจริงๆ เพราะมันเจ๊งไปกับอดีตแล้วจริงๆแหละ คนรุ่นใหม่ก็ยังหมุนเวียนเข้ามาลงทุนเรื่อยๆ เพราะภาพลวงตามันเย้ายวนใจจริงๆ อยากลงทุนนั้นไม่ผิดเพราะทุกคนต่างวาดความคิดความหวังมาก่อนทั้งนั้น ไม่ลองไม่รู้ พอลองแล้วจะทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความตื่นตัวมากกว่าคนปกติทั่วไป อันนี้ต้องเสียจึงรู้บทเรียน เจ็บ..แล้ว..ต้อง..จำ..เป็นครั้งที่เท่าไหร่..หลอกตัวเอง..ได้ทุกที.. จนเข้าวัยชราก็ยัง..หลงทาง..หาทางลง...ไม่ได้เสียที แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 08:47:19 จากคุณ : สุเกียง - [ 18 ก.พ. 49 02:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 28 UGP ออกจากตลาดราคา237บาทครับ คุณ : prettypetite  คงจำผิด [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 18 ก.พ. 49 22:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 30 พฤษภาคม 2545 เรื่อง    ขอแจ้งการได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) เรียน    กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เอกสารแนบ แบบ 247 - 4 บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ขอแจ้งให้ ทราบว่า บริษัทฯ ได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ของบริษัทฯ จาก บริษัท ไทยอินดัสเตรียล แก๊ส จำกัด (มหาชน)  โดยผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์คือ บริษัท ไทยอินดัสเตรียลแก๊ส จำกัด (มหาชน) จะเสนอซื้อ หุ้นสามัญของบริษัทฯเป็นการทั่วไปจำนวน 2,130,350 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 20.29 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย ได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 237 บาท (รายละเอียดตาม เอกสารแนบ) จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ                                         ขอแสดงความนับถือ                     ( นายเอเดน ฟิลลิป เฮล )(  นายอมริทธิ์หะริณธนาวุฒิ )                                             กรรมการ จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 18 ก.พ. 49 22:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พักสมุดก่อนมรการทำเทรนเดอร์  ข้อมูลผู้ถือหุ้น   ชื่อ จำนวนหุ้น % 1 นาง อรอนงค์ เฉลิมทรัพยากร 1,687,500 16.07 2 นาง ล้วนมณี อัศวานนท์ 1,047,600 9.98 3 นาย อนุตร์ อัศวานนท์ 1,044,500 9.95 4 น.ส. พัณณิดา เฉลิมทรัพยากร 1,041,450 9.92 5 นาย พงศเฉลิม เฉลิมทรัพยากร 1,040,000 9.9 6 น.ส. ภัทรา เฉลิมทรัพยากร 1,040,000 9.9 7 นาย ศุภลักษณ์ อัศวานนท์ 503,300 4.79 8 น.ส. ศรีสุรางค์ อัศวานนท์ 501,800 4.78 9 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY, FOR 452,950 4.31 10 บริษัท สปินนีส์ (ประเทศไทย) จำกัด 323,800 3.08 11 HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD 150,100 1.43 12 MITSIAM INTERNATIONAL LTD. 150,000 1.43 13 MITSUI & CO., LTD. 150,000 1.43 14 SG SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD. 125,300 1.19 15 กองทุนเปิด ออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 83,700 0.8 16 นาย ปรัชญา ฤกษ์ดีทวีทรัพย์ 75,500 0.72 17 SOMERS (U.K.) LIMITED [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 18 ก.พ. 49 22:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 vote ครับ และ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : samsam - [ 19 ก.พ. 49 10:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากครับ :) ออกหนังสือเถอะครับ เรื่องราวน่าอ่านมากเลยครับ :) จากคุณ : BeSmile - [ 20 ก.พ. 49 09:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเอ่าน และให้กำลังใจอีกครั้งครับ เสี่ยปรัชญา   ขายเทนเดอร์ยูนิคแก๊สตัวเดียว กำไรเกินสิบล้านบาท    รวมกับฟาร์อีสอีกสิบล้าน ป่านนี้มูลค่าพอร์ตของเสี่ยปรัชญา คงประมาณ ห้าสิบล้านขึ้นไป ข้อมูลของคุณพริตตี้ฯ  น่าสนใจดีครับ เป็นคนจำรายละเอียดต่างๆ ได้ค่อนข้างดี ส่วนผม  มักจะจำรายละเอียดเรื่องเวลา และราคาหุ้นผิดพลาด และข้อมูลของคุณดูแล ให้ทาง ขออนุญาตนำไปตัดแปะในกระทู้ที่เวปทีวีไอนะครับ น่าสนใจมากๆ   มันช่วยตอกย้ำความเชื่อของผมว่า หุ้นที่จะโดนเทนเดอร์ออฟเฟอร์ออกจากตลาด มักจะเป็นหุ้นดีๆ ที่หมดอายุใช้งานในการปั่นหุ้น เจ้าของเลยเอากลับไปถือกินดอกผลเอง สำหรับข้อมูลที่ผมให้ไว้ผิดพลาด หลังจากไปรื้อเอกสารเก่าๆก็คือ ยูไนเต็ดฟู๊ดส์  ผมถือไว้แค่สองเดือน เจ้าของก็ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ที่ ๒๔ บาท ราคาแท้จริงที่ผมซื้อคือ   ๘ บาทถึง ๙ บาท ไม่ใช่ ๑๑ บาทกว่า จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า ผมขายไปล็อตแรกในราคาที่ต่ำกว่าราคาเทนเดอร์ตั้งเกือบ ๑ บาท คือคิดไว้แล้วว่า  ยังไงก็ต้องทำคลายเครียดเรโชไว้ก่อน ที่เหลืออีกครึ่ง ค่อยขายในตลาดฯที่ราคาเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ในอีก ๔ เดือนต่อมา มีคำถามตามมาว่า ทำไมผมไม่ยอมรอขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์ให้เจ้าของบริษัท เหมือนกับที่เอาหุ้นโฟร์โมสต์ไปขายคืน คำตอบก็คือ ความไว้วางใจ ที่เรามีให้กับผู้ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ มันบีบให้เราต้องบริหารความเสี่ยง จากสิ่งที่เราคิดว่า  เราไม่รู้ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 10:26:10 จากคุณ : endophine - [ 20 ก.พ. 49 10:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พอท์ตผมไม่มีน้ำหนักถึง50กิโลหรอกครับเฮีย เสียทางไปหลายที ออกจากแก๊สผมก็ไปเข้าหุ้นไม้ยางพาราที่ทำฟินิเจอร์ แฟนพี่ ถือรับปันผลได้งวดเดียว  จู่ๆเจ้าของบริษัท ก็ขายหุ้นออกมา135ล้านบาท ผมเจอรายงานตลาดวันต่อมา หุ้นซึ่งราคารูดลงต่ำกว่าที่ผมเข้าลงทุน ผมก็เทขายแบบหมดหน้าตัก สรุปหลงจ๊งเก๋าเจ๊งตัวแฟนพี่ คัดล๊อท(อยากบอกว่าขาดทุน) 2ล้านก่าบาทครับ ส่วนฟาร์อีสต์ขายหมดม๊ะมีเหลือเลย เมื่อเบิกใบ้หุ้นมาโอนให้กับเพื่อนรับเหมาก่อสร้างตอนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เมื่อหลังXDปีก่อน  ทำไงได้ครับเงินไม่มี จะขายหุ้นสภาพไม่คล่องก็ไม่มีแรงรับ เลยขายกันเองไปที่ราคา65บาทต่อหุ้น  ขณะที่ราคาในกระดาน74บาท ใครว่าตก...ขายหมูก็ให้เขาว่าไปเถอะ   ินิัสัยผมไม่ดีเคยได้แก๊ส  แล้วก็มาหมดแก๊สอีก  เหอๆๆๆ ติดหุ้นอีก  กลายเป็นเล่นหุ้นแบบพอเพียงไปครับตั่วเฮียเอ็น จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 20 ก.พ. 49 12:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มาช้ำใจกับแฟนพี่อีกคนคร้าบ ผมก็เล่นขายก่อนปันผลตั้ง 2-3 งวด ก่อนจะปล่อยไปแบบเสียค่าเวลาครับ คิดๆ ขึ้นมาแล้ว ดีที่ตัดสินใจล้างแฟนพี่ไป ตอนผลประกอบการไตรมาส 3 ปีก่อนโน้นมัง ออกมา เพราะขนาดจีนโดนภาษีทุ่มตลาด แฟนพี่กำไรยังไม่ขยับเลย จากคุณ : ขอบฟ้า จันทรา ดาบ - [ 21 ก.พ. 49 10:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาอ่านอีก ขอบคุณครับ พี่ปรัชญากำไร20ล้าน ขาดทุนแฟนพี่2ก่า ยังกำไรอีก17ก่าๆ   แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 14:21:06 จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 21 ก.พ. 49 13:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เยี่ยมมากๆ เลยครับ.. จากคุณ : บุญทับ - [ 22 ก.พ. 49 18:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณ & โหวต ครับ รออ่านหนังสือด้วยอีกหนึ่งเสียงครับ จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 23 ก.พ. 49 22:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 36 มาอ่านอีก ขอบคุณครับ smile พี่ปรัชญากำไร20ล้าน ขาดทุนแฟนพี่2ก่า ยังกำไรอีก17ก่าๆ  smile แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 14:21:06 จากคุณ : เต่าหยวนเปียว ---------------------------------------------------------------------------------- ต้องเอาเงินหายในทู้นี้ไปลบด้วยครับท่านเต่า  อิอิ http://www.thaivi.com/webboard//viewtopic.php?t=15733 ---------------------------------------------------------------------------------- เหตุเกิดขึ้นวันที่24  กพ  49 จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 24 ก.พ. 49 23:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกระทู้ที่ดีที่มีโอกาสเข้ามาอ่าน  ขอบคุณที่นำ ประสบการณ์มาเล่าให้ฟังครับ  ทำให้ต้อง save ไว้   แต่ อ่านจบชักหนาว (ไม่ทราบเพราะแอร์ในห้องนอนตอนใกล้ รุ่งหรือเปล่า ???)   .......อันตัวเราความรู้ เงินทอง..ก็น้อย นิด  เหตุไฉนจึงกล้าเข้ามาโดดเดี่ยวอยู่ในวงการนี้ ..ฮือ... ฮือ........... จากคุณ : jinvet - [ 25 ก.พ. 49 04:48:55 ]