ความคิดเห็นที่ 1 คิดเสียว่า เป็นการชดเชยที่น้องขอให้มาพูด แล้วได้ปฏิเสธไป เพราะโดยรวม คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีประวัติแห่งความสำเร็จอันยาวนาน ก็คิดว่ามิบังอาจที่จะไปแสดงความรู้กระจิดริ๊ดในที่สาธารณะ อืม แถมไม่รู้ว่าจะได้ไปร่วมงานด้วยไหม น้องอุตส่าห์จัดวันดีดีให้แล้ว ผมดันโดนโรคเลื่อนอีก จะไปลองเลื่อนงานผมดูก่อนเพราะอยากไปเจอพี่พี่น้องน้องสินธรมากๆ บทความต่อไปนี้ หลายส่วนที่ไม่ดี มันช่างคล้ายกับตัวผมเสียเหลือเกิน และดูเหมือนหลายคนอาจจะเห็นด้วยว่า มันคล้ายกับตัวท่านเอง ไม่มากก็น้อย มันอาจมีประโยชน์บ้างสำหรับบางท่าน ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว แต่จะมีประโยชน์มากสำหรับท่านที่ยังไม่สำเร็จ ยังขาดทุนอยู่มากเหมือนกับผม เพียงถ้าท่านจะเริ่มแก้ไขเสียแต่วันนี้ เนื่องจากบทความยาวมาก ผมจึงขอตัดทอนให้เหลือเพียงใจความสำคัญ แต่ก็สัญญาว่าจะเสนอในประเด็นที่สำคัญ เพื่อให้มันคงอรรถรส และให้หลักการที่ดีที่จะทำให้เทรดได้นานยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ถ้าสิ่งที่จะโพสต์นี้ ไปพ้องหรือว่าเป็นสิ่งที่บางท่านรู้อยู่แล้ว ก็ขอประทานอภัยมา ณ ทีนี้ครับ จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 10:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บทความนี้ มาจากการคุยโต้ตอบกันของนักเล่นหุ้นสองคนในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง หนึ่งคนเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์ไม่มาก ในขณะที่อีกคนนั้นโชกโชน มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี และต้องการที่จะแชร์ประสบการณ์ด้วย สิ่งที่ผมจะนำมาเสนอนี้ มีบางส่วนที่อาจขาดหายไป หรือเพิ่มเติมขึ้นมาตามความรู้ที่ผมมี แต่มิได้ตัดทอนด้วยเจตนาปิดกั้นใดใดทั้งสิ้น ถ้ามีความผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ตัวละครในเรื่อง ถ้ามีการกล่าวถึงจะมีสองคน คนที่โชกโชนชื่อป๊อบ คนที่ประสบการณ์น้อยกว่าชื่ออาร์ต ละกันนะครับ จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 10:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บทที่ 1 บทนำ ขอแนะนำตัวละครคร่าวๆ ในที่นี้ มีสองคนคือคุณป๊อปและคุณอาร์ต คนแรก คุณป๊อป นักลงทุนผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ได้นำความรู้มาถ่ายทอดในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง โดยมีคนที่สอง คุณอาร์ต นักลงทุนอีกคนเป็นผู้ที่สอบถาม และให้ข้อคิดเห็นสำหรับความรู้หรือข้อมูลที่คุณป๊อปนำมาแสดง ป๊อป: มีคนมากมายถามผมถึงความลับในการเทรดของผม นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่คิดว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จอยู่ที่ความรู้ แต่ตลอดชั่วชีวิตผม ผมพบว่า ปัจจัยที่แท้จริงคือ ความรู้ที่ถูกต้อง และความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ทั้งสองอย่างร่วมกัน จึงจะทำให้เล่นหุ้นได้สำเร็จ ถ้าคุณมีเพียงความรู้ที่ถูกต้อง แต่ปราศจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็จะทำให้คุณเทรดผิดพลาดไปจากแผนการอันยอดเยี่ยมที่คุณได้วางไว้ ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีในการศึกษา เพื่อค้นหาความรู้ในการเทรดที่ถูกต้อง และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ผมได้ใช้กฎเพียงสองข้อในการเทรด ทั้งสองกฎนี้ได้เปลี่ยนวิธีการคิดและพฤติกรรมของผมอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองกฎนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเทรดที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งผมจะนำถ่ายทอดให้กับทุกท่าน ข้อตกลงคือ หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ ความสำเร็จของท่านในการเทรดจะขึ้นอยู่กับมือของท่านและทิศทางที่ท่านเลือกเดิน แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:02:26 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:02:09 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:01:03 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 10:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อาร์ต: นักเล่นหุ้นจำนวนมาก คงยอมที่จะเสียเงินในพอร์ตครึ่งหนึ่ง เพื่อศึกษาว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จเขาลงทุนกันอย่างไร หรือทำอย่างไรจึงจะเทรดได้สำเร็จบ้าง คุณป๊อปได้ยอมให้ความลับของเขากับผู้ที่เปิดใจและต้องการจะเรียนรู้จริงๆ ในส่วนของผู้อ่านสิ่งที่ต้องยอมรับและเชื่อคือ "ในการเล่นหุ้น คุณเองก็สามารถทำเงินได้ เหมือนกันกับผู้ที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ มันไม่ใช่เส้นทางที่ไม่เคยมีคนเดินมาก่อน แต่เป็นเส้นทางที่คุณต้องเดินไปด้วยตัวคุณเอง" แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 10:56:32 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 10:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อาร์ต: คุณป๊อป คิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรดครับ ป๊อป: ไม่ต้องสงสัยเลย การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสิครับ เป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จ ทั้งในด้านความคิดและการกระทำ เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราในสถานการณ์ซึ่งเราควบคุมมันไม่ได้  หรือไม่ เราก็ต้องเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ซะในกรณีที่เราคุมมันได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:33:40 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 11:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ป๊อป: มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟัง ผมเคยเทรดบนฟลอร์ในตลาดหุ้น ทุกวันมีนักเทรดคนหนึ่งชื่อซินดี้ ซึ่งจะเทรดใกล้ๆ กับผม ทุกวันเธอจะรอจนกระทั่งเธอมั่นใจว่าตลาดจะไปในทิศทางไหน และเข้าใจถึงตำแหน่งของตลาด โดยปกติผมมักจะขายหุ้นออกหรือคืนหุ้นหลังจากชอร์ตเมื่อจบเวฟ 3 ปรากฎว่า ณ จุดนั้น เป็นจุดที่หุ้นจะทะยานขึ้นตามที่ซินดี้คิด เธอก็จะบิดเจ้าหุ้นที่ผมออฟเฟอร์ไว้ โดยตั้งราคาไว้ต่ำกว่าราคาล่าสุดเสมอ ก่อนที่เธอจะได้หุ้นนั้นไป เธอก็มักจะพูดว่า “ชั้นเกลียดที่จะเทรดกับนายเพราะชั้นมักจะเสียเงินเสมอเมื่อซื้อมาจากนาย” ผมไม่เคยลืมประโยคที่เธอว่า อย่างไรก็ตาม การเสียเงินไม่สามารถหยุดยั้งเธอจากการทำตามแผนที่เธอวางไว้ เพราะเธอรู้วิธีในการทำให้เสียเงินน้อย และทำตามแผนที่วางไว้เสมอ ผมมั่นใจว่าเธอทำเงินได้มากในหลายๆปีนั้น ผมรู้สึกแย่บ้างกับสิ่งที่เธอพูด แต่นั่นทำให้ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับการเสียเงินของเธอ จิตใจของเธอถูกกำหนดไว้อย่างถูกต้องในการเทรด ที่น่าขันคือสิ่งเล็กๆน้อยๆนั่นเป็นตัวกำหนดความเชื่อในการเทรดของเราซึ่งมีทั้งดี และไม่ดี แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:51:47 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:34:01 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 11:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รออ่านค่ะ จากคุณ : mynameisopportunity - [ 18 ก.พ. 49 11:38:56 A:165.156.150.5 X:125.24.3.108 TicketID:071269 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อาร์ต: แปลว่าเธอไม่กลัวที่จะรับหุ้นจากคุณไป แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าเธอจะเสียเงินเป็นส่วนใหญ่เหรอครับ ป๊อป: เธอมีความเชื่อมั่นสูง ในขณะที่นักเล่นหุ้นคนอื่นๆจะจ๋อยและถอยหลังเมื่อผมตั้งขาย ตอนนั้นผมเริ่มมีชื่อเสียงสำหรับการคาดการณ์ที่ถูกต้อง และนักเล่นหุ้นก็จะตามผมแจ ซึ่งมีผลเสียต่อการเข้าซื้อหรือขายของผม ซึ่งนั่นทำให้ผมค้นพบถึงความสำคัญของการสั่งซื้อหรือขาย "ถ้าคุณไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขาย เพื่อเริ่มการเข้าถือหุ้น คุณก็จะไม่สามารถสั่งซื้อหรือขายเพื่อออกจากหุ้นนั้นๆ ด้วย" มันไม่ใช่เป็นความคิดหลักๆ แต่มันก็ซ่อนอยู่ในใจของผมเรื่อยมา การแก้ไขที่ผมทำ จะคล้ายกับที่กองทุนส่วนใหญ่ทำในปัจจุบัน เป็นการแกล้งๆทำแต่คนก็หลงกล กล่าวคือ ถ้าผมมีหุ้นและต้องการขายทำกำไร ผมจะแกล้งทำเหมือนต้องการซื้อหุ้นเพิ่ม ผมจะตั้งบิดแทนที่จะตั้งออฟเฟอร์ พอมีคนบิดตามผมมามากๆ ผมก็จะชักกลับและขายไปที่ราคาบิดทั้งหมด ซึ่งมันได้ผลแต่ผมรู้สึกแย่ที่ทำให้คนอื่นๆ เสียเงิน ตอนหลังผมเลยเพียงแต่ขายเฉพาะที่มีคนตั้งบิดไว้ ถ้าจำนวนหุ้นด้านบิดมีไม่พอ ผมก็จะให้เป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งนั่นจะขึ้นอยู่กับโวลู่มด้วย สิ่งที่ผมเรียนรู้ก็คือ จะไม่ยึดติดที่ราคาเดียวทั้งหมด แต่จะใช้กลยุทธ์ซื้อขายเป็นช่วงราคาแทน แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 11:53:16 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 11:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ป๊อป: หลายคนถามผมเรื่องการเทรดอยู่เสมอๆ แต่ผมไม่ชอบบอกใคร และผมไม่รับคำแนะนำจากใครด้วย แม้จะมีคนบอกบ้างแต่ผมไม่เคยจำ สิ่งที่ผมทำได้คือ ผมทำได้แค่ให้คำแนะนำ เพราะการเทรดเป็นสิ่งที่นักเล่นหุ้นทุกคนต้องทำเองเหมือนเก็บที่นอนตัวเอง พวกเขาต้องใช้ความพยายามในการเรียนเอง มันต้องเป็นการตัดสินใจของเขาเองในการวางแผนการเทรดหุ้น ผมสามารถช่วยแนะเขาให้สลัดพฤติกรรมแย่ๆ ออกไป แต่ความสำเร็จขึ้นกับความตั้งใจของเขาที่จะทำมัน ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากบอกเรื่องการเทรดหุ้นนี้แก่คนอื่น เพราะรู้สึกว่าทำให้เขาเสียโอกาส แม้จะไม่สำคัญ แต่พฤติกรรมของนักเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกในชีวิตของเขาแล้ว ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 12:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ป๊อป: สมัยก่อนผมมักจะได้ยินคำว่า “คุณชนะ คุณคิดถูกแล้ว” จากการเล่นหุ้นของผม  แต่ผมไม่ได้ยินมันอีกเลยในช่วงหลัง หมายถึงคำพูดว่า “คุณชนะ คุณคิดถูกแล้ว” การเล่นหุ้นไม่เกี่ยวกันกับคำพูดเหล่านั้น นักเล่นหุ้นที่ผ่านการฝึกฝนเข้าใจความสำเร็จว่าคือ “คุณเสียเงินดีและคุณผิดน้อย” ซึ่งหมายถึง “คุณเสียเงินด้วยเหตุอันควร และคุณผิดพลาดเป็นส่วนน้อย” การเล่นหุ้นที่สำเร็จได้นั้นจะต้อง “จำกัดการเสียเงินให้น้อย”  และได้รางวัลเมื่อ “รู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหนแล้วแก้ไขซะ” มันจำเป็นต้องมีสมดุลแห่งชีวิตเพื่อรักษาความหมายของตลาด นักเล่นหุ้นไม่เคยวางแผนสำหรับวันแย่ๆ และมันก็ยังมีวันแย่ๆเกิดขึ้น มันมักจะมีผลกระทบเกิดขึ้นซึ่งทำให้คนต้องตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะคิดเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หรือยอมรับความพ่ายแพ้เลิกเล่นหุ้นตลอดไป จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 12:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อาร์ต: มีใครที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ในการเทรดหุ้นของคุณบ้างไหม ป๊อป: จะมีก็แค่พวกที่โง่เขลาที่บอกไปแล้วไม่ฟัง ซึ่งผมก็ยกโทษให้ เพราะพวกที่ไม่ยอมเรียนรู้ก็เท่ากับเป็นศัตรูของตัวเอง สิ่งจำเป็นที่เขาต้องเรียนคือ “ต้องเรียนรู้ว่าเขาจะไม่เรียนรู้ด้วยตัวเองโดยการทำสิ่งที่ผิด” พวกเขาสามารถจะทำให้ดีขึ้นโดย “เรียนจากการสังเกตความผิดพลาด” มันค่อนข้างเป็นบทเรียนราคาแพงในธุรกิจนี้ คุณไม่สามารถบอกใครว่าจะให้เขาทำอะไร แต่ถ้าคุณแนะนำเขา “บ่อยๆ” เขาก็จะมีโอกาสตัดสินใจถูกได้มากยิ่งขึ้น จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 12:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ป๊อป: ความแตกต่างระหว่าง การเรียนรู้โดยการทำผิดพลาดด้วยตัวเอง กับเรียนรู้โดยการสังเกตความผิดพลาด คือ สมมติคุณไปหาหมอตัดแว่น เขาจะเอาเลนส์มาให้คุณลอง เช่น เลนส์ 1 กับ 2 อันไหนดีกว่ากัน พอคุณเลือก เขาก็จะเอาเลนส์อื่นๆมาอีก จนกว่าจะได้เลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับตาของคุณ คุณจะเห็นว่าความผิดพลาดที่คุณทำเอง ก็เป็นความผิดพลาดจากตัวคุณ และมันมีผลเสียต่อคุณ ไม่มีใครคอยสอนคุณ ไม่ให้ทำความผิดพลาดโดยเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบนี้ แต่สมมติคุณบอกหมอว่า คุณตาบอดด้านซ้ายในตอนที่หมอให้คุณปิดตาขวา หลังจากที่ให้ปิดตาซ้ายมาแล้วเพื่อลองเลนส์ นั่นเป็นความผิดพลาดจากการสังเกต คุณไม่ได้ทำความผิดพลาดนั้นๆ (คือจะต้องปิดตาขวาเพื่อลองเลนส์ซ้ายไปทำไมในเมื่อบอดตาซ้าย) และเนื่องจากคุณได้รับผลกระทบจากความผิดพลาดนั้นๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณ คุณก็จะจำมันได้แม่น มันเป็นสิ่งดีที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดที่มีผลกระทบกับคุณโดยตรงเมื่อมันเกิดขึ้นจากการกระทำของคนอื่น คุณจะต้องระวังการทำผิดพลาดในการเล่นหุ้นเพราะว่ามันมีบทเรียนมากมายเหลือเกิน “จงเรียนโดยสังเกตจากความผิดพลาดของคนอื่น เพราะมันถูกกว่าการเรียนจากความผิดพลาดของตัวคุณเอง” แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 12:44:02 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 12:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ป๊อป: ในแต่ละวันเมื่อตลาดปิดแล้ว คนมักจะมาพูดกับผมว่า “ผมกะแล้ว ผมรู้ว่าคุณจะต้องขายวันนี้ ผมควรจะรู้ด้วยว่าตลาดกำลังจะเริ่มตก” นั่นเป็นแค่ความคิดของเขา จริงๆ แล้ว สำหรับผม ถ้าผมจะขายทำกำไร มันก็เป็นเพียงแค่การขายทำกำไร เพราะผมมีหุ้นที่อยากจะขาย และบังเอิญคนส่วนใหญ่ก็ทำแบบเดียวกัน "บางทีเขาอาจใช้สัญญาณใกล้กับของผม" มันไม่ถูกต้องที่จะมานั่งคิดว่าใครพยายามเคลื่อนตลาด ถ้ามีคนเคลื่อนตลาดได้จริง ผมก็จะเลิกเทรด ความจริงที่สำคัญอันหนึ่งก็คือ “ผู้แพ้ที่ดีที่สุดก็คือผู้ชนะในระยะยาว” แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 12:52:36 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 12:51:29 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 12:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไว้จะมาต่ออีกทีครับ พร้อมกับเรื่องกฎของป๊อป จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 18 ก.พ. 49 13:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 15 .ขอบคุณ คุณพ่อน้องไอซ์ มากครับ ไว้จะมาตามอ่านอีกที จากคุณ : wancha - [ 18 ก.พ. 49 20:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณพ่อน้องไอซ์ เซฟที่ซื้อก่อนแขวนขายไปยังครับ จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 19 ก.พ. 49 17:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ เข้ามาเซฟครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 19 ก.พ. 49 19:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บทที่ 2 กฎข้อที่ 1 ป๊อป: สิ่งที่สำคัญที่ทุกคนควรรู้คือ “การทำแต่สิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นเทรด และในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น” นักเล่นหุ้นจำนวนมาก รวมทั้งนักเล่นหุ้นใหม่ๆ มักจะไม่รู้ว่าตลาดสามารถทำอะไรกับพอร์ตลงทุนของเขา ผมมักจะพูดเสมอว่า พวกเจ้ามือจะอยู่ด้านที่สร้างความแปลกใจ ในขณะที่พวกที่พ่ายแพ้จะอยู่อีกด้านซึ่งเป็นด้านที่คุณและคนส่วนใหญ่คุ้นเคย ซึ่งผมจะเรียกมันว่าเป็นด้านที่คาดหวังไว้ ในวันที่ตลาดเลวร้าย นักเล่นหุ้นจำนวนมาก อาจสูญเสียเงินค่าผ่อนรถงวดหน้า หรือเงินผ่อนค่าบ้านที่จะต้องชำระ สำหรับพวกเขาเหล่านั้นมันคงเหมือนกับฝันร้าย เนื่องจากเขาซื้อหุ้นหมดหน้าตัก แม้จะคิดว่ามีแผนในการป้องกันที่ดีแล้วก็ตาม เขาอาจคิดที่จะใช้คำสั่งสต็อป (สั่งขายอัตโนมัติเมื่อราคาลงหรือขึ้นถึงราคาที่ตั้ง) แต่เขาอาจจะลืมสั่งให้โบรกขายให้ ทุกสิ่งที่นักเล่นหุ้นที่ผิดพลาดได้กระทำ เป็นผลมาจากความคิดของเขาถึงกำไรที่เขาน่าจะทำได้จากตลาดในวันนั้นๆ การเล่นหุ้นแบบนั้นถูกออกแบบให้พ่ายแพ้ด้วยการกระทำของตัวเขาเอง มิใช่มีสาเหตุจากนักเล่นหุ้นที่มีความสามารถคนอื่นๆ หรือตลาด และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือเขาเองก็ยังคงไม่รู้ว่าตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุแห่งการสูญเสียนั้น แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 13:31:08 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 20 ก.พ. 49 13:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ป๊อป: มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้คนต้องสูญเสียความฝันของเขา แต่ที่แย่กว่าคือเขาได้สูญเสียเงินไปด้วย บางครั้งเขาถึงกับเสียอนาคตเพียงแค่ในระยะเวลาสั้นๆ มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับนักเล่นหุ้นทุกคน แม้แต่ตัวผมเองในยามที่ผมหยิ่งผยองคิดว่าตัวฉลาดกว่าตลาด “ทำไมมันถึงเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะแผนที่นักเล่นหุ้นวาง ไม่ได้คำนึงถึง,” “อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราคิดผิดล่ะ?!?!” ความคิดของเขาจะคาดหวังแต่ว่าถ้าคิดถูกเพียงอย่างเดียวเสมอ ในการเล่นหุ้น ถ้าคุณโชคร้าย ท้ายที่สุดคุณก็ต้องเลิกเล่นหุ้น ความจำเป็นในการเทรดข้อนึงก็คือต้องเตรียมตัวสำหรับรับโชคร้ายที่อาจเกิดขึ้น คุณอาจเอาตัวไม่รอดถ้าไม่ได้วางแผนรองรับความโชคร้ายที่อาจมาเยือน ขั้นตอนแรกที่ผมกำลังจะแนะนำในการเล่นหุ้นจะช่วยกำจัดโชคร้ายออกไป สิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ ผู้ที่ทำตาม อาจจะคิดว่ามันเป็นแผนบริหารเงินมากกว่าเป็นแผนเข้าถือหุ้น โดยปกติ ทุกโบรกจะพยายามช่วยจำกัดความเสี่ยงของนักเล่นหุ้นไว้อยู่แล้ว  คำสำคัญคือ “จำกัด” การจำกัดอะไรสักอย่างส่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วคุณสามารถจำกัดความเสี่ยงได้จริงๆ ในขณะที่ซื้อหุ้นไว้แล้ว เรื่องข้อจำกัดนี้มันดูเป็นเรื่องเล็กๆ ในกรณีส่วนใหญ่ แต่มันจะดูเลวร้ายกว่าที่คุณคิดถ้าคุณลองย้อนกลับไปดู (ซึ่งส่วนใหญ่คุณจะพบว่าคุณไม่ได้ทำการจำกัดความเสี่ยงเลย) แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 14:08:16 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 20 ก.พ. 49 14:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ป๊อป: ผมจะเสนอ 2 กฎหลักในการเล่นหุ้น ทั้งสองกฎเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จ แผนการเทรดทุกแผนจะต้องเริ่มต้นด้วยการเข้าใจกฎทั้งสองข้อนี้ ก่อนที่ผมจะบอกกฎข้อแรก สิ่งที่สำคัญก็คือคุณจะต้องเข้าใจอย่างถูกต้องถึงสิ่งที่ผมกำลังจะพูด สิ่งที่สำคัญต่อไปคือคุณจะต้องทำให้กฎข้อนี้กลายเป็นธรรมชาติที่สองในการเข้าซื้อหรือชอร์ตหุ้นทุกครั้งของคุณ ส่วนกฎข้อที่สองที่ผมจะกล่าวในภายหลังจะถูกดัดแปลงเข้ากับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยนักเล่นหุ้นที่อ่านมัน คุณต้องให้ความสำคัญกับกฎข้อที่หนึ่งนี้ว่าเป็นสมมติฐานในการเทรดทุกครั้ง มากกว่าจะเป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่น่าเกิด เหมือนกับว่าถ้าคุณกำลังข้ามถนนโดยไม่ดูสัญญาณไฟที่สี่แยก จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุซึ่งพิสูจน์ว่าคุณได้ทำผิด นั่นจะไม่สายเกินไปแล้วหรือ การเล่นหุ้นก็เช่นกัน คุณต้องป้องกันตัวจากโอกาสใดๆก็ตามในการเทรด และไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันตัวเมื่อมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่วางแผนสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น และโดยมากจะเป็นแผนในเชิงบวกถ้าสิ่งดีดีที่เขาคาดหวังเป็นจริง  นั่นเป็นข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะทำในการเล่นหุ้น ในทางกลับกัน “สิ่งที่เขาควรจะทำ คือ ต้องวางแผนสำหรับการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น” การเล่นหุ้นไม่ใช่เกมส์ที่น่าสนุกในสถานการณ์ส่วนใหญ่ และนั่นเป็นสมมติฐานที่เราต้องใช้ในการเทรด ความผิดที่นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่ทำคือคิดและคาดหวังว่าการเล่นหุ้นเป็นเกมส์ที่สนุกสนาน ในการเทรดคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ และเสียมูลค่าของหุ้นจากการลดลงของราคาในตอนเข้าหรือออกจากหุ้น ซึ่งจะนำไปหักออกจากกำไรที่คุณจะได้รับ หรือเพิ่มไปยังความสูญเสียของคุณ เวลาส่วนใหญ่ของตลาดมักจะมีแนวโน้มที่ไม่สามารถทำนายได้ มันมีทั้งแนวโน้มระยะสั้นและระยะยาวบ้างแต่ไม่ตลอด 100%ของเวลา วิธีที่ถูกต้องในการควบคุมหุ้นที่คุณซื้อมาก็คือ ถือมันไว้เมื่อมันได้รับการยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ให้ตลาดบอกคุณว่าการซื้อหุ้นของคุณเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่อย่าให้ตลาดบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด ตัวคุณเช่นเดียวกับนักเล่นหุ้นที่ดีจะต้องรู้ตัวและบอกกับตัวเองเมื่อหุ้นที่ซื้อมาไม่เป็นตามที่คิดไว้ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 16:54:14 แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 16:52:00 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 20 ก.พ. 49 16:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามายิ้ม จากคุณ : แทนความคิดถึง (P_ปรัชญา) - [ 20 ก.พ. 49 17:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ป๊อป: ตลาดจะบอกคุณเมื่อหุ้นที่คุณซื้อเป็นหุ้นดีที่ควรถือไว้ นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่มักทำตรงข้ามกับความถูกต้องโดยยอมขายหุ้นทิ้งก็ต่อเมื่อตลาดได้ยืนยันแล้วว่ามันผิด จงคิดดู ความเสี่ยงของคุณจะมากขึ้นถ้าคุณรอให้ตลาดมายืนยันว่าคุณผิดแทนที่คุณจะกำจัดหุ้นนั้นทิ้งไปโดยอัตโนมัติ นอกเสียจากว่าตลาดจะยืนยันว่าหุ้นที่คุณซื้อถูกต้อง (ตัวอย่างเช่น สมมติคุณซื้อหุ้น SC ตอนที่มันขึ้นมาสูงแล้วที่ราคา 20.4 โดยกะว่ามันจะไปต่อเพื่อจะกำไรสักห้าสิบสตางค์ต่อหุ้นในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ถ้าหุ้นที่ซื้อไม่ได้ยืนยันว่าคุณทำถูกต้องโดยมีราคาสูงขึ้น คุณก็ต้องกำจัดหุ้นนั้นเพื่อลดความเสี่ยง คุณจะต้องตัดสินใจว่าอะไรคือความถูกต้องจากแผนของคุณ ซึ่งหลังจากคุณซื้อแล้วมันขึ้นไปสิบสตางค์ ก่อนที่จะตกลงมาจนคุณขาดทุน คุณจึงขายขาดทุนไปที่ราคา 20.10 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการขายขาดทุน แต่ก็เป็นการออกจากหุ้นที่ดีกว่าการรอให้ตลาดบอกคุณว่าคุณผิด ในทางกลับกันถ้าคุณไม่ได้ขายทิ้งไป แต่จะขายทิ้งก็ต่อเมื่อตลาดยืนยันว่าคุณคิดผิด คือรอจนมันเหลือเพียง 16.10 เหมือนในขณะนี้ คุณมักจะต้องจ่ายแพงกว่าเสมอ) การทำตรงข้ามกับตลาดโดยถือหุ้นเอาไว้ในขณะที่ตลาดตก เป็นการยอมรับว่าการเล่นหุ้นเป็นเกมส์ของผู้แพ้ ไม่ใช่เกมส์ของผู้ชนะ ถ้าคุณขายหุ้นของคุณออกไปหลังจากตลาดยืนยันแล้วว่าคุณคิดผิด คุณกำลังยอมรับว่าการเทรดหุ้นเป็นเกมส์ของผู้ที่ชนะเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ตัวคุณเอง แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 12:49:27 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 20 ก.พ. 49 17:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ป๊อป: กฎข้อที่หนึ่งคือ “ในเกมส์ที่คนส่วนใหญ่พ่ายแพ้ เช่นในการเล่นหุ้น เราจะเริ่มต้นตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ และสมมติว่าเราคิดผิด จนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าถูก (เราจะไม่สมมติว่าเราคิดถูกก่อน แล้วมารอการยืนยันว่าคิดผิดทีหลัง) หุ้นที่ซื้อมาจะต้องถูกลดจำนวนลง และกำจัดออกไปจนกระทั่งตลาดจะเริ่มกลับมายืนยันว่าหุ้นนั้นถูกต้อง! (เราจะยอมให้ตลาดยืนยันว่าหุ้นนั้นถูกต้อง ไม่ใช่ทึกทักเอาเอง)” (ตรงนี้หมายความว่า เวลาเราซื้อหุ้น เราต้องคิดวางแผนไว้ก่อนว่าหุ้นน่าจะขึ้นไปสักเท่าไหร่ในระยะเวลาเท่าไหร่ ถ้ามันไม่เป็นไปตามนั้น ราคาหุ้นตกลงมาสักเท่าไหร่เราควรจะลดจำนวน และขายมันไป เราจะไม่รอจนตลาดยืนยันว่าเราผิดคือในตอนที่หุ้นนั้นได้ตกลงมามากๆ แล้วจึงค่อยขายแล้วมานั่งเสียใจ ปกติของหุ้นที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น มันจะขึ้นไปได้เรื่อยๆ และถ้ามันอยู่ในขาลง มันก็จะตกลงมาเรื่อยๆ)   สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจสำหรับเงื่อนไขในการกำจัดหุ้นออกไปก็คือเพราะว่าหุ้นนั้นไม่ได้รับการยืนยันว่าถูกต้องจึงกำจัดออก (เช่น ราคาไม่ขึ้นไปตามที่เราคิดก็ควรขายออกซะ) แต่ไม่ใช่ว่ารอจนตลาดยืนยันว่ามันผิด (คือราคาตกมากๆ) แล้วจึงออก (คือควรจะออกไปตั้งนานแล้ว) กฎข้อที่ 1 ข้างบนนี้ กับวิธีที่นักเล่นหุ้นโดยทั่วไปนิยมใช้จะแตกต่างกันมาก ถ้าตลาดไม่ได้ยืนยันว่าหุ้นที่คุณซื้อถูกต้อง (ราคาสูงขึ้น) อาจเป็นไปได้ว่าตลาดก็ยังไม่ได้ยืนยันว่ามันผิด (ราคาต่ำลง) คืออาจเป็นช่วง sideway แต่ถ้าคุณรอจนตลาดบอกว่ามันผิด คุณกำลังเสียทั้งเวลา เงิน และความบากบั่นในการตั้งตารอคอยว่ามันจะถูกในขณะที่มันไม่ใช่ มีนักเล่นหุ้นสักเท่าไหร่ที่จะหวังบ้างว่ามันจะไม่ถูกยืนยันว่าผิดแทนที่จะเอาแต่หวังว่ามันจะถูก? ถ้าคุณเอาแต่หวังว่ามันจะถูก เห็นได้ชัดว่ามันจะไม่เคยถูก (เช่นเห็นหุ้นขึ้นมาเยอะแล้ว คิดว่ามันน่าจะขึ้นไปอีกจึงเข้าซื้อ แล้วส่วนใหญ่ก็จะพบว่าตัวเองไม่เคยคิดถูก) ขายหุ้นทิ้งซะในตอนแรกถ้ามันไม่ถูกยืนยันว่าถูกต้อง ถ้าเอาแต่รอจนถูกยืนยันว่าผิด คุณก็จะยิ่งเสียเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับคนอื่นๆ การใช้กฎนี้จะง่ายขึ้น โดยคุณต้องลงมือกระทำโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ถ้าตลาดไม่ได้ยืนยันว่าคุณคิดถูก นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่ชอบทำตรงข้ามโดยไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้หุ้นตกจนทนไม่ไหวจึงค่อยขาย นั่นไม่ใช่การตัดสินใจออกเอง แต่เพราะตลาดไล่คุณออกไปต่างหาก คุณควรคิดดังนี้ “เมื่อไหร่ก็ตามหุ้นที่คุณซื้อถูกต้องตามที่คุณคิด คุณไม่ต้องทำอะไรกับมัน แทนที่จะไม่ทำอะไรกับหุ้นนั้นๆ เมื่อคุณคิดผิด” แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 12:50:08 จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 20 ก.พ. 49 17:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 :) จากคุณ : จอม - [ 21 ก.พ. 49 15:02:28 ]