ความคิดเห็นที่ 1 ข้อมูลเพิ่มเติมของไทย เทลโค โฮลดิ้ง ครับ บริษัทขอเรียนชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นของ บริษัท ไทย เทลโค โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่ได้รับ จากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนี้ 1)      รายชื่อกรรมการบริษัทและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม -      นาย ศรีภูมิ ศุขเนตร -      นาย คนุท บอร์เก็น -      นาย กุนนาร์ เบอร์เทลเส็น -      นาย คริสเตียน สตอร์ม -      นาย สมยศ สุธีรพรชัย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท คือ 1. นายศรีภูมิ ศุขเนตร, นายคนุท บอร์เก็น, นายกุนนาร์ เบอร์เทลเส็น, นายคริสเตียน สตอร์ม กรรมการสองในสี่คน ลงลายมือชื่อ และประทับตราสำคัญของบริษัท 2. นายศรีภูมิ ศุขเนตร, นายคนุท บอร์เก็น, นายกุนนาร์ เบอร์เทลเส็น, นายคริสเตียน สตอร์ม กรรมการหนึ่งคนลง ลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท ในเอกสารที่ใช้ยื่นจดทะเบียนกับ กระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพากร 2)      รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่                               รายชื่อ                        จำนวน (หุ้น) 1. บริษัท เทเลนอร์ เอเชีย พีทีอี แอลทีดี             19,600,000 2. บริษัท โบเลโร จำกัด                                        10,480,000 3. นายบุญชัย เบญจรงคกุล                                 3,960,000 4. บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน)                  3,959,993 5. บริษัท แซนดาลวูด โฮลดิ้งส์ จำกัด                 800,000 6. บริษัท เพทรูส จำกัด                                       600,000 7. บริษัท อมาโรนี่ จำกัด                                         600,000 8. อื่น ๆ                                                                           7             รวม                                                         40,000,000 3)      ทุนจดทะเบียนบริษัท จำนวน 400,000,000 บาท จากคุณ : sunsetbeach - [ 23 ก.พ. 49 12:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เทียบกับ SHIN นะครับ  ตามที่ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ("บริษัท")ได้จัดประชุม คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 เวลา 11.00 น. เพื่อพิจารณาแผนธุรกิจประจำปี 2549 ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการเป็นประจำทุกปี และนอกจากการพิจารณาดังกล่าวแล้ว ในระหว่างการประชุมบริษัทได้รับแจ้ง จากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งประกอบด้วยนางสาวพินทองทา ชินวัตร, นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์, นายพานทองแท้ ชินวัตร, นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นางบุษบา ดามาพงศ์ ว่าได้ทำการขายหุ้นสามัญในส่วนที่ถืออยู่ในบริษัททั้งหมดจำนวน 1,487,740,120 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 49.595 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ให้บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ("Cedar") และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด ("Aspen") แล้วในราคาหุ้นละ 49.25  บาท รวมถึงบริษัทยังได้รับหนังสือจาก Cedar และ Aspen แจ้งถึงรายละเอียดการซื้อหุ้นดังกล่าว ที่ประชุมจึงได้มีการพิจารณา เป็นวาระเร่งด่วนเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัทของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนี้        1.มีมติรับทราบการขายหุ้นสามัญของบริษัทของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่          โดยรายละเอียดของการขายหุ้นสามัญของบริษัทของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มีดังนี้ รายชื่อผู้ถือหุ้น                 จำนวนหุ้น       คิดเป็นร้อยละของทุนชำระแล้ว นางสาวพินทองทา ชินวัตร       604,600,000             20.15 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์        404,430,300             13.48 นายพานทองแท้ ชินวัตร         458,550,220             15.29 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร         20,000,000              0.67 นางบุษบา ดามาพงศ์               159,600             0.005 รวม                     1,487,740,120            49.595         ซึ่งผลจากการซื้อหุ้นดังกล่าว ทำให้ Cedar และ Aspen จะต้องทำ คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการ เข้าถือหลักทรัพย์ เพื่อครอบงำกิจการ         ข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ("Cedar") และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด ("Aspen") มีดังนี้ Cedar 1) รายชื่อกรรมการบริษัทและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม      1. นายเอส ไอสวาราน      2. นางสาวทาน ไอ ชิง      3. นางสาวไช ยู จู      4. นายบดินทร์ อัศวาณิชย์   กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท เป็นดังนี้     "1. กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท      2. กรรมการหนึ่งคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท        ในเอกสารที่ใช้ยื่นจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์และกรมสรรพากร" 2) รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่      1. บริษัท ไซพรัส โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 48.99 ของทุนจดทะเบียน      2. บริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 41.1 ของทุนจดทะเบียน      3. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 9.9 ของทุนจดทะเบียน 3) ทุนจดทะเบียนบริษัท 400,000,000 บาท Aspen 1) รายชื่อกรรมการบริษัทและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม     1. นายเอส ไอสวาราน     2. นางสาวไอ ทาน ชิง     3. นางสาวไช ยู จู    กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท เป็นดังนี้    "1. นายเอส ไอสวาราน นางสาวทาน ไอ ชิง นางสาวไช ยู จู        กรรมการสองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท     2. กรรมการหนึ่งคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทในเอกสารที่ใช้ยื่น        จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์และกรมสรรพากร" 2) รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ แอนเดอร์ตั้น อินเวสเม้นท์ พีทีเอ แอลทีดี ถือหุ้นร้อยละ   99.94 ของทุนจดทะเบียน 3) ทุนจดทะเบียนบริษัท 100,000  บาท        โดยในส่วนของแนวนโยบายในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานของ บริษัทนั้น บริษัทยังไม่ได้รับการแจ้งจาก Cedar และ Aspen ซึ่งหากมีความคืบหน้าเป็น ประการใด บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป และจากการแจ้งของ Cedar และ Aspen ทราบว่าจะยังคงดำรงสถานะของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท ในรอบระยะเวลา 12 เดือน นับแต่สิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อเว้นแต่บริษัท จะไม่สามารถดำรงสถานะให้เป็นไปตามที่กำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์") รือคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรที่จะเสนอให้เพิกถอนหุ้นสามัญ จากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จากคุณ : sunsetbeach - [ 23 ก.พ. 49 12:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณจำลองหมายถึง ตรูจะเดินขบวน ตรูอยากเป็นผู้นำ ตรูจะฉกชิงจังหวะ ตรูอยาก..... จากคุณ : กึ่งสำเร็จรูป - [ 23 ก.พ. 49 12:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ คุณ sunsetbeach ที่แท้ ไทย เทลโค โฮลดิ้งส์ ไม่ใช่ต่างชาติ 100% นี่เอง เทเลนอร์ ถือหุ้นใน ไทย เทลโค  19,600,000 จากทั้งหมด 40,000,000 หุ้น = 49% ไทย เทลโค มาถือหุ้น ucom 61.38% = เทเลนอร์ ถือหุ้น ucom โดยผ่าน ไทย เทลโค = 49% ใน 61.38% = 30.07% อืมม์เข้าใจแล้วล่ะว่า เทเลนอร์มาซื้อหุ้น ucom แค่ 30.07% ถึงไม่ถึง 49% แต่ก้อเกิน 25% ตามระเบียบเก่าอยู่ดี เอ แต่ บ. บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้ง  ที่เข้ามาซื้อ shin ก้อเป็นบริษัทที่ไม่ใช่ต่างชาติ 100% เหมือนกันนี่นา แต่ขี้เกียจคำนวนแล้วว่า = ต่างชาติมีสัดส่วนกี่ % ************************************* SH 020/2549                                    24 มกราคม 2549 เรื่อง      ขอชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท เรียน      กรรมการและผู้จัดการ          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย      บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ขอชี้แจงข้อมูลผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม ดังนี้ 1. รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้ง จำกัด      รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่          สัดส่วนการถือหุ้น (%)       หมายเหตุ   1. บริษัท ไซเพรส โฮลดิ้ง จำกัด    49.00        เป็นบริษัทย่อยโดยทางอ้อมของ      (ไซเพรส)                               Temasek Holding (Private)                                             Limited   2. บริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด        41.10        ผู้ถือหุ้นประกอบด้วย                                             1.ไซเพรส ถือหุ้นร้อยละ 49.00                                             2.นายพงส์ สารสิน                                               ถือหุ้นร้อยละ 30.96                                             3.นายศุภเดช  พูนพิพัฒน์                                               ถือหุ้นร้อยละ 20   3.ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)   9.90               - 2. รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด       รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่          สัดส่วนการถือหุ้น (%)         หมายเหตุ   1. บริษัท แอนเดอร์ตั้น อินเวสเม้นท์   99.94        เป็นบริษัทย่อยโดยทางอ้อมของ      พีทีอี แอลทีดี                               Temasek Holding (Private)                                              Limited    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ                                   ขอแสดงความนับถือ                                  (นายบุญคลี  ปลั่งศิริ)                                     กรรมการ                          บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากคุณ : nat1234 - [ 23 ก.พ. 49 12:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็เหมือนกันแหละครับ คุณจำลองคงกลัวหน้าแตก เลยพูดไปเรื่อยเปื่อย จากคุณ : ชาวสวน - [ 23 ก.พ. 49 12:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอาอะไรกับคนที่คิดว่าตัวเองรู้ ประเทศถึ่งได้ไม่ค่อยก้าวหน้า หากแกตั้งใจโกหกก็น่าจะผิดศิลนะ จากคุณ : ชัยตอน - [ 23 ก.พ. 49 12:51:42 A:221.128.74.2 X: TicketID:103898 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่ดูเหมือนตอนซื้อ ucom เขาตั้งบริษัทสัญชาติไทยขึ้นมาก่อน ไม่ได้ซื้อตรงๆ เดาว่า ucom น่าจะถือใบอนุญาตโทรคมนาคมอะไรสักอย่างที่ทำให้ไม่สามารถซื้อเกิน 25% ส่วน SHIN คงไม่ได้ถือใบอนุญาตโทรคมนาคมอะไร เลยสามารถซื้อเกิน 25% ได้อยู่ก่อนแล้ว มันเป็นเทคนิคที่เทมาเส็กจะทำแบบเดียวกันก็คงได้ โดยตั้งบริษัทขึ้นมาบริษัทเดียว แทนที่จะเป็นสองบริษัท แล้วรับซื้อหุ้นทั้งหมด จากคุณ : ชาวสวน - [ 23 ก.พ. 49 12:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เหมือนกันครับ คุณจำลองแกไม่รู้ครับ จากคุณ : appendix - [ 23 ก.พ. 49 14:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก็ตั้งตัวแทนคนไทยมาถือหุ้นแทนอยู่ดีนั่นแหละ เหมือนกัน เพียงแต่คนขายไม่ใช้ครอบครัวนายกเท่านั้นเอง จากคุณ : HaHaHa - [ 23 ก.พ. 49 14:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ประเทศนี้มันมั่วอยู่แล้วยอมรับซะเหอะ จากคุณ : ไปดีกว่า - [ 23 ก.พ. 49 14:40:07 A:58.64.125.158 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ++++ ก่อนหน้านั้น ถ้าจะถือครองหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องพยามใช้หลาย บ.ในเครือถือไขว้เอามั้ง(เลี่ยงบาลี) ++++ ถ้าจำไม่ผิด ก็อาศัย19ล้านเสียงผ่าน374คน ยกมือแก้กฎเกณฑ์ให้ต่างชาติถือครองได้49%ได้ และมีผลบังคับใช้ได้ในวันที่22 shin ก็จัดการขายทันทีในวันถัด(23)มาแบบยกล็อตพร้อมกันใช้เวลาไม่ถึง5นาทีด้วยซ้ำ แต่ ucom ขายก่อนหน้านั้นซึ่งกฎหมายยังไม่เอื้อ จากคุณ : ลุค - [ 23 ก.พ. 49 15:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนที่ขอแก้ กม.  เรื่องสัดส่วนการถือหุ้น  เค้าก็ใช้สิทธิแล้วนะครับ ที่มา http://www.thairath.co.th/thairath1/2549/itdigest/itupdate/feb/21/update1.php ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงไอซีที กล่าวถึง กรณีขณะนี้ เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เร่งรัดแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การกระกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 โดยเฉพาะประเด็นอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นจาก 25% เป็น 49% เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัวนายกฯ ขายหุ้นนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เอกชนเป็นผู้เรียกร้องให้แก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยขั้นตอนทั้งหมด ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา “การแก้ไขกฎหมายการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ดังกล่าว เริ่มต้นที่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีออเร้นจ์ จำกัด และ บริษัท ไทยเทเลโฟน แอนด์เทเลคอมมิวนิเคชั่น ได้เรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขกฏหมายดังกล่าว จำนวน 4 มาตรา คือ มาตรา 8, 58, 79 และ 80 เพราะเห็นว่า ไม่สอดคล้องกับการเปิดเสรีและ ปิดกั้นการแข่งขัน ดังนั้น ไอซีทีจึงไม่ได้เร่งแก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ใคร และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ“ ผช.รมต.ประจำ ไอซีที กล่าว ส่วนลำดับขั้นตอนการแก้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ นายคณวัฒน์ กล่าวว่า เริ่มจากวันที่ 18 ธ.ค. 2544 กระทรวงคมนาคมเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ตามที่เอกชนทั้ง 3 รายเสนอ หลังจากนั้น วันที่ 8 ต.ค. 2546 สภาฯ ชุดเดิมรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแต่ไม่เสร็จ เพราะสภาฯ หมดวาระในปี 2547 จนกระทั่งวันที่ 27 เม.ย. 2548 สภาฯ ชุดปัจจุบันจึงตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาศึกษาอีกครั้ง ก่อนผ่านสภาฯ ในวันที่ 14 ก.ย. 2548 ผ่านวุฒิสภาวันที่ 14 พ.ย. 2548 และเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2549 “กระบวนการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ เริ่มต้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2544 เพราะมีบริษัทโทรคมนาคมเรียก ร้องผ่านกระทรวงคมนาคม โดยหลังจากนั้น กระบวนการแก้ไขก็ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอย่างรอบคอบ ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จึงไม่ใช่การแก้กฎหมายอย่างเร่งรีบ เพราะถ้านับตั้งแต่กระทรวงคมนาคม เสนอขอแก้ไขจนถึงประกาศใช้รวมเวลาทั้งสิ้น 4 ปี แต่ถ้านับเวลาตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้วรับหลักการต่อเนื่องมาถึงสภาฯ ชุดปัจจุบันใช้เวลาทั้งสิ้น 2 ปี 3 เดือน” ผช.รมต.ประจำ ไอซีที กล่าว จากคุณ : sunsetbeach - [ 23 ก.พ. 49 16:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สมัยจำลองเป็น ผู้ว่า กทม. แกเก็บเงินงบประมาณฝากธนาคารลูกเดียว  พอครบเทอมแกบอกว่า เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง    ไม่ได้นำเงินมาพัฒนา กทม. นี่นะ ผลงานชิ้นโบว์แดง  วิสัยทัศน์ห่วยแตกมาก จากคุณ : U1000 - [ 23 ก.พ. 49 17:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "++++ ถ้าจำไม่ผิด ก็อาศัย19ล้านเสียงผ่าน374คน ยกมือแก้กฎเกณฑ์ให้ต่างชาติถือครองได้49%ได้ และมีผลบังคับใช้ได้ในวันที่22 shin ก็จัดการขายทันทีในวันถัด(23)มาแบบยกล็อตพร้อมกันใช้เวลาไม่ถึง5นาทีด้วยซ้ำ แต่ ucom ขายก่อนหน้านั้นซึ่งกฎหมายยังไม่เอื้อ " โหลอจิค ขนาดขายก่อนกฏหมายออกบอกกฏหมายไม่เอื้อ ก็ก่อนกฏหมายที่ว่าจะมีผลต้นปีนี้ มันโดนบังคับที่25% อยู่หลังบังคับแล้วถึงเป็น 49% กับบอกขายกก่อนกฏหมายออกกฏหมายยังไม่เอื้อถ้ามันต้องอาศัยกฏหมายนี้ขายออกไปจนต่างชาติถือหุ้นเกิน25%ได้ไง ที่จริงๆแล้วทั้ง2บ.ไม่ผิด เพราะว่ากฏหมายตัวนี้เขาบังคับใช้เฉพาะเจ้าของคลื่นความถี่ ณ. วันนี้ทั้ง2 บ.แม่ที่ว่ามีบ.ลูกคือ AIS และ DTAC ต่างก็เป็นบ.ร่วมการงาน เจ้าของคลื่นความถี่ที่แท้จริงคือ ทศท. กับ กสท. กฏหมายนี้มุ่งใช้ตอนเปิดเสรีที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนขอเป็นเจ้าของคลื่นความถี่ด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่ากฏหมายนี้จะผ่านไม่ผ่านเขาก้ขายได้เกิน 25%แล้ว100%ก็ทำได้ ไม่ยังงั้นเทมาเสกจะสามารถมาตั้งโต๊ะรับซื้อเพิ่มได้ไง เพราะทั้ง2บ.ไม่ใช่เจ้าของความถี่ตามสัญญาแบบ BTO ที่สร้างดครงข่ายเสร็จต้องโอนเป็นของรัฐวิสาหกิจเจ้าของสัมปทาน แล้วถึงไปทำตลาดหารายได้แล้วมาแบ่งกัน แต่ผลประโยชนืของโครงข่ายที่โอนไปแล้วต้องมาแบ่งรายได้ระหว่างกันตามสัดส่วนที่ตกลง เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวกับกฏหมายนี้เขาก้ขายได้ ไม่งั้นตอนนี้DTAC ไม่เกินแล้วเหรอถือไขว้ไปมาก็ผิดอยุ่ดีถ้าเขากำหนดแค่49% จากคุณ : หูเบาเชื่อทุกคำที่เขาว่า (มาหาอะไร) - [ 23 ก.พ. 49 19:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณบุญชัยขายหุ้นได้เงินน้อยกว่าทักษิณเยอะยังกล้าบริจาคให้วัดธรรมกายทีเดียว 500 ล้านบาท แถมบริจาคเพืื่่อการกุศลอื่น ๆ อีกน่ะ แล้วเค้าก็ขายแค่สัมปทานโทรศัพท์ ไม่ใช่ขายดาวเทีียม ขายทีวีอย่างทากสิน จากคุณ : extaxy - [ 23 ก.พ. 49 21:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วันก่อน ดูรายการทาง ไทยทีวี ไม่แน่ใจว่า เป็น ธุรกิจติดเทคโนโลยี หรือ know how know why . ในรายการพูดเรื่อง เลเซอร์ตรวจสอบขยะในอวกาศ  และยังบอกว่า ปัจจุบันขยะในอวกาศมีมากมาย เป็นแสนชิ้น  แม้ว่าขยะจะมีขนาดแค่ 0.1 มิลลิเมตร แต่ก็สามารถทำความเสียหายแก่ดาวเทียมได้  เพราะมันมีความเร็วถึง 400000 กม ต่อชั่วโมง   ถ้าเป็นจริง และเกิดมีขยะชนดาวเทียมทำให้วงจรภายในเสียหาย คุณต้องรับผิดชอบต่อคู่สัญญาที่คุณให้บริการด้วยหรือเปล่า ?   และค่าซ่อมแซม จะเป็นเท่าไหร่ ? ดาวเทียมของประเทศไทย ขึ้นโคจรมากี่ปีแล้วมีเหตุการให้เกิดความเสียหายหรือเปล่า ? และถ้ามีใครจะต้องจ่ายตัง ไปซ่อม ? ถ้าขายไปซะ แล้วหันมาลงทุนในระบบไฟเบอร์ ออปติค ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมในโลก จะดีกว่าไหม ? ในฐานะนักลงทุนคุณจะคิดว่าอย่างไร ? จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 23 ก.พ. 49 22:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในกรณี คุณ จำลอง ผมก็ชื่นชอบที่ เป็นผู้ว่า กทม ที่ทำให้กรุงเทพน่าอยู่สะอาดสอ้าน  และพัฒนา แต่ ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน , ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง นอกจากนั้น  หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน   ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน   และเมื่อคิดจากผลย้อนหาเหตุ  สิ่งที่กระทำในตอนนี้เป็นผล และย้อนในการกระทำและผลในอดีต มันอาจจะสะท้อนว่า คุณจำลอง เปลี๋ยนไป๋  เป็นสัจธรรม ( คุณจำลอง อาจจะไม่เปลี่ยน  แต่ สภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนจนดูว่าคุณจำลองเปลี่ยน ก็อาจจะเป็นได้ แต่ มันมีประโยชน์ไหมละ ,ขอให้ดูเรื่องการสูญพันธุ์ของ ไดโนเสาร์ กับการอยู่รอดของสัตว์ประเภทอื่น เช่นแมลงสาบ  ) จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 23 ก.พ. 49 22:10:50 ]