PANTIP.COM : I4132640 @@@ผมขอถามคนห้องนี้ตรงๆ เลยครับ เกี่ยวกับกรณีนายก@@@ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 14

เดิมเราเคยมีนายกฯ-นักการเมืองประเภท"ลูกจ้าง"หรือ"ทนายความ"

คือเป็น"ลูกจ้างนายทุน"และนักเสี่ยงโชคทางการเมืองโดยมีนายทุนใหญ่-นายทุนน้อยอยู่เบื้องหลังส่งเงินให้แลกกับการออกกฎหมายเอื้อประโยชน์,ให้สัมปทานรัฐประเภทต่างๆตอบแทน(ยกตัวอย่าง เช่น นายทุนได้สัปทานมือถือของ AIS,TRUE,สุราต่างๆ,ธนาคารต่างๆ...)

..ต่อมายุคสมัยพัฒนาขึ้น ทหารถอยเข้ากรมกองเพราะบาดเจ็บจากการทำรัฐประหารแล้วปกครองไม่ได้ นายทุนเริ่มเบื่อ"ลูกจ้าง"ที่เล่นละคอนกันมากเกินไปหรือชอบหักหลัง,ชอบจัดการงานนอกสั่ง

..นายทุนจึงโดดขึ้นเวทีการเมืองเสียเอง เพราะจ่ายเงินน้อยลง,ไม่เสียค่าโง่แก่ลูกจ้างแบบเดิมฯลฯ

สังคมไทยไม่เคยนับถือพ่อค้าเพราะเป็นสังคมข้าราชการ(พ่อขุน,เจ้าพระยา,พระยา ฯลฯ)มาตั้งแต่ยุคสุโขทัย คนทั่วไปมีConceptualเกี่ยวกับพ่อค้าว่าเป็นพวกความรู้น้อยแต่จ่ายไม่อั้น เป็นลูกไล่ของข้าราชการ-นักการเมือง(ลูกจ้าง) เป็นพวกที่ให้ข้าราชการ-นักการเมืองไถเงินได้ไม่อั้นโดยไม่แอะ

แต่ยุคนี้สังคมเปลี่ยนไป พวกเรียนเก่งแทนที่จะสอบเข้ารับราชการกลับไปเรียน MBA มาเป็นลูกจ้างของพ่อค้าใหญ่ แล้วพอมีจังหวะก็จะโดดออกมาเป็นนายตัวเองคือเป็นพ่อค้าเสียเอง

พ่อค้ายุคโลกาภิวัฒน์สามารถร่วมทุนกับสารพัดชาติ เคลื่อนย้ายทุนไปยังแผ่นดินที่สามารถดูดกำไรได้ทั่วโลก เอาความรู้มาวางแผน,บริหารแผนไม่ว่าจะเป็นแผนภาษี แผนการตลาด แผนการบริหาร แม้กระทั่งการหลอกล่อหรือสร้างเกมส์ต่างๆในหมู่ผู้ถือหุ้น การโยกหุ้น,โอนหุ้นไปโน่นไปนี่หรือการให้คนอื่นถือหุ้นแทน[Nominee] ฯลฯ เป็นเรื่องปรกติ

แต่เหมือนที่เรียนข้างต้น ว่าสังคมไทยเรามีทัศนะกับคนสาธารณะหรือนักการเมืองต้องไม่ใช่คนแบบปรกติธรรมดา ตองเป็นพระเอก-นางเอกเหมือนในนิยายของ"ดอกไม้สด" ผู้เขียนนิยายแนว Victorian novel เช่น ผู้ดี,ชัยชนะของหลวงนฤบาล,หนึ่งในร้อย ฯลฯ

คือจะต้องเป็นพระเอ้ก..พระเอก พูดน้อยอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวดความเก่งของตนเอง ยืดอกรับความผิดที่คนอื่นกลั่นแกล้งโดยไม่โต้ตอบ พูดเสียงนุ่มทุ้มๆ แหม..ช่างน่าสงส้าร..สงสาร ประเภท"....ร้อยคนมีหนึ่งเท่านั้นเองงงงง..."(โปรดฮัมเพลงหนึ่งในร้อยตามไปด้วยเพื่อความซาบซึ้ง.....5555.......)

โปรดดูบุคลิกแบบท่านชวน,ท่านอภิรักษ์,ท่านอภิสิทธิ..ฯลฯ เป็นแบบอย่าง วุ้ย-เดินเหิร..พูดแต่ละทีแม่ยกสุดสยิววววว...5555........

ส่วนผลงานไม่เป็นไรครับ ก้อ-คนเราลองรักเต็มหัวใจซะอย่าง เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงงงงง!!

พอพ่อค้ามาเป็นนายกฯสังคมก็เอามาตรฐานพระเอกในนิยายของท่าน"ดอกไม้สด"มาเป็นกรอบจับ แต่ภูมิหลังของพ่อค้ามันเป็นพวกใช้ไหวพริบเพื่อให้ตนเองได้มา นับถือศาสนากำไรอิสซึ่มอย่างเดียว

การโอนหุ้นไปโน้น ตั้งกิจการใช้ชื่อคนอื่นถือแทน ฯลฯ ประเภทกลเกมส์ทางธุรกิจ แม้กระทั่งชื่อบริษัทต่างๆใช้ที่อยู่เดียวกัน หรือที่อยู่บริษัทตามที่จดทะเบียนเป็นห้องว่างเปล่าๆ(แบบที่ฝ่ายค้านยกทุกเรื่องให้เป็นความผิดทั้งหมด) เป็นเรื่องปกติในแวดลงการค้า ลองไปตรวจสอบ ธ.กรุงเทพ,CP,กลุ่มนายเจริญ ศิริวัฒนภักดี,กลุ่มล่ำซำ,กลุ่มหมากหอมเยาวราชของทั่นพิชัย รัตกุล,กลุ่มนายพิเชษฐ์ พันธุวิชาติกุล ฯลฯ หลายบริษัทใช้ที่อยู่ในตึก,อาคารเดียวกัน การให้คนอื่นถือหุ้นแทนตั้งแต่เริมจดหนังสือบริคน์สนธิต้องมีแน่ๆๆ

หากไปดูเส้นทางเอกสาร,หลักฐานทางการทำธุรกิจของพ่อค้าแล้วเอามาวัดด้วยมาตรวัดแบบพระเอ้ก..พระเอกในนวนิยายยุตสมัยวิคตอเรียน ไม่มีพ่อค้ารายไหนเข้ามาทำงานการเมืองได้หรอกครับ นอกจากพวกว่างงานหรืออีตข้าราชการ-ลูกจ้างเก่าก่อน!!!!!!

..หากรังเกียจพ่อค้าเวลาเลือกตั้งก็อย่าเลือกพวกพ่อค้าซิครับ หันไปเลือกพวกทนายความ พวกอดีตข้าราชการ พวกผู้สมัครไม่ปรากฏอาชีพมาก่อนเลือกตั้ง(แต่เลือกตั้งแล้วมามีอาชีพ เช่นท่านเสธ.หนั่น,ทั่นเฉลิม อยู่บำรุง ฯลฯ)

การควบคุมนักการเมืองโดยภาคประชาชนควรควบคุมโดยตั้งกลุ่มโวยวายเกี่ยวกับสาระสำคัญของพฤติกรรมทางการทำงานแท้ๆหรือนโยบายที่ผิดพลาด ใช้หลักกาลามสูตรในการรับฟังคนอื่นให้ข้อมูล นักการเมืองที่เหลือขอบางรายมันไม่เอาอ่าวสมัยหน้าอย่างไปเลือกมันเข้าสภาฯอีก นี่คือกลไกของระบอบที่สังคมสร้างขึ้นมา การไล่แบบเธอไม่ออกฉันไม่เลิก ระบอบเศรษฐกิจ, ระบบกฏหมายเสียหายช่างมาเธอร์มัน แล้วบอกผมว่านี่แหละคือเอกอัครประชาธิปไตย

ตกลงใครทำลายระบอบกันแน่หว่า..5555....???

ที่สำคัญให้พิจารณาตัวพวกศาสดาพยากรณ์ที่ออกมาชี้ถูกชี้ผิดของคนอื่นว่าภูมิหลังเป็นอย่างไรด้วยครับ??? บางคนเป็นพ่อค้าขี้ฉ้อ บางรายเป็นเงานักบวชทุศีล บางพวกเป็นนักประชาธิปไตยต้องเป็นแบบของอาตมาเท่านั้นแบบอื่นไม่ใช่ สมัคร-ดุสิตวิจารณ์ทางวิทยุก็ส่งจดหมายเรียร้องให้สถานีปิดรายการเค้า ส่วน อส.มท.ปิดรายการท่านสนธิก็ยืนจดหมายให้เปิดบอกว่า..รัฐแทรกแซงสื่อ ฯลฯ เลยไม่รู้ว่าประชาธิปไตยของพี่ๆใน ครป. หน้าตาแบบฮิตเลอร์หรือแบบ จอร์ช บุชหว่า....55555........??

พระราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ผมยกไว้เหนือเกล้าฯเสมอ ก็คือที่ท่านให้ไว้สรุปความจากความจำว่า...เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราต้องควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีโอกาสบริหารบ้านเมือง

แต่กรณีนี้ใครล่ะ.......ที่เป็น"คนไม่ดี??"

.........5555555............
แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 49 14:26:28

จากคุณ : กุษาณ - [ 24 ก.พ. 49 08:26:31 ]