ความคิดเห็นที่ 3
คิดสนุกๆว่าหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของภาคครัวเรือนทั้งประเทศ มันไหลกระจายหรือกระจุก ไปอยู่ที่ใดบ้าง...
ร่วมคิดสนุกๆนะครับ
ไปอยู่ที่ภาคเงินทุน-ธนาคารอันดับแรกเนื่องจากปริมาณหนี้ส่วนมากเกิดจากการใช้ผ่านบัตรสารพัดยี่ห้อที่(บูมมาได้สี่ห้าปีแล้ว) ภาคธนาคารส่งยอดหักชำระรายเดือนต่อไปให้ภาคอุตสาหกรรมสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานพาหนะ, สินค้าประเภทเครื่องประดับตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์, อสังหาริมทรัพย์และการใช้จ่ายเพื่อการบันเทิง
โดยรวมผมมองว่าหนี้สินภาคครัวเรือนไม่ค่อยเกิดผลตอบแทน
ดังนั้น รายได้และการออมของภาคครัวเรือนในช่วงนี้ไม่แน่ใจว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณหนี้หรือไม่ ถ้าหากเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าฐานเศรษฐกิจภาคครัวเรือนแข็งแกร่งและมีศักยภาพที่ดีอยู่ แต่หากรายได้และการออมภาคครัวเรือนไม่เพิ่มขึ้น แต่ยอดหนี้เพิ่มอย่างเดียว แสดงว่าเกิดอาการจากเงินเฟ้อเกินระดับปกติ (ต้องดูจากประกาศดอกเบี้ยและเงินเฟ้อของธปท.)
อันนี้จะสะท้อนออกมาว่า ภาคธุรกิจที่มีรายได้มาจากภาคครัวเรือนได้ดำเนินธุรกิจของตัวเองมาถึงจุดสูงสุดแล้ว และกำลังหาทางสร้างฐานราคา...หรือกำลังลงไปหาจุดสมดุลระหว่าง Bid กับ Offer
แต่..ภาคธุรกิจที่ดีแน่นอนว่าไม่ได้มีจุดขายเพียงเรื่องเดียว (ขายได้อย่างเดียวรับรองได้สะเด็ดน้ำแน่) จะต้องมีรูปแบบการตลาดให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในอนาคต แผนธุรกิจไหนดีก็ดัง สู้ไม่ได้ก็ดับ
.... ออกนอกเรื่องไปไกลเลย ....
สรุปว่าเซเว่นออกบัตรช้าไปหลายปี ยอดจะน้อยกว่ารุ่นแรกๆ่ แต่โปรโมชั่้นใหม่ๆอาจช่วยสร้างฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่
จากคุณ :
Go2Better
- [
27 ก.พ. 49 00:19:09
]
|
|
|