ความคิดเห็นที่ 3
บอกรายได้ด้วยสิ มาจากไหนบ้าง มีอะไรบ้าง ระวังติ๊กผิดด้วยล่ะ 555
ไม่รู้ที่มารายได้ ตอบแบบครอบจักรวาล แต่ให้พอเห็นภาพ ก็ต้องแยกแตกหน่อหน่วยภาษีออกหลายๆหน่วย
เช่น สมมตินะครับสมมติ ผมเป็นข้าราชการ มีเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 100,000 บาท ตลอดปีภาษี ผมมีเงินได้ 1,200,000 บาท แน่ะ
หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน ผมต้องเสียอยุ่ที่ร้อยละ 30 โน่นเลย แต่หากผมมีรายได้อื่นๆ ผมมีคอนโดให้เช่า เปิดร้านขายของโชห่วย ฯลฯ ผมเอามารวมกับเงินเดือน หักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน แล้ว เงินได้สุทธิผมเกิน 4 ล้าน ส่วนที่เกิน 4 ล้านผมต้องเสียร้อยละ 37
แต่ไม่เช่นนั้น ผมชวนเพื่อนซี้ผมร่วมลงทุนทำคอนโดด้วย ผมหุ้นส่วนใหญ่ เงินค่าเช่าคอนโดก็เป็นเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญ หักค่าใช้จ่ายสำหรับหุ้นส่วนแต่ละคนได้อีกคนละ 30,000 บาท เงินได้สุทธิก็น้อยละจริงไหม เพราะถ้าผมทำคอนโดคนเดียว ผมลดหย่อนไม่ได้อีก เพราะหักลดหย่อนส่วนตัวไปแล้วถูกไหม
แล้วเงินได้สุทธิจากค่าเช่าคอนโด มันก็ต้องเริ่มต้นคำนวณภาษีเท่าไหร่ครับ ร้อยละ 5 ครับ ไม่ใช่ร้อยละ 30 เพราะอะไร เพราะเป็นหน่วยภาษีต่างหาก
และเมื่อผมเสียภาษีห้างหุ้นส่วนสามัญไปแล้ว ส่วนแบ่งกำไรที่ผมได้รับนี้ก็ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีก ตามมาตรา 42(14) ตามทันไหม
ผมเปิดร้านโชห่วย ผมหาเพื่อนซี้อีกคนมาร่วมลงทุนอีก ก็จะเกิดหน่วยภาษีใหม่อีก แบบนี้เป้นต้น
หรือถ้ากำไรจากห้างฯ เกิน 4 ล้าน ห้างก็จะเสียภาษีร้อยละ 37 ไม่เอาหรอก ทำเป็นบริษัทดีกว่า ผมจดทะเบียนบริษัทจำกัด หรือจะเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดก็ได้ ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้าน ผมจดเพื่อจะมาทำธุรกิจนี้โดยเฉพาะ ผลเป็นไงครับ คิดตามทันไหม
ถ้ายังเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ กำไรเกิน 4 ล้าน ผมเสียเท่าไร ร้อยละ 37 ถูกไหม
ผมย้ายมาเป็น บริษัท ผมเสียเท่าไร ผมเสียร้อยละ 30 ต่างกันไหมครับ ผมเสียภาษีน้อยลง แถมไม่ต้องติดคุก ใครจะมาว่าผมเลี่ยงภาษีก็ไม่ได้
คิดว่าพอเห็นภาพนะครับ สำหรับการวางแผนภาษี
จากคุณ :
ทวนลมเรโช
- [
15 มี.ค. 49 11:17:30
]
|
|
|