CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ กลับมาแล้วครับ... มุมมองตอนนี้ของผม +++

    ลองกลับมาสู่ห้องนี้อีกครั้ง  แม้ว่าบรรยากาศจะเปลี่ยนไปบ้าง  ไม่ค่อยมีชื่อที่ผมรู้จักเท่าไหร่   แต่ก็พร้อมเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็
    ตอนนี้ผมเริ่มเห็นสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น
    อาจเป็นการตอบกระทู้ของคุณ boy ข้างล่างด้วยก็ได้
    ที่เห็นๆ ก็คือ 3 เดือนที่ผ่านมา SET index ขึ้นประมาณ 3% ขณะที่ SET 50 บวกเพียงประมาณ 1%   และเมื่อดูตัวที่เล็กมากๆ ใน MAI ก็พบว่าบวกขึ้น 5%
    แน่นอนผลกระทบจาก XD ก็มีไปหมด  แต่กระทบกับ MAI index มากกว่า เพราะหลายตัวในนี้ปันผลถึงเกือบ 10%  
     
    นั่นหมายถึง แนวโน้มที่หุ้นตัวใหญ่เคยขึ้นมากกว่าตัวเล็กใน 2 ปีที่ผ่านมา  เริ่มเปลี่ยนแนวโน้มแล้ว...
    คือ ตัวเล็กเริ่มน่าจะ outperform หุ้นขนาดใหญ่

    หุ้นเงา.. ที่ดีน่าจะครบถ้วนในหลักการอยู่  3 ข้อ
    1. เล็ก
    2. ถูก
    3. โต  
    หุ้นใน MAI ถ้าเลือกดีๆ ก็จะมีคุณสมบัติครบได้  
    - ตัวเล็กนั้นแน่นอนอยู่แล้ว mkt.cap ของหุ้นในตลาดนี้เล็กมากๆ  เกิน 1 พันล้านมีอยู่ไม่กี่ตัว
    -  p/e เฉลี่ยของตลาดนี้ที่ 9 เท่าก็นับว่าถูกกว่า 10 เท่าของ SET  
    P/BV ของ MAI ที่ 1.5 เท่าก็ต่ำกว่า ของ SET ที่สูงกว่า 2 เท่า  โดยรวมๆ แล้วก็ต้องนับว่าราคาหุ้นถูกกว่าโดยเปรียบเทียบ
    - ปัญหาก็คือ "โต"  ตามหลัก0tการแล้วหุ้นที่ตัวเล็กน่าจะมีการเติบโตที่สูงกว่า  
    จะให้ PTT ที่มียอดขายเกือบ 1 ล้านล้าน  เพิ่มขึ้น 5 เท่าใน 5 ปีเป็น 5 ล้านล้านบาท นั้นยากยิ่งนัก
    ขณะที่บริษัทเล็กที่มียอดขาย 500 ล้านเพิ่มเป็น 2.5 พันล้านยังมีโอกาสสูงกว่ามาก

    ด้าน demand-supply ไม่ต้องกลัวว่าฝรั่งหรือกองทุนจะขายหนัก เพราะไม่ได้ถือหุ้นใน MAI อยู่แล้ว  ส่วนกองทุนเดียวที่ลงทุนในนี้ก็คือ SCB-LTF3  ซึ่งมีเงินกองทุน 190 ล้าน แต่ก็ลงทุนใน MAI ราว 20% เท่านั้นเอง  

    สิ่งที่คาดหวังได้ก็คือ  อาจมีกองทุนเปิดใหม่เพื่อลงทุนใน MAI  แต่ก็น่าจะเป็นช่วงปลายปี   สิ่งที่คาดหวังได้เร็วกว่านั้นก็คือ "รายใหญ่"  ประมาณ 3 คนลงขันคนละ 100 ล้าน ก็เป็น 300 ล้ากบาท  แม้จะดูไม่มากนัก   แต่ขนาดของ MAI เพียง 1 ใน 350 เท่าของ SET  ดังนั้นเงินตรงนี้หากเปรียบเทียบไปเหมือนเงินกองทุนที่สูงกว่า 1 แสนล้านบาทหากลงทุนใน SET  อันหมายถึงมากกว่า เงินลงทุนในหุ้นของ กบข. และ ประกันสังคม รวมกันเสียอีก
    นั่นก็คือ พวกเขา 3 คนสามารถปั่นตลาดนี้ได้อย่างสบายๆ  และแน่นอนหากจะเลือกปั่นที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานก็น่าจะไม่ผิดกฏแต่อย่างใด  

    ใน MAI ก็ยังอาจมีหุ้นบางตัวที่น่าสนใจ เช่น ILINK  
    ผู้จำหน่ายสาย LAN และสายใยแก้ว   รวมทั้งวางระบบติดตั้งข่ายสัญญาณ  
    บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโต 25% ในปีนี้  
    ขณะที่ ROE ก็สูงถึง 30%   P/E ปัจจุบัน 6.2 เท่า
    แน่นอนว่าผมก็คิดเหมือนนักวิเคราะห์ใน mai.or.th ว่าต้อง "ซื้อ"  แต่สิ่งที่คิดต่างกันก็คือ  พวกเขาคิดว่าราคาหุ้นเหมาะสมคือ 6-7 บาท  โดยที่ p/e 7-8 เท่าคือเหมาะสม
    ส่วนผมคิดว่า หุ้นที่โตขนาดนี้ ROE แบบนี้ น่าจะมี p/e สูงกว่า เฉลี่ย  
    ดังนั้น p/e 12-13 เท่าน่าจะเป็นไปได้  EPS น่าจะทำได้ถึง 1 บาทพอดี   ราคาหุ้น 12-13 ควรจะเป็นราคาเหมาะสมตอนปลายปี    และยังอาจหวังการเหวี่ยงตัวจากการเก็งกำไรได้อีกด้วย   จากราคาปัจจุบันหวังผลกำไรได้ถึง 200%....  
    นอกจากนี้ก็อาจมีบางตัวที่โตน้อยกว่าแต่ก็ถูกมาก  เช่น PICO, UEC,....  

    ถ้าเพื่อนๆ คิดจะเข้าลงทุนก่อนที่รายใหญ่จะมาปั่นตลาด MAI  ก็อาจเป็นความคิดที่ดี   ตามโฆษณาที่ว่า "ด้วยลมเป่าที่เท่ากัน  ลูกโป่งเล็กหรือใหญ่อย่างไหนจะโตได้มากกว่ากัน"  

    แม้ท่าน ดร.นิเวศน์ (ด้วยความเคารพ) จะมีมุมมองที่ไม่ดีนักกับหุ้นใน MAI  และเชื่อว่าไม่น่ามี super stocks ในตลาดนี้  ถึงจะไม่มี  แต่มี "หุ้นเงา" ก็พอแล้วครับ 555

    จากคุณ : เฟยหง - [ 1 เม.ย. 49 23:19:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป