ความคิดเห็นที่ 54
7 เม.ย. 2549 ราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมัน
<> ราคาน้ำมันดิบ Dubai, Brent และ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.05%, 0.96% และ 0.79% ตามลำดับจากจากข่าว Bolivia Gas ประกาศ Force Majeure หลังจากเกิดการรั่วบริเวณท่อ ส่งก๊าซ (20 KBD) จากแหล่งผลิตแถบ Tarija มายังบราซิล ส่งผลให้แหล่งผลิต San Antonio(26 Million Cubic Meters Per Day) อาจต้องหยุดดำเนินการประมาณ 2-3 วัน และข่าวพลเอกYahya Rahim Safavi ผู้บัญชาการกองพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ออกมาแถลงหลังได้เข้าร่วมการซ้อมรบของกองทัพเรืออิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ว่า สหรัฐฯควรทบทวนถึงมาตรการใดๆที่กำลังจะมีต่ออิหร่านและยอมรับว่าอิหร่านเป็นประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคที่ไม่สามารถถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้กองทัพสหรัฐฯออกไปจากภูมิภาคโดยอ้างเหตุผลว่า เป็นภัยคุกคามต่อกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และข่าวนาย Mohammed bin Dhaen al-Hamli รัฐมนตรีน้ำมันของ United Arab Emirate ออกมายอมรับว่า OPEC ไม่สามารถทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงได้ เนื่องจากราคาน้ำมันในปัจจุบันผันผวนตามสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
<> ราคา ULG ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาปิด WTI และ Brent วันก่อน และจาก International Enterprise S'Pore (IES) รายงานตัวเลข S'Pore Light Distillates Stock ลดลง 0.11 MMB มาอยู่ที่ระดับ 8.25 MMB และจากตลาดคาดว่าจีนจะลดการส่งออก Gasoline เดือน เม.ย. 49 มาอยู่ที่ระดับ 185-200 K.Ton (เดือน มี.ค. ส่งออกประมาณ 260-300 K.Ton) ซึ่งเป็นระดับการส่งออกที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 48 และจากข่าวเวียดนามมีแผนที่จะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมัน Gasoline และ Jet จากเดิม 5% ซึ่งจะส่งผลให้เวียดนามอาจนำเข้าGasoline เพิ่มมากขึ้น และจากข่าวมีการนำ Gasoline จากไต้หวันไปขายในแถบ US West Coast ช่วงกลางเดือน เม.ย. 49 ปริมาณ 30 K.Ton ในตลาด Spot มีผู้เสนอขาย 92RON ที่ราคา 75.60 usd/bbl แต่ไม่มีการตกลงซื้อขาย
<> ราคา HSD ปรับตัวปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาปิด WTI และ Brent วันก่อน และจากข่าวศรีลังกาออกประมูลซื้อ Gasoil 0.25%S ส่งมอบต้นเดือน พ.ค. 49 ปริมาณ 25 K.Ton และจากข่าวมีการนำ Gasoil จากเอเซียไปขายในแถบแอฟริกาช่วงกลางเดือน เม.ย. 49 ปริมาณประมาณ 50-60 K.Ton และจากข่าว China Aviation เพิ่มปริมาณซื้อน้ำมัน JET อีก 30 K.Ton ส่งมอบเดือน พ.ค. 49 หลังจากสัปดาห์ก่อนซื้อไปแล้วปริมาณ 225 K.Ton อย่างไรก็ตาม IES รายงาน S'Pore Middle Distillates Stock เพิ่มขึ้น 1.36 MMB มาอยู่ที่ระดับ 8.57 MMB ในตลาด Spot มีผู้เสนอขาย Gasoil 0.5%S ที่ราคา MOPS + 6.00 usd/bbl แต่ไม่มีการตกลงซื้อขาย
<> ราคา HSFO ปรับตัวปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาปิด WTI และ Brent วันก่อน และจากข่าวอินโดนีเซียจะนำเข้า Fuel Oil เดือน เม.ย. 49 ประมาณรวม 35 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 15.6% จากเดือน มี.ค. 49 เนื่องจาก Stock ภายในประเทศลดลง อย่างไรก็ตามอุปทานในเอเซียยังคงเพิ่มขึ้นจากข่าวอินเดียจะการส่งออก Fuel Oil เดือน เม.ย. 49 อยู่ที่ระดับ 200 K.Ton (เดือน มี.ค. 49 ส่งออก 100 K.Ton) และ IES รายงาน S'Pore Residue Stock เพิ่มขึ้น 0.41 MMB มาอยู่ที่ระดับ 10.53 MMB ในตลาด Spot มีการตกลงซื้อขาย 1 เที่ยวที่ราคา MOPS + 3.00 usd/ton ส่งมอบ 26-30 เม.ย. 49 แนวโน้ม คาดว่าราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนสูง และแกว่งตัวขึ้นลงตามปัจจัยทางความรู้สึก แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบโดยรวมยังคงมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ จากปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 7 ปี โดยตลาดยังคงให้ความสำคัญกับ Political Risk ที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับกลุ่มประเทศตะวันตกเกี่ยวกับข้อพิพาทในการทดลองพลังงานนิวเคลียร์ โดยอิหร่านยังคงยืนกรานที่จะทดลองนิวเคลียร์ต่อไป แม้ว่า U.N. Security Council มีมติให้ระงับการทดลองภายใน 30 วัน ตั้งแต่ในวันที่ 30 มี.ค. 49 ขณะที่อิหร่านได้ออกมาแสดงศักยภาพทางกำลังทหารของตน โดยล่าสุดได้ทดสอบขีปนาวุธ"นูร์" ซึ่งเป็นขีปนาวุธทดลองลูกที่ 3 ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงเครื่องตรวจจับเรดาร์และสามารถติดหัวรบซึ่งอาจเป็นนิวเคลียร์ได้ เพื่อพร้อมรับมือกับสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต อีกทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบ ต้องหยุดดำเนินการเป็นเวลากว่า 2 เดือน ซึ่งปริมาณการผลิตโดยรวมที่ลดลงในปัจจุบันประมาณ 550 KBD(จากกำลังผลิตปกติที่ 2.4 MMBD) นอกจากนี้ รายงาน Gasoline Stock ที่ประกาศล่าสุดของสหรัฐฯ ปรับลดลงถึง 4.4 MMB มาอยู่ที่ระดับ 211.8 MMB ซึ่งเป็นการ ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ สร้างความกังวลให้ตลาดว่าอุปทานจะมีเพียงพอต่อความต้องการในช่วง Driving Season ที่กำลังจะมาถึงหรือไม่
ข่าวที่น่าสนใจประจำวัน <> ราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปทุกตัววานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐ ประกาศ Gasoline Inventories มีปริมาณลดลง 4.4 MMB อยู่ที่ 211.80 MMB หรือลดลงเมื่อรวมกับสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 10 MMB ทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับโรงกลั่นต่างๆในสหรัฐและเอเซียยังอยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุงประจำปี นอกจากนี้พายุ Cyclone Hubert ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้แถบตะวันตกออสเตรเลียทำให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบ Cossack ต้องปิดทำการอีกครั้ง ในส่วนของ Floating Production Storage and Offloading (FPSO)
<> ปัจจุบันข้อบังคับการเดินเรือสากลกำหนดให้มีปริมาณกำมะถันในเชื้อเพลิง อยู่ที่ 4.5% อย่างไรก็ตามบริเวณ Baltic ออกกฏหมายควบคุมปริมาณกำมะถันในเชื้อเพลิงให้อยู่ที่ 1.5% โดยจะเริ่มบังคับใช้ในเดือน พ.ค.นี้ สำหรับบริเวณทะเลเหนือและ English Channel จะปฏิบัติตามภายในเดือน พ.ย. 2550 ส่วน European Union มีความตั้งใจจะลดสารกำมะถันปนเปื้อนให้เหลือ 0.5% ภายในปี 2553 ทั้งนี้ผู้ประกอบการบางรายยังไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าข้อบังคับใหม่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ Ship Operator มองว่าในอนาคตจะประสบปัญหา ในเรื่องต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างแน่นอน
<> ตลาด LPG เอเชียวานนี้ Refrigerated Cargoes: Platts CFR North Asia Zone (Apr- May) ราคา Propane ราคาอยู่ที่ $477-478/MT และ Butane ราคาอยู่ที่ $467-468/MT สำหรับ FOB AG ราคา Propane อยู่ที่ $435-437/MT และ Butane ราคาอยู่ที่ $425-427/MT ค่าขนส่งเรือ VLGC AG - FE อยู่ที่ 45-48 USD/MT
Marketing Analysis & Risk Management Dept., Tel. 02-537-3100-1, April 7, 2006
จากคุณ :
Gump
- [
10 เม.ย. 49 10:14:11
]
|
|
|