ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริง เราๆท่านๆยังอยู่ต่อสู้ในโลกนี้อีกสิบๆปี ต้องประกอบอาชีพเพื่อความเจริญก้าวหน้าต่อตัวเองเป็นเสาหลักให้ครอบครัว การที่จะประสพความสำเร็จใช่ว่าจะมาอย่างง่ายต้องทุ่มเทกำลังกายกำลังสมองในการงานแล้วหลักฐานเงินทองก็จะมาตามสายทาง หมกมุ่นกับหุ้นจะทำให้เสียอนาคตหน้าที่การงาน ไม่สมควรทำ
หุ้นไม่เหมาะที่จจะมายึดเป็นอาชีพ หุ้นนี้แหละเป็นแหล่งที่ให้นุ่มสาวที่กำลังตั้งเนื่อตั้งตัวเข้ามาเล่นสะสมคอยเป็นคอยไป การที่เข้ามาเล่นหุ้นจะต้องไม่หมกมุ่นใช้เวลากับมันเพียงแต่ให้เวลาวันละ 5-10 นาทีเข้าเน็ตดูแล้งจดลงใน computer (excel) การเคลื่อนไหวของ (1) set index; (2) Volume ซื้อขายของตลาด; (3) ราคาหุ้น: (3.1) high; (3.2) low & (3.3) close ของหุ้น asp, kest, zmico ทุกๆวันเพื่อทำความคุ้นเคยกับหุ้นที่เราจะลงทุน
ขอให้ปันมา 50,000 บาทมาเล่นหุ้นแบบสะสมค่อยเป็นค่อยไป
**********
ราคาหุ้นมีขึ้นลงเป็นวงจรวัฐจักรซ้ำแล้วซ้ำเหล่าตั้งแต่เริ่มต้นตลาดหลักทรัพย์ หุ้นหลักทรัพย์ (Brokers) ธุรกิจการค้าเป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นโดยได้ค่าคอมมิชั่นจากปริมาณซื้อขาย หุ้นเหล่านี้จะขึ้นลงตามปริมาณซื้อขายของตลาดทั้งหมดในแต่ละวัน
(๑) ปริมาณซื้อขายถดถอยน้อยลง ราคาหุ้นจะซึมลงไปเรื่อยๆในช่วงขาลง หรือ ภาวะตลาดหมี
(๒) หมดาภาวะหมีกระทิงเข้ามาเยือน ปริมาณซื้อขายจะค่อยขยับสูงขึ้นๆในแต่ละวัน แน่นอนราคาหุ้นขึ้นตามปริมาณซื้อขาย
(๓) ภาวะหมีและกระทิงหรือมีขึ้นย่อมมีลงเป็นสัจธรรมความจริงพึงจะเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งในโลกนี้ ถ้าไม่เชื่อยอมรับสัจธรรม ขอให้ยุติหยุดตรงนี้อย่าได้อ่านคำแนะนำข้างล่าง
จากการติดตามศึกษาค้นคว้าร่วม 10 ปี ผลต่างราคาหุ้นระหว่างจุดต่ำและจุดสูงจะไม่ต่ำกว่า 30% ในแต่ละรอบจุดซื้อควรเป็นตอนปริมาณซื้อขายค่อยๆซึมลงมาประมาณ 7,000 ล้านบาทหรือราคาหุ้นได้ลงมาถึงจุดต่ำสุดในอดีต การซึมต้องค่อยเป็นค่อยไปใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ หรือ เดือนๆหรือไม่ก็มีเหตุการณ์ทำให้ตกใจขายทิ้งหุ้นหนีตาย ถ้าเป็นเหตุการณ์ตกใจต้องวิเคราะห์ข่าวสารหาสาเหตุมาจากอะไร (๑) จะทำให้เศรษฐกิจโลกหรือเมืองไทยล่มสลายไหม หรือ (๒) ทำให้บริษัทเป้าหมายที่จะซื้อหุ้นเจ๊งไหม (๓) ถ้าคำตอบ "ไม่" ต้องทั้งสองข้อ เวลานั้นอาจเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นก็ขึ้นอยู่ดุลย์พิจารณา ซื้อแล้วอย่าไปสนใจกับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นไม่ว่าราคาลงต่อก็ไม่วิตกใดๆ นั่งรอขายที่เป้ากำไร 30% ถึงเมื่อไรขายทันที เช่นเดียวกันจะไม่เสียดายว่าขายหมูขายแมวเพราะจุดนี้เป็นความพอใจของเรา ขายแล้วเอาเงินทุกบาททุกสตางค์เข้าแบงค์โดยไม่ทำอะไรต่ดเงินเหล่านี้รอวันเวลาเข้าซื้อใหม่ตามวงจรวัฐจักร์ราคาหุ้นที่มาให้เราอย่างแน่นอน ต้องอดทนรอวันเวลาของเธอซึ่งอาจเป็นอาทิตย์ๆหรือเดือนๆก็จะรอ
ในปีหนึ่งๆอาจมีโอกาสมาให้เพียง 2 รอบนั้นหมายถึงว่าซื้อขายในปีหนึ่งๆเพียง 4 ครั้งเท่านั้น เพื่อในการวางแผนลงทุนขอเพียง 3 รอบใน 2 ปี หรือ ซื้อขายเพีย 3 ครั้งในปีหนึ่ง ถ้ามีมากกว่าก็เป็นโบนัสในการสะสมเงิน ด้วยการลงทุน 50,000 บาท หรือ น้อยกว่าแต่ไม่สมควรมากกว่าเพราะจะทำให้เครียดต่อการรอคอยได้ ไม่ใช่ความฝันเห็นเงินล้านในเวลาไม่เกิน 10 ปี ดังนี้
ปี 1 รอบ 1/1 ซื้อ 50,000 บาท
1/2 ขาย (+30%) 65,000 บาท
2/1 ซื้อ 65,000
ปี 2 รอบ 2/2 ขาย (+30%) 84,500
3/1 ซื้อ 84,500
3/2 ขาย (+30%) 109,850
ปี 3 รอบ 4/1 ซื้อ 109,850
4/2 ขาย (30%)142,805
5/1 ซื้อ 142,805
ให้คำนวนต่อ ในปีที่ 8 เงิน 50,000 พอกพูนสะสมเป็นเงินล้าน
หุ้นเป้าหมายในการลงทุนได้แก่ asp, kest หรือ zmico บริษัทเหล่านี้มีส่วนแบ่งตลาดไม่เกินหนึ่งในห้าอันดับแรกๆมีฐานะการงินศักย์ภาพจ่ายปันผลทุกปี ปัญผลแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 3-5% นั้นหมายถึงว่าถ้ามีหุ้นอยู่ระหว่างจ่ายปันผลก็จะได้รับปันผลเช่นกัน
สิ่งสำคัญต้องปฏิบัติ (๑) ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่เพิ่มเงินเด็ดขาด (๒) ไม่เครียดและมีความอดทนต่อการขึ้นลงราคาหุ้น (๓) ไม่โลภเชื่อนักวิเคราะห์หรือใครก็ตามว่าหุ้นจะไปเท่านั้นเท่านี้ และ ไม่ซื้อหุ้นที่ไม่ใช่ราคาเป้าหมายอย่างเด็ดขาด (๔) สิ่งที่กล่าวข่างต้นโอกาสเป็นไปได้ นั้นหมายถึงสามารถทำได้ สำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่วินัยอดทนแต่ละท่าน (๕) สัจธรรมไม่มีใครจะมาทำให้เรานอกจากตัวเราเอง ชีวิตเรากว่าจะมาถึงจุดนี้ผ่านความลำบากขนาดไหนแล้วการรอคอยที่ไม่มีอะไรจะเสียทำไม่ได้หรือ
ท้ายสุด ขอให้ท่านที่สนใจหลักการข้างต้น จงใช้วิจารณญาณอย่างชาญฉลาดมองหาว่าต้องการอะไร อนาคตเงินทองขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละท่าน ไม่มีใครจะทำแทนได้ ไม่สบายใจไม่ทำไม่เสียอะไรเช่นกัน
ด้วยความปรารถนาดี
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 03:26:46
จากคุณ :
luck me
- [
10 เม.ย. 49 18:35:56
]