ความคิดเห็นที่ 5
(ต่อ)
ผมยังยืนยันว่า ทางออกที่ดีที่สุดถ้าท่านเห็นแก่บ้านเมืองจริงๆ ก็คือการลาออกทั้งคณะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง เพื่อให้ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติตายซาก เกิดสุญญากาศตามรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน อันจะเป็นโอกาสประเสริฐที่จะให้ในหลวงพระราชทานนายกฯ คนกลาง ทำการปฏิรูปการเมืองโดยราบรื่น คำตอบของท่านในรายการกรองสถานการณ์ว่ามาตรา 7 เป็นเรื่องนอกระบบนั้นแสดงว่าท่านไม่ยอมเข้าใจหรือไม่เห็นพระราชอำนาจในสายตา ผมเสนอเรื่องนี้ 15 ปีมาแล้วเข้าใจหลักรัฐธรรมนูญดีทุกประการ จึงได้เสนอเงื่อนไขและเงื่อนเวลาครบถ้วน อันจะเกิดขึ้นได้โดยง่ายหากมีนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจและเสียสละ เห็นแก่บ้านเมืองและในหลวงอย่างจริงใจ ไม่ผูกเงื่อนต่อให้เกิดความขัดข้องวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด ซ้ำกลับยังมาพูดเอาดีใส่ตัวเสียอีก การที่ท่านเสนอว่าจะไม่รับตำแหน่งนั้นนอกจากจะมิใช่การลาออกเพื่อเปิดหนทางให้มีการปฏิรูปอย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นการให้สัญญาที่มีเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่น่าจะเป็นไปไม่ได้อย่างสูงยิ่ง เช่นเดียวกับการปฏิรูปการเมืองภายใต้ระบอบทักษิณโดยการอำนวยการของท่าน ถ้าหากท่านมีความจริงใจสำนึกรับผิดชอบ ควรจะได้กระทำไปแล้วก่อนการยุบสภาและไม่จำเป็นจะต้องยุบสภาเลย เรื่องรัฐบาลแห่งชาติก็เหมือนกัน ถึงตอนนี้ มันไม่ต่างอะไรกับภริยาที่ไม่ยอมท้องจนกระทั่งระดูหมดจึงค่อยจูงมือสามีไปขอลูกกับท้าวมหาพรหม ท้าวมหาพรหมก็ถูกทุบและบุคคลที่ทำลายก็ถูกฆ่าปิดปากเสียแล้ว ท่านก็จะซื้อเวลาพูดเรื่อยเจื้อยต่อไป หาความคงเส้นคงวามิได้ สถานีบีบีซีเขาเชิญผมไปออกอากาศเมื่อตอนเช้านี้ ก็ได้มีการถกกันคร่าวๆ 3-4 ประเด็นว่า (1) การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นโมฆะทั้งหมดก็ได้ (2) หรือถ้าไม่โมฆะก็เปิดสภาเลือกนายกฯ ไม่ได้ เพราะทำอย่างไรผู้แทนก็ไม่ครบ คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญในการเลือกตั้งครั้งก่อนก็ค้ำอยู่ และ (3) ถ้าหากจะดันทุรังเลือกตั้งให้ครบอีก 38 เขต ก็จะยังขาด ส.ส.ระบบบัญชีไป 1 คนคือพระเปรม นอกจากนั้นหากจะยอมให้มีผู้สมัครเพิ่มใหม่ รวมทั้งพรรคไม้ประดับ ก็ย่อมไม่ถูกต้อง ท้าทายกฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ เพราะนี่มิใช่การเลือกตั้งใหม่หรือเลือกตั้งซ่อม เป็นเพียงกำหนดวันลงคะแนนการเลือกตั้ง (2 เมษายน) ใหม่เพราะมีเหตุผู้สมัครเดี่ยวได้คะแนนไม่ถึง 20% เป็นการเลือกอีก (re run) มิใช่การเลือกตั้งใหม่ (new election) หรือการเลือกตั้งซ่อม (by-election) อย่างแน่นอน ตามหลักจึงมีได้เฉพาะผู้สมัครเดิม เพื่อทำคะแนนให้ถึงเท่านั้น คล้ายๆกับกรณีใบเหลือง หรือการเลือกตั้งซ้ำ (runoff) ในกรณีที่มีผู้สมัครหลายคน แต่คัดออกเหลือเฉพาะผู้ทีอยู่ในเกณฑ์ให้แข่งขันกันใหม่ กกต.จะเอาสีข้างถูเพื่อช่วยไทยรักไทยกระนั้นหรือ (4) บัดนี้ประเทศไทยได้ถูกแบ่งแยกโดยนายกฯทักษิณกับฝ่ายตรงกันข้ามเรียบร้อยแล้ว ถามว่านายกทักษิณกับครอบครัวจะสามารถเดินตลาดอย่างเสรีชนในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดภาคใต้ได้หรือไม่ เราพูดเรื่องที่ท่านนายกฯ อ้างถึงคะแนนเสียง 16 ล้านว่าเป็นอาณัติให้ปกครองหรือ mandate to govern นั้น หนักแน่นแค่ไหน เมื่อเทียบกับคะแนนโนโหวตกว่า 10 ล้าน ซึ่งท่านอ้างว่าเป็นคะแนนพรรคต่างๆ บวกกับคะแนนไม่เอาทักษิณ พวกเรามีความเห็นว่าอำนาจเงิน กลไกของรัฐ แรงดึงจากผู้สมัครเขต บวกกับตัวช่วยสีเทาต่างๆ จาก กกต.และองค์ประกอบอื่นๆ น่าจะเชื่อว่าคะแนนที่สนับสนุนตัวท่านนายกฯ ล้วนๆ ในความเป็นจริงน่าจะต่ำกว่าโนโหวตอยู่อักโขทีเดียว เพราะโนโหวตนั้นเป็นคะแนนบริสุทธิ์ที่เป็นเอกภาพอย่างยิ่งนับเป็นประวัติการณ์ในตำนานเลือกตั้งของโลกทีเดียว นี่เป็นคะแนนปฏิเสธ (Reject) หรือเกลียด (Hate Vote) ท่านนายกฯ แท้ๆ บวกกับคะแนนบัตรเสียนับล้านๆ ที่ท่านไม่ยอมพูดถึง เราเอาตัวอย่างรูปถ่ายบัตรเสียที่รวบรวมได้มาดู เห็นแล้วขนลุก เพราะมันมิใช่บัตรเสียเพราะความด้อยความรู้ของผู้กาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มันบรรจุถ้อยคำที่สาปแช่งและเคียดแค้นชิงชังท่านนายกฯอย่างลึกซึ้ง เหมือนกับดร.ไชยันต์ ไชยพร กับอีก 4-5 คนที่ฉีกบัตรเลือกตั้งทีเดียว การต่อสู้เรื่อง รัฐธรรมนูญกำลังจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา เราจึงพากันสรุปว่าภาวะผู้นำของท่านนายกฯนั้นขาดสะบั้น (untenable) เสียแล้ว ผมนึกถึงการเลือกตั้งที่นอร์เวย์ ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ พรรครัฐบาลเสียที่นั่งไปไม่กี่ที่นั่ง หรือเพียง 3-4 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีที่นั่งเหนือฝ่ายค้าน ยังสามารถตั้งรัฐบาลผสมกับพันธมิตรได้ เขากลับบอกว่าเมื่อประชาชนกริ่งใจ เขาจะให้ฝ่ายค้านลองเป็นรัฐบาลดู มันช่างต่างกับท่านนายกฯ ที่กอดคะแนน 16 ล้าน 19 ล้านด้วยการแปลที่เข้าข้างตัวเองสุดประมาณ อย่างไรก็ตาม ผมขอยกนิ้วให้อัจฉริยภาพในการซื้อเวลาของท่านนายกฯ ประกาศของท่านคืนนี้ทำให้พันธมิตรและสังคมไทยเปิดตำราไม่ทัน ผมเห็นว่าแม่ไม้มวยทักษิณนั้นเหนือกว่าของพันธมิตรมาโดยตลอด จังหวะที่ท่านปล่อยหมัดเด็ดออกมาหลังจากที่ไปเฝ้าในหลวงไม่กี่ชั่วโมงนี้ทำให้ผู้คนคิดไปต่างๆ นานา ผมอ่านความคิดของท่านออกเพราะมันตรงกับของผมว่า คนไทยเราขี้เบื่อ ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ไม่อยากมีเรื่องมีราว ยิ่งแอบอิงพิงข้างในหลวง คนส่วนใหญ่ก็จะพึมพำ เลิกตอแยไปเอง ผิดถูกยังไงไม่สนใจ ท่านนายกฯ ต้องคิดเสียใหม่ ที่เขาลือว่าท่านดิ้นสุดชีวิตเพราะกลัวจะโดนยึดทรัพย์นั้น ถ้าเป็นความจริง การที่ท่านดื้อต่ออายุระบอบทักษิณครั้งนี้จะเป็นชัยชนะบนหลุมฝังศพ ดังคำของคุณเสนาะว่าชนะการรบแต่แพ้สงคราม ทางที่ถูกท่านควรหาทางเข้ามาร่วมกับระบอบราชประชาสมาสัยให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยกันปฏิรูป และสร้างระบอบประชาธิปไตยที่มีมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริงเสียโดยเร็ว เมื่อมีประชาธิปไตยแล้ว ถึงท่านจะร่วงจากอำนาจเป็นคนธรรมดา ก็ยังต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ใครจะมาเนรเทศท่านไม่ได้ หรือจะยึดทรัพย์โดยปราศจากขั้นตอนของขบวนการยุติธรรมก็ไม่ได้ การต่ออายุของระบอบทักษิณโดยอ้างว่าจะหาคนกลางมาปฏิรูปแล้วรีบเลือกตั้งใหม่นั้นจะมีใครเชื่อ เขาก็จะมองอดีตที่ท่านตั้งคนกลางเข้าไปเต็มองค์กรอิสระต่างๆ เพราะท่านควบคุมวุฒิสภาที่มีอำนาจแต่งตั้งไว้อยู่มือ สมมติว่าท่านประชุมสภาสำเร็จและตั้งรัฐบาลหุ่นของท่านได้ครั้งนี้ ใครเขาจะไม่รู้ว่าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก และเป็นเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จของพรรคเดียวที่อยู่ใต้อุ้งมือของคนคนเดียวอย่างที่ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ทำนายไว้ทุกประการ ใครเขาจะไว้ใจ ในเมื่อหัวหน้าฝ่ายค้านก็ดี บุพการีการเมืองของท่านคือพลตรีจำลองก็ดี ต่างก็สรุปว่าท่านล้มละลายทางวาจา ทางความเชื่อถือและทางการเมืองแล้วโดยสิ้นเชิง แต่ท่านนายกฯ ครับ คุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งท่านอาจจะไม่ได้ตั้งใจและคาดไม่ถึงก็คือ การเล่นเอาเถิดเจ้าล่อหนีการตรวจสอบของท่านหลังยุบสภามานี้ ทำให้คนไทยกว่าสิบล้านคนหูตาสว่าง ได้รับการศึกษาทางการเมืองอย่างลึกซึ้ง ถึงจะเรียนในมหาวิทยาลัยสักสิบปีก็ไม่ปาน เป็นการศึกษาที่ครบขบวนการในภาษาฝรั่งที่ท่านชอบ คือ political education, political socialization, political mobilization สิบล้านคนที่รู้ทันท่านนายกฯ และพรรคของท่าน เป็นสิบล้านคนที่นับวันจะใหญ่โตและเข้มแข็งขึ้น เขาไม่เอาดอกครับ ระบอบทักษิณ ขอให้ท่านเสียสละ รีบถอนตัวออกมาเถิด รีบมาร่วมกับพลังแห่งอนาคตที่จะสร้างประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยกัน ก่อนจะออกอย่าลืมบริจาคเงินให้ทุกจังหวัดในประเทศไทยสักจังหวัดละหนึ่งร้อยล้านบาท เพื่อสร้างมูลนิธิกองทุนเพื่อประชาธิปไตยและปราบปรามคอร์รัปชัน ท่านจะกลายเป็นรัฐบุรุษประชาธิปไตยในพริบตาเดียว แทนที่จะเป็นทรราชกอดซากศพรัฐบาลร่างทรงไปสู่อเวจีทางการเมือง วันจักรี 6 เมษายนนี้ ไปถวายบังคมพระบรมปฐมกษัตริย์ขอพระบารมีคุ้มเกล้าเถิด ด้วยปรารถนาดี ปราโมทย์ นาครทรรพ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000048100
จากคุณ :
คนไทยคนหนึ่ง
- [
10 เม.ย. 49 20:06:40
A:58.9.196.189 X: TicketID:070304
]
|
|
|