PANTIP.COM : I4299946 ถามคุณ pjuk หน่อยครับ สนใจกองทุน scb ต้องเริ่มยังไง []

ความคิดเห็นที่ 2

ความเห็นเดียวกับคุณ Lake_Michigan ครับแต่บางสาขาที่ให้ความรู้ได้มากก็มีครับ แต่อาจต้องหาช่วงเวลาที่คนใช้บริการธนาคารน้อยสักหน่อย ถ้าคนเยอะการให้คำปรึกษาคงไม่ละเอียดพอครับ

ถ้าอ่านจากคำถามของคุณ x เจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าคุณคงไม่มีภาระทางการเงินให้ปวดหัวเกี่ยวกับหนี้สิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ มากนัก อย่างงี้เหมาะกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงได้ในระดับสูงพอสมควรนะครับ (ถ้าเข้าใจไม่ผิด)

ก่อนอื่นเอาง่ายๆ เลยครับ
ถ้าเงิน 5 แสนแรกของคุณยังอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ ย้ายส่วนนี้เข้าใน SCBSFF ได้เลยครับสภาพคล่องของกองทุนน้อยกว่าเงินฝากแค่ 1 วันเองครับ

แต่ถ้าเงินฝากของคุณอยู่ในฝากประจำ รอครบเวลาก่อนนะครับไม่ต้องรีบร้อน (เสียดายดอกเบี้ย) หลังจากครบกำหนดแล้วจึงค่อยย้ายมาอยู่ SCBRF ก็ได้ครับแถมระยะเวลาการขายคืนยังสั้นแค่ เดือนเดียวเอง (ทุกวันที่ 16 ของเดือน)

นั้นคือเงินก้อนแรกที่เราเก็บไว้ยามฉุกเฉิน หรือเป็นเงินทุนรองรังเพื่อนำผลตอบแทนมาใช้ในความเสี่ยงที่สูงขึ้นครับ

คราวนี้มาดูเงิน 1 แสนบาททุกเดือนที่เราใช้แรงงาน ความคิดอ่าน แรกมานะครับ

ผมเคยใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยมาระยะหนึ่งคือเงินเดือนออกก็ใช้กินใช้เที่ยว พอครบเดือนก็มีเงินใหม่ออกมาอีกแล้ว แต่หลังจากกลับใจได้ ผมได้คิดว่าทำไมเราไม่เอาเงินที่เราใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยและหมดไปนั้นถือเสมือนว่า ถ้าเราลงทุนอะไรก็ตามเราพร้อมที่เงินลงทุนนั้นอาจจะหายไปได้ เหมือนกับเราใช้อย่างฟุ่มเฟือยนั้นเอง

ถ้าทำใจได้อย่างนั้นแล้วการลงทุนจะสนุกขึ้นอีกมากเลยครับ

ดังนั้นวิธีการของผมคือ จะต้องจัดการเงินทุกบาททุกสตางค์เข้ากองทุนให้หมดภายในเดือนนั้นก่อนที่เงินเดือนก้อนใหม่จะออกมา

เดือนชนเดือน เมื่อมีเงินต้นเดือนผมจะกันส่วนหนึ่งประมาณ
1/4 เก็บยาวเข้า SCBRF ก่อนเลยครับ
2/4 เก็บเข้า SCBSFF ไว้ใช้จ่ายในกรณีพิเศษนอกเหนือความคาดหมาย หรือจะหวัดที่หุ้นลงแรงๆ สัก 10-20 จุดก็จะเสี่ยงดวงกับกองทุนหุ้นบ้าง หรือบางที่ก็ RMF & LTF (เดี๋ยวจะพูดถึงต่อนะครับ)
อีกส่วนสุดท้าย 1/4 เก็บไว้ในออมทรัพย์ หรือเงินสดในกระเป๋าไว้หาก๋วยเตี๋ยวกินครับ ถ้าหมดส่วนนี้ (ฟุ่มเฟือย) ค่อยขายจาก SCBSFF มาใช้อีก

วันสุดท้ายก่อนได้เงินก้อนใหม่ผมจะย้ายทั้งหมดเข้าเก็บใน SCBRF ครับ นี้คือวงจรการเงินของผม

ผมเล่าวิธีจัดการของผมให้ฟังแทนการบอกว่าควรทำอย่างไรนะครับ เพราะคงไม่ทราบว่าความจำเป็นในการใช้จ่ายของแต่ละคนจะเหมือนกันหรือไม่

คราวนี้มาถึง RMF & LTF อยากแนะนำอย่างมากครับสำหรับผู้ที่ยังมีเงินได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และยังต้องมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงชาติบ้านเมืองอยู่ ไม่ใช้หารวิธีหลบภาษีนะครับ เพราะการลงทุนใน RMF & LTF คือการช่วยชาติทางอ้อมอีกวิธีครับ เพราะเราจะได้มีเงินดูแลตัวเองได้ยามที่ไม่มีรายได้ และไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลในเรื่องของเงินอุดหนุนคนยากจนนะครับ กันเงินบางส่วนเก็บไว้ในนี้บ้างก็ดี

คราวนี้มาพูดถึงประโยชน์ที่แท้จริง และตรงประเด็นการลงทุนดีกว่าครับ เขาบอกกันว่าไม่มีปีไหนที่หุ้นจะตกระเนระนาด 20-30% เด็ดขาดแม้แต่ตอนที่ฟองสบู่แตกเมื่อ 10 ปีที่แล้วแต่ละปียังตกไม่ถึง 20% ด้วยซ้ำครับ ดังนั้นถ้าเราคิดว่าเกิดถ้าขาดทุนก็คือเราเอาเงินไปใช้เที่ยว ไปใช้อย่างไม่เกิดประโยชน์แค่นั้นเองครับ

แต่ถ้าลงทุนใน RMF & LTF แล้วเราประหยัดภาษีไปได้ถึง 20-30% นั้นหมายถึงถ้าเราลงทุนแล้วกองทุนติดลบ 20-30% เรายังเท่าทุนอยู่เลยนะครับ แต่ถ้ากองทุนไม่ให้ผลตอบแทนอะไรเลย ยังถือว่ามีกำไรด้วยซ้ำ จริงไหมครับ ?

ดังนั้นผมจะจัดการเงินเดือนของผมให้ย้ายมาลงทุน RMF & LTF ให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 10% ของรายได้ (ไม่เกิน 15% เพราะใช้สิทธิได้แค่นี้ และต้องไม่เกินเดือนละ 300,000/12 บาท สำหรับ LTF ส่วน RMF อย่าลืมหักเงินที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วยครับ)

สุดท้ายผมจะบอกนิสัยของกองทุนให้ลองเลือกลงทุนดูนะครับ แต่นี้เป็นแค่ประสบการณ์ ที่ลองลงทุนมาอาจไม่ถูกก็ได้นะครับ

SCBSFF - ผลตอบแทนนิ่ง สภาพคล่องเปรียบเสมือนเงินฝากออมทรัพย์ จึงใช้ทดแทนการฝากออมทรัพย์
SCBRF - มีความเสี่ยงความผันผวนมากกว่า SCBSFF แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่มากกว่ามากๆ และสภาพคล่องน้อยมากเมื่อเทียบกับ SCBSFF แต่ดีกว่าเงินฝากประจำทุกประเภทครับ จึงใช้เก็บแทนเงินฝากประจำ
SCBSET - เมื่อเวลาหน้ามืดอยากได้กำไรเพิ่มขึ้น หรือเดือนไหนเงินเหลือจากการใช้จ่ายมาก ก็จะเอามาเสี่ยงดวงบ้าง (บ่อยเหมือนกัน) เป็นกองทุนหุ้นที่ใช้ดัชนีตลาดเป็นตัวอ้างอิงยิ่งช่วงนี้ทำกำไรได้เพียบเลยครับ ตก 10 กว่าจุด ขึ้น 20 กว่าจุดก็มีให้เห็นมาแล้ว
SCBDV - กองทุนนี้เหมาะกับคนฝากเงินแต่อยากได้ส้มหล่นจากหุ้นบ้างเล็กน้อย คือปันผลนั้นเองครับ แนะนำทยอยซื้อ ทยอยเก็บเล็กๆ น้อยพอเป็นกระไสยนะครับ

ส่วน RMF / LTF แนะนำแบบเสี่ยงโชคไปเลยครับ คิดเสียว่าเอาภาษีมาชดเชยการขาดทุนแล้วกันจะได้สบายใจ ผมจึงเลือก SCBRM4 กับ SCBLT2 & SCBLT3 ส่วนกองอื่นก็ไว้สับเปลี่ยนเล่นแล้วแต่ว่านึกสนุกตอนไหนครับ

ที่สำคัญที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินก้อนใหญ่ที่จะลงทุนทีเดียวแล้วเก็บยาว คืออยากให้หาบริการเสริมมาใช้ครับได้แก่ SCB Easy Net / SCB Easy Phone จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคารบ่อยๆ แถมเป็นบริการให้ฟรีด้วยครับ นอกจากใช้จ่ายค่าสิ้นค้า ค่าบริการแล้ว ยังใช้บริการของกองทุนได้อย่างเต็มที่ ทั้งซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยน เต็มที่ครับ

มีอะไรสงสัยถามเพิ่มได้นะครับ...... ยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์กันครับ

จากคุณ : pjuk - [ 21 เม.ย. 49 07:31:50 ]