ความคิดเห็นที่ 1 อย่างน้อยก็น่าจะมีกล้องวงจรปิดไว้ตรวจสอบครับว่าใครเอาของเราไปหรือเปล่า แต่ถ้าเก็บไว้ที่บ้านของหายหาคืนได้ยากกว่าครับ....................... แซวกันเล่นนะครับ น่าจะมีประกันภัยในกรณี ของเพลิงไหม วินาศกรรม หรือภัยธรรมชาติ ให้ครับ แต่การถูกขโมย นี่คงต้องสืบสาวเอาความจนถึงที่สุดก่อนถึงจะมีการชดใช้ให้ครับ จากคุณ : pjuk - [ 22 เม.ย. 49 09:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฝากมา 30 ปี  กับธนาคาร 5 แห่ง ตอนนี้เหลือ 1 แห่งคือธนาคารกรุงเทพ  ก็ไม่เห็นจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นเลย มีแต่ตัวเองโดนคนล้วงกระเป๋าและเอากุญแจตู้นิรภัยไปด้วย 2 ครั้ง  เมื่อกุญแจหาย แม้แต่ธนาคารก็เปิดตู้ให้ไม่ได้ ดิฉันต้องไปแจ้งความ  แล้วแจ้งธนาคาร  นัดเวลาที่ธนาคารจะหาคนมาเจาะตู้เซฟ  เอาตัวล้อคกุญแจเก่าออก  แล้วเปลี่ยนตัวใหม่ทั้งชุด   การเก็บของไว้กับตัวหรือที่บ้าน จะเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมและไฟไหม้บ้าน  อย่างเช่นตัวเอง นาฬิกาไม่เหลือสักเรือน ตุ้มหูกำไลหายไปทั้งกล่อง  ส่วนตัวก็ชอบถอดแหวนออก แม้แต่การเอาออกมาชั่วคราวยังหายได้เลย  ดิฉันเคยเอาแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวคัดเกรดพิเศษ 3 การัต ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่แพงที่สุดในชีวิตออกมาให้เพื่อนๆดูที่ห้องค้า เพราะเห็นว่าเพชรปัจจุบันจะสีออกเหลืองๆ  จากนั้นเก็บเข้ากระเป๋าแต่ปรากฎว่า เมื่อถึงบ้านเปิดดู แหวนได้หายไปอย่างลึกลับ น้องชายโดนคนร้ายยกเค้าบ้าน 3 ครั้ง  ครั้งสุดท้ายนี่ คนร้ายเอารถบรรทุกมาขนเลย  ขนหมดรวมทั้งรวมทั้ง projector ขนาดใหญ่และตู้เซฟ  คนข้างบ้านนึกว่ากำลังย้ายบ้าน เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งมาออกรายการเฉียด รถเธอเสีย เธอเลยนั่ง taxi เพื่อมางานเลี้ยงที่โรงแรมดุสิตธานี  ระหว่างที่รถวิ่งเข้าซอยศาลาแดง  เป็นเวลาที่พลุกพล่าน คนขับยังเอาปืนยิงทะลุหน้าอก และท้องของเธอ 2 นัด โดยที่ไม่มีใครรู้สึกว่าผิดสังเกตุ  จากนั้น ก็ขับรถออกนอกเมือง  ปลดเครื่องประดับออกก่อนจะลากเธอไว้ข้างทาง ตอนที่ทองราคา 8 พันเมื่อสัก 27 ปีที่แล้ว เหตุการณ์คนกระชากสร้อยทองมีบ่อยๆ  มีผู้หญิงนั่งสามล้ออยู่ดีๆ ก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา กระชากสร้อยไป ที่ฮ่องกง คนร้ายถึงกับตัดหูผู้หญิงเพื่อจะเอาตุ้มหู   เพชรและทองซื้อไว้เพื่อการลงทุน เพราะมูลค่าจะเพิ่มมากกว่าดอกเบี้ย  จึงควรนำไปฝากตู้เซฟของธนาคารไว้ จากคุณ : prettypetite - [ 22 เม.ย. 49 17:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การเก็บของในตู้นิรภัยธนาคารเป็นการเก็บของมีค่าที่ปลอดภัยมาก และราคาถูกมาก ซึ่งโดยทั่วไปจะเสียค่าเช่าต่อปีประมาณ 800-1000 บาท ตู้นิรภัยที่แบ่งเป็นล็อคเกอร์ขนาดประมาณ 5*10*20 นิ้ว จะติดตั้งอยู่ในห้องมั่นคงของธนาคาร การจะเปิดได้ต้องเซ็นคำขอเปิดตู้เจ้าหน้าที่จะเทียบลายเซ็นกับตัวอย่างที่ให้ไว้ ก่อนนำไปที่ตู้โดยจะต้องเปิดห้องมั่นคง แล้วถึงจะเข้าไปถึงล็อกเกอร์ที่เช่า ความเสี่ยงเดียวที่อาจเกิดขึ้นก็คือเจ้าหน้าที่ธนาคารทุจริตเอง ซึ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่น้อย เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึงอาจมีการขโมยกุญแจได้ จากคุณ : ปีศาจเกินร้อย - [ 23 เม.ย. 49 09:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปกติ ตู้นิรภัย มีกุญแจ 2 ชุด ชุดที่ 1 คือ Master Key อยู่กับธนาคาร ใช้ไขกับทุกตู้ ชุดที่ 2 คือ กุญแจของลูกค้า ใช้เปิดตู้ที่เช่าไว้ และธนาคารจะมอบกุญแจชุดที่ 2 ให้กับลูกค้า การเปิดตู้ทุกครั้ง จะต้องไขกุญแจทั้ง 2 ชุด พร้อมกัน ดังนั้น หากไม่มีกุญแจของลูกค้ามาด้วย พนักงานจะ เปิดตู้เองไม่ได้ ส่วนเรื่องประเด็นการ copy กุญแจ เท่าที่พบจากยี่ห้อ Chubb และ Mosler ก็ยังไม่เคยมีการ copy ได้ครับ จากคุณ : Knight - [ 23 เม.ย. 49 10:48:07 ]