ความคิดเห็นที่ 1 คิดดูนะ.. คนกลุ่มหนึ่ง ซื้อ-ขายหุ้นตามกราฟ แต่ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดราคาหุ้นได้ (หมายถึงการป่าน) .. ได้แต่คอยแหงนมองราคาหุ้นแล้วก็ก้มหน้ามามองเส้นกราฟ ซื้อ ๆ ขาย ๆ ตามราคาที่เขาทำมาให้ถึงจุดที่...จะซื้อจะขาย แต่คนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นคนกำหนดและเขียนกราฟด้วยตนเอง เพื่อให้คนพวกแรก..ต้องเล่นตามเกมส์ที่พวกเขาได้กำหนดไว้ ผ่านจอคอมพิวเตอร์ !? โดยมีราคาหุ้นเป็นสิ่งชักใยความคิดของพวกนักกราฟ !! คิดกลับไปกลับมาดูซิ..ว่า.. ใครจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง และใครกันแน่ที่เก่งจริง !? ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ + อิอิอิอิอิอิอิ + 555555 + เอา..คิคิคิคิคิคิคิคิคิ..ด้วย (ตบท้ายอีกทีหนึ่ง) http://www.huayuanjie.net/phpBB2/viewtopic.php?t=2613 จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 23 เม.ย. 49 01:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กราฟ เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของเทคนิคัล กราฟสร้างได้ หลอกได้ แต่โวลุ่ม คุณจะหลอกยังไง นักเทคนิคิล ไม่ได้ใช้แค่กราฟ และมีเครื่องมือในการตรวจสอบ ความถูกต้อง ของเครื่องมือ ด้วย (Cross check) จากประสบการณ์ เทคนิเคิล แพ้ อินไซด์ อย่างเดียวเท่านั้น ข้อมูลทั่วไป ที่คุณอ่านหรือ หากันได้ ไม่ว่าข่าว งบการเงิน ฯลฯ มันก็ถูกปรุงแต่ง หรือ เขียนขึ้นมาเหมือนกัน อ่านง่าย ซึมซับง่าย ถูกหลอกง่ายกว่ากราฟอีก จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน - [ 23 เม.ย. 49 04:18:07 A:58.9.54.116 X: TicketID:106249 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนใช้เทคนิคัลเป็น กับคนใช้เทคนิคัลเก่ง เป็นคนละเรื่องกัน ที่บอกว่า คนใช้กราฟ ทำไมไม่รวยทุกคน ก็ด้วยเหตุผลข้างต้น และเป็นเหตุผลเดียว กับนักเทนนิส ในบ้านเรา ทำไมไม่รวย เหมือน โรเจอร์ หรือ ภราดร ทุกคน จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน - [ 23 เม.ย. 49 04:21:28 A:58.9.54.116 X: TicketID:106249 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อืม... เท่าที่เคยรู้มา คือเจ้าตำหรับเทคนิคเคิลเนี่ย เคยขาดทุนจากการซื้อ-ขายด้วยพื้นฐานครับ จึงมีการคิดค้น พัฒนาตัวเทคนิคเคิลนี้ขึ้นมาใช้งาน และสามารถนำมาใช้ และทำกำไรในตลาดได้ แต่โดยความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันมีปัจจัยหลายอย่าง แต่โดยเฉพาะตัวผู้ลงทุนเอง..!! กล่าวคือ การเข้าใจตัวเอง มีความสำคัญกว่า การเข้าใจในศาสตร์ศิลป์ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนคนนึงต้องการลงทุนในหุ้น แบบระยะยาว แต่ตัวเองกลับทนเห็นตัวแดงโล่ๆไม่ได้ (ที่ยกตัวอย่างนี้ เพราะผมไม่ใช่พวกเทคนิคเคิลครับ) จากคุณ : ไม้เลื้อย - [ 23 เม.ย. 49 06:07:42 A:unknown X:202.44.210.31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เส้นกราฟที่เราเห็น เป็นผลรวมของปัจจัยพื้นฐาน อารมณ์ ความกล้า ความกลัว ข่าว ทั้งหลายทั้งปวงเรียงร้อยกันมาเป็นเส้นกราฟ หรือ indicator วิธีการให้ได้มาซึ่งกราฟ หรือ indicator ผ่านการทดลอง พิสูจน์มาในหลายๆตลาด ว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ในสถานการณ์ใดๆ แต่เส้นกราฟที่เราเห็น เป็นเพียงอดีต ที่ผ่านมาแล้ว ที่เราเอามาใช้คาดการณ์อนาคต จึงไม่มีใครถูก 100% แต่สิ่งหนึ่งที่ ไม่มีใครสามารถปกปิดได้ คือเม็ดเงินที่ถาโถมเข้ามาในหุ้นตัวนั้น ถ้าเราสามารถจับความเคลื่อนไหวของเม็ดเงินได้ แม้แต่ เจ้ามือ ข่าว หรืออินไซด์ ก็ไร้ความหมาย การเดินทางให้ถึงจุดหมาย มีทางไปได้หลายทาง บางเส้นทางก็เร็ว สั้น บางเส้นทางก็ช้า ไกล แต่ถึงจุดหมายเหมือนกัน บางเส้นทางก็เต็มไปด้วยขวากหนาม หรือหุบเหว จนอาจล้มหายตายจากไปเลยก็ได้ ไม่มีใครผิดหรือถูก 100% มีแต่ว่าใครถนัดทางไหนมากกว่ากัน ลองใช้  eyedropper ดูดสี ที่จุด Aกับจุด B มาเทียบกันดูซิครับ บางครั้งสิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด จากคุณ : Livestock - [ 23 เม.ย. 49 07:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เยี่ยมครับ คุณ Livestock จากคุณ : Mr.X-ray - [ 23 เม.ย. 49 08:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับทุกคนยกเว้นเจ้าของกระทู้ .... (ที่แค่ลอกมา) เจ้าของกระทู้เข้าใจการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแค่ไหนครับ คำตอบคือการใช้กราฟ ก็เหมือนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ นั่นหละ ซึงมีทั้ง ไพ่ ลายมือ ดูชะตา กราฟชีวิต ยิปซี นับเลข มากมาย บางอย่างใช้ได้ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน บางอย่าง เหตุแบบเดียวกันแต่ ทำนายได้หลายแบบ ขึ้นกับ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์และการพลิกแพลง เหตุการณ์แบบเดิม อาจให้ผลทำนายแบบใหม่ หรือ หลายวิธี วิเคราะห์ชี้ออกมา เป็นรูปแบบการทำนายแบบเดียวกัน ที่ชัดเจนคือ นักแต่งกราฟไม่สามารถหลอก คนที่มีระยะเวลาในการรอนานกว่าได้ กราฟยิ่งระยะสั้น ยิ่งมี ความผิดพลาดสูง คนที่เล่นรายนาที อาจถุกกราฟ 5 นาที กระชากหลอกได้ แต่ไม่อาจตบตากราฟ 60 นาที ได้ คนที่เล่นแบบยาวและถือได้ จึงไม่ควรหวั่นไหวกับกราฟรายนาทีด้วยซ้ำ จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 23 เม.ย. 49 09:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท. ไม่ควรเล่นหุ้นนะ มันอันตรายมากสำหรับคุณ จากคุณ : ... - [ 23 เม.ย. 49 10:20:29 A:58.8.98.235 X: TicketID:099692 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความคิดเห็นที่ 7 ครับ สิ่งที่ผมคัดลอกมาให้อ่านกัน ผมเห็นว่ามันให้แง่คิดในการลงทุน หรือมันเป็นมุมมองอีกมุมมองหนึ่งที่ทำให้ไม่ประมาท ในการลงทุนครับ ผมไม่ได้เชื่อ ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งหมด หรือ เชื่อในสิ่งที่ผมคัดลอกมาทั้งหมด แต่ผมไม่ต้องการประมาทในการลงทุน ประการหนึ่ง ที่ผมประสบมา คือ การลงทุนเป็นศาสตร์และศิลป์ การที่ผมศึกษาแง่คิดต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบพิจารณาในการลงทุน ผมว่ามันจะดีกว่า การที่เราจะเชื่ออะไรเพียงด้านเดียวครับ จากคุณ : mr.stock - [ 23 เม.ย. 49 10:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การเล่นเก็งกำไร ไม่สามารถใช้ข้อมูลอะไรสนับสนุนได้เลย นอกจากข้อมูลที่ผ่านมา(กราฟ) แต่การลงทุนระยะยาว กราฟคงไม่ช่วยมากนัก นอกจากธรรมภิบาลของเจ้าของบริษัทและภาวะเศรฐกิจ อินไซเดอร์หรือเจ้าของ ชนะเสมอ(นอนมา) จากคุณ : โฆษิต - [ 23 เม.ย. 49 10:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความรู้สึกล้วนๆ   เพราะเราเป็นคนตัดสินใจเอง จากคุณ : ผมมันบ้าไปแล้วคร๊าบบบ (นายดุเดือด) - [ 23 เม.ย. 49 11:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ ตามไปอ่านตาม link ที่ให้มา ไม่น่าเชื่อว่า นี่เป็นคำแนะนำจากคนที่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนัก แนะนำผู้อื่นให้เล่นหุ้นตามแนวทางของตน เพราะ จขกท. และเจ้าของความคิดเห็น ไม่มีความเข้าใจ เทคนิคเคิล เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการที่คุณไม่รู้ไม่เข้าใจ จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะวิจาร์ณ แนวคิด แนวทางอื่น และไม่สมควรยิ่งกว่า ในการเผยแพร่ให้ผู้ือื่น มีความเชื่อ และทัศนคติ ที่ไม่ถูกต้องตามแนวทางของตน จากคุณ : *John* - [ 23 เม.ย. 49 12:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น่าจะเป็นแบบทางใคร  ทางเขา ใครเก่งกราฟก็เล่นกราฟ ใครเก่งพื้นฐานก็เล่นพื้นฐาน แต่ถ้านำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันจะดีกว่านะครับ ผมไม่เก่งกราฟ  แต่บางครั้งเราก็หาจังหว่ะซื้อได้จากกราฟ ผมไม่เก่งพื้นฐาน  มีวิเคราะห์เชียร์พื้นฐานก็หาโอกาสขาย เอาตัวให้รอด  ด้วยวิธีไหนก็ได้  ที่ล้วงเอาเงินจากกระเป๋าคนอื่น จากคุณ : P_ปรัชญา - [ 23 เม.ย. 49 13:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "นักกราฟ คือ เหยื่อชั้นดีที่หนึ่ง ของตลาดหุ้น !! ครับ !!" อิอิ แย่จังเลย เพิ่งรู้เหมือนกันว่า เราเนี่ยเป็นเหยื่อชั้นดีของใครบางคน!! จากคุณ : DARINGYOUSENDMEHOME - [ 23 เม.ย. 49 13:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าตามความคิดผม ผมมองว่ากราฟเป็นการรวบรวมตัวอย่างในอดีต แล้วนำมาตั้งเป็นหลักในการพยากรณ์ครับ ซึ่งความแม่นนั้นจะเกิดจาก 1 ความเชี่ยวชาญของผู้พยากรณ์ 2 คุณธรรมของผู้พยากรณ์ 3 ตลาดแห่งนั่นอยู่ในภาวะเสถียรหรือยัง มีนานานหรือยัง มีใครควบคุมมันได้หรือเปล่า เช่น โลกที่หมุนรอบรอบดวงอาทิตย์มาตั้งนานจนคนรู้หมดแล้วว่าฤดูไหนมันจะขึ้นทางไหนตอนกี่โมงตกกี่โมง แต่ถ้าเป็นกลุ่มดาวที่เพิ่งระเบิดออกมาใหม่ๆ หรือดาวเทียมที่มีคนคอยกำกับ ขืนเอาหลักการเดียวกันไปจับ ก้อมีโอกาสทั้งถูกทั้งผิดครับ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ 23 เม.ย. 49 13:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ขนาดรายใหญ่ที่คุณว่ายังต้องดูกราฟเลย ผมว่ารายใหญ่ที่เข้าไปลากราคาขณะที่กราฟดูไม่ดี หรือ เข้าไปทุบหุ้นขณะที่กราฟกำลังสวย ก็เหมือนกับการเดินสวนกระแสคนหมู่มากแหละครับ ซึ่งผมว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ฉลาดเป็นแน่ เพราะอย่างน้อย ถ้าเขาทำตามกระแส ก็ย่อมจะได้กำไรมากว่า หรือคุณคิดว่าไง จากคุณ : บอสคุง (BosskunG) - [ 23 เม.ย. 49 13:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทุกคน ทุกวิธี มีจุดมุ่งหวังที่จะเอาชนะตลาด แต่ละวิธีก็มีจุดอ่อนและจุดแข็งในตัวเอง บทความเห็นนี้ เค้าคงเห็นว่า ถ้าทุกคนยึดกราฟอย่างเดียวก็อาจทำให้เกิดความแปรปรวน ถ้ามองในเชิงสร้างสรรค์ผมเห็นว่า มีความเป็นไปได้ เว้นแต่ นักคิดกลยุทธทางสถิติ จะออกมาบอกว่า ตนเองได้ตั้งค่าความแปรปรวนนั้นไว้ดีแล้ว จากคุณ : jonathan w. - [ 23 เม.ย. 49 16:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีความจริงในบทความ แต่ไม่ ใช่จริงทั้งหมด แล้วแต่มุมมองและประสบการณ์ของนักลงทุนท่านนั้นๆ จากคุณ : จูล่ง - สุภาพบุรุษจากเสียงสาน - [ 23 เม.ย. 49 17:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 thanks krab... จากคุณ : samsam - [ 23 เม.ย. 49 18:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านโดยมีสติ บทความนี้ผมคิดว่าดี อ่านแบบ มีอคติหรือเสียผลประโยชน์จากบทความนี้ บทความที่ผมได้คัดลอกมานี้ ก็จะถูกป้ายสีให้ดูแย่ ผมติดตามบอร์ดนี้มานาน ผมมีกำไรจากคำแนะนำของเจ้าสำนักคนนี้เสมอ ผมว่าเขาเก่งครับ วันที่เว็บบอร์ดทั่วไปยังมึนและงงกับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่เจ้าสำนักของที่นั่นเขาบอกล่วงหน้าได้ว่าควรซื้อหรือควรขาย ไม่ทราบว่า ความคิดเห็นที่ 12 มีปัญญาทำได้แบบเขาหรือเปล่า การติเพื่อก่อเป็นเรื่องที่ดีครับ สำหรับสุภาพชน แต่การติเพื่อทำลาย โดยคนติไม่เคยก่อประโยชน์อะไรเลย ผมว่ามันเน่า ๆ อย่างไรพิกล ท่านความคิดที่ 12 ลองช่วยเสนอแนะความคิดเห็นที่จะช่วยรายย่อยอย่างผมได้ทำมาหากินในตลาดหุ้นหน่อยได้มั้ยครับ ว่าจะใช้เทคนิคหรือกลยุทธ์อะไร ๆ ที่จะทำให้ชนะตลาดได้ นั่นแหละผมจึงจะยอมรับว่าคุณมีความรู้พอที่จะวิจารณ์ท่านอาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ย อาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ย เขาเปิดเว็บบอร์ดมานานแล้วครับ ไม่เก่งคงไม่ดังติดเว็บบอร์ด 1 ใน 5 อันดับแรกของประเทศไทยหรอกครับ จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 23 เม.ย. 49 19:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ต่อครับ ความรู้ที่อาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ยเขามี เขามีเพื่อเผื่อแผ่ และเป็นสิ่งที่พวกเรายอมรับว่า ท่านพูดอะไรก็ถูกต้องร้อยละ 80-90 % ท่านไม่เคยเก็บงำความรู้ เพื่อไว้ใช้คนเดียว ท่านโดนคนทำลายเสมอ เช่น ไปป่วนที่บอร์ด ปล่อยไวรัสเพื่อทำลายบอร์ด และที่พวกเราเห็นชัด ๆ คือ บอร์ดของท่านแฮ็ค หลายต่อหลายครั้ง นี่เป็นบอร์ดที่ 6 แล้ว ที่ลูกศิษย์ของท่านต้องเปลี่ยนสถานที่อยู่ใหม่ให้กับท่าน ท่านช่วยเรามาเกือบ 3 ปีแล้ว ท่านโดนกลั่นแกล้งมาตลอดเวลา เพราะอะไรครับ เพราะท่านเป็นคนจริงที่ให้ข้อมูลจริงกับรายย่อย จนคนที่เสียผลประโยชน์เขาไม่พอใจ และจ้องจะทำลายท่านอาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ยให้พ้นไปจากเว็บบอร์ดวงการหุ้น คนที่ต้องต่อสู้กับคนอื่น ๆ เพื่อรายย่อยอย่างท่านอาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ย ผมว่าในประเทศไทย นับหัวได้ไม่เกิน 3 คน ที่กล้าจะนำเรื่องราวเบื้องลึกต่าง ๆ ออกมาช่วยรายย่อยอย่างเรา ท่านอาจารย์ฮั่วหยวนเจี่ย เขาไม่ดีตรงไหนครับ คุณกล้าที่จะเสียสละตนเองเพื่อคนอื่นแบบเขามั้ยครับ จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 23 เม.ย. 49 19:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นานๆจะแวะเข้ามาอ่าน วันนี้เจอกระทู้นี้อ่านแล้วก็ออก ค ห ด้วย หลังอ่านกระทู้และความเห็นต่างๆ ก็จึงยังยืนยันว่า 1..ตลาดหุ้นยังคงสถิตต่อ คือไม่มีล้มไม่มีชงัด เพราะจะมีคนไม่รู้เข้าตลาดทดแทนคนเก่าที่ออกไปเพราะขาดทุนเสมอ ๆ ตลอดกาล 2..ตลาดจะหมุนไปเคลื่อนไปด้วยความเห็นคนเข้ามาเล่นที่แตกต่างแสมอ หากความเห็นตรงกัน ตลาดจะเคลื่อนช้ามากหรือแทบไม่เกคลื่อนไหวเลย อย่างงี้ดีนะครับจะมีคนขาดทุนคนกำไร หมุนไปทุกๆวัน 3..การดูแต่ปัจจัยล้วน ก็มิได้หมายความว่าคนนั้นจะรวย เพราะข้อมูลปัจจัยก็คือการเดาใจผู้บริหารกิจการว่าเขาเสมอต้นเสมอปลายแค่ไหน หากดูแต่ปัจจัยตและตัวเลขทางบัญชีแล้วเล่นหุ้นรวย นักบัญชีทั้งหลายและนักวิเคราะห์ทั้งหลายก็รวยเละเทะหมด 4..คนดูกราฟก้ไม่ได้จะรวย เพราะกราฟคือเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้น(ไม่ใช่ข่าวลือ) จากคนเล่นหุ้นกลุ่มนั้นต่อหุ้นตัวนั้นๆ แล้วก็เดาใจความเป็นไปได้ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรต่อไป คนดูกราฟก็มีทั้งกำไรและขาดทุนเช่นกัน แต่ดูกราฟดีกว่าไม่ดูอะไรเลย โยนหัวโยนก้อยอะไรทำนองนั้น 5..เจ้าสำนักที่อ้างถึงก็ถือเป็นคนเก่งมีประสบการณ์ แต่ก็มีคนอื่นอีกเยอะ ที่สำคัญคือเจ้ากระทู้ฟันกำไรจากวิธีไหนได้ผลก็ทำไปเรื่อยๆก่อน แต่ต้องระวังนะวันหนึ่งก็เปลี่ยนจุดหยึด มิเช่นนั้นก็จะเป็นปัจจัยล้วน หรือกราฟล้วน หรือดูจากวิธีหมอดูล้วน ฯลฯ มีกำไรก็อย่าลืมซื้อทองเก็บหรือจะเก็บเป็นน้ำมันก็ตามใจ แต่เก็บน้ำมันมีวันวอดได้ ทองมีวันตกแต่ทองยังเป็นทองอยู่นะ 5566 5566 5566 จากคุณ : อย.nowya - [ 23 เม.ย. 49 19:43:44 A:202.57.171.34 X: TicketID:112031 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 22 ครับ บทความของท่านเยี่ยมมากครับ ให้ข้อคิดที่ดีด้วย ผมก็เอาทุกอย่างมาเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจในการลงทุนครับ เพราะว่า ใช้อย่างเดียว คงโดนหลอกง่ายเกินไปนะครับ อันที่จริงผมคิดว่า การที่ผมคัดลอกบทความนี้มาให้อ่านกัน น่าจะมีประโยชน์มากกว่าผลเสียครับ เพราะเขาก็บอกแล้วว่า ใช้กราฟเป็นหลังพิงร้อยล่ะ 30 % ก็พอ ให้ใช้ส่วนอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย เจ้าของบอร์ดเขาไม่ได้บอกว่า เขาไม่ได้ใช้กราฟ แต่เขาบอกว่าให้เพิ่มและจะต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆ ส่วน มาประกอบการตัดสินใจการลงทุน จึงจะดีที่สุด ผมไม่ทราบว่า บางท่านอ่านกันไปยังไง ออกมาในรูปนี้ เสมือนหนึ่งว่า บทความที่ผมคัดมานี้ ทำให้เขาเสียผลประโยชน์อะไรมากมายนักหนา แต่บางท่านเขาอ่านแล้วเขาเข้าใจ แต่ผมไม่สนใจหรอกครับ เพราะการแสดงความคิดเห็นใครจะทำอย่างไรก็ได้ ไม่ได้ใช้คำหยาบก็ไม่ผิดกฏอะไรนี่ครับ ผมเชื่อเจ้าของบอร์ด คนอื่น ๆ อาจไม่เชื่อ ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย การนำเสนอเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันเท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 20:14:40 จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 23 เม.ย. 49 20:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ่อ ไม่ทราบว่าเว็บของท่านอจ.ฮั่วหยวนเจี่ย  ทำไมผมถึงเข้าไม่ได้เลยละครับ เป็นมา 3-4 วันแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นที่เน็ตหรือเปล่า ผมใช้adslของtot จากคุณ : babu - [ 23 เม.ย. 49 20:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 25 การเล่นหุ้นคือการเล่นเกมชนิดหนึ่ง มีคนแพ้และมีคนชนะ ใครที่เล่นแล้วชนะมากกว่าแพ้ก็จะมีความสุข ส่วนคนที่แพ้บ่อยๆ ก็มักจะเครียด ชอบโทษโน่นโทษนี่ไปหมด ขาดความมั่นใจ ทั้งๆที่คนที่แพ้และชนะส่วนใหญ่ก็ดูกราฟด้วยกันทั้งนั้น ทำไมไม่โทษตัวเอง การเล่นหุ้นวัดกันที่การตัดสินใจครับ ใครนิ่งกว่า เด็ดขาดกว่าคือผู้ชนะของจริง ไม่ได้พูดล้อเล่นน่ะ ขอให้โชคดีทุกคน จากคุณ : ฟางซินเสีย - [ 23 เม.ย. 49 20:30:36 A:124.121.61.58 X: TicketID:118154 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทำทุกทางให้ได้กำไรครับ ส่วนจะวิธีการอย่างไร ก็แล้วแต่หลักการและเหตุผลของแต่ละคน สุดท้ายขึ้นกับ บุญพาวาสนาส่งด้วยครับ (ฮ่ะ ฮ่ะ) จากคุณ : ไก่ขาเดียว - [ 23 เม.ย. 49 20:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อาจารย์ nowya ครับ อยากให้อาจารย์แนะนำวิธีดู บิด ออฟเฟอร์ หุ้น ที่มีการโยนหุ้นเรียกลูกค้าด้วยครับ ....หวังว่าท่านจะเมตตาแก่รายย่อยด้วยครับ จากคุณ : Juj - [ 23 เม.ย. 49 20:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 24 ครับ พวกเราทุกคนในบอร์ดยังเข้าได้ตลอดครับ www.huayuanjie.net เข้าทางนี้หรือเปล่า เข้ากันได้ทุกคนนะครับ มาร์ฯ ของผมก็เข้าไปดูบ่อย ๆ แฮะ ๆ บางทีเอาคำพูดของอจ.ฮั่วหยวนเจี่ยมาสอนผมด้วย ผมขำเลย เพราะผมก็เข้าไปอ่านทุกวันอยู่แล้ว จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 23 เม.ย. 49 20:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่า ในตลาดหุ้น คนที่มีเงินมากที่สุด จึงจะเอาชนะตลาดได้นะครับ จากคุณ : ประธาน เหมา - [ 23 เม.ย. 49 22:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อยากจะบอกว่า ความเห็นที่ 14 น่ารักมั่กๆ เลยครับ ขอเบอร์โทร. หน่อย 5555 อยากจะบอกว่า มี 100 วิธี ที่จะทำกำไรได้จากตลาดหุ้น และมีอีก 1000 วิธี ที่จะทำให้เราหมดตัวจากตลาดหุ้น วิธีไหนที่เราใช้แล้วได้ประโยชน์ มีกำไร ก็ทำไป วิธีไหนที่เราใช้แล้วขาดทุน ซ้ำซาก ก็เลิกเสีย เช่นเดียวกับการฟังความเห็นต่างๆ ฟังใครชอบใคร ฟังแล้วเราเล่นเก่งขึ้นมีกำไรก็ฟังไป แต่ถ้าฟังไปแล้ว ฟังแล้วฟังเล่า ก็ยังขาดทุน ก็จงเลิกฟังเสีย ตลาดหุ้นต้องหาแนวทางของตัวเองให้เจอ ความคิดอ่าน รับฟังกันได้ แต่คิดแทนกันไม่ได้จ้า.. รับฟังได้ ก็ต้องคิดเองได้ด้วยคร้าบบบ.. จากคุณ : บุญทับ - [ 23 เม.ย. 49 23:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีครับ จขกท ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ ในฐานะของคนที่เล่นหุ้นด้วยเทคนิเคิลเป็นหลัก (กราฟเป็น subset ของ เทคนิเคิล..ใช่ไหมครับ) ผมพยามอ่านทุกความคิดเห็น แต่ก็ไม่ทุกตัวอักษร ถ้าต่อจากนี้ผมแสดงความคิดเห็นอะไรไม่สอดคล้อง ก็ขออภัยด้วยนะครับ อย่างแรกเลย ผมสะดุดตรงที่คำว่า "ผมติดตามบอร์ดนี้มานาน ผมมีกำไรจากคำแนะนำของเจ้าสำนักคนนี้เสมอ " ทำให้ผมรู้สึกเข้าใจ จขกท ในอีกแง่มุมหนึ่ง (ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยนะครับ) คือผมเข้าใจว่า จขกท เป็นนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่ทำกำไรจากการเล่นหุ้นได้ โดยการพึ่งผู้อื่น ไม่ใช่การพึ่งตนเอง.. เอ่อ..อันนี้ไม่เกี่ยวกับบทความเท่าไหร่นะครับ เพียงแค่คำพูดนี้กำลังให้น้ำหนักอะไรบางอย่าง ในการออกความเห็นกับคุณ จขกท เท่านั้นเอง ด้วยความบริสุทธิ์ใจนะครับ ขอออกตัวนิดนึง ไม่ได้ต้องการตำหนิหรือคิดจะว่ากล่าวอย่างไร เพียงแต่วิเคราะห์อักษร แล้วพยามเรียบเรียงความคิดว่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรเท่านั้นเอง หากท่าน จขกท รู้สึกไม่ดี ก็ขอกราบขออภัยด้วยนะครับ คือผมคิดว่า การเล่นหุ้นโดยการพึ่งแนวทางการตัดสินใจของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ หรือ จากเวปบอร์ดที่ไหนก็ดี แม้จะมีความแม่นยำสูง ก็ไม่ใช่วิธีการเล่นหุ้นที่ดีนะครับ เราควรจะวิเคราห์และตัดสินใจด้วยตัวเอง จากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง (fact) จะดีกว่าครับ ลองคิดดูนะครับ หากวันไหน เราไม่สามารถรับการวิเคราะห์จากแหล่งที่มาของเราได้แล้ว วันนั้นรูปแบบการเล่นหุ้นของเรา ก็คงต้องได้รับผลกระทบใช่ไหมครับ ผมคิดว่า ตนเป็นที่พึ่งของตนดีที่สุดครับ ที่กล่าวนี้เป็นความคิดเห็น ในส่วนที่เกี่ยวกับประโยคที่ยกมาพูดข้างต้นครับ ซึ่งจะเกี่ยวข้องบ้าง กับความคิดเห็นของบทความ ที่ จขกท นำมาให้อ่าน ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไปครับ คำจำกัดความ และขอบเขตของการเล่นหุ้นแบบเทคนิเคิลนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ความเห็นของพี่ข้างบนได้กล่าวมาครบถ้วนแล้วครับ ว่าการเคลื่อนไหวของกราฟ สะท้อนถึงตลาดอย่างไรบ้าง ส่วนตัวแล้ว ผมเองมีความคิดเห็นขัดแย้งกับบทความที่ จขกท นำมาให้อ่านครับ ผมเชื่อว่า การใช้เทคนิเคิล(กราฟเป็น subset ของ เทคนิเคิล..ใช่ไหมครับ) สามารถใช้ได้กับหุ้น"ทุกตัว"ครับ ไม่ว่าหุ้นปั่น หรือหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ก็สามารถใช้ได้ครับ (คห 7 คือเหตุผลที่ผมกล้าพูดแบบนี้ครับ) ผมคิดว่า จขกท ยังมีทัศนคติ และ ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเทคนิเคิลไม่ดีและมากเท่าที่ควรครับ ผมจึงไม่กล้าแสดงเหตุผลหรือตัวอย่างประกอบ เกรงว่าจะยิ่งไม่เข้าใจกันครับ (ถ้าเข้าใจผิดก็ขอกราบขออภัยด้วยครับ) คือหลักใหญ่ใจความของเทคนิเคิล คือการบอกโอกาส ความน่าจะเป็น ของการเกิดและไม่เกิด ของเหตุการณ์ที่ต้องการทราบครับ ซึ่งนอกจากกราฟจะเป็นหนึ่งใน subset ของเทคนิเคิลแล้ว system และ money management ก็เป็นหนึ่งใน subset ที่สำคัญของเทคนิคเคิลครับ money management... เป็นตัวสำคัญครับ ที่แยกการลงทุนออกจากการพนัน ถ้าเราพูดถึงการลงทุน แล้วพูดเปรียบเทียบการเล่นโดยวิธีต่างๆ โดยตีความจากคำว่า "เหยื่อชั้นดีของตลาด" นั่นหมายถึง วิธีไหนก็ตาม ที่สามารถ "ชนะตลาด" ได้ โดยให้ระยะเวลาที่เหมาะสมพอสมควร ผมพูดได้เต็มปากอีกครั้งครับ ว่าคนที่เข้าในการเล่นหุ้นแบบเทคนิเคิลในระดับหนึ่ง คนนั้นจะไม่เป็น "เหยื่อชั้นดีของตลาด" แน่นอนครับ ส่วนตัวนะครับ ผมเชื่อว่า..ถ้าเราจับนักเทคนิเคิลคนหนึ่ง เอาแบบไม่ต้องเก่งมาก แค่มีความเข้าใจที่ดีพอสมควร มาขังไว้ในห้องปิดตาย มีคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง ที่ติดตั้งโปรแกรมดูกราฟหุ้นยอดนิยมไว้ ทุกๆวันที่ตลาดปิด ให้ส่งข้อมูลหุ้นให้แก่นักเทคนิเคิลคนนั้น เฉพาะเพียงแค่ "ราคาเปิด-ปิด สูงสุด-ต่ำสุด และ volume" (ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง หรือ fact อย่างหนึ่งใช่ไหมครับ) แค่นั่นพอ.. ส่วนตัวหุ้นนั้น หากจะบังคับให้เขาเล่นเฉพาะหุ้นปั่นก็ย่อมได้ หรือจะปิดชื่อหุ้นไว้ (กำหนดเป็นหุ้น A, B, C.... แทน) เพื่อไม่ต้องให้นักเทคนิเคิลมีความ bias กับความน่าเชื่อถือของบริษัท เชื่อไหมครับ หากให้เวลานักเทคนิเคิลคนนั้น 1 ปี เขาสามารถทำกำไรได้อย่างน้อยที่สุด 20% ครับ (ซึ่งการชนะตลาด ก็จะไม่เป็นเหยื่อชั้นดีของตลาดแล้วใช่ไหมครับ) ^^ ดูกราฟเป็น กับ เล่นหุ้นด้วยกราฟเป็น ต่างกันนะครับ ข้อความที่นำมาให้อ่านมีประโยชน์มากครับ แต่การเล่นหุ้นเป็นศิลป์ของศาสตร์ เราจะฟันธงว่าอะไรถูกทั้งหมด หรือผิดทั้งหมดไม่มีครับ ผมจึงแค่บอกว่า "มีความเห็นขัดแย้ง" เท่านั้นครับ โดยสรุปแล้วผมอยากจะบอกแค่เพียงว่า มีคนที่เล่นหุ้นที่อาศัยกราฟอย่างเดียว 100% โดยไม่อาศัยข้อมูลอย่างอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว ก็สามารถชนะตลาดได้(ไม่ตกเป็นเหยื่อ) มีคนแบบนี้อยู่จริงๆครับ.. ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : HolySix - [ 23 เม.ย. 49 23:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 31 ครับ ท่านสุภาพน่านับถือมากครับ สิ่งที่ท่านให้มุมมองนั้น ผมจะจดจำไว้ครับ ผมชอบใจหลาย ๆ ประเด็นครับ อย่างไรก็ดี ผมขอออกความคิดเห็นส่วนตัวหน่อยครับ ผมคิดว่า ไม่มีอะไรที่ชัวร์ที่สุดในตลาดหุ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้นด้วยกราฟ ข่าว และอื่น ๆ ผมคิดว่า เจ้ามือ คือ คนที่ชัวร์กว่าการอิงองค์ประกอบอื่น ๆ ครับ  แฮะ ๆ ๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ความคิดเห็นที่ 31 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 00:13:29 จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 24 เม.ย. 49 00:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 "บทความนี้ทำให้ผมเล่นหุ้นฉลาดขึ้นเยอะเลย////////// " ขอโทษครับ คุณตั้งกระทู้ขึ้นมาเมื่อ 23 เม.ย. 49 00:08:15 ส่วนบทความที่คุณอ้างถึง โพสต์เมื่อ Sat Apr 22, 2006 10:27 pm     เวลาห่างกันไม่ถึงสองชั่วโมง คุณได้ไปเล่นหุ้นที่ไหนมาหลังตลาดในกท ปิดแล้ว คุณไปเล่นที่ NYSE หรือครับ และถ้าเจ๋งจริงไปเล่นกะตลาดนิวยอร์ค คุณรู้งัยว่าฉลาดขึ้นเยอะภายในเวลาไม่ถึง สองชั่วโมง สรุปว่ากระทู้นี้ เจ้าของกระทู้.....ยกเมฆ พยายาม promote เวปที่ว่า อย่างโง่ๆ จากคุณ : By Jupiter - [ 24 เม.ย. 49 01:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ว่าใช้วิธีไหนก็มีข้อจำกัดทั้งนั้น ถ้าไม่รู้วิธีใช้และข้อจำกัด แล้วขาดทุนก็ไม่แปลกครับ แต่ที่เคยเข้าไปอ่าน เจ้าของเว็บนี้ไม่รู้เทคนิคเลยนี่ครับ แล้วทำไมวิจารณ์ให้น้ำหนักกับเทคนิค 30% จากคุณ : อาทิตย์จรัสแสง - [ 24 เม.ย. 49 02:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ด้วยความเคารพความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้ ผมว่า "เขาคิด" แบบนั้นก็ "ไม่ผิด" ครับ เพราะเขาเชื่ออย่างไร เขาก็จะทำอย่างนั้น ซึ่งเป็นเงินของเขาเอง จะรวยเท่าไหร่ หรือ หายไปเท่าไหร่ พวกเราก็ไม่เดือดร้อนครับ แต่สำหรับคนที่อ่าน หรือ น้องใหม่ ต้องมีการคิดทบทวนและใคร่ครวญให้ดีนะครับ เนื่องจากที่ผ่านมา ผมมั่นใจความสามารถผมว่า "แค่เอาตัวรอดได้" ดังนั้นจึงไม่สามารถฟันธงให้ใครได้ครับ ปัจจุบันก็ใช้ DSM แบบถูๆไถ่ๆ ตามที่เข้าใจ ก็ต้องขอบคุณคนที่ให้ความรู้เราไว้ อันนี้รวมถึงหลายความเห็น เช่น เฮีย 2 คค. คุณชอบอ่าน คุณหมากเขียว คุณ Invisible hand ฯลฯ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ ความเห็นส่วนตัวไว้ ที่เหลือก็แค่คนหยิบไปใช้ จะรวย จะจน ก็ตัวเราเอง ไม่ว่ากันครับ ขอให้เรามีความคิดของเราเอง อย่าเอาเรื่องและอารมณ์ รวมถึงความคิดผู้อื่น มาเป็นธุระของเราเลยครับ จากคุณ : กึ่งสำเร็จรูป - [ 24 เม.ย. 49 09:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ By Jupiter ครับ มีคนเขาลากไส้ตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาแล้วครับ อยู่ที่นี่ครับ ที่กระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4304763/I4304763.html จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 24 เม.ย. 49 09:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 37 555  คุณอ่านแล้วเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ ใส้ของคุณกระมังที่ออกมาโชว์ จนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว 555 จากคุณ : By Jupiter - [ 24 เม.ย. 49 10:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เล่นยังไงก้อได้ ให้มีกำไร คือ วิธีการที่ถูก เล่นแล้วขาดทุน คือ วิธีการที่ผิด    คำพูดของทันตแพทย์ยรรรยงค์ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 16:33:03 จากคุณ : โตนปลิว - [ 24 เม.ย. 49 10:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หมอฟันนั่นเอง ที่รวยจริงๆ ว่าแต่จารย์หยวนจั๋วท่านเปนผู้ได๋ล่ะคับ งงจังซี้ จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 24 เม.ย. 49 11:37:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำกล่าวข้างต้นครับ... พูดจาเหมือนพวก VI ที่ชอบดูถูกพวก Technical จังงงงง ดูกราฟเป็น กับดูกราฟเก่ง ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว... จากประสบการณ์ผม (เป็นมาร์มาก่อน) เหยื่ออันดับแรก คือ พวกเล่นตามข่าวครับ ... ผมสอนลูกค้าเสมอว่า ถ้าเล่นตามข่าว 10 ครั้ง ข่าวแม่น 9 ครั้ง โดนข่าวหลอกครั้งเดียว กำไร 9 ครั้งแรกก็หมดได้ครับ จะเป็นแนวไหนก็ได้ครับ ... ขอให้คุณเก่งจริงเถอะครับ จากคุณ : สุมาเต๊กโช - [ 24 เม.ย. 49 19:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ในตลาดฯ อื่น....... ที่มีความคิดเห็นหลากหลายมาก เพราะคนคิดต่างกันนี้เอง   ทำให้สภาพคล่องในตลาดฯมากไปด้วย      ทำให้เข้า-ออกตลาดฯง่าย     TFEX  เปิดศุกร์นี้  ถ้าคนคิดต่างกันมาก  เข้าไปร่วมวง   โดยไม่ต้องพิมพ์ หรือไม่ต้องใช้เสียง  แต่จะใช้วอลลุ่มงัดกัน จะงัดขึ้น(BUY)  ทุบลง(SELL) ก็ได้  จะทำสภาพคล่องมาก  อาจจะเข้าแจมด้วยคนหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 21:27:25 จากคุณ : keeta2 - [ 24 เม.ย. 49 21:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 (เจ้าของกระทู้ ) นักกราฟ คือ เหยื่อชั้นดีที่หนึ่ง ของตลาดหุ้น !! ครับ !!  โชคดีที่เลิกเล่นหุ้นนานแล้วเลยรอดจากการเป็นเหยือ   แต่แนวคิดผมเอง  ว่า นักกราฟเก่งจริง คือ เหยี่ยวชั้นดี  ของตลาด Futures  (ไม่ใช่ AFET  เพราะสภาพคล่องไม่มี) แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 21:42:56 จากคุณ : keeta2 - [ 24 เม.ย. 49 21:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ยืนยันครับ.. ทางใคร.. ทางมัน.. ถนัดทางไหน.. ก็เล่นทางนั้น.. ทำกำไรได้เหมือนกัน... จากคุณ : ฟ้าเวิ้ง - [ 25 เม.ย. 49 14:27:42 A:unknown X:203.150.98.77, 203.151.141.194 TicketID:074686 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 25 เม.ย. 49 16:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ที่จริงผมก็ไม่ได้เก่งทางจิตวิทยาหรอกนะ แต่ก็พอจะเข้าใจว่า เขาก็ใช้จิตวิทยามาหลอกล่อให้ติดกับ ลากขึ้นลากลง   ช่วงนี้มักออกมาในรูปเป็นการปล่อยข่าว ถ้าเขาต้องการทุบเอาหุ้นก็ปล่อยข่าวไม่ดีออกมา ถ้าหลงเชื่อขายออกมา จนได้จำนวนที่เขาต้องการ ซึ่งคงใช้เวลาไม่กี่วัน หลังจากนั้นหุ้นที่คุณปล่อยออกไปก็วิ่งหน้าตั้ง ถ้าหลงเข้าไปอีกเขาก็เอาคุณไปขึ้นหิ้ง ถ้าคุณไม่เชื่อข่าวนั้น และคิดว่าหนักแน่นพอ เขาก็จะทุบลากราคาลงมา จนคุณทนไม่ไหวต้องขาย แล้วก็เข้าวงจรเดิม คือ เขาได้หุ้นตามจำนวนที่เขาต้องการ ซึ่งคงใช้เวลาไม่กี่วัน หลังจากนั้นหุ้นที่คุณปล่อยออกไปก็วิ่งหน้าตั้ง ถ้าหลงเข้าไปอีกเขาก็เอาคุณไปขึ้นหิ้ง บางทีเขาก็ดูจากที่พวกคุณโชว์กึ๋นกันในห้องนี้ เขาก็จับทิศทางของพวกคุณได้แล้ว แล้วมันจะเหลืออะไร แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 19:36:37 จากคุณ : หุหุ .......... (Green Turbo) - [ 25 เม.ย. 49 19:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อิอิ ไม่ต้องเถียงกัน ค่ะ ใช้วิธีใดก็ได้ ขอให้ถูกต้อง เหมาะสมกะตนเอง นั่นล่ะ คือดีที่สุดแล้ว แนวไหน อะไรก็ได้ ...ที่สำคัญรู้ให้จริง รู้ให้ลึก ในศาสตร์นั้นๆ หรือจะ เอาแนว วงใน ...ก็ขอให้มั่นใจนะ ว่าในจริง หรือจะ เน้นเซนส์ สัมผัสพิเศษ ก็เอา จะแหวกแนว เอามันส์ โยนเหรียญเอาหัว ก้อย ...ใช้ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าวิธีใด เมื่อใช้แล้ว ได้ผลดี ก็ดีทั้งสิ้น ค่ะ จากคุณ : 007-s - [ 25 เม.ย. 49 21:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นักดูกราฟ เป็นเหยื่อชั้นดีของตลาด.........???????? แต่... นักเล่นหุ้นตามข่าว..เป็นเหยื่อชั้นดีของเจ้ามือ ครับ ผมกล้ายืนยันกับจขกท.ได้เลยว่า.... ผม ดูกราฟเล่นหุ้น ทุกตัว และ ไม่เคยเชื่อข่าวลือใดๆ ทั้งสิ้น.... และผมกล้าพูดได้ว่า ... ผมสามารถซื้อของถูก และ ขายของแพงได้...โดยอาศัย กราฟ... อย่างเดียว จริงๆ ให้ตายเหอะ โรบิน !!!!!!!!!!! ปล. ถ้าคุณมีขวาน แต่ใช้มันไม่เป็น คุณก็จะบอกว่า ขวานนั้น ไร้ประโยชน์.... แต่ถ้าคุณรู้จักวิธีใช้มัน คุณก็จะบอกว่า ขวานนั้น มีประโยชน์มหาศาล... จากคุณ : มาตรฐานชายไทย - [ 25 เม.ย. 49 21:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ กราฟแสดงทุกสิ่งทุกอย่างของหุ้น กราฟไม่สามารถหลอกได้ กำไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า ใช้กราฟดูกราฟเป็นหรือไม่ หลายคนคิดว่าดูเป็น แต่จริงจริงแล้วดูไม่เป็น ใช้เก่งหรือปล่าวต้องฝึกฝน จิตใจคนเล่นต้องมั่นคง และเล่นให้เป็นระบบ เคยเห็นแต่คนเล่นข่าว เจ๊ง กับ เจ๊ง จากคุณ : Dukhor - [ 26 เม.ย. 49 00:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 กลับมาอ่าน และรับผิดชอบความคิดเห็นของตัวเองครับ ผมยังยืนยันความเชื่อของตน ในประเด็นตามความคิดเห็นที่ 12 ของผม ผมไม่เก่งพอที่จะใตั้งตนเป็นอาจารย์ หรอกครับ แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้ port ของผม โตขึ้นกว่า 100% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าจะถามว่า ผมจะแนะนำรายย่อยอย่างไร ที่จะเอาชนะตลาดได้ จริงๆ หลายท่านให้ความคิดเห็นที่ดี และครบถ้วนอยู่ในตัวอยู่แล้วครับ ผมขอไม่พูดซ้ำ ส่วนตัวผมชอบเปรียบเทียบการเล่นหุ้น เช่นการเป็นชาวประมง การเล่นหุ้นตามพื้นฐาน ก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง การเล่นหุ้นตามเทคนิค ก็เป็นเครื่องมืออีกอย่างหนึ่ง ทั้งสองแบบต่างก็สามารถจับปลาได้เหมือนกัน จะจับปลาได้มากหรือน้อยกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับสภาพท้องทะเลในช่วงเวลานั้นๆ ดังนั้น ความเชื่อของฝมก็คือ หากคุณอยากเป็นชาวประมงที่ดี คุณต้องรู้จักการใช้เครื่องมือ อย่างมีประสิทธผล และมีประิสิทธิภาพ จะให้ดีกว่านั้น ควรใช้เครื่องมือได้อย่างชำนาญหลายๆ อย่าง เพื่อเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม รับมือสภาพอากาศ สภาพน้ำ สภาพท้องทะเลที่แตกต่างกัน บางคนอาจเก่งเรื่องเบ็ดตกปลา บางคนอาจเก่งเรื่องการใช้อวน จะตำหนิกันคงไม่ถูกต้องนัก การยกตนขึ้น โดยดูแคลน ความเชื่อของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ผมจึงเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสม ---------------- ผมไม่ห่วงคนที่มีประสบการณ์มากครับ เพราะคนเหล่านี้รู้จักวิธีเอาตัวรอดกันทั้งนั้น แต่ที่นี่ มีมือใหม่จำนวนมาก ที่เข้ามาเพื่อหาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ ในขณะที่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พร้อมที่จะล่อลวง และหาประโยชน์ จากคนกลุ่มนี้ ขออภัยที่ต้องเรียนว่าผมเข้าใจว่า (ตามที่ได้อ่านความคิดเห็นในหลายกระทู้ของ จขกท ในนี้) จขกท มีความพยายาม ประชาสัมพันธ์ เว็บไซท์ที่อ้างอิงอย่างชัดเจน เพื่อวัตถุประสงค์ใดผมไม่ทราบ ผมไม่มีอะไรจะเสียประโยชน์ จากกระทู้ของคุณ เพียงแต่เห็นต่างจากคุณ และเป็นห่วงแมงเม่ารายใหม่ ที่กำลังจะหลงทาง คาดหวังพึ่งแต่ผู้อื่น อิงแหล่งข่าว อิงนักวิเคราะห์ ลืม สร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ด้วยการขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ขออภัยหากความคิดเห็นของผมอาจทำให้คุณไม่พอใจ และไปกระทบต่อผู้ที่คุณนับถือ จากคุณ : *John* - [ 26 เม.ย. 49 12:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อีกประเด็นหนึ่งในการเล่นหุ้น ที่ยังไม่มีใครกล่าวถึง คือการจัดการกับความเสี่ยงครับ คุณคงเคยได้ยินคำว่า High Risk High Return ในฐานะนักลงทุนที่ดี คุณต้องประเมิน จัดการกับทุ้ง risk และ return อยู่ตลอดเวลา การ trade ที่ดี ใช้ข้อมูล การวิเคราะห์ด้วยแนวทางต่างๆ อย่างเหมาะสม ในสภาพอารมณ์ และจิตใจที่ปราศจาก โลภ และ กลัว จะเป็นการ minimize risk maximize return ในขณะที่การเทรดตามข่าว ตามบทวิเคราะห์ เล่นด้วยอารมณ์ จะเป็นการ เทรดที่ ตรงข้ามกับข้างบน แต่ละคนมีระดับ การยอมรับความเสี่ยง และผลตอบแทนต่างกัน การซื้อขายจึงเกิดขึ้น อารมณโลภ์ มีผลโดยตรง ที่จะเพิ่ม หรือ ลด ระดับการยอมรับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ขณะที่ความกลัว ก็มีผลโดยตรง ที่จะเพิ่ม หรือ ลด ระดับการยอมรับผลตอบแทนที่ต่างกัน การวิเคราะห์ (ด้วยตัวเอง) จะทำให้คุณ เข้าใจระดับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่เหมาะสมกับตน แต่หากคุณเชื่อการวิเคราะห เชื่อข่าว จากบุคคลอื่น คุณจะต้องมานั่งตอบคำถามตัวเองทุกครั้งไป ว่าทำไมตนถึงขาดทุน จากคุณ : *John* - [ 26 เม.ย. 49 13:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ศุกร์นี้เป็น จุดเริ่มต้นของสนามอีกแห่ง ในการทดสอบใช้ไอเดียของใคร ว่าอย่างไหนจะแฮปปี้กว่ากัน (จากผู้ที่ กำลังรอจังหวะประลองยุทธ) จากคุณ : gee - [ 26 เม.ย. 49 18:23:33 A:61.47.119.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 50 ครับ ความคิดเห็นแตกต่างไม่เป็นเรื่องแปลกครับ ป่วยการที่จะมาจ้องจับผิดผู้อื่นโดยที่ตัวเราเอง ไม่เคยทำประโยชน์ให้กับสังคมหรือผู้อื่น วิจารณ์ผู้อื่น หาช่องโหว่ของคนที่ลงมือทำงาน โดยที่คุณทำไม่ได้แบบเขา  เป็นวิธีการของคนมีปมด้อยครับ การเสียสละตนเองเพื่อคนอื่น เป็นเรื่องที่ทำได้ยากและแปลกกว่าการวิจารณ์ผู้อื่น คุณคิดว่าเป็นการประชาสัมพันธ์เว็บไซด์ ผมจะทำตามที่คุณบอกครับ นี่ครับ www.huayuanjie.net จะให้ผมลงทุกกระทู้เลยมั้ยครับ จากคุณ : ตะวัน (mr.stock) - [ 27 เม.ย. 49 00:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาตตอบอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่ต้องการทำลายบรรยากาศ และเนื้อหาที่ดี ที่หลายท่านได้แบ่งปันข้อมูลประสบการณ์ ก็ต้องขอบคุณ จขกท ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ทำให้กระทู้นี้เป็นกระทู้หนึ่ง ที่รวบรวมความคิดเห็น แนวทางการเล่นหุ้น ที่ดีที่สุดกระทู้หนึ่ง ที่ผมได้ผ่านตามาตั้งแต่ต้นปี ขออนุญาตไม่ตอบโต้ สิ่งที่คุณกล่าวหาผมครับ เพราะจะทำให้ยืดเยื้อ พื้นฐานความคิด ความเชื่อ ผมได้แสดงไว้ความคิดเห็นที่ 49 แล้วทั้งหมด ถ้าสิ่งที่คุณทำ ทำไปโดยบริสุทธิใจ ผมก็ต้องขออภัย แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม ผมก็ขอยืนยันจุดยืนเช่นเดิมครับ ขอบคุณ จากคุณ : *John* - [ 27 เม.ย. 49 10:58:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 "รายใหญ่ชอบป่าน ๆ หุ้นตัวเล็ก เพราะใช้เงินไม่มาก ไม่เกิน 1-5 พันล้าน ก็ทำได้แล้ว ..!?" ？？？？？？ ไม่มีใครใช้เงินมาก ขนาดนั้น มาปั่นหุ้นตัวเล็ก ๆ  หรอกครับ หุ้นตัวเล็ก ๆ เค้าใช้กันแค่ 200 - 500 ล้าน ก็เอาอยู่แล้วครับ ส่วนบทความ ข้างต้น .... ก็เป็นเพียง ความคิดเห็น ของคน ที่ ไม่เข้าใจ เทคนิคเคิล เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น บทความ ทำนองนี้ มีให้พบเห็น ทั่วไป ใน เว๊บบอร์ด หุ้น ยิ่ง ถ้าไปเจอ นักเทคนิค เขียน โจมตี ปัจจัย พื้นฐาน จะยิ่งมันส์ กว่านี้ แต่จะ ใช้วิธี ใดก็ตาม จะใช้ เทคนิค จะใช้ ปัจจัย พื้นฐาน จะใช้ อินไซด์ จะใช้ ผีบอก หรือจะ ลอกหุ้นชาวบ้าน ขอแค่ คุณกำไร ... ก็ถือว่า เป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วครับ ไม่ต้อง ทะเลาะกัน เพราะ ต่อให้เป็น วอเรน บัฟเฟต ... ก็ไม่ใช่ว่า ไม่ขาดทุน "ไม่มีใคร รู้จริง เรื่องตลาดหุ้น" ยังเป็นความจริง จากคุณ : อาหนิว - [ วันแรงงาน 22:52:19 ]