ความคิดเห็นที่ 1 พยายามขายออกไป1-2หลังเพื่อจ่ายดอกได้ ถ้าขายยากต้องใช้นายหน้าช่วยขาย ติดป้ายไว้ที่หน้าบ้าน เบอร์โทรบอกราคาขายเลยเช็ดราคาแถวนั้นแล้วตั้งให้ถูกลงกว่า10-20% จากคุณ : dadd - [ 30 เม.ย. 49 07:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขายสินทรัพย์เพื่อใช้หนี้ให้จบๆๆ ไปเลยครับ หรือ ให้ธนาคารยึดบ้านที่เป็น NPL ไปเลยครับ ไม่ต้องเอามันแล้วละเป็ฯภาระเปล่าๆ จากคุณ : เคยเป็น - [ 30 เม.ย. 49 08:45:26 A:125.24.67.225 X: TicketID:107233 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าปล่อยให้ธนาคารยึด ถ้าคุณปล่อยหมายถึงคุณเป็นหนี้ NPL และจะติด Black List  ลองไปเจรจากับธนาคารดู ขอขยายเวลาชำระหนี้ออกไป ภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนจะน้อยลง  หลังจากนั้นพยายามขายออกซัก 2 หลัง จากคุณ : smokie - [ 30 เม.ย. 49 10:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองขอขึ้นค่าเช่าก่อน จากคุณ : Minesweeper - [ 30 เม.ย. 49 10:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เก็งกำไร ก็ต้องยอมรับการขาดทุนได้ครับ ตัดขายขาดทุนเอาเงินไปใช้หนี้ cut loss ดีกว่าครับ จากคุณ : @golf - [ 30 เม.ย. 49 10:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยู่แถวไหน...ที่ว่าทำเลไม่ดี ขายให้ได้3หลังเก็บหลังมุมไว้ก่อน.. ขายสดหรือผ่อนหรือขาดทุนเท่าทุนไปก่อน.. เอาเงินตัดดอกตัดต้นแล้วลงทุนอย่างอื่น... เกร็งกำไรของถูกไม่ใช่ดีเสมอ.... ทำบุญทานเยอะๆคิดเอาเปรียบเขา เอ็นเราจะขาด.... จากคุณ : Dr.pareto - [ 30 เม.ย. 49 12:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอย ทำไมใจกล้าจัง เอาทีเดียวตั้ง 4 หลัง โดยการกู้ทั้งหมด เพื่อนมีบ้านซื้อขาดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว อยู่ 6 ปี  ก็ย้ายครอบครัวไปอยู่คานาดา  ทิ้งบ้านร้างไว้   พฤษภาปีที่แล้วกลับเมืองไทย  โทรมาปรึกษาว่า  อยากกลับมาทำธุรกิจประกอบเครื่องจักร์ประหยัดน้ำมัน  โดยหุ้นกับเพื่อน  โดยจะเช่าโรงงานที่มีที่อยู่พร้อม  แต่เงินสดมีไม่พอ  เธอจึงอยากขายบ้านที่เมืองไทยและคานาดา  หากไม่พอก็จะขอกู้เงินธนาคารเพิ่ม พอดิฉันรู้ว่า ลูกสาวเธอเรียนเก่งมาก  สอบได้คะแนนสูงสุดภาควิชา finance ได้ทุนเรียนต่อที่ U of Toronto จะเรียนถึงปริญญาเอก  ทั้งครอบครัวได้ citizen แล้ว  สามีได้เงินเดือนสูงมาก  บริษัทมีสวัสดิการเยี่ยม ทำประกันชีวิตและรักษาพยาบาล รวมทำฟันแบบ 100% ให้ทั้งครอบครัว ทั้งเธอและสามีไม่เคยทำธุรกิจเองมาก่อน เธอเป็นแม่บ้านเผด็จการเพราะสามีตามใจเกินไป  มีลูกแค่คนเดียว  ดิฉันจึงแนะนำให้ขายบ้านที่เมืองไทย เอาเงินสดเก็บไว้ดีกว่า  ดิฉันช่วย post ขายทางเนท  มีแต่นายหน้าติดต่อไปหลายราย เธอเลือกมาหนึ่งราย ทำสัญญาเสร็จก็กลับไปคานาดา   จนป่านนี้  ยังขายบ้านไม่ได้เลย จากคุณ : prettypetite - [ 30 เม.ย. 49 15:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ติดป้ายไว้ที่บ้านเลยครับ สอบถามบ้านข้างเคียงว่าต้องการซื้อหรือไม่ ถ้าขายไม่แพง ส่วนมากจะขายได้นะครับ การเสี่ยงทำแบบนี้พร้อมๆกัน 4 หลังเสี่ยงไปหน่อยครับ คุณคงได้ประสบการณ์แล้ว นี่ก็ยังดีที่แบ่งออกเป็น 4 หลัง ยังแยกขายได้ ลงประกาศในสื่อหนังสือพิมพ์หรือเปล่า ที่เขาให้ประกาศฟรีๆน่ะครับ ตามเวบด้วย ถ่ายรูปไปลง ทำป้ายติดไว้ที่บ้านด้วยครับ หรือคุยกับคนเช่า ว่าเขาสนใจซื้อไหม จากคุณ : ป้อม - [ 30 เม.ย. 49 18:03:28 A:124.120.75.80 X: TicketID:014114 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอชมคุณป้อมให้คำแนะนำดีครับ  ลงทุนไม่มาก มีโอกาส สำเร็จครับ จากคุณ : jinvet - [ วันแรงงาน 07:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณต้องเคยอ่าน หนังสือพ่อรวยสอนลูกแน่เลย ถึงได้ซื้อทีเดียว 4 หลัง กะจะให้พลังทวีทำงาน ขอเอาใจช่วยครับ ต้องมีทางออกแน่ๆนึกถึงคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำยังไง แล้วลองทำตามดู เร็วๆนี้แม่ยายบังคับทางภรรยามาบอกมีบ้านสร้างใหม่ทำเลดีมากจะขาย ภรรยาก็คะยั้นคะยอให้ซื้อให้ได้ แต่ผมบอกว่าพอร์ตหุ้นผมไม่อยากแตะ อยากเก็บหุ้นไว้นานๆ แกก็ไม่ยอม ผมก็เลยพาตระเวนตามหมู่บ้านต่างๆ ดูป้ายประกาศขายบ้านที่เจ้าของร้อนเงิน ไม่ใช่จะซื้อหรอกแต่เพียงจะบอกภรรยาว่าผมไม่อยากเขียนป้ายติดประกาศอย่างเขา ซึ่งเกือบทุกหมู่บ้านมีประกาศขายทั้งนั้น ตอนนี้เงียบ ไม่ต้องการแล้วหละ สำหรับผมหุ้นนี่แหละดีที่สุด แต่ต้องพื้นฐานดีครับ จากคุณ : เม่ากันไฟ - [ วันแรงงาน 08:16:58 A:221.128.76.116 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 นายหน้าจะช่วยได้ค่ะ เขาคิดประมาณสามเปอร์เซนต์ เขาจะรู้วิธีการหาลูกค้าดีกว่าเรา  ลองหานายหน้าตามหนังสือพิมพ์ดูนะคะ ค่าเช่าถูกไปเปล่าคะ  หยั่งซื้อคอนโด ห้องละล้านนึง จะให้เช่าได้ราวเดือนละหมื่น จากคุณ : nijja - [ วันแรงงาน 11:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านราคาหลังละล้าน ให้เช่าเดือนละ 3,500x12= 42,000 บาท ถ้ามองว่าลงทุนเงินเย็นก็ได้ผลตอบแทนแค่ 4.2% ต่อปี แล้วยังต้องมีค่าปรับปรุงบ้านเมื่อเวลาผ่านไปอีก คิดยังไงมันก็เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มเลยครับ ขายให้หมดเอามาฝากประจำยังได้เยอะกว่าเลย แล้วนี่ยิ่งมาเป็นเงินกู้มีดอกเบี้ยแบกอยู่บนหลังอีก 7.5% นี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าจะพออยู่ได้ค่าเช่าต่อหลังคุณต้อง cover ตรงดอกเบี้ยนี้ก่อน ซึ่งก็ตกประมาณ 6,500 บาทต่อเดือนต่อหลัง จะบอกว่าเพราะอ่านพ่อรวยสอนลูก ผมก็จำได้ว่าพ่อรวยสอนให้คนอื่นจ่ายดอกเบี้ยแทนเรานะ ถ้าจะเราจะแบกความเสี่ยง ผลตอบแทนต้องคุ้มค่า จะซื้อบ้านต้องกำไรตั้งแต่ว้นที่ซื้อ ไม่ใช่วันที่ขาย เป็นต้น ทีนี้ก็ต้องเอา capital upside gain มาคิดแล้วล่ะครับว่ามูลค่าบ้านของคุณเพิ่มขึ้นแค่ไหน กี่เปอร์เซ็นต์ แล้วในอนาคตทำเลแถวนั้นเป็นยังไง มีแนวโน้มดีขึ้นมั้ย ถ้าคำตอบคือไม่ดีคุณก็ต้องยอมลดราคาแล้วก็ยอมขาดทุนเพื่อเอาเงินมาโปะธนาคารให้หมด ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นๆไปทุกวัน ดีกว่าให้กินทุนไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีแนวโน้มที่ดีก็ต้องหาทางเพิ่มค่าเช่าแล้วก็รีบโปะเพื่อลดภาระดอกเบี้ย จากคุณ : s7014249 - [ วันแรงงาน 12:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ลอง refinance กู้เพิ่มดูล่ะครับ จากคุณ : KhunGong - [ วันแรงงาน 13:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าทนรับภาระไม่ไหว ให้ตัดใจขายราคาผู้ซื้อก่อน 1 หลัง ที่เหลือให้รีไฟแนนซ์ โดยเปิดดูอัตราดอกเบี้ยของแต่ละแบงค์และเงื่อนไขต่างๆ ค่าจดจำนอง ค่าปรับ คุณเคยกู้ซื้อบ้านแล้วน่าจะจำได้ว่ามีค่าอะไรบ้าง ทำรายการเปรียบเทียบ และประมาณการผ่อนส่งในแต่ละงวด บ้านไม่ใช่ ท/ส ที่มีค่าเสมอไป ถ้าอยู่ในทำเลที่ไม่ดี อ่าน นสพ. เศรษฐกิจมากๆ เพื่อประมาณว่าบ้านคุณอยู่ในทำเลที่ควรลงทุนหรือไม่ จากคุณ : พอใจ (เบื่อคนแอบอ้าง) - [ วันแรงงาน 15:49:08 ]