PANTIP.COM : I4355000 อยากเห็นการรวมตัวของคอ easy fund ครับ []

ความคิดเห็นที่ 7

ขออนุญาตแทรกกระทู้
ตอบคุณ TDO เรื่องกระดาษสีสวยครับ(ใบรับรองสิทธิ) และของขวัญ (แนวคิด) เล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ ชาว Easy Fund ครับ

ผมก็เก็บสะสมมานานเหมือนกันครับ แรกๆ ก็เปิดดู หลังๆ เก็บพร้อมซองเลย แต่มีอยู่มาวันหนึ่ง ลูกหากระดาษจะเอาไปวาดรูปเล่น ก็พยายามหากระดาษในบ้านมาให้แต่หากระดาษเปล่าไม่มีเลย แรกๆ ก็แกะซองให้ไป แต่ตอนหลัง แบ่งกันคนละครึ่งเลยครับ ฉีกแบ่งครึ่งตรงรอยปรุ รวบรวมเจาะรูร้อยเชือกให้เรียบร้อย พ่อครึ่ง ลูกครึ่ง ผมอามาใช้เป็นกระดาษโนต ลูกเอาไปทดเลขบ้างวาดรูปเล่นบ้าง (ไม่ต้องซื้อสมุดโนตมาใช้ เอาเงินไปซื้อกองทุนดีกว่า) ใช้หมดก็รวบรวมไปย่อย ให้แม่บ้านไปชั่งกิโลขาย (พร้อมกระดาษใน Office) แบ่งปันรายได้กันครับ

ตอบคำถามดีกว่าครับ
1. เก็บเฉพาะใบล่าสุดของแต่ละกองทุน ใบเดียวก็พอครับ จะได้รู้ว่าแต่ละกองทุนเรามียอดคงเหลือเท่าไหร่แล้ว แต่ถ้ามี Easy Fund ใช้แล้วก็ไม่ต้องเก็บแล้วครับ (ดูยอดคงเหลือใน Net เอาครับ

2.แต่ที่อยากให้เก็บเฉพาะของ RMF & LTF (ถ้าลงทุนครับ) เพราะจะได้ทราบว่าแต่ละปีเราลงทุนไปเท่าไหร่บ้างครับ เพราะถ้าเก็บใบสุดท้ายใบเดียวจะแสดงยอดคงเหลือสุทธิไม่ได้แสดงเป็นปีๆ ครับ

แต่เช่นกันครับ สำหรับ LTF ถ้ามี Easy Fund สามารถดูรายงานการลงทุนแต่ละปีได้ง่ายกว่าเก็บในรับรองด้วยซ้ำ (เอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้หมดเลยครับ)

*************************************
ส่วนเทคนิคการลงทุน เปลี่ยนเป็นแนวคิดแทนนะครับ เริ่มจากเสี่ยงน้อย ไปมาเลย
1. เงินฝากออมทรัพย์ มีเท่าที่"จำเป็นต้องใช้" อย่ามีไว้ "เผื่อต้องใช้"
แล้วเอาส่วน "เผื่อต้องใช้" เก็บใน SCBSFF ทั้งหมดครับ

2. SCBSFF เมื่อต้องการใช้เงิน อย่าขายวันศุกร์ (วันสุดท้ายของสับดาห์) เด็ดขาดเพราะวันหยุดเงินก็ไม่ได้ ผลประโยชน์ก็ไม่เกิดครับ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินวันจันทร์ (วันแรกของสัปดาห์ต่อไป) ให้ขายวันพฤหัส เพื่อให้เงินเข้า บ/ช วันศุกร์ อย่างน้อยวันหยุดยังได้ดอกเบี้ยเงินฝากบ้างเล็กๆ น้อยๆ ครับ

ทางที่ดีพยายามอย่าให้มีความจำเป็นต้องใช้เงินวันแรกของสัปดาห์ เลื่อนได้ให้เลื่อนเป็นวันถัดไปหลังบ่าย 2 โมงจะได้ทำรายการขายวันแรกของสัปดาห์ได้ครับ

3. SCBRF เป็นเงินรองรัง มีเหลือเท่าไหร่ในแต่ละเดือนก่อนเงินเดือนออกเก็บใส่ให้หมดครับ แต่ถ้าเงินสำหรับเผื่อใช้ (SCBSFF) หมดก่อนเงินเดือนออกค่อยย้ายมาเก็บใน SCBSFF

4. RMF & LTF สู้สุดฤทธิครับ เพราะมีประโยชน์ทางภาษีมาเกื้อหนุนอยู่แล้ว ขาดทุนก็ไม่เจ็บตัว แค่เจ็บใจนิดหน่อยครับ

5. SCBSET Cut Loss ไม่มีในความคิด เพราะเป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุน หน้าที่เราคือทำอย่างไรให้มีหน่วยลงทุนในกระเป๋ามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเงินลงทุนใช้น้อยที่สุดหลักการ ดัชนียิ่งตก ต้องซื้อเพิ่ม เพื่อดึงต้นทุนลง ถ้าขึ้นถึงเป้าหมาย อยากทำกำไรบ้างก็ทำ แต่อย่าออกจนหมดเพราะเราไม่รู้ว่าหลังจากออกมาแล้ววันต่อไปจะขึ้นให้เจ็บใจอีกหรือเปล่า (แต่ถ้าดัชนีลง ก็สะใจครับ) หลังจากทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ อย่าลืมซื้อคืนเมื่อดัชนีลดลงกว่าวันที่เราเอาออกนะครับ (เงินต้นเท่าเดิม แต่หน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น)

6. SCBDV เก็บแหลก เอาปันผลอย่างเดียว หลังจากพลาดท่าไม่มีจังหวะซื้อ SCBSET ก่อน 15:00 ดัชนีเล่นตลก ก็ได้ตัวนี้มาเก็บแทนครับ

7. SCBPF/SCBPG การซื้อเหมือน SCBDV แต่ทำกำไร เหมือน SCBSET เก็บยาวหน่อยเพื่อชดเชยค่าธรรมเนียมซื้อ แต่ปลอดภัยเมื่อดัชนีตกเหว แต่ได้แค่เดินตาม ถ้าดัชนีวิ่งหนีครับ

-----------------------------------------------------------
เอาแค่หอมปากหอมคอก่อนนะครับ มีแนวคิดใหม่ๆ จะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ครับ................. ขอบคุณมากครับ
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 11:57:52
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 11:52:52

จากคุณ : pjuk - [ 10 พ.ค. 49 11:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11

-----------------------------------------------------------
เลขที่หนังสือ
: กค 0706/10713

วันที่
: 23 ธันวาคม 2548

เรื่อง
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้จากการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน RMF

ข้อกฎหมาย
: กฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ข้อ 2(65)

ข้อหารือ
: นาย ว. ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุน (RMF) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร จึงขอทราบว่า
1. เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 นาย ว. ได้ซื้อหน่วยลงทุน RMF ครั้งแรก ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป นาย ว. จะขายคืนหน่วยลงทุน RMF ทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งรวมถึงหน่วยลงทุน RMF ที่ซื้อเพิ่มเติมภายหลังจากวันที่ 28 ธันวาคม 2544 ได้ โดยไม่ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ถือได้ว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวใช่หรือไม่
2. กรณีนาย ว. ยังคงถือหน่วยลงทุน RMF บางส่วนหรือทั้งหมดที่ได้ซื้อมาตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2544 (วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก) จนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2549 หากนาย ว.ขายคืนหน่วยลงทุน RMF ที่ได้ซื้อมาเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไปทั้งหมดหรือบางส่วนในวันใดก็ได้ โดยถือว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวใช่หรือไม่
3. กรณีนาย ว. ซื้อหน่วยลงทุน RMF ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 หากภายหลังจากวันที่ 28 ธันวาคม 2544 นาย ว. ได้ซื้อหน่วยลงทุน RMF จากกองทุนอื่น ให้ถือว่า “วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก” ของนาย ว. สำหรับการขายคืนหน่วยลงทุน RMF จากกองทุนอื่น เป็นวันที่ 28 ธันวาคม 2544 แม้ภายหลังปรากฏว่า นาย ว. ได้ขายคืนหน่วยลงทุน RMF ในบัญชีที่ได้ซื้อมาครั้งแรกบางส่วนแล้วก็ตาม ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป นาย ว. ขายคืนหน่วยลงทุน RMF ที่ซื้อมาจากกองทุนอื่นทั้งหมดหรือบางส่วน ในวันใดก็ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะเวลาการถือหน่วยลงทุน RMF ที่ซื้อจากกองทุนอื่น โดยถือว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวใช่หรือไม่

แนววินิจฉัย
: ในส่วนที่เกี่ยวกับระยะเวลาการถือหน่วยลงทุน RMF ของผู้มีเงินได้ที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุน RMF คืน ตามข้อ 2(65) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547)ฯ กำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องถือหน่วยลงทุน RMF ดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก จึงพิจารณาได้ดังนี้
1. กรณีตามข้อ 1. และข้อ 2. นาย ว. ได้ซื้อหน่วยลงทุน RMF ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 ดังนั้น วันที่ครบกำหนดห้าปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก คือ วันที่ 28 ธันวาคม 2549 การที่นาย ว. จะขายคืนหน่วยลงทุน RMF ที่ซื้อมาครั้งแรกรวมถึงที่ซื้อมาในภายหลัง ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป แม้นาย ว. จะมีอายุไม่ครบ 55 ปีบริบูรณ์ กรณีถือได้ว่า นาย ว. ได้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก ตามข้อ 2(65) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547)ฯ แล้ว
2. กรณีตามข้อ 3. นาย ว. ซื้อหน่วยลงทุน RMF ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 ต่อมานาย ว. ได้ซื้อหน่วยลงทุน RMF จากกองทุนอื่นอีก วันที่ครบกำหนดห้าปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก คือ วันที่ 28 ธันวาคม 2549 การที่นาย ว. จะขายคืนหน่วยลงทุน RMF ที่ซื้อมาจากกองทุนอื่น ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป กรณีถือได้ว่า นาย ว. ได้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี นับตั้งแต่วันซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก ตามข้อ 2(65) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 246 (พ.ศ. 2547)ฯ แล้ว

เลขตู้
: 68/33771

Last update : Tuesday, April 11, 2006

Navigator : อ้างอิง > ข้อหารือภาษีอากร > 2548 > ธันวาคม > 0706/10713
-----------------------------------------------------------
คุณpjuk ครับ...
หลังจากอ่านจบ ผมเข้าใจเองว่า การลงทุน และเงื่อนไขของการขายหน่วยลงทุนคือ หลังจากอายุขอหน่วยลงทุนครบ 5 ปีแล้วใช่ไหมครับ? โดยไม่ต้องอายุครบ 55 ปี เหมือน LTF. ถ้าความเข้าใจของผมถูกต้อง ก็จะมีความหวังจะได้ใช้เงินลงทุนก่อนแก่ตายครับ.

จากคุณ : TDO - [ 10 พ.ค. 49 16:02:35 ]