ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับพี่สาวคนสวย  พี่มีเรื่องราวอะไรดี ๆ มาให้น้อง ๆ ได้อ่านทุกครั้งเลยนะครับ  อ่านแล้วได้ข้อคิด  ได้ตั้งสติ  คิดอะไรได้รอบคอบขึ้นเรื่อย ๆ จากคุณ : soda_cafe - [ 10 พ.ค. 49 18:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอ้ะไปนั่งที่ พูนพิพัฒเมื่อก่อนรึปล่าว จากคุณ : guyver - [ 10 พ.ค. 49 18:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อค่ะ อาเฮียโทรมา เพื่อบอกรายชื่อหุ้น  พอไล่มาถึง ITV  ต้นทุน 27 บาท หลายแสนหุ้น ดิฉันก็ตกใจเพราะแสดงว่าอาเฮียยังไม่ได้ขาย   ดิฉันก็ถามว่า เฮียกำลังอยู่ที่ไหน เขาว่า ก็นั่งที่ห้องค้าไง ตามที่ดิฉันได้เกริ่นๆไว้ในหลายกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว  ดิฉันบอกเฮียไปสั่งมาร์ให้ขายตัวนี้ออกไปก่อนดีกว่า แล้วค่อนมาไล่ชื่อหุ้นตัวต่อไป  9.40 นี่แหละ ทิ้งซ้ายไปเลย อาเฮียบอกว่า ลื้อเล่นจะให้อั๊วรับเงินออกมาน้อยกว่าที่จ่ายไปตั้งหลายล้าน  แล้วบอกได้ไหมว่าจะเอาเงินนี่ไปทำอะไร ดิฉันก็บอกว่าเก็บไว้ในธนาคารเฉยๆก็ได้นี่ กินดอกเบี้ยไง อายุเยอะแล้ว  เฮียอย่าทำอะไรที่เสี่ยงมากเลย   อาเฮียว่า  อั๊วเซฟตัวเองมากที่สุดแล้ว เมื่อก่อน มีเงิน 100 บาท ก็กู้เขาอีก 200 บาท  เดี๋ยวนี้เอาเงินสดไปซื้อคอนโดให้คนเช่าหลายห้อง ซื้อมา 6 แสน ปล่อยเช่าห้องละ 6 พัน OK  ok  ไม่ขายก็ไม่ขาย บอกตัวต่อไปเลยเฮีย  ...  ... 10 ตัว  ติดราคาบนยอดดอยซะ 7 ตัว แต่ละตัวมีจำนวนมากๆ แหม เฮียยังโชคดี ไม่มี gbx กับ picni เฮียว่า เอ จำไม่ได้ว่ามีหรือเปล่า เพราะยังมีอีก 2 โบรก ขาดทุนมากกว่านี้อีก  ถ้าขายออกเหลือเงินไม่ถึง 20% แล้วว่างๆจะแวะเข้าไปดู แล้วจะโทรมาบอก หา !!!!  อีกตั้งสองโบรก   รู้ไหม ทำไมเฮียถึงติดหุ้น ทั้ง 3 โบรก และเอาเงินที่ไหนมาซื้อ   ติดตามตอนต่อไป  .... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 18:28:28 จากคุณ : prettypetite - [ 10 พ.ค. 49 18:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาติดตามครับพี่ ว่าแต่อาม่าที่เสียไปเป็น คุณป้าพี่หรือครับ ท่านอายุยืนจริงๆ จากคุณ : GABLIEL - [ 10 พ.ค. 49 18:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เฮียยังอยู่คอนโดริมแม่น้ำหรือเปล่า ที่นั่นสวยดีจัง เปล่า ขายไปหมดแล้ว   อ้าวแล้วเฮียเอาที่ไหนอยู่  แล้วลูกชายล่ะ เช่าห้องอยู่แถวๆโรงงานของอั๊วแหละ  (น้ำเสียงชักหงุดหงิด  ตนเคยมีบ้านตัวเอง มาเข่าห้องอยู่)   ลูกอั๊ว พูดแล้วยัวะ  มันผลาญเงินอั๊วกะหุ้นปั่น (พ่อลูกพอกัน)  ซื้อกับเพื่อนๆมันแหละ  มันลาประเทศไทยกลับไปอยู่อเมริกาแล้ว อาเฮียเรียนน้อย  ภาษาอังกฤษ แทบจะอ่านไม่ออก แต่ลูกชายจบตรี ABAC และโทจากนิวยอร์ค   แต่ทั้งคนความรู้น้อย และความรู้สูง ทั้งคนแก่อายุ 68 และคนหนุ่มอายุ 30 แยกกันเล่นคนละที่ และคนละกลุ่ม   แต่กลับเล่นหุ้นปั่นเหมือนกัน และการวางเงินค้ำประกัน 10% นี่แหละ คือต้นเหตุที่เอื้อให้คนสามารถเข้ามาเล่น day trade ด้วยวงเงินมาร์จินที่สูงถึง 10 เท่าตัว แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 19:18:25 จากคุณ : prettypetite - [ 10 พ.ค. 49 18:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่ค่ะ คุณหมอ GABLIEL  คืนนั้นคุณย่าของคุณหมอไปงานด้วยหรือเปล่าคะ ท่านเป็นตั่วโกว  เสียเมื่ออายุ 92 ปี  เป็นพี่สาวคนโตของคุณพ่อดิฉัน  คุณแม่ดิฉันเสียไปก่อนคุณพ่อ 1 ปี  ตอนคุณพ่อดิฉันเสีย อายุยังไม่เต็ม 54 เลย ตั่วโกวเล่าว่า ก่อนแต่งงาน กระทั่งบิดน้ำออกจากผ้าขนหนูเช็ดหน้า  ยังไม่เคยทำเองเลย  เป็นตั่วโกวเนี้ยมีฮวยเกี้ยดูแลให้ทุกอย่าง   ที่ว่าป้าติดตามสามีไปทำงานที่อินเดีย จริงแล้วเป็นสาขาห้างทีแซของคุณปู่ดิฉันที่เดลลี  สำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้  สาขาที่กรุงเทพ อาม่าดูแล  สงครามโลกและคอมมิวนิสต์ ทำให้ทุกอย่างหมดไป   ตั่วโกวฝังที่สุสานของโบสถ์ที่นครปฐม ทีนี่ทำแบบเรียบมากๆ  ไม่เอาไปฝังที่สุสานราชบุรี  ที่โน่นทำฮวงซุ้ยแบบจีนเต็มรูปแบบ   จำได้ว่า ตอนที่ญาติทางอาซ้อ ลูกสะใภ้ตั่วอึ้มเสีย เขาบริจาคที่ดินให้โบสถ์ทำสุสาน  พอมรดกตกถึงคนรุ่นใหม่ ก็กู้เงินต่างประเทศ  เจอพิษค่าเงิน หุ้น Robinson ลงไปเหลือ 1 บาท   ชีวิตคน ไม่เคยแน่นอนเลย   สิ่งที่นักลงทุนกลัวที่สุด  คือเรื่องการเมือง ในแนวที่เที่ยวไล่ยึดทรัพย์ นี่แหละ จากคุณ : prettypetite - [ 10 พ.ค. 49 19:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาต่อเรื่องมาร์จิน 10 เท่ากัน อาเฮียบอกว่า เงินสดจะไม่มีค่า ถ้าเราไม่เอามันมาลงทุน การเอาเงินไปฝากนอนเล่นในธนาคาร  เป็นเรื่องของคนที่ไม่มีหัวการค้า ดิฉันก็เลยบอกว่า งั้นดิฉันต้องไปถอนเงินประกัน 10% ที่โบรก 2 แห่ง ออกมาซื้อหุ้นแทน  เพราะนอนแช่แข็งมาสัก 2 ปีแล้วมั๊ง  ก็ตั้งแต่เขาให้วางนั่นแหละ   เฮียบอกว่า ถอนทำไม ลื้อไม่รู้หรือ ว่านี่แหละคือการใช้เงินสดลงทุนคุ้มค่าที่สุด  10% เอามาเล่น day trade จะซื้อหุ้นได้ถึง 100%   มันเป็นแสงสว่างวาบเข้ามาเลย  ใช่แล้ว นี่คือการปล่อยกู้มาร์จินเพื่อเล่นหุ้นแบบ day trade ที่สูงถึง 10 เท่าของเงินวางประกัน ไม่ใช่เท่านี้  จะหมุนสักกี่รอบก็ไม่มีใครว่า  เพราะฉะนั้น น่าจะบอกว่า จริงๆแล้ว ได้มาร์จินอย่างต่ำที่สุด 1000% ไม่เคยมีการปล่อยให้กู้เงินเพื่อเก็งกำไรรายวันแบบไหนที่สูงถึงขนาดนี้มาก่อน  และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ เป็นคำตอบที่ดิฉันอยากรู้มานานแสนนาน  แต่ไม่มีใครสักคนเดียวที่ตอบได้  ต้องขอขอบคุณอาเฮียจริงๆ   สมแล้วที่อายุ 68 ปี แต่ยังไม่คิดที่จะเก็บเงินสดเอาไว้เฉยๆ เพียงแต่ว่า  .เฮียเข้าใจที่จะใช้มัน แต่เฮียตามเจ้ามือปั่นหุ้นไม่ทัน ...มันคือเครื่องมือเอื้อประโยชน์สูงสุดให้เจ้ามือ แต่เป็นความฉิบหายย่อยยับของรายย่อย แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 13:14:05 จากคุณ : prettypetite - [ 10 พ.ค. 49 20:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไปที่ สุสานนครปฐมครับ มีเรื่องแปลกมากๆครับ อาม่า(คุณยาย)ผมเห็น(คล้ายๆHallucination) มีชาย 3คนมาจับตัว แล้วท่านลุกขึ้นสู้ จนกระแทกข้อต่อที่ต้นขาหัก พอรุ่งเช้าก็ได้ยินข่าวว่าเพื่อนเก่า (อาตั่วโกวของพี่)เสีย และอีกไม่กี่วันต่อมาก็มีผู้สูงอายุอีกท่านหนึ่งเสีย สรุปว่าช่วงนี้สะพานเหลืองเสียผู้อาวุโสไป 2ท่าน อาม่าผมเพิ่งออกจาก ICU เมื่อวานตอนเช้าครับ เพราะมีโรคแทรกซ้อน ตอนนี้ยังอยู่ใน รพ. ผมรู้สึกแปลกมาเหมือนกับว่าเวลาหมดของคนเรามาแบบยก ล๊อตเลยครับ ตอนคุณพ่อผมเสียก็มีเพื่อนๆเสียในเวลาใกล้เคียงกัน คิดๆดูก็แปลกจริงๆครับพี่ จากคุณ : GABLIEL - [ 10 พ.ค. 49 20:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดิฉันสงสัยมาก ตอนที่เปิดพอร์ตล่าสุด  (ไม่ได้ไปดูบริษัทเลยด้วยซ้ำ)  เขาให้วงเงินเองโดยไม่ได้ขอ  และไม่ต้องวางเงินแม้แต่บาทเดียวด้วยซ้ำ การซื้อหุ้นครั้งแรก เขาก็ไปหักแบบ ATS จากบัญชี  แต่พอเวลาขายออก  เงินเข้าบัญชีไม่ครบ  เขาเอาไปเก็บ 10% ของวงเงินที่ให้มา   ต่อมา ซื้อหุ้นอีก ก็ปรากฎว่า หักแบบ ATS เต็มจำนวน   โดยไม่หักจากเงินที่เก็บไปก่อน ไม่พอจึงมาเก็บเพิ่ม เพราะฉะนั้น จะว่าวงเงินนี้ เรียกเก็บเพื่อค้ำประกันการซื้อหุ้นก็ไม่ใช่  เพราะการซื้อครั้งแรก ไม่ได้วางเงินไว้เลยก็ซื้อได้ มันจะต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน และมันอยู่ในใจของดิฉันมาตลอด  ไม่งั้นคงไม่มีการคิดค้นระบบนี้ออกมา  ดิฉันไม่ใช่นักเล่น day trade ไม่ชอบเก็งกำไรในหุ้นปั่นรายวัน  จึงไม่สามารถจะรู้ว่า ทำไมเขาจึงตั้งกฎนี้ขึ้นมา มันไม่มีประโยชน์อันใด สำหรับนักลงทนที่แท้จริง  และก็ไม่ได้มีไว้สำหรับรายย่อยที่มีพอร์ตวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาทด้วย  เพราะเวลาเรามีหุ้นในพอร์ตแล้ว หุ้นเหล่านั้น ก็เป็นหลักประกันอยู่แล้ว   แต่เงิน 10% ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่โบรกต้องเก็บไว้ พรุ่งนี้จะมาต่อ ขอตัวไปหาอาหารใส่ท้องก่อนจะเป็นลมไป จากคุณ : prettypetite - [ 10 พ.ค. 49 20:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ซ้อนครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 20:08:35 จากคุณ : GABLIEL - [ 10 พ.ค. 49 20:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบ ทุกเรื่องที่คุณ prettypetite เขียนมากครับ ตอนนี้ถืออยู่ 5 ตัว ขาดทุน ติดลบทุกตัวเลย แต่จะขอสู้ต่อไป จากคุณ : OHM - [ 10 พ.ค. 49 22:17:46 A:58.10.210.222 X: TicketID:116829 ]

ความคิดเห็นที่ 12 dark sideขจอแท้ เราจะเป็นนักลงทุน หรือเราจะเป็นนักการพนัน คุณเป็นคนกำหนดเอง ตลาดนี้เป็นตลาดแห่งความหวังและโชคลาภ แต่ไม่มีใครซักคนที่จะอยู่เจริญกว่าตลาดไม่มี ถ้าคุณไม่รู้จักตัวคุณดีพอ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 10 พ.ค. 49 23:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องนี้ .. ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตาม ครับ มารอฟังด้วยคนนะครับพี่ จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 10 พ.ค. 49 23:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากๆ ครับผม.. ..เรื่องแบบนี้ฟังแล้วนึกถึงน้า "อยากเชือก" จริงๆ หวังว่าอยู่ ญี่ปุ่นคงจะสบายดี.. ขอบคุณ คุณพี่ prettypetite มากๆ ครับ.. จากคุณ : บุญทับ - [ 11 พ.ค. 49 00:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ คุณพี่ prettypetite มากๆ ครับอ่านแล้วได้ข้อคิดเสมอ จากคุณ : หมอ ฮัวโต๋ - [ 11 พ.ค. 49 07:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมคิดว่า แกเจ๊งเพราะ เล่นหุ้นเกินความรู้ ความสามารถของตัวเองครับ จากคุณ : endophine - [ 11 พ.ค. 49 08:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 รอรับความรู้อยู่ครับ จากคุณ : ขอแจม - [ 11 พ.ค. 49 09:04:49 A:124.120.94.111 X: TicketID:119900 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดิฉันก็ไม่ทราบว่าอัจฉริยะมนุษย์กลุ่มไหน ที่ช่วยกันคิดค้นระบบนี้ออกมา  คือเริ่มเข้ามาหลังจากนักลงทุนรายย่อยๆของเราติดหุ้นคาพอร์ตหลังจากดัชนีแตะ 800 จุดเมื่อต้นปี 2003 ราคาหุ้นในพอร์ตลดลงไป   คนที่ตัดขาดทุนหุ้นออกไปเพื่อแปลงเป็นเงินสด  แม้ว่าวงเงินอนุมัติจะยังคงเท่าเดิม  แต่จริงๆแล้ว  มีกำลังซื้อจริงน้อยกว่าเดิม  บางคนเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่เคยมี   คนที่ไม่ได้ตัดออกไป  ยิ่งแล้วใหญ่  คือมีแต่หุ้น แต่ไม่มีเงินสด จากที่เคยเทรดกันคึกคัก ก็ติดแหงก วอลุ่มตลาดหดหาย  หดหายลงไปทุกวัน ต่อให้มีหุ้นใหม่ๆเข้ามา ก็ใช่ว่าจะมีกำลังซื้อกัน แค่เป็นการขายเปลี่ยนตัวหุ้น โยกการลงทุนไปอีกตัวหนึ่งเท่านั้น จะพึ่งกองทุนรึ พวกเขาก็ซื้อหุ้นคนละกลุ่มกับรายย่อย  และขณะนี้  เงินได้จมลงไปเต็มเปี่ยมแล้ว  จะขายให้แพงขึ้นก็ต้องใช้เงินมากกว่าทุ่มลงมา จึงจะมีกำลังลากขึ้นไปไหว จึงเกิดมหกรรม short หุ้นขนาดกลางๆ กันขนานใหญ่ เพื่อจะลดต้นทุนหุ้น และเพื่อที่จะดึงเงินสดออกมาบางส่วน  โดยที่ยังคงรักษาหุ้นในพอร์ตอยู่ จากคุณ : prettypetite - [ 11 พ.ค. 49 17:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อมีระบบนี้ขึ้นมา  จึงเกิดการ เปิดบัญชีตามโบรกต่างๆเพิ่มขึ้น  ใช้ statement ฉบับเดียว  หรือโอนหุ้นที่นอนตายทำอะไรไม่ได้ไว้เป็นประกัน แต่เนื่องจากมูลค่าหุ้น มันขึ้นๆลง แต่ 2 ปีมานี้ รู้สึกว่าจะลงมากกว่าขึ้น จึงไม่สามารถกำหนดวงเงินที่แท้จริงได้  การวาง 10% ทำให้มั่นใจว่า มีเงินเทรด 100% แน่นอน  ทุกๆวัน เล่นแล้วโชคไม่ดี ขายไม่ได้ ขายไม่ทัน ตัดใจขายไม่ได้ หรือแม้แต่ขายขาดทุน อีก 3 วันต้องตะกายหาเงินมาชำระหนี้ OK แรกๆก็พอหาได้ดอก แต่ต่อมาก็วนเข้ามาวัฎจักรเดิม คือติดหุ้นเพิ่มเข้าไปอีก  จาก 1 โบรก เป็น 2 และ 3 บางคน เคยเจอที่ posted ในห้องสินธรนี้แหละ ซื้อจนเกินวงเงินด้วยซ้ำ  แต่ไม่เป็นไร วันรุ่งขึ้น ก็ยังมีเงินให้แก้มือได้ 100% และหากโชคดีกำไร อย่างมากก็จ่ายดอกเบี้ยและเงินผิดนัดชำระหนี้สัก วัน หรือ สองวัน นี่พูดถึงแมงเม่าทั่วๆไป จากคุณ : prettypetite - [ 11 พ.ค. 49 17:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนพวกเจ้ามือ นี่คือเครื่องมือหากินชั้นสุดยอด มีที่ไหน ที่ใครจะมากล้าให้เครดิตการค้า (เล่นหุ้นถือเป็นการค้าแบบหนึ่ง) อะนะ จะเรียกว่าเสี่ยงโชคก็ได้ ตั้ง 10 เท่า   10 เท่าเชียวนะ ไม่คิดดอกเบี้ยเสียด้วย ถ้าไม่ติดค้างข้ามคืน   แค่มี credit สัก 100 ล้าน  หาเงินสดมาวางไว้กับโบรกสองแห่ง  สัก 20 ล้าน  ก็มีวงเงินปั่นหุ้น 200 ล้านแล้ว อาจจะมีหุ้นบางส่วนที่ติดค้างไปวันต่อไป  แต่เรื่องนี้ ตกลงกันได้  เพราะเดี๋ยวนี้ เจ้าของลงมือปั่นหุ้นตัวเองมากขึ้น ดึงเข้าดึงออก ปั่นขึ้น ปั่นลง ทำวอลุ่มกระจาย รายย่อยโดดงับเลย   ย้ายจากตัวหนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง  พอมีคนแห่เข้ามามากๆ  ก็ได้เวลาแจกจ่ายหุ้น  จะมีเศษของเหลือๆช่างมัน  เพราะที่ได้ไปคุ้มค่ามากแล้ว   ทุกวันนี้  วอลุ่มตลาดที่เห็น โดยเฉพาะหุ้นรายตัว จึงเป็น demand เทียม  ไม่ใช่การซื้อสะสมเพื่อลงทุน แต่เป็นการเก็งกำไรแทบจะทั้งตลาด สภาพตลาดของเรา จึงกลายเป็นแบบที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ SET ใกล้จะกลับไปแตะ high เดิมที่  800 จุด   แต่นักลงทุนแทบทุกคน  ติดหุ้นขาดทุนหลายตัวในพอร์ต จากคุณ : prettypetite - [ 11 พ.ค. 49 17:42:08 ]