ความคิดเห็นที่ 1 ผมมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากภาวะน้ำมันแพงเกิดจากการขยายตัวที่สูงมากเกินไป ทำให้ดีมานด์น้ำมันพุ่งสูงขึ้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอภาวะเศรษฐกิจให้เติบโตช้าลง ทำให้ดีมานด์น้ำมันลดลง อัตราเงินเฟ้อจะลดลงตาม และส่งผลให้ดอกเบี้ยปรับลดลงต่อไป ลึกๆระดับสูงอยากรอฟังเช่นกันครับ จากคุณ : ว่าวน้อยลอยชมสวน - [ 19 พ.ค. 49 09:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ด้วยความรู้เศรษฐศาสตร์แบบ งูๆ ปลาๆ ของผม พอดีได้ยินข่าวคร่าวๆ (ยังไม่ได้เช็คครับ) ว่า ยอดขายอสังหริมทรัพย์ใน US ยังเติบโตอยู่ในระดับสูง ซึ่งแสดงถึงการเก็งกำไรอย่างชัดเจน เนื่องด้วยเกรงว่าจะเกิดฟองสบู่ จึงต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยปรามไว้ก่อนครับ รอฟ้งท่านอื่นเช่นกันครับ จากคุณ : *John* - [ 19 พ.ค. 49 10:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบ คห.2 เห็นว่าตอนนี้ ชะลอลงแล้วนี่ครับ FED อาจจะเปลี่ยนท่าทีการขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วๆ นี้ (คาดเดา เท่านั้น) จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 19 พ.ค. 49 10:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มันเป็นช่วงวิกฤติครับ จริงๆแล้วการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นเป็นการใช้นโยบายที่ผิดแต่ว่า ทางสหรัฐต้องการชะลอความรุนแรงของวิกฤติอื่นๆที่อเมริกาเผชิญ ต้นเหตุลึกๆผมคาดว่าเกิดการที่ สหรัฐสามารถพิมพ์ดอลลาร์ได้อย่างไม่จำกัด โดยที่ไม่จำเป็นต้องวางทองคำไว้ค้ำประกันอย่างประเทศอื่นๆ ซึ่งนั่นแหละเป็นหอกที่ทิ่มเข้าตัวเองของสหรัฐ และเป็นเป็นจุดเกิดของเงินเฟ้อ และยิ่งเจอปัญหาการเก็งกำไรน้ำมันทำให้ข้าวของแพงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อทั้ง2รูปแบบทวีความรุนแรง และมีมาตรการเดียวที่ FED พอที่จะทำได้ก็คือการปรับดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งผลที่จะตามมาก็คือ ภาวะ STAGFLATION(เงินเฟ้อ+ว่างงาน) ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของช่วง Recessionที่นักเศรษฐศาสตร์โลกคาดการณ์ไว้นั่นเอง ในแง่มุมของผมคิดว่าการขึ้นดอกเบี้ยมันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ถ้าเป็นไปได้ควรลดการออกดอลลาร์ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะสหรัฐจำเป็นต้องนำเงินมาหมุนอยู่ตลอด เพราะลงทุนใน sectorต่างๆไว้เยอะ เช่น อาวุธสงคราม ซึ่งน่ากลัวมากๆหากสหรัฐต้องการลดภาระค่าดูแลรักษาอาวุธพวกนั้น หุหุ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 10:45:09 จากคุณ : muntow (charn34) - [ 19 พ.ค. 49 10:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มีวิธีแก้เงินเฟ้ออยู่สองทาง คือ ทางการเงิน และทางการคลัง ถ้าไม่แก้ทางการเงินโดยการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้เงินไหลกลับ ก็ต้องแก้ทางการคลังโดยการขึ้นภาษี ซึ่ง FED อยู่ในกระบวนการทางการเงินซึ่งไม่เกี่ยวกับการคลัง จากคุณ : second best (vincente) - [ 19 พ.ค. 49 10:51:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับ คุณ มือเก่าหัดขับ ได้ลองเช็คข่าวแล้วครับ confirm ตามคุณ มือเก่าครับ ว่ายอดขาย real estate เดือน เมษายน ของ US ตกต่ำลงมากครับ ภาคเศรษฐกิจโดยรวมก็เริ่มชะลอตัวลงแล้ว http://www.euro2day.gr/articlesfna/14444934/ U.S. leading indicators fall 0.1% in April - UPDATE 1 18/5/2006 15:16 London Time | story 0970 WASHINGTON (AFX) -- The U.S. economy is cooling off from a torrid first quarter, the Conference Board said Thursday. The index of leading economic indicators fell 0.1% in April, with three of the 10 indicators improving: Vendor performance, stock prices and interest rates. Six indicators declined. The largest negative contributors were building permits, core capital equipment orders and consumer expectations. อืม... ในเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชลอตัวแล้ว ยังจะขึ้นดอกเบี้ยทำไม.... แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 11:18:03 จากคุณ : *John* - [ 19 พ.ค. 49 10:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรียนท่านเฟยหง กระผมก็ไม่รู้อะไรมาก แต่ก็ขอแสดงความคิดในมุมมองของผม ผมคิดคล้ายๆ คห. ที่ 4 ปัญหาตอนนี้คือ กระแสเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ไม่มีที่ไป มันคล้ายกรรมสนอง บรรดาเฮดฟันที่เคยใช้เงินจำนวนมหาศาล ไปแสวงหากำไรบนความพินาศของคนอื่น โดยใช้เงินดอลลาร์เป็นสกุลฐาน ที่จะคิดกำไร-ขาดทุนประจำปี แต่มาเดี๋ยวนี้เศรษฐกิจมีปัญหา ถ้าเป็นชาติคงโดนโจมตีค่าเงินไปแล้ว แต่เป็นสหรัฐ จึงกลายเป็นว่าบรรดาเฮดฟันเลยต้องหาทางเปลี่ยนเงินดอลลาร์ในมือไปสู่สิ่งอื่น ตั้งแต่สกุลเงิน สินค้าอุปโภคต่างๆ การที่อเมริกาขึ้นอัตราดอกเบี้ยผมคิดว่า 1.เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไม่ให้อ่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อจากสินค้านำเข้าที่อเมริกาบริโภคอยู่มหาศาล 2.เป็นการเพิ่มต้นทุนบรรดาเฮดฟันเพื่อลดการเก็งกำไรในสินค้าอุปโภคต่างๆ หรือกลับกันอาจพูดอีกอย่างว่าเป็นค่าตอบแทนที่ให้แก่เงินทุนที่ไม่วิ่งจากอเมริกา อนึ่งผมคิดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาต่อเนื่องจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น เนื่องส่วนต่างดอกเบี้ยเริ่มทำให้ญี่ปุ่นคิดถึงการปรับดอกเบี้ยเช่นกัน ทั้งที่เศรษฐกิจพึ่งเริ่มเห็นสัญญษณบ้าง ซึ่งเงินเยนเป็นแหล่งเงินกู้ราคาถูกของบรรดาเฮดฟัน 3.เศรษฐกิจของอเมริกา ค่า GDP ขึ้นกับ ค่า C เป็นตัวสำคัญ ผมเคย run SPSS หาความสัมพันธ์ แต่นานมากแล้วไม่รู็โครงสร้างเปลี่ยนไปแล้วแค่ไหน การขึ้นดอกเบี้ยจะมีส่วนลดกำลังการบริโภคได้ด้วย เท่านี้ครับที่ผมคิด จากคุณ : สุขใจ - [ 19 พ.ค. 49 11:17:44 A:58.9.63.30 X: TicketID:119091 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เอาสั้นๆนะครับ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วยดูดเงินออกจากระบบ คนจะออมมากขึ้น ความร้อนแรงทางเศรษฐกิจจะลดลง ซึ่งส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อด้วย ข้อดีอีกอย่างก็คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนด้วยครับ ทำให้ค่าเงินดอลล่าห์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามา (เช่น เข้ามาซื้อ Government Bond อะไรประมาณนี้) อย่างไรก็ดี การขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้ดอลล่าห์อ่อนค่าลงในระยะยาวได้ครับ เนื่องจาก Interest Rate Parity แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 11:31:51 จากคุณ : Resurrection - [ 19 พ.ค. 49 11:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถูกต้องแล้วครับ นโยบาย พิลึกครับ การขึ้นดอกเบี้ย ตามภาวะเงินเฟ้อ จะขึ้นเมื่อ มีการเจริญเติบโต มีการขยายตัว เพราะเกิดจาก demand > Supply แต่กรณีนี้ น่าจะเป็นภาวะเงินฝืดในเงินเฟ้อ ของขึ้นราคา แต่คนไม่มีกำลังซื้อ การทำแบบนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดภาวะเงินฝืดมากขึ้น คนไม่มั่นใจมีเงินเหลือก็เอาเงินไปฝาก คนที่กู้เงิน ก็ชลอการใช้จ่าย.........ฝืดทั้งระบบ คิดว่าน่าจะมีเหตผลทางการเมืองมากกว่า เช่น เงินรัฐบาลไม่พอ เลยต้องระดมเงินจาก แบงค์กรุงไทย หรือ อาจจะมีการกู้เงิน IMF เร็วๆนี้ แฟนพันธ์แท้ ทรท ....อย่ากระพริบตา..... จากคุณ : SilverX88 - [ 19 พ.ค. 49 11:31:39 A:172.31.161.216 X:203.130.144.31 TicketID:119779 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอโทษครับ ผมตอบผิดคำถาม ดันเอามาโยงกับบ้านเราที่ขึ้นดอกเบี้ย แบบผิดทฤษฎี จากคุณ : SilverX88 - [ 19 พ.ค. 49 11:34:52 A:172.31.161.216 X:203.130.144.31 TicketID:119779 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คงต้องติดตามดูท่าทีของ Fed ครั้งหน้าครับ เมื่อ indicator ต่างๆ ได้แสดงว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงแล้ว ถ้าคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม (ไม่ขึ้นดอกเบี้ย) พวกเราก็คงพอสบายใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะดอกเบี้ยบ้านเราก็คลายความกดดันจะต้องขึ้นตาม เงินตราต่างประเทศคงไหลเข้าต่อ แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ย (ทั้งๆ ที่รู้ว่าซ้ำเติมเศรษฐกิจ) ตรงนี้แหละที่ผมว่าเราต้องวิเคราะห์ให้หนัก ว่ามีเหตุผลใดที่มีน้ำหนักเหนือกว่าเศรษฐกิจของประเทศ เท่าทีผมนึกออก นั่นคือเหตุผลเรื่องความมั่นคง นั่นคือ ความน่าเชื่อถือ และ มูลค่า ของเงินสกุลดอลลาร์ โอกาสที่เราจะได้เห็นการตกต่ำของค่าเงินสกุล US$ คงใกล้เข้ามา และพวกเราต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกไว้ให้ดีครับ จากคุณ : *John* - [ 19 พ.ค. 49 11:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่า เฟด จะขึ้น ดบ. อีก ยังไม่จบแค่หรอกครับ จากคุณ : Sprite_Zaa - [ 19 พ.ค. 49 12:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมยังไม่มีข้อมูล  แต่มีความเห็นพื้น ๆว่า model ภาวะราคาน้ำมัน  กับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ของ เมกา กับไทย นั้นมันคนละเรื่องเดียวกัน เพราะรายได้ต่อหัวมันไม่เท่ากันราคาน้ำมันในเมกา มีผลกระทบต่อผู้บริโภคไม่มาก เพราะ facilities ไม่ว่าระบบขนส่งมวลชนมันลงทุนมานานแล้ว ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยจึงส่งผลสกัดภาวะเงินเฟ้อได้ชะงัด แต่เมืองไทยมันใช้ไม่ได้ ราคาน้ำมันเพิ่มจาก 14 บาท เป็นเกือบ 30 บาท ภายในระยะเวลาปีเศษ ในขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่มีมาตราการอะไรมารองรับ เงินของเราจะถูกดูดหายไปกับน้ำมันเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เราต้องเริ่มคิดเรื่องลอจิสติก โดยคำนวณให้ได้ว่า จะลดการพึ่งพาน้ำมันในอนาคตได้เท่าใด หรือเราจะเปลี่ยนจากรถใช้น้ำมันมาเป็นแกสได้เท่าใด เราจึงมีโอกาสรอด ครับเรื่องนี้ยิ่งพูดยิ่งมัน เดี๋ยวจะว่าเพ้อเจ้อ แต่ที่แน่ ๆ อัตราดอกเบี้ยของเราตอนนี้แพงเกินไปแล้วครับ ถ้า ธปท.คิดตามก้นเมกา เมื่อใด ภาวะที่เรียกว่า stagflation จะทำให้เราต้องกลับไปพึ่ง IMF อีกหรือไม่ก็เป็นเรื่องต้องติดตามต่อไปครับ จากคุณ : jonathan w. - [ 19 พ.ค. 49 12:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าเพิ่งไปไกลเกินไปครับ เงินเฟ้อ 3-4 % ดอกเบี้ย เงินฝาก 4-5 % และ ดอกเบี้ย เงินกู้ 7-8 %ไ ม่ได้สูงมากนะครับ การขึ้นดอกเบี้ยเป็นการฟื้นตัวของอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ ท่านอลัน กรีนแสปน ได้ประกาศลดลงมาตลอด 4-5 ปีที่ฝ่านมา ผมว่าระบบเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ดุลยภาพใหม่ จากคุณ : แสนสุขสม - [ 19 พ.ค. 49 12:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่อง FED ขึ้นดอกเบี้ยผมว่าสาเหตุหลักมาจาก การที่สหรัฐขาดดุลย์ต่อเนื่องมานาน http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eci01160549&show=1&sectionid=0142&day=2006/05/16 และเพื่อเป็นการป้องกันการไหลออกของเงิน ไม่ให้เงินอ่อนค่าเร็วเกินไป จึงต้องขึ้นดอกเบี้ย ยอมแลกกับการชลอตัวของเศรษฐกิจครับ แล้วใช้นโยบายการคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจ http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01ecb05190549&day=2006/05/19 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 14:02:04 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 13:16:54 จากคุณ : ชีฉางเจิง - [ 19 พ.ค. 49 13:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ต้องคิดมาก เค้าอยากได้ตังค์จากไหนก็ออกข่าวมา2แง่2มุมให้ตีความกันไป พอได้ของถูกแล้ว ก็ออกมาปฏิเสธ นั่นแหละ ตามเค้าให้ทันละกัน จากคุณ : กร (pig-piglet) - [ 19 พ.ค. 49 16:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์สูงแต่ขอออกความเห็นหน่อยครับ ผมคิดว่าตอนนี้สหรัฐกำลังเล่นแบบทฤษฎีเกมโดยแทคทีมเล่น เริ่มจากซัดดัมเคยตัดราคาขายน้ำมันออกสู่ตลาดโลกทำให้สหรัฐทำอะไรไม่ถนัด สหรัฐก็เริ่มเข้าควบคุมกลไกการตลาดค้าน้ำมันโดยยึดอิรักซะ จากนั้นก็ฮึ่มๆใส่อิหร่านเพื่อให้ราคานำมันขึ้น   การที่ราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่องค่าระวางจะสูงขึ้นการนำเข้ามีแนวโน้มจะลดลงทั่วโลก  จากนั้นเปลี่ยนการขาดดุลมากๆกับญี่ปุ่นเป็นการขาดดุลมากๆกับจีนแทนโดยสินค้าสหรัฐไปจ้างจีนผลิตแล้วนำมาขายในสหรัฐ  เงินที่จีนและซาอุได้ดุลมากๆจะนำไปทำให้โครงสร้างค่าเงินต่างๆเหมาะสมมากขึ้น(ญี่ปุ่นจะแกล้งกดค่าเงินตนเองให้อ่อนลงยากขึ้น)  การขึ้นดอกเบี้ยจะลดการขาดดุลเพราะลดการบริโภคและการลงทุน  รัฐจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจแทนผ่านการจ้างงานต่างๆ(ล่าสุดจะจ้างคนไปยืนเฝ้าพรหมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก) เรื่องที่สหรัฐทำขึ้นแน่นอนว่าประเทศที่นำเข้าน้ำมันเดือดร้อนแน่ยกเว้นสหรัฐที่(แอบ)พิมพ์ดอลล่าร์เพิ่มเมื่อไรก็ได้ จากคุณ : think_pos - [ 21 พ.ค. 49 15:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 FED(ธนาคารกลางUSA) = BOT(ธนาคารแห่งประเทศไทย) ดำเนินนโยบายด้านการเงิน - Inflation(เงินเฟ้อ)  ----> ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก - Deflation(เงินฝืด)  ----> ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ก็มีวิธีแก้ปัญหาอีกทางคือ นโยบายการคลัง ซึ่ง Goverment ต้องจัดการเอง วิธีแก้ปัญหาเงินฝืด+เงินเฟ้อ คือ นโยบายการเงิน+นโยบายการคลัง ตาม Theory จากคุณ : SiKHiUs - [ 25 พ.ค. 49 14:08:36 ]