ดีครับ พี่ๆทุกคน ผมก็คิดว่า เข้ามาคุยกับหลายๆคนในนี้จะสนุกกว่า มาเป็นกำลังใจให้กัน ในยามวิกฤติ เช่นนี้ จริงๆ จะพูดว่าวิกฤติ ก็ใช่ที่ ผมว่าเป็นจังหวะ ตลาดทุนเป็นทิศทางอีกด้านหนึ่ง ที่หลายคนไม่อยากให้เป็นมากกว่า แต่ก็มีบางกลุ่ม ที่ตลาดเป็นเช่นนี้ เค้ากลับดีใจนะครับ เหตุผลสำคัญ เพราะเค้าทำกำไรจากตลาดขาลงได้
เรามามองภาพสำคัญกันครับ
ภาพสำคัญ ผมว่า เป็นความกังวล เรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นยังไม่จบ ช่วงต้นปี ยอมรับกันหรือไม่ครับ jan. effect ที่ดีดตัวอย่างแรง เนื่องจาก คนคิดว่า ดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จะจบ แต่สิ่งที่คาดฝันไว้ กลับเป็นอีกด้าน ความรู้สึกดอกเบี้ยขาขึ้นเริ่มกลับมา ความกังวลเริ่มเกิด ความกลัวก็มีมาก เป็นจังหวะที่ตลาดทุนพร้อมจะพักฐาน และเป็นการพักฐานแรง เพราะเป็นความกังวลที่เกิดพร้อมกันทั่วตลาด ดังนั้น ความกังวลเต็มตลาด ก็จะมีคนที่ตั้งสติได้ จะคิดได้ว่า ต้องขาย ถ้าไม่ขาย คนอื่นก็ขายก่อนเรา และก็เลยเกิดแรงขายจำนวนมากออกมา และเมื่อแรงขายออกมามากขึ้น การ force sale ก็เกิด (เกิดในอินเดียเมื่อวันจันทร์ ที่ผ่านมา) แต่ก็ มีคนที่มองภาพออกแต่ต้น ได้ทำการ short position ออกมา คนที่ถือเงินสด และ ทำการ short sale หุ้นใหญ่ไว้ก่อน รวมถึงตลาดอนุพันธ์ ก็จะได้กำไรอย่างมหาศาล อย่างที่มีกระทู้ข้างล่างได้เอ่ยไว้ว่า hedge fund กำลังขายอย่างสนุกมือ เพราะ ลด position ไว้ ผมคิดว่าน่าจะ เป็นคำว่า short position หรือการทำกำไรขาลงครับ
จริงๆมีอีกภาพหนึ่งซึ่งผมอยากจะเอ่ยถึง มันคือภาพมิติ นโยบายทางการเงิน นโยบายทางการเงิน เป็นสิ่งสำคัญมากครับ ผมเคยบอกไปแล้วว่า นโยบายการเงินจะเป็นตัดชี้วัด ว่า ตลาดจะไปทางใด แต่ตัวนี้ ผมคงไม่อยากอธิบายใดมากครับ ให้หลายๆคนลองคิดกันดีกว่าเพราะอาจจะมีคนว่าผมมั่วก็เป็นไปได้
ทีนี้ เราจะทำยังไงกับภาวะตลาดเช่นนี้ ต้องยอมรับเลยครับ ว่า ตลาดแบบนี้ขึ้นมาให้ขาย ดูได้จากหลายวันที่ผ่านมา ตลาด rebound ขึ้นมา แต่ก็มีแรงขายออกมา และผมเชื่อว่า อาจจะมีหุ้นบางตัวถูกกว่านี้ก็ได้ แต่ก็มีหุ้นบางตัว ที่ผมคิดว่า พื้นฐานแข็งแกร่งน่าจะทำให้ราคาหุ้นไม่ตกลงไปมากกว่านี้ ผมเชื่อมั่นในผลประกอบการณ์สำคัญนะครับ
แต่ก็ไม่ใช่ หุ้นพื้นฐานดีเข้าไปได้เลยนะครับ ผมก็ยังอยากแนะนำว่า ถ้าขึ้นมา ก็ขาย ลงไปรอจังหวะรับ
แล้วจังหวะรับอ่ะ คือจังหวะไหน ผมว่าจังหวะรับ เป็นจังหวะที่ตลาด พ้นจาก panic มาได้ชั่วขณะ ช่วงตลาด กำลังลงแรงๆ อย่าได้รีบรับครับ พยายามทำตัวออกห่างเลยดีกว่า เมื่อดัชนีระหว่างวันเริ่มนิ่งได้ซักพัก จังหวะนั้นแหละคือจังหวะ เก็บ หาจังหวะเด้งเมื่อหุ้นเด้ง เชื่อกันได้ครับ ถ้าเราไม่ขาย คนอื่นก็จะขาย แต่ถ้าเป็นหุ้นเก็บยาวจริงๆ อาจจะไม่ค่อยหวือหวาเท่าไรนัก
มามอง ด้าน ไหนกันต่อดีครับ น้ำมันดีไหม
น้ำมัน ผมยังคงบอกว่า เดือน 5 เป็นเดือนที่น้ำมันจะเริ่มพักฐานบ้าง จากกระทู้คุยเรื่องน้ำมัน กับ ptt ของผม ซึ่งผมได้บอกไปว่า เดือน4 จะเป็นเดือนที่ ภาคผลิตน้ำมันสำเร็จมีปัญหา จนส่งผลต่อราคา ผมว่าเรื่องอิหร่าน กับไนจีเรียก็มีผลมากนะครับ แต่ผมให้ความสำคัญ เรื่องภาคผลิตก่อน เพราะนี่คือเหตุการณ์แน่นอน และจะอยู่กับเราไปตลอด แต่ผมยังอยาก คิดถึง ฤดูพายุนะครับ ปีนี้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน และดูมาตราการ ป้องกัน ของสหรัฐ สำหรับน้ำมันในเอเชีย ผมยังเชื่อว่า น้ำมันสำเร็จเอเชียจะอยู่ในระดับสูง เนื่องด้วย ปัญหา ภาคผลิตอีกเช่นกัน จำกันได้นะครับ ต้นปี ญี่ปุ่น มีปัญหาโรงกลั่นไฟไหม้ และที่สำคัญ ผมเชื่อว่า สนามบินสุวรรณภูมิ จะยิ่งกระตุ้นความต้องการน้ำมันสำเร็จมากยิ่งขึ้นครับ เพราะสนามบิน เครื่องบินมาลง ต้องการน้ำมันนะครับ ผมเชื่อว่า เมื่อภาวะตลาดเริ่มกลับมาปกติ น้ำมันก็จะกลับมาอีกครั้ง
ต่อไปทองคำ ต้องยอมรับว่าทองคำมีโอกาสพักฐานลงมาแรง ก็ ปัจจัยดอกเบี้ยเช่นกัน มีคำพูดออกมาจากจีนนะครับ ว่าเค้าไม่ใช่คนทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายมากกว่า ณ.เวลาที่พูดถึง ทองคำก็ลงมาทดสอบระดับ 640 อีกครั้งแล้ว เรื่องทองคำ ผมจะมาพูดยาวๆอีกครั้งละกันครับ แต่แนะนำ คนเล่นทองคำนะครับ ดูจังหวะช่วง ตลาดเปิดและปิด ของแต่ละประเทศครับ มีเฮ แน่นอน อย่างวันนี้ช่วงเปิดเมกา ก็ลงมา 20 เหรียญ บวกกับ หลังตัวเลขขายบ้านใหม่ เมกาออกมาก็ลงอีก 10 เหรียญ ดู real time ได้นะครับ timing สำคัญ แล้วหาปัจจัยสนับสนุนทิศทางราคาครับ
หลายคนมองว่า ตลาดจะซึมยาว ผมยอมรับครับ ตลาดซึมแน่นอน มีเด้งได้ ก็มีร่วงได้อีก แต่ผมเชื่อว่า มองหุ้นพื้นฐานดี และ คิดว่า ผลประกอบการณ์ที่จะประกาศช่วง เดือน 7 จะออกมาดี หาจังหวะเก็บได้นะครับ หุ้นที่มีพื้นฐานดี มีปัจจัยดี สำคัญมากครับ
วันนี้เริ่มกลับมาวันแรก หลายๆอย่าง เลยรู้สึกยังขาดๆหายๆ อยู่ ยังไง ผมจะแวะเข้ามาเป็นกำลังใจพี่ๆน้องๆกันบ่อยๆละกันครับ
จากคุณ :
j_abac
- [
25 พ.ค. 49 00:27:39
]