CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หนี้หายนะ

    หนี้หายนะ

    หายคนต้องเป็นหนี้ธนาคาร บัตรเครดิต เพื่อซื้อบ้าน ซื้อของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ การไปกู้คือยืมเงินซึ่งเราไม่มีอยู่ในขณะนี้ แต่จะเอารายได้ในอนาคตมาผ่อนชำระ การชำระขึ้นอยู่กับอนาคตซึ่งไม่แน่นอน ทำให้ชีวิตเราต้องกล้าเสี่ยงมากขึ้น การตัดสินใจของเราก้อต้องเร่งรีบ เสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่หวังจะได้สูงขึ้น ยอมทนทำงานที่ไม่อยากทำ โกง เบียดเบียน หลอกลวงคนอื่น เพื่อความจำเป็นที่จะต้องหาเงินมาใช้หนี้ เพิ่มความเครียดให้ตัวเองและคนรอบตัว และที่สำคัญ เราไม่รู้จักต้นทุนที่แท้จริงของหนี้

    เสือน้อยและเสือใหญ่เริ่มทำงานเมื่ออายุ 17 ปี พ่อแม่ให้เงินเท่ากันคือ 80,000 บาท เสือน้อยเอาเงินไปซื้อรถมือสองคันเล็กๆ ขับไปทำงาน

    ในขณะที่เสือใหญ่เอาเงินไปดาว์นรถ ราคา 300,000 บาท โดยกู้เงิน 220,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10% ต่อปี ผ่อน 5 ปี เสือใหญ่ผ่อนรถเดือนละ 4,675 บาท เป็นเวลา 5 ปี เป็นเงิน 280,500 บาท

    ส่วนเสือน้อย ไม่ต้องผ่อนรถ เอาเงินที่จะต้องผ่อนรถไปฝากธนาคารทิ้งไว้ทุกเดือนได้ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ครบ 5 ปี เงินฝากเดือนละ 4,675 บาท รวมดอกเบี้ยทบต้นเป็นเงิน 365,024 บาท

    เสือน้อยทิ้งเงินฝากไว้อย่างนั้น โดยไม่ฝากเพิ่มและไม่ถอน ปล่อยให้ดอกเบี้ยทบต้น ทำงานของมัน วันที่เสือน้อยเกษียณอายุ ตอนอายุ 60 ปี 2 เดือน เงินจำนวนนั้นทบต้นเป็นเงิน 23,361,536 บาท

    ส่วนรถยนต์ของเสือใหญ่ กลายเป็นเศษเหล็กในเวลาไม่นาน

    นี้คือเหตุผลที่เราต้องออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย หักห้ามใจต่อแรงยั่วยุของสิ่งต่างๆ เสือน้อยออมเงินทุกเดือนเพียง 5 ปี แล้วหลังจากนั้นก้อใช้เงินเดือนของตัวเองได้เต็มที่ทุกบาททุกสตางค์ ด้วยเงินต้นเพียง 365,024 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี เงินต้นและดอกเบี้ยกลายเป็น 23,361,536 บาท ภายในเวลา 40.2 ปี

    (สูตรการคำนวณว่าเงินจะเพิ่มเป็นเท่าตัวเมื่อไหร่คือ 72/อัตราผลตอบแทน เช่น อัตราผลตอบแทน 10% คือ 72/10 =7.2 ดังนั้นดอกเบี้ย 10% เวลา 7.2 ปี เงินก็จะเพิ่มเป็นเท่าตัว)

    เช่นถ้าฝากเงินให้ลูก 5 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 10% ทุกๆ  7.2 ปี เงินฝากจะโตเป็น 10 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท 40 ล้านบาท 80 ล้านบาท ตามลำดับ รวมเวลา 28.8 ปี เงิน 5 ล้านบาท โตเป็น 80 ล้านบาท

    ถึงแม้เวลานี้ดอกเบี้ยเงินฝากของเราจะต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดออม ก่อนจะซื้ออะไรลองหยุดคิดสักนิดว่า ค่าเสียโอกาสในชีวิตเป็นเท่าไรรวมถึงโอกาสอื่นๆ ที่สูญเสียไปนอกจากเงิน

    การสร้างหนี้เป็นการสร้างความหายนะให้ชีวิตได้อย่างง่ายดาย การมีหนี้เป็นทุกข์เป็นภาระทางใจอย่างยิ่ง แล้วมันคุ้มหรือเปล่ากัวการเป็นหนี้ เพื่อสิ่งของที่มีหรือไม่มีก้อไม่แตกต่างกัน เราอาจจะเป็นหนี้ได้อย่างรอบคอบเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือ การเริ่มต้นลงทุนไม่จำเป็นต้องมองทุนที่เป็นเม็ดเงินอย่างเดียว มันสมองความคิด แปลงกระแสความนิยมให้เป็นประโยชน์ มีสิ่งมากมายที่ใช้แทนกันได้ ถ้าเราเป็นหนี้จากบ้าน รถ ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การซื้อของ ซึ่งไม่ได้ให้ผลตอบแทนดอกผลมาช่วยใช้หนี้ก้อยิ่งแย่ใหญ่ อาจจะถึงเวลาต้องทบทวนว่าเมืองนี้ บ้านนี้ รถคันนี้ โรงเรียนนี้ อาจจะไม่เหมาะกับชีวิตของเราจริงๆ ลองปล่อยมัน ปล่อยความยึดมั่นในชีวิตบางอย่างดู เราอาจจะรู้ว่า ชีวิตมีทางเลือกมากมาย

    จากคุณ : ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน - [ 5 มิ.ย. 49 02:09:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป