ความคิดเห็นที่ 1 ขาย ที่เท่าไหร่ล่ะครับ ขายทำกำไร หรือว่า ขายตัดขาดทุน .... จากคุณ : อาหนิว - [ 6 มิ.ย. 49 10:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้สิ แต่ปกติ เขามองในมุมราคา ถั่วรวมกันนนะ เวลามันรวมในport จะเป็นกอ้นเดียว 4000 หุ้น กับราคาเฉลี่ย จากคุณ : i-angel - [ 6 มิ.ย. 49 10:58:24 A:161.200.255.161 X: TicketID:111128 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยู่ที่ความพอใจของ จขกท จะ match กับล๊อตไหนก็ได้ ได้เสียเงินของเราเอง จากคุณ : เลิกเล่นหุ้นเถอะ - [ 6 มิ.ย. 49 10:59:57 A:124.120.128.45 X: TicketID:000564 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ แต่ผมยังเชื่อในสองทางเลือก คือซื้อก่อนขายก่อน กับซื้อก่อนขายทีหลัง  ผมยังรอครับ จากคุณ : rdo - [ 6 มิ.ย. 49 11:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แบบ คห2 ล่ะคับ จริงๆ ไม่ว่าคิดแบบไหน กำไรก็เท่าเดิมนะ ในพอร์ตถึงรวมเป็นราคาเฉลี่ยเลย ซื้อ 1 2 3 บาท ราคาละ 100 หุ้น ขาย 4 5 6 ราคาละ 100 หุ้น คิดแบบเฉลี่ย ทุนหุ้นละ 2 บาท รวม 600 บาท ขายได้ 1500 เฉลี่ยกำไรหุ้นละ 3 บาท หรือแบบซื้อก่อนขายก่อน ซื้อ 1 บาท ขาย 4 ซื้อ 2 ขาย 5 ซื้อ 3 ขาย 6 กำไร 3 บาทเท่ากัน แบบซื้อก่อนขายหลัง ซื้อ 3 ขาย 4 ซื้อ 2 ขาย 5 ซื้อ 1 ขาย 6 กำไร 1, 3, 5 กำไร 3 บาทเท่ากัน จากคุณ : Archez - [ 6 มิ.ย. 49 11:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อาจจะมีบางท่านตำหนิผมว่าอยากรู้น่าจะสังเกตเอา หรือว่าสงสัยอะไรไม่เข้าเรื่องซื้อขายให้ได้กำไรก็พอ คิดเสียว่าเป็นโจทย์เด็กนักเรียนมัธยมก็แล้วกันน่ะครับ เพราะผมก็กลัวว่าวันใดวันหนึ่งเกิดลูกสงสัยและถามผมแบบนี้แล้วผมตอบแบบไม่มั่นใจก็จะอายลูก เอาเป็นว่าช่วยยืนยันถ้าท่านทราบ   จากการซื้อสี่ครั้งสี่ราคา ตามข้างบนตามลำดับก่อนและหลัง ทางโบรกเกอร์จะแสดงราคาเฉลี่ยในพอร์ตเป็น 4000 หุ้นราคาเฉลี่ย 11.4 บาท  ปกติบ่อยครั้งคนเล่นหุ้นมักจะแบ่งขายครึ่งหนึ่ง ผมก็จะแบ่งขาย 2000 หุ้น ไม่ต้องสนใจน่ะครับว่าขายราคาเท่าไหร่ เพราะนั่นไม่เกี่ยวกับโจทย์  ถ้าเป็นแบบซื้อก่อนขายก่อน(first in first out) ตัวที่จะถูกหยิบขายออกไปคือ 12.0 กับ 11.6 ตัวที่เหลือ ในพอร์ตจะมีราคาเฉลี่ย 11.0 บาท(ถ้าใครยังคิดว่าราคาเฉลี่ยจะเป็น 11.4 เท่าเดิมก็ควรงดออกเสียงก่อน)    หรือถ้าเป็นแบบ ซื้อก่อนขายทีหลัง(first in last out) ตัวที่ถูกหยิบขายก็คือ 11.2 กับ 10.8 หุ้นที่เหลืออยู่ในพอร์ตจะมีราคาเฉลี่ย 11.8    ตามประสบการณ์ที่ท่านเทรดหุ้นมาเป็นเวลานานท่านคิดว่า กรณีไหนจะถูกต้องครับ จากคุณ : rdo - [ 6 มิ.ย. 49 12:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 บัญชีตามระบบของโบรกเกอร์ จะเป็นระบบ fifo first in first out คือ ซื้อเข้ามาก่อน เมื่อขายจะตัดออกไปก่อน เช่นซื้อเข้ามเรียง 12.0 --11.6-- 11.2-- 10.8 เวลาขายจะตัดบัญชีออก เป็น 12.0 --11.6-- 11.2-- 10.8 แม้ครั้งแรกที่ขาย คุณจะเอา ราคา 10.80 ขายเอากำไรราคา 11.00 เขาก็ตัดรายการราคา 12.0 ออกไปก่อน และตัดตามจำนวนตาม เช่น ขาย 11.0 จำนวน 1100 หุ้น เขาจะตัด 12.00 จำนวน 1000หุ้น และ 11.60 จำนวนอีก 100 หุ้น ระบบนี้ถ้าคิดให้ดีเป็นระบบที่ทางโบรกได้เปรียบ เช่นหากพรุ่งนี้โบรกเกอร์เจ๊งโกง คนที่จะชดใช้จะคิดเงินตามยอดที่เหลือ (ลองไปคิดดูว่าใครได้ใครเสียเปรียบ) แต่ก็ไม่ต้องไปร้องแรดเพราะเป็นระบบสากล 5566 5566 จากคุณ : อ.ย. nowya - [ 6 มิ.ย. 49 12:20:12 A:58.8.5.44 X: TicketID:112031 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ ทันใจจริงๆ จากคุณ : rdo - [ 6 มิ.ย. 49 12:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เนื่องจาก หุ้นไม่มีการหมดอายุ (ไม่นับวอแรนด์) จึงไม่จำเป็น FIFO แต่เนื่องจากมี ต้นทุนต่างกัน จึงคิดค่าเฉลี่ยต้นทุน ให้ความสำคัญกับเงินต้นทุน มากกว่า คุณภาพ ไม่เหมือนกับสินค้าทั่วไป ที่มีการ Expire จีงใช้ FIFO จากคุณ : Su_sf (Su_sf) - [ 6 มิ.ย. 49 12:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 fifo อ่ะ จากคุณ : *Tan* - [ 6 มิ.ย. 49 21:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเป็นบริษัทนำมันใช้last in first out เพราะว่าจะได้เสียภาษีน้อย(first in เก็บเป็นreserve)แต่นี่เป็นหุ้นของคุณเองจะใช้วิธีไหนก็กำไรขาดทุนเท่ากัน ต่างกันเพียงด้านจิตรใจถ้าใช้fifoเสมือนหนึ่งได้ตัดตัวราคาแพงออกไปแล้วเวลาดูportจะสบายใจขึ้นมาอีกนิด จากคุณ : ex (exBT) - [ 6 มิ.ย. 49 21:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอ ผมไม่แน่ใจว่า คห 10 กับ คห 12 อ่านกระทู้แล้วเข้าใจผิดหรือเปล่า ถาม คห 10 หน่อย ไม่ทราบโบรกเกอร์ค้าหลักทรัพย์เจ้าไหน เข้าบัญชีแบบอื่น ไม่ใช่ fifo ถาม คห 12 จกท ถามเรื่องเรียงอันดับ ผมคิดว่าคงไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเข้าบัญชีของโบรกเกอร์ค้าหลักทรัพย์ ไม่ใช่จดบัญชีส่วนตัว ส่วนตัวจะจดอะไรก็ได้เป็นความรู้พื้นฐานที่มนุษย์หุ้นต้องรู้ ย้ำต้องรู้ นะครับ ถ้าไม่รู้ก็ไม่รู้หจะว่าอย่างไร เฮ้อ.....เหนื่อย ๆ ๆ ๆ จากคุณ : อ.ย.nowya - [ 7 มิ.ย. 49 12:08:30 A:202.5.82.22 X: TicketID:112031 ]