ความคิดเห็นที่ 1 ไปเอามาจากไหนคะว่าจดทะเบียนสมรสแล้วจะเสียภาษีมาก แต่งงานแล้ว ถ้าภรรยาไม่ได้ทำงานก็จะได้ลดหย่อนค่ะ ค่าลดหย่อนของภรรยา 30000 บาทต่อปี ถ้าภรรยาทำงาน ก็คงไม่มีผล รอมีบุตรแล้วหักลดหย่อนบุตรเอาค่ะ จากคุณ : แพธารา - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 14:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แฟนสวยระวัง จะถูกคนขี้อิจฉามาแย่งไป ด้วยวิธีการอันชั่วร้าย มีแฟนพอไปวัดไปวาได้ดีกว่าสมัยนี้ จากคุณ : mar รุ่นเก๋า - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 14:49:06 A:61.47.105.48 X: TicketID:122020 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แฟนเราก็ได้แฟนสวยนะคะ คุณmarรุ่นเก๋า ยังไม่มีหนุ่มขี้อิจฉาที่ไหนมาแย่งไปสักคนเลยค่ะ hoop! ล้อเล่นอ่ะค่ะ จากคุณ : แพธารา - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 14:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เลื่อนไปอีก2เดือนเถอะครับ  ตอนนี้ราคาทองบาทละ 10700 บาทต่อบาท  ตาดว่าอีก 2 เดือนข้างหน้า จะเหลือแค่ 9900 บาทต่อบาท  ประหยัดไป 800 บาทต่อบาท  ค่าตัวน้องคาดว่าจะอยู่ที่ ทอง นน. 20 บาท ก็จะประหยัดไป 16000 บาท  *********  ผมไปขอลูกสาวเค้าเพื่อจะแต่งงาน ยังต้องต่อรองสินสอด จากทอง 20 บาท เหลือ 10 บาทเลยอ่ะ  เพราะราคาทองที่แพงขึ้น ค่าตัวน้องก็แพงตาม  พี่จนปัญญา **********  หรือว่าจะตกลงแบบนี้  สินสอดที่เป็นทอง กำหนดไปเลย ว่า 1 แสนบาทถ้วน ไม่ว่าทองจะขึ้นจะลงยังงัย ก็ซื้อทองมาเป็นสินสอด ให้อยู่ที่ 1 แสนบาท  แบบนี้เรียก ประกันความเสี่ยง จากราคาผันผวนของทองคำในตลาดโลกครับ จากคุณ : มะม่วงทองดำ.. อร่อย (อุ๋ย_ลิเวอร์พูล) - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 14:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าบอกว่าถ้าจดทะเบียนสามีต้องเอาเงินได้ภรรยามารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีน่ะครับ เอามารวมเงินได้ผมก้มากขึ้น ผมก็ต้องเสียภาษีมากสิครับ จากคุณ : จขกท - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:01:07 A:203.107.142.123 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็แยกคำนวณก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเอารายได้มารวมกันก็ได้ ปรกติถ้าภรรยามีงานทำ ก็ต้องเสียภาษีอยู่แล้วนี่คะ คงจะไม่เสียเพิ่มขึ้นหรอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:03:19 จากคุณ : แพธารา - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าคิดมากเลยครับปวดหัวเปล่าๆ พอแต่งเสร็จ คุณก็ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องเงินอีกแล้ว เพราะ เธอจะรับหน้าที่จัดการให้เอง 5555 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:05:51 จากคุณ : Livestock - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องทองนั้น ทองแพงจริงๆเลยครับ จากคุณ : จขกท - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:04:54 A:203.107.142.123 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากข้อหารือ ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/publish/30664.0.html น่าจะเป็นทางเลือกได้อีกทางนะครับ จากคุณ : pjuk - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอคืนภาษีดอกเบี้ยจากธนาคารไม่ได้คะ หลังจากจดทะเบียนกับสามี เพราะต้องเอารายได้ทั้งหมดไปรวมกับสามี ภรรยาเสียสิทธิ์คะ รวมกับสามีไม่ได้เพราะจะทำให้สามีเสียภาษีมากขึ้น รู้งี้ไม่จดคะ จากคุณ : เชียร์ - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:26:38 A:124.121.59.27 X: TicketID:066776 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อแต่งงานจดทะเบียนสมรส เงินได้ของภริยาถือเป็นเงินได้ของสามี มาตรา 57 ตรี วรรคแรก ในการเก็บภาษีเงินได้จากสามีและภริยานั้น ถ้าสามีและภริยาอยู่ร่วมกันตลอดปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว ให้ถือเอาเงินได้พึงประเมินของภริยาเป็นเงินได้ของสามี และให้สามีมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษี แต่ถ้าภาษีค้างชำระและภริยาได้รับแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันแล้ว ให้ภริยาร่วมรับผิดในการเสียภาษีที่ค้างชำระนั้นด้วย สังเกตตรงที่ผมขีดเส้นใต้ไว้นะครับ "สามีและภริยาอยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี" นั่นก็หมายความว่าดูตามข้อเท็จจริง ซึ่งจะต่างกับคำว่า "ความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี" ดังที่เราเห็นในมาตรา 42 ตรี วรรคท้าย บทบัญญัติตรงนี้แหละครับ ถ้าปรากฎว่าความเป็นสามีภริยามีอยู่ตลอดปีภาษี แต่มิได้อยู่ร่วมกัน สามีไปอยู่กินกับเมียน้อย ก็ไม่ถือว่าสามีและภริยาอยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี ผลในทางกฎหมายก็คือ เงินได้ของภริยาไม่ถือเป็นเงินได้ของสามี แต่ถ้าแต่งกันแล้ว แต่ยังไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ภริยาอยู่จังหวัดนึง สามีอยู่จังหวัดนึง วันหยุดก็ไปมาหาสู่กัน ก็ถือว่าสามีภริยาอยู่ร่วมกันนะครับ ตามมาตรา 57 ตรี วรรคท้าย บางคนเขาหย่ากันในระหว่างปีภาษีก็มี เมื่อหย่ากันความเป็นสามีและภริยาก็มิได้อยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี ดังนั้นเงินได้ภริยาก็ไม่ถือเป็นเงินได้ของสามี ต่อมาก็มาแต่งงานกันใหม่ อย่างนี้ไม่เรียกว่าวางแผนภาษีแต่เรียกว่า การหนีภาษี (Tax Evasion) ถือว่าไม่มีเจตนาหย่าขาดกันจริง เจ้าพนักงานประเมินก็มีอำนาจเอาเงินได้ภริยามาเป็นเงินได้ของสามี แล้วให้สามีเสียภาษีเพิ่มเติมพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มได้ กรณีเงินได้ของภริยาไม่ถือเป็นเงินได้ของสามี (1) มาตรา 57 เบญจ กรณีภริยามีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) คือถ้าภริยาเป็นมนุษย์เงินเดือนมีเงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40(1) กรณีนี้ภริยาแยกยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีได้ โดยไม่ถือเป็นเงินได้ของสาม เมื่อไม่นำไปรวมกับเงินได้ของสามี ก็เสียภาษีน้อย เพราะฐานภาษีก็จะต่ำ อัตราภาษีก็จะต่ำตามไปด้วย การแยกยื่นนั้น ภริยาก็หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 60,000 บาท ตามมาตรา 42 ทวิ วรรคแรกปกติ ส่วนค่าลดหย่อนบุตร ค่าลดหย่อนการศึกษาบุตรต้องแบ่งคนละครึ่งนะครับตามมาตรา 52 เบญจ วรรคสอง (2) แล้วค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านก้ต้องหักคนละครึ่งอีกเช่นกันครับ จะเอามาหักเต็มไม่ได้ ดังนั้นการคิดค่าลดหย่อนนั้นก็ต้องคิดให้ถูกด้วย (2) กรณีสามีไม่มีเงินได้ เงินได้ของภริยาก็ไม่ถือเ็ป็นเงินได้ของสามี มาตรา 57 ตรี ใช้เฉพาะสามีและภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ดังนั้นก็แปลกฎหมายกลับครับ สามีไม่มีเงินได้ เงินได้ของภริยาก็ไม่ถือเป็นเงินได้ของสามี (3) แตกหน่วยภาษี คุณไม่บอกว่าภริยามีเงินได้แบบไหน คุณมีเงินได้แบบไหน งั้นผม สมมติเอาว่า กรณีของคุณ เงินได้ของภริยาเป็นเงินได้ของสามี เมื่อเงินได้ของภริยาเป็นเงินได้ของสามี เงินได้ของสามีก็จะสูงขึ้น เมื่อเงินได้ของสามีสูงขึ้น กอปรกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นแบบอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ดังนั้น ก็จะเสียภาษีสูงขึ้น มีวิธีหลบหลีก คือถ้าคุณไม่ประสงค์ให้เงินได้ของภริยาเป้นเงินได้ของสามีก็ต้องใช้วิธีแตกหน่วยภาษีหรือ Tax Entity โดยการให้ภริยามีเงินได้ร่วมกับผู้อื่นในรูปห้างหุ้นส่วนสามัญ ผลก็คือเงินได้ของภริยาก็จะไม่เป็นเงินได้ของสามีแล้ว แต่เป็นเงินได้ของห้างหุ้นส่วน คุณก็จะเสียภาษีน้อย ทั้งส่วนแบ่งกำไรจากห้างฯ ก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาเสียภาษีตามมาตรา 42(14) แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:53:38 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:46:57 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 49 15:32:36 จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งง หรือเปล่าครับ อย่างในเรื่อง Tax Entity นั้นมันเป็นการหลบหลีกภาษี (Tax Avoidance) ซึ่งเป็นสับเซทของการวางแผนภาษี (Tax Planning) จึงไม่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่การหนีภาษี (Tax Evasion) แต่ถ้าเกิดว่าไม่มีการเข้าหุ้นกันจริง แต่เอาชื่อบุคคลอื่นมาใช้กระทำการ อย่างนี้เป็นการหนีภาษี (Tax Evasion) มีโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา ดังนั้นสรุปการวางแผนภาษีแต่งงาน 1. ถ้าสามีภริยาไม่อยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี เงินได้ของภริยาก็ไม่เป็นเงินได้ของสามี ก็ไม่ต้องเสียภาษีมากขึ้น 2.ถ้าสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้   2.1 ภริยามีเงินได้การจ้างแรงงาน ภริยาก็แยกยื่นได้   2.2 ภริยามีเงินได้การจ้างแรงงาน และเงินได้ประเภทอื่นๆ ด้วย เฉพาะเงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40(1) เท่านั้นที่จะแยกยื่นได้ตามมาตรา 57 เบญจ วรรคแรก ส่วนเงินได้ประเภทอื่นๆ ถือเป็นเงินได้ของสาม จึงต้องวางแผนภาษีในส่วนนี้ต่อไป เช่น Tax Entity 3. การแตกหน่วยภาษี ตามที่บอกไปข้างบน ทำให้เงินได้ของภริยาไม่ถือเป็นเงินได้ของสามี ทำให้ฐานภาษีต่ำ อัตราภาษีก็จะต่ำ ยินดีล่วงหน้านะครับ ขอให้มีความสุขในชีวิตสมรส จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 15:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนแรกดิฉันก็งง พอมาแต่งงานถึงทราบว่าต้องแยกเสียภาษี เพราะประเด็นนี้ค่ะ ถูก-ผิดขออภัย เพราะสรรพากรบอกมาอีกที รายได้-สามี 1. เงินเดือน xxx 2. หัก ค่าใช้จ่าย 40% แต่ไม่เกิน 60,000 สมมติว่า 60,000 ละกันนะ (60,000) คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่าย xxx 3. หัก ลดหย่อนทั้งหลายแหล่คะ xxx คงเหลือรายได้ที่ต้องไปคำนวณภาษี xxx ฐานเท่าไหร่ ก็คำนวณภาษีตามฐานค่ะ (คงทราบอยู่แล้ว) รายได้-ภรรยา 1. เงินเดือน xxx 2. หัก ค่าใช้จ่าย 40% แต่ไม่เกิน 60,000 สมมติว่า 60,000 ละกันนะ (60,000) คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่าย xxx 3. หัก ลดหย่อนทั้งหลายแหล่คะ xxx คงเหลือรายได้ที่ต้องไปคำนวณภาษี xxx ฐานเท่าไหร่ ก็คำนวณภาษีตามฐานค่ะ (คงทราบอยู่แล้ว) แต่ถ้านำรายได้ของสามี-ภรรยามารวมกัน การคำนวณเหมือนกันทุกอย่าง แต่ต่างตรงข้อ 2 ค่ะ หักได้ แค่ 60,000 เท่านั้น ไม่ใช่ 120,000 ค่ะ ส่วนค่าลดหย่อน ใครมีอะไรก็สามารถนำมารวมกันเพื่อลดหย่อนได้ค่ะ รายได้ สามี+ภรรยา 1. เงินเดือน xxx 2. หัก ค่าใช้จ่าย 40% แต่ไม่เกิน 60,000 (60,000) คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่าย xxx 3. หัก ลดหย่อนทั้งหลายแหล่คะ xxx คงเหลือรายได้ที่ต้องไปคำนวณภาษี xxx ฐานเท่าไหร่ ก็คำนวณภาษีตามฐานค่ะ (คงทราบอยู่แล้ว) นี่กระมังคะ ที่เป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนบอกว่า แต่งงาน นำรายได้มารวมกันจะทำให้เสียภาษีเยอะ ถ้ายื่น ภงด.91 แยกยื่นเถอะค่ะ กรอกแบบสะดวกค่ะ ขอให้มีความสุขในชีวิตสมรสค่ะ จากคุณ : Noina - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 16:15:18 A:221.128.114.177 X: TicketID:081377 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ^ แยกยื่น ค่าลดหย่อน ต่างฝ่ายต่างหักได้คนละครึ่งด้วยนะครับ ถ้าเป็นลูกจ้างทั้งคู่ แยกยื่นจะจ่ายภาษีน้อยสุด ถ้าภริยาไม่ใช่ลูกจ้าง คือมีเงินได้ประเภทอื่น ภริยาไม่สามารถแยกยื่นได้เลย ถือเป็นเงินได้ของสามีอย่างเดียว เพื่อไม่ให้เป็นเงินได้ของสามีต้องใช้วิธีหลบหลีกภาษี จึงจะเสียภาษีน้อยที่สุดโดยถูกต้องตามกฎหมาย จากคุณ : ทวนลมเรโช - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 16:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดีครับ แต่งงานจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา ถ้าไม่แต่งเงินเก็บไม่มีเพราะจะลงไหหมด แต่งงานแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะ การหาแฟนสวยไม่เป็นไร แต่ขอให้รวยก็พอครับ จากคุณ : เม่ามีชัย - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 16:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดีใจด้วยครับ มีลูกเร็วๆนะครับ ชีวิตจะสุขมากๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ก้อนหิน MBA - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 17:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบ คห4 ที่กำหนด ค่าสินสอด แบบประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำโลก อะครับ น่าเลียนแบบ จากคุณ : woot-wt - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีด้วยครับ จากคุณ : NeoBronze - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 18:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มา confirm ด้วยคนครับ ถ้าสามีและภรรยา ต่างมีเงินได้ ให้แยกคิดภาษีได้ เหมือนบุคคลทั่วไป แต่ถ้ามีบุตรสามารถลดหย่อนได้อีกครับโดย บุตรแต่ละคนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีให้ทางสามีหรือภรรยาคนใดคนหนึ่งเท่านั้น สำหรับเรื่องสินสอดทองหมั้น สำหรับผมไม่เคยคิดมากเรื่องนี้เลย ถ้าพอมีเงินเก็บ ก็ทยอยซื้อเก็บไว้ เป็นการเฉลี่ยความเสี่ยง และไม่ว่าถึงอย่างไร ทองหมั้นก็ต้องถือไว้ระยะยาว ซึ่งสำหรับทองคำแล้วระยะยาวไม่มีคำว่าขาดทุนอยู่แล้ว เพราะเป็นทรัพย์สินที่ประกันค่าเงินเฟ้อได้ดีมากอย่างหนึ่ง และที่สำคัญที่สุดคือจังหวะชีวิตที่เราต้องการแต่งงานมากกว่านะครับ อย่าลืมว่า "ภรรยาที่ดีมีค่ามากกว่าทองคำหรือทรัพย์สินนอกกาย เพราะมันเป็นความสุขตลอดชีวิตของเรา" จากคุณ : Lord of the Land - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 23:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พ่อ แม่ ของทั้ง  2 ฝ่าย   ถ้าอายุเกิน 60  นำมาลดหย่อนด้วย   ได้อีกเยอะครับ ที่ว่าแต่งงานแล้ว  จะเสียภาษีมากขึ้น   คือถ้ารายได้เยอะทั้งคู่   เมื่อนำมารวมกันแล้วเสียภาษี   มันจะทำให้ฐานภาษีสูงขึ้นครับ   เช่น คนเดียว เสีย 10 เปอร์เซนต์   พอรวมกันแล้ว  กลายเป็น20  อะไรประมาณนี้ครับ จากคุณ : The Gollum - [ 27 มิ.ย. 49 08:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แต่งงานจดทะเบียนแล้วเสียภาษีมากขึ้นแน่นอนครับ อย่างแรกที่นึกได้ตอนนี้คือ  สมมติ ทั้งสามีและภรรยามีสิทธิลดหย่อนภาษีเงินกู้ดอกเบี้ยค่าผ่อนบ้าน  และต่างใช้สิทธิทั้งคู่  กฏหมายกำหนดให้ได้สิทธิไม่เกินคนละ 50,000 บาท ต่อปี  แต่แต่งงานเมื่อไหร่ให้เหลือแค่กึ่งหนึ่ง  คงลดหย่อนได้คนละ 25,000 บาท  นี่เป็นหนึ่งในภาษีแต่งงานครับ จากคุณ : -=spider=- - [ 27 มิ.ย. 49 12:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกท่านมากครับ จากคุณ : จขกท - [ 27 มิ.ย. 49 15:39:17 A:203.107.142.129 X: ]