ความคิดเห็นที่ 3
ตอบในฐานะทำ ib และเพื่อน ทำ research ตอนนี้เป็น vp บล.ยักษ์แห่งหนึ่ง (เพื่อนนะ ไม่ใช่ผม) research เนี่ย งานมันตายตัว พวกที่หนึ่ง เรียกว่า infrastructure research ไม่มีลูกเล่นไรมาก วันๆก็ดูหุ้นในกลุ่มที่รับผิดชอบ ออกรายงาน ทำวิเคราะห์โดยเก็บข้อมูลจากงบ และ company visit แต่ถ้าให้ดีต้องสอบ cisa ให้ได้นะ Research อีกแบบคือพวกดู techical พวกนี้ก็ดูแต่กราฟกันทั้งวัน แล้วก็แม่นทฤษฎี เห็นพวก macd, candle stick ไหมละ นั่นแหละงานที่พวกนี้ต้องทำ แล้วก็ออกรายงาน วิเคราะห์ตาม technical สรุปเหมาะกับคนชอบนั่งโต้ะ และก็คำนวณเก่งๆ ส่วน IB นี่งานมันกว้างมาก สรุปหลักๆว่ารายได้มาจาก การทำ IPO, PO หุ้น ที่ปรึกษาทางการเงิน อีกส่วนนึงทำพวก rehabilitate พวกปรับโครงสร้างหนี้นะ หรือทำ M&A อีกส่วนนึงทำพวก debt instrument เช่นการออกหุ้นกู้ ส่วนมาก ทำอันที่ หนึ่ง กับสองมากกว่านะ ยิ่งที่ ipo นี่ยิ่งแย่งกันใหญ่ เพราะงานมันไม่ยากเท่าไร ได้เงินตาม % ส่วนการทำ M&A นี่ก็ดีแต่ส่วนมากงานมักนาน บางทีหลายๆปีก็ยังไม่จบก็มี
งาน research 90% จบในวัน ส่วน IB 100% ไม่จบในวันแน่นอน และต้อง deal กับลูกค้าเยอะมาก รวมถึง กลต.ด้วย ปกติทำ IB น่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า research แต่ก็นั่นแหละ ขึ้นกับสภาพตลาดด้วย ถ้าหุ้นเป็นอย่างนี้คงไม่มีใครอยากทำ ipo รายได้ก็ไม่เข้าฝ่าย ดังนั้น ก็อย่าหวังโบนัสเยอะๆนะ ผมเลือกทำ ib เพราะตอนนั้นยังเด็ก ท้าทายดี และสนุกด้วย โบนัสก็เยอะดี แต่พอสัก 6 ปี ก็เริ่มรู้ว่ามันไม่แน่นอน เลยหาอย่างอื่นทำดีกว่า เพราะถ้าเราไม่เก่งจริงๆ รอดยาก ซึ่งผมก็ไม่เก่งมากดังนั้นเลือกเดินสายเป็นการขาย equity market ซึ่งไม่ดิ้นรนไรมาก ก็น่าจะพอใจกว่า
จากคุณ :
กก
- [
17 ก.ค. 49 15:58:48
A:210.203.170.70 X: TicketID:121364
]
|
|
|