ความคิดเห็นที่ 1 คือเนื่องจากช่วงนี้ ค่อนข้างยุ่ง ถึงยุ่งมาก ทำให้ไม่มีเวลาเรียบเรียงข้อความสักเท่าไร ก็ขออนุญาตตั้งเป็นคำถามไว้ว่า "แปลงร่างอย่างไร ไม่ให้พอร์ทเสียสมดุล?" ผมเข้าใจว่าหลาย ๆ ท่านที่กำลังมีปัญหาพอร์ทไม่สมดุลอยู่ตอนนี้ (รวมตัวผมเองด้วยง่ะ) ปัญหาหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าเป็นจุดสำคัญก็คือ เรื่องการแปลงร่างนี้แหละ ก็ลองช่วยกันคิด กันแสดงความเห็นกันครับ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 31 ก.ค. 49 17:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พึ่งออกแรงวิดบ่อปลา กันหยกๆ จะแปลงร่างกันแล้วหรือครับ ตัวไหนที่ผมแปลงไปแล้ว เงินที่จะมาซื้อคืน ต้องเป็น เงินแฝง หรือเงินก้อนใหม่เท่านั้นครับ มิฉะนั้น ผมจะงงเอง จากคุณ : italy - [ 31 ก.ค. 49 19:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวใหนที่ผมแปลงไปแล้วจะไม่เอายอดเงินที่ขายได้มารวมกับยอดเงินของหุ้นที่รอซื้อคืน จะเก็บไว้แค่จำนวนกับราคาที่เคยขายไปเท่านั้น การลงบัญชีใน Excel ผมจะใช้สีเหลือง Highlight เอาไว้ วิธีนี้ทำให้ผมคุมกระแสเงินหมุนเวียนได้ตามแผน การซื้อคืนก็ต้องใช้เงินแฝงหรือจากการแปลงร่างมาจากตัวที่มีราคาสูงกว่าเท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 21:24:29 จากคุณ : พ่อแก่ - [ 31 ก.ค. 49 21:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 5555 ขำๆ พี่ อิท ทำเอง งงเอง ............................... พี่แมงเม่า วิดบ่อไม่ทันไร  น้ำก็ลดอีกแล้ว คันบ่อใหม่เริ่มโผล่   ใช้เท้าอันน้อยนิดช่วย กระทืบ เพดานน้ำ  ให้ลดลง ๆ ๆ ยังกะมดสู้ช้าง ไงก็ไม่รู้ ช้างจะไปรู้สึกได้ไง เราเป็นเพียงเม็ดทรายเม็ดเดียวบนชายหาด คงต้องปรับที่แผนของตัวเราเอง สถานการณ์นี้ถ้าแปลงร่างไม่ถูกจังหวะคงได้รับผลเสีย มากกว่าผลดี ..................................... จากคุณ : ขวัญชัย - [ 31 ก.ค. 49 21:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นึกถึงเกมหมากรุก หรือหมากอื่นฯ การเล่นหมากให้ชนะ บางครั้งต้องยอมให้โดนกิน แต่โดนกินก็ต้องมีแผนว่าโดนกินเพื่อให้เกิดอะไร ถ้าไม่เดินก็จะไม่เกิดผลแพ้ชนะ ผมคิดว่าเล่นดีเอสเอ็มหรือหุ้นเป็นเกม ทำไงตอนท้ายถึงชนะสนุกดีครับ 555 หัวใจของการแปลงร่างพอร์ตต้องไม่สะดุด บุกไปแล้วพลาดต้องแก้ได้เหมือนเกมหมาก เริ่มเห็นอะไรที่แหวกแนวแถมบ้าฯดีด้วย(คิดเอง) แต่ต้องมีแผนแน่นอนรองรับและใช้ได้เมื่อโอกาสมาถึงเท่านั้นใช้ไม่ได้ทุกตัว ยังไม่ได้ใช้นะครับคิดไว้เมื่อโอกาสมาถึงจึงจะใช้ อิอิ แต่คิดว่าทำให้ผลมันเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ต้องถามผมนะครับ 555 ขอลองคนเดียว เมื่อโอกาสนั้นมาถึง จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 1 ส.ค. 49 08:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "แปลงร่างอย่างไร ไม่ให้พอร์ทเสียสมดุล?" ถามง่ายแต่ตอบยากครับ........... ตามความคิดผมในตอนนี้ ผมไม่อยากแปลงร่างอย่างสุดๆ.........  (แบบว่ากลัวจนขยาดไปแล้วอ่ะครับ......อิอิ.........เหตุผลก็ตามที่เขียนไว้ในกระทู้ที่คุณแมลงเม่าทนไฟทำลิงค์ไว้นั่นแหละครับ) ถ้าเป็นหมากรุก ตอนนี้ ผมเสียเบี้ย เสียม้า ไปหมดแล้ว เหลือแต่ขุนกะโคน แถมด้วยเม็ดน้อยๆ อีกเม็ดหนึ่ง ส่วนเรือก็กำลังส่งไปลุยอยู่  (ทำท่าว่าจะเสียเรืออีกหรือเปล่าก็ไม่รู้...อิอิ) แต่การเปรียบ DSM กะหมากรุก ผมว่าก็ยังไม่ตรงนัก  เพราะหมากรุกเสียหมากแล้วเสียเลย  น่าจะเปรียบกับเกมโกะมากกว่า  ที่เสียหมากเพื่อสร้างโอกาสได้แต้มในอนาคตได้  (อิอิ  เล่นไม่เป็นหรอกครับ  แต่อ่านเอาจากการ์ตูน ฮิคารุ เซียนโกะ  น่ะ  เอิ๊กๆๆ) ผมเห็นด้วยกะพี่ลำชีครับ  (เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ที่เห็นด้วย  อิอิ)  บางครั้งต้องยอมโดนกินแต่ต้องมีแผนว่าโดนกินเพื่อให้เกิดโอกาสในอนาคต  ถ้าโดนกินฟรีๆ ก็เสียเปล่าซิครับ โดยการสังเกตของผมเห็นว่า  เมื่อเราพูดถึงการแปลงร่าง ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเป็นเวลาที่เรามีเงินสดแฝงอยู่ในมือมากแล้วรู้สึกเสียดายว่ามันไม่น่าจะนอนอยู่นิ่งๆ หรืออาจจะเสียดายที่ซื้อคืนไม่ได้เนื่องจากราคามันสูงเกินไป ตรงนี้ถ้าผลีผลามเอาเงินตรงนั้นมาแปลงร่างโดยไม่มีแผนการที่ดี พอร์ทก็จะเสียสมดุลย์ไปเลยครับ เพราะเงินส่วนที่เก็บไว้นั้น มีประโยชน์แน่นอน เหมือนหมากกลที่เราซ่อนอยู่ รอเวลาเพื่อจะรุกฆาต หรือเหมือนกองทัพที่เรานำไปวางกำลังซุ่มดักรอโอกาสอยู่ ดังนั้น ถ้าเราเอาหมากที่ซ่อน กองกำลังที่ซุ่มอยู่ไปทำอย่างอื่นซะ  ด้วยเผลอไปว่าเป็นกองกำลังที่ว่างจากภารกิจ นั่นก็จะทำให้การดำเนินทัพเสียรูปขบวนไป  ...........  (อืมม์ เปรียบได้ดีแฮะ....เอิ๊กๆ  ชมตัวเอง) การแปลงร่างที่ไม่ส่งผลกระทบ  ก็น่าจะเหมือนกับการนำเชลยศึกที่ได้หลังจากการเข้ายึดเมืองใดเมืองหนึ่งได้เรียบร้อยแล้ว  ไปแปลงร่างหรือไปฝึกเป็นทหารเข้ายึดเมืองอื่นต่อไป  ไม่ใช่จากการนำกำลังจากทัพเดิมที่เราจัดให้ซุ่มอยู่ไปแปลงครับ    ...........  อิอิ  จะเข้าใจไหมอย่างที่ผมอยากสื่อเนี่ย........ฮ่าฮ่าฮ่า  หรือจะงงเต็กไปเลย......เอิ๊กๆๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผมว่ามาทั้งหมด เกิดจากประสบการณ์และความคิดที่ผ่านมาไม่นานนักเท่านั้นนะครับ  อาจจะจำกัดด้วยเหตุการณ์ สถานการณ์  ดังนั้น  มีโอกาสที่ผมจะคิดผิดได้สูงมาก  จึงโปรดพิจารณาให้ถ่องแท้ และรอบคอบก่อนด้วยนะครับ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 1 ส.ค. 49 09:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ละเลยไม่ได้เลยครับเงินสดต้องมีเพื่อประกันว่ามันไม่ขึ้น การลงทุนต้องมีประกันความเสี่ยง ทำอะไรต้องมีประกัน เหมือนพ่อรวยสอนไว้ 555 ถือหุ้นเต็ม ไม่เหลือเงินสด เสี่ยง และเราคิดว่ามันจะขึ้นมากกว่าลงหรือกลัวว่ามันไม่ทำงาน มันทำงานเพื่อประกันครับว่ามันไม่ขึ้น จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 1 ส.ค. 49 10:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านไปอ่านมา กลายเป็นว่าพี่ ๆ เข้าใจว่าผม มาแนะนำให้แปลงร่างหรือเปล่า ขอบอกว่าผมมิได้มีเจตนาเช่นนั้นนะครับ เพราะของผมเองก็หยุด ไม่ได้ แปลงร่างมานานพักใหญ่ ๆ แล้ว (เป็นหลายเดือนแล้ว) ที่มาตั้งกระทู้ เรื่องแปลงร่างนี้ ก็พอดีเห็นเริ่มมีการพูดถึงในกระทู้ของพี่ห่านฯ ก็เลย อยากดึงออกมา เป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะนะครับ เพราะผมคิดว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว สำหรับ DSMers มือใหม่ ๆ ประสบการณ์ ชั่วโมง DSM ยังน้อย ที่กำลังคิดจะแปลงร่าง จะได้มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ไว้ประกอบ ก่อนตัดสินใจ ผมเชื่อว่าถ้าหลังจากนี้ ถ้า SET กระชากกลับพ้น 700 เมื่อไร หลาย ๆ ท่าน จะเริ่มมีความคิดในการแปลงร่าง ก็เลยอยากจะให้พี่ ๆ ที่ชั่วโมงบินสูง ๆ ผ่านการลองผิด ลองถูกมาแล้ว มาให้แนวคิด ให้มุมมองไว้ล่วงหน้าน่ะครับ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 1 ส.ค. 49 18:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอถาม ครับ....ตีความไม่ออก ใช้จินตนาการตามไม่ทันจริงๆ ครับ... อะไรคือ..ถมบ่อ ,วิดน้ำ ,จับปลา ,คันบ่อ ,ก่อกำแพง ,สร้างบ่อใหม่.. เพดานสูง..เข้าใจว่าคือ กองหลัง ตัวบน.. น้ำท่วม...คือ ราคาวิ่งขึ้น โดยเก็บ กองหลังล่าง และ กองกลางไม่ทัน... แล้ว...ตัวเพดานสูงจะซื้อคืนตอนไหน..... จังหวะตลาดก็ เดาไม่ได้...แล้วมันมีสัณญาณไหมว่าจะ ต้องเก็บ กองหลังตัวบนแล้ว..... ตอนนี้มีปัญหาในการเพิ่ม หุ้น ....ช้ามาก ทำให้ port ไม่โต....และทำให้ไม่มีกำลังในการสร้าง กสงฝ .. เลยอยากทราบว่า...ท่านพี่ทั้งหลายแก้ปัญหานี้อย่างไร ครับ...ช่วยชี้แนะด้วยครับ ปล.ใช้ DSM มาปีกว่าแล้ว...ยังไม่ไปไหนเลย..5555 จากคุณ : ซูโม่... - [ 2 ส.ค. 49 11:15:42 A:58.9.59.35 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอิ๊กๆ  ผมใช้มาร่วมจะสองปีแล้ว  ก็ยังไม่ไปไหนเลย  อิอิ บางครั้งดูเหมือนว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง  แต่กลับสะดุด  ต้องมาเริ่มต้นใหม่........   ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็เนื่องจากต้องการเร่ง Port  เร่ง กสงฝ. ให้โต ให้ได้ตามที่ใจนึก... คุณซูโม่  อย่ากังวลไปกับคำเปรียบเทียบเหล่านั้นเลยครับ คำทั้งหลายต่างก็แสดงภาพความเข้าใจ DSM ของแต่ละคน และใช้กล่าวออกมาเพียงเพื่อสื่อให้คนอื่นได้เข้าใจตาม......  บ่อยครั้งที่มักจะตามไม่ทันเพราะมีความเข้าใจในเรื่อง DSM ไปกันคนละทาง   ถ้าใครที่มีความเข้าใจไปในทางเดียวกันเขาก็จะสื่อให้เข้าใจด้วยกันง่าย เมื่อก่อนกว่าผมจะเข้าใจไอ้เจ้า  3-0-2-8  ก็ต้องใช้เวลาตั้งนาน เพราะผมเล่นบอลไม่เป็น ดูบอลก็ไม่เป็น  (อิอิ  เป็นหนึ่งในกลุ่มคนจำนวนน้อยของประเทศไทยที่ไม่ชอบเล่นกีฬา) ส่วนในเรื่องการเก็บคืนหุ้น ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะของแต่ละคนอีกครับ หลักการคร่าวๆ ที่หลายๆ คนใช้กัน ก็คือ เมื่อหุ้นต่ำกว่าที่เคยขายไป 5 ช่อง ก็เริ่มเก็บ  แต่ไม่ได้เก็บหมด เก็บแล้วเหลือทิ้งด้านล่างไว้ 3 ไม้ หลายๆ คน บอกว่าเมื่อหุ้นในมือน้อยกว่า 50% ก็เริ่มเก็บ เก็บให้ได้ 70%   อีกหลายๆ คนบอกว่า ปล่อยยาวลงไปเลย แม้หุ้นจะหมดมือก็ตาม แต่จะเก็บคืนเมื่อหุ้นผงกหัวจากจุดต่ำขึ้นมา 4 ช่อง หลักการก็เป็นไปตามนั้น แล้วแต่ว่าใครจะใช้หลักไหน แต่ว่าเวลาทำจริงๆ ก็จะสับสนอีก เพราะ หุ้นบางทีมันขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบแคบๆ  ตรงนี้แหละที่จะทำให้เราสับสนว่าจะซื้อคืน หรือจะขายดี   ก็คงต้องปรับปรุงไปตามจังหวะ และจินตนาการของแต่ละคนล่ะครับ ไม่แน่ว่าวันหนึ่ง คุณซูโม่ อาจจะมา Post บอกก็ได้ว่า    การเล่น DSM เหมือนกับอะไรซักอย่าง............  แล้วคนอื่นก็จะเอาจินตนาการของคุณซูโม่ไปคิดต่อ ตลอด 2 ปีกว่า ที่ DSM ถูกถ่ายทอดออกมา ก็มักจะเป็นการตีความต่อๆ กันมาในลักษณะนี้ตลอดครับ เอ  พล่ามมาซะนาน ไม่รู้ว่าช่วยอะไรคุณซูโม่ได้บ้างหรือปล่าว  ....   จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 2 ส.ค. 49 13:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชักเงินออกนอกโต๊ะทุกครั้งที่มีโอกาส เก็บเล็กผสมน้อย (แปลงร่างเป็นเงินสด) จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 2 ส.ค. 49 14:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ พี่คนล่าห่าน.....คือว่า เบสิกการซื้อคืนเบื้องต้นนั้น พอจะเข้าใจครับ...แต่ว่า ชุดกองหลังบนเพดาน ของผมนี่ stec 6.80 * 2,000 หุ้นนี่.. และ itv 4.90 * 3,000 หุ้น.. จะทำไงกับมันดี ตอนนี้มี stec ในมือ 3000 กองหลังล่างที่โดนน้ำท่วมอีก 4000 หุ้น ส่วน itv ถือไว้ 3000 + กองหลังล่างอีก 2000 หุ้น... หากไม่เก็บคืน ราคาวิ่งขึ้นมา กสงฝ จะน้อย.... หากเก็บคืน ...ราคาวิ่งลง ก็ได้ กสงฝ น้อยอีก จะยึดอะไรเป็นหลักดีครับ....ระหว่าง จำนวนหุ้น หรือ กสงฝ... จากคุณ : ซูโม่... - [ 2 ส.ค. 49 15:25:24 A:58.9.59.35 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดี..พี่เต่าหยวนเปียว ด้วยครับ..... ทุกวันนี้ก็พยายามอยากจะชักทุนออกครับ... แต่ port มันเล็กเหลือเกิน....กสงฝ ที่ได้มาจึงต้องนำไปซื้อ หุ้น เพิ่มหมด ครับ... ไว้มันโตเมื่อไหร่......จะดึงทุนคืนแน่นอน ครับ.... ปล...เล่นเพิ่ม หุ้น โดยไม่ชักทุนออกนี่..อันตรายไหมน๊อ... จากคุณ : ซูโม่... - [ 2 ส.ค. 49 15:35:53 A:58.9.59.35 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับพี่ซูโม่ เงินเป็นเรื่องของอารมณ์ จะชักออก หรือไม่ชักออกนอกโต๊ะ ไม่น่าเป็นประเด็นเท่าไหร่ครับ ขึ้นอยู่กับแผนการของแต่ละคน จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 2 ส.ค. 49 16:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอตอบที่คุณซูโม่ถามว่า เล่นเพิ่มหุ้น โดยไม่ชักทุนออกนี่ อันตรายไหมน๊อ... จากประสบการณ์ผม ถ้าอยู่กับหุ้นตัวเดียวตลอด และไม่คิดจะแปลงร่างเลย ไม่ชักเงินออกเลย ก็ไม่น่าจะอันตรายเท่าไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่า หุ้นตัวนั้น ต้องเป็นหุ้นประเภทหนังเหนียวนะครับ คือมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่จะเจ๊ง หรือถูกแขวนระยะยาว หรือถูก delist ถูก tender ออกจากตลาด ในทางตรงกันข้าม ถ้าเอากรณีนี้ไปใช้กับร่วมกับการแปลงร่างนี่ ผมว่า อันตรายมาก ๆ แปลงถูก แปลงปุ๊บหุ้นวิ่งขึ้นปั๊บ ก็ดีไป แปลงผิด แปลงปุ๊ป โดนทุบลงมาอีก ก็......... จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 2 ส.ค. 49 17:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จะยึดอะไรเป็นหลักดีครับ....ระหว่าง จำนวนหุ้น หรือ กสงฝ... จากคุณ : ซูโม่... --------- เรื่องคล้ายๆ กันนี้พี่ลำชีเคยตอบไว้ในกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I4507279/I4507279.html คุณซูโม่  ลองอ่านดูนะครับ  เผื่อจะได้คำตอบ........   สำหรับผม  ยังก้ำกึ่งอยู่เหมือนกันว่าจะยึดอะไรเป็นหลักดี  เพราะทำไปทำมา  มันน้อยลงไปทั้งคู่  เอิ๊ก ก  ก  (ไม่ใช่หัวเราะลงคอ...  แต่เป็นลมตีขึ้นมาจุกที่คอ..อิอิ) จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 2 ส.ค. 49 18:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สาเหตุ ว่าทำไป ทำมา ทั้งหุ้นทั้ง กสงฝ  ลดลงไป เพราะ 1.  ราคาหุ้นสูงขึ้น 2.  หุ้นหมดมือ  แล้วเอาเงินไปซื้อคืน โดยผลีผลาม  (ซื้อดอยด้วยล่ะ) 3.  พอซื้อแล้วราคาลงมา ก็นั่งทำงงๆ  ไม่รู้ว่าจะทำไง  ทั้งๆ ที่รู้ว่าควรจะทำยังไง.........  อิอิ 4.  พอราคาลงมามากๆ ถึงเพิ่งจะทำตามที่ได้เคยรู้มาว่าควรจะทำไง... 5.  แต่พอทำตามที่รู้ว่าควรจะทำไงแล้ว  ราคามันดันดีดกลับไปอีก  หุ้นก็หมดมืออีก 6.  ก็เลยตามไปซื้อที่ดอยอีก 7.  แล้วหุ้นก็เล่น ไซด์เวรย์  ลงมาอีก  ก็รีบทำตามที่เคยรู้ว่าจะทำไงอีก 8.  หุ้นดันดีดขึ้นไปอีก  มรึน ตรึ๊บๆๆ    หมดเงินซื้อตามแล้ว  ได้แต่รอดูมันขึ้นไป  แล้วก็ขายตามไปอีก 9.  ทีนี้ซื้อคืนก็ไม่ได้  รอขายอย่างเดียว  แต่รออย่างเดียวนี่คงนานแน่ๆ เลย เพราะมีหุ้นอยู่ในมือแค่ 20%  กะรายการซื้อคืนไม่ได้ยาวเป็นหางว่าว  ในขณะที่ กสงฝ. ก็ถูกนำมาผลาญไปเรียบวุธ  .....   นี่แหละครับ  ที่มาของการที่ เงินก็หมด หุ้นในมือก็น้อย............... จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 2 ส.ค. 49 18:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบพี่ คนล่าห่าน..ครับ สถานะการและพฤติกรรม...แบบเดียวกัน เป๊ะ... โดนหมดทั้ง 9 ข้อ ดังกล่าว....นี่แถมอีกครับ 10. เก็บคืนเร็วไป นอกจากซื้อดอยและโดนเขย่าเอาของแล้ว... เนื่องจากมี หุ้น ในมือน้อยพอราคาลงมาแล้วนิ่ง...เอ้าเก็บ กองกลางเดิมก่อนดีกว่า... ที่ไหนได้...เก็บมาปุ๊บ....ลงต่อปั๊บ จะขายก็ไปทับกับ กองหลังเดิม....จะซื้อก็ไม่กล้าเพราะยังแดงอยู่.. รอไปรอมา .. หุ้นขึ้น เกิดอาการขาตายซะงั้น..... สงสัยทำการบ้านไม่ดีพอรึไง.....ซื้อดอย - ขายพื้น เป็นเรื่องธรรมดาของ DSM หรือไง......เฮ้อ จากคุณ : ซูโม่... - [ 2 ส.ค. 49 20:49:14 A:58.9.71.58 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดี พี่แมลงเม่าทนไฟด้วยครับ... ตอนเริ่มใช้ DSM ก็คือ stec และ true ทุกวันนี้ก็ยังอยู่กับทั้ง 2 ตัวนี้... แต่ก็มีที่ ซี้ซั๊วแปลงกายไปบ้าง แตกตัวออกมาบ้าง .... ตามประสามือใหม่ครับ...แต่สุดท้ายหลักๆ ก็กลับมาที่ 2 ตัวนี้เหมือนเดิม ครับ... คิดว่ามูลค่า port ช่างมัน จำนวน หุ้น ต้องไม่ลดลง.. แต่ประสิทธิภาพของ port กลับลดลงแทน.... เลยไม่ค่อยมั่นใจในแนวทางการปฎิบัติของตัวเอง.... เลยต้องมาขอคำชี้แนะจากท่านพี่ทั้งหลาย......ครับ จากคุณ : ซูโม่... - [ 2 ส.ค. 49 21:04:58 A:58.9.71.58 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาช่วยคิดนะครับคุณ ซูโม่.. stec 6.80 กองหลังด้านบน 2,000      = 2/9  =22.2% stec ..... กองหลังด้านล่าง 4,000       = 4/9 =44.44% stec        กองหน้า           3,000       = 3/9 =33.33% ราคาวันนี้ ปิดที่ 5.50 คำถาม  เงินที่ขายstec 2,000 ที่ 6.80 ยังรอจะซื้อคืนไม๊ครับ ?ได้ 26 ช่องแล้วโดยประมาณ 19.11% คำตอบ ๐ราคา 6.80 นั่นคือ กำแพงบ่อ(กองหลังด้านบน) ๐ถ้าเอาเงินซื้อวันนี้ คืนมา 2,000 หุ้น นั่นคือ วิดบ่อจับปลา   ๐เมื่อวิดบ่อแล้ว ก็ไม่มีกองหลังด้านบน  เหลือแต่กองหลัง ด้านล่าง ก็เหมือนกับถมบ่อไปต้องไปทำให้เกิดบ่อใหม่ ........................................................................ "เราขาย-ซื้อ ตามเบสิคไปเรื่อยๆ ถ้าราคาหุ้นมันเปิดแก๊ป ลงมา  เราก็ไม่ต้องรีบไปซื้อคืนที่เพราะ ราคามันทำให้ เกิดช่องว่างในบ่อตกปลาให้เราเองแล้ว    ต่อไปถ้าราคา ขึ้นๆลงในกรอบแคบๆ เราก็ซื้อคืนเฉพาะที่ขายไปใน กรอบแคบๆ เช่นเก็บ 4ช่อง 5 ช่อง ก็ตามแต่ต้องการ" ......................................................................... "ถ้าราคาขึ้นๆลงในกรอบแคบๆ แนะนำให้เล่นแบบแย็บๆ 1% 2% (สังเกตุดูวอลุ่มเขาจิ้มกันเล่นๆ เจ็ดแปดพันล้าน) ถ้าราคามันรูดลงต่อ หรือ ราคาวิ่งไล่ขึ้นแรง เราจะรู้ตัวดีกว่า อยู่ป่าวๆ" ......................................................................... "ฝึกไปจะชำนาญไปเอง  ผิดถูกก็ไม่ต้องกลัว" ......................................................................... "ถ้ามีความรู้สึกว่าตื่นเต้น ที่ตลาดจะเปิดเทรด เหมือนรอ คอยที่จะได้เล่นเกมส์ที่ตัวเองชอบ ก็เป็นอินดิเคเต้อที่ แสดงว่า ใกล้แล้ว  เพราะคุณเริ่มสนุกกับอาชีพของคุณ" ...................................................................... "  5...5...5...5  " จากคุณ : ขวัญชัย - [ 2 ส.ค. 49 22:10:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบอ่านข้อเขียนของพี่ห่านจังเลยครับ เห็นภาพชัดเจนมากๆ   เหมือนกับ ประสบการณ์ แบบ โชกโชนเลยครับพี่ อิอิ.. จากคุณ : DerDen - [ 3 ส.ค. 49 03:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดี พี่ขวัญชัยครับ.....และพี่ DerDen ครับ.. ได้คำตอบที่ทำให้เห็นช่องทางมากขึ้นเลยครับ...และขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ.. และขอยืนยันอย่างมั่นใจว่า.....ทุกวันนี้ยังรู้สึก..สนุกมาก...กับการบริหาร port อยู่ครับ... จากคุณ : ซูโม่... - [ 3 ส.ค. 49 11:13:53 A:58.9.59.220 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ทราบว่า มีหลักในการใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มตอนไหน ถึงจะมีประโยชน์สูงสุด...ครับ เพราะของผมใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มทุกเดือน แต่รู้สึกไม่ค่อยได้ผลดีต่อ port เท่าไหร่ อะไรเป็นตัวบอกว่าเราควรใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มแล้ว...ครับ จากคุณ : ซูโม่... - [ 3 ส.ค. 49 12:38:39 A:58.9.59.220 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณพี่ DerDen ครับ...... แค่เหมือนกับ ประสบการณ์ แบบ โชกโชน เท่านั้นนะครับ.......... ส่วนของจริง ผมก็แค่ แบบ ชิลล์ ชิลล์  เท่านั้นเองอ่ะครับ........... สู้หลายๆ ท่านไม่ได้  อย่างพี่ลำชีงี้ พี่แมลงเม่าทนไฟงี้ พี่ขวัญชัยงี้ พี่อิทตาลีงี้  อูย ........  พวกนั้นนะ  ประสบการณ์โชกโชนของจริงครับ...  เอิ๊กๆๆ (หัวเราะ) จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 3 ส.ค. 49 12:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากเข้ามาตอนเที่ยงแล้ว ก็แวะมาตอนปิดตลาดอีกครั้ง เข้ามาปั่นกระทู้ให้พี่แมลงเม่าทนไฟ ถ้าถามว่า  อะไรคือเป็นสิ่งที่ทำให้ DSM เห็นผลช้า  คำตอบก็คงเป็นแบบ คห.17 กะ 18 งั้นถามใหม่ อะไรจะทำให้ DSM เห็นผลเร็ว คำตอบ....... ก็คงต้องทำตรงข้าม คห. 17 กะ 18 มั้ง ทำอะไรมั่ง ก็ต้อง.......... 1.  ขายให้ไว หลังจากซื้อแล้ว ราคาไม่ขึ้นไปต่อ  นั่นหมายถึงว่า เมื่อได้เริ่มซื้อคืนแล้วไม่ว่าจะเป็นกี่ไม้ก็ตาม ถ้าราคาตก ก็อย่าลังเล 2.  ซื้อให้ไว  หลังจากทยอยขายไปแล้ว ถ้าราคาเริ่มขึ้นอย่าลังเลที่จะซื้อตาม โดย....               2.1 คนที่มีขอบบ่อด้านบนอยู่แล้ว คงไม่ลังเลมาก  แต่จะลดขอบบ่อด้านบนลงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ หากไม่อยากเดาตลาดมาก ก็ค่อยๆ ทยอยซื้อ                2.2 คนที่ไม่มีขอบบ่อ  ให้สำรวจกระเป๋าตัวเอง  และสำรวจจิตใจตัวเองว่ากล้าเสี่ยงไหม  (เป็นนักเก็งกำไรเต็มตัวหรือเปล่า) แล้วตัดใจทยอยซื้อโดยยึดหลักข้อ 1 ไว้ให้ขึ้นใจ 3. เมื่อไรก็ตามที่ทำตามข้อ 2 แล้ว ราคาหุ้นไม่ขึ้นไป หรือขึ้นไปแล้วหักหัวลง ให้รีบทำตามข้อ 1ทันที 4.  ในกรณีซื้อคืน ควรจะต้องถูกกว่าที่ขายมากกว่าประมาณ 3 หรือ 5 ช่องเสมอ หรือยิ่งมากยิ่งดี (ในกรณีที่หุ้นเป็นขาลง) แต่ถ้าเป็นขาขึ้นเมื่อไรอาจจะต้องซื้อแพงกว่าขาย  จะต้องยอมรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเสมอ  และในกรณีที่ต้องการจะซื้อแพงกว่าขายควรจะระวังราคา ถ้าไม่เป็นไปตามที่คาดว่าจะขึ้น (ส่วนใหญ่จะซื้อเพราะเดาว่ามันจะขึ้น......แม้เจ้าสำนักจะห้ามเดาแต่ลูกศิษย์ก็ยังชอบเดา) ดังนั้น ถ้าเดาพลาดต้องขายให้ไว ก็จะลดอัตราความเสียหายลงได้ 5. อะไรอีกดีล่ะ  อ้อ  สัดส่วนไม้ละ 10% เป็นสัดส่วนที่น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว  ถ้าซื้อแล้วพลาด เมื่อทยอยขายลงไปเรื่อยๆ  จะเสียหายประมาณ 10-15% ของเงินลงทุน  เมื่อเสียหาย สมมติว่า ได้รอจนกว่าจะมั่นใจว่าเป็นขาขึ้นจริงๆ แล้วซื้อคืน ส่วนต่างที่ได้ จะชดเชยผลขาดทุนได้พอสมควร และเมื่อราคาขึ้นมาจริงๆ การทยอยขายในราคาบนๆ  ก็จะสร้างข้อมูลรอไว้  เมื่อกลับมาซื้อคืนอีกรอบ ก็จะสร้างให้เกิด กสงฝ. เป็นรายได้ตัวจริง ทยอยชดเชยความเสียหายในรอบแรกได้เอง...........  ถ้าใช้สัดส่วนที่มากกว่าหรือน้อยกว่า 10%  จะควบคุมผลเสียหายได้ยาก ในกรณี ที่เจ้ากระชากราคาขึ้นสูง หลังจากได้ตบลงไปเพื่อเก็บของเรียบร้อยแล้ว  (อืมม์  อันนี้จากประสบการณ์จริงนะ...  ส่วนอันอื่นจากการคิดเอาเอง... ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเชื่อไม๊  คิดก่อนเชื่อด้วยล่ะ..... เอิ๊กๆๆ) 6.  ข้อควรจำ.... ไม่มีใครบอกได้ชัดๆ หรอกว่าจะซื้อคืนตอนไหน ต้องทดลองเอง การซื้อคืน เป็นดาบสองคม  ในกรณีที่ซื้อคืนแล้วราคาขึ้น เท่ากับเป็นประโยชน์  แต่ถ้าซื้อคืนแล้วราคากลับตกไปอีก จะเกิดผลเสียหายต่อเงินลงทุน และกระทบต่อรายได้ที่อุตสาห์สะสมไว้ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรทยอยซื้อคืนเป็นระยะ แต่ถ้ามั่นใจว่ารู้นิสัยหุ้นตัวนั้นแล้ว  ก็ซื้อคืนรวดเดียวก็ได้ 7.  ข้อควรจำอีกข้อหนึ่ง....  ข้อมูลการขายด้านล่างที่ราคาต่ำสุดในชุดข้อมูล หรือกองหลัง หรือขอบบ่อด้านล่าง หรือจะเรียกอะไรก็ได้ ไม่ควรจะมีมากเกินไป อัตรา 30% หรือ 3 ไม่เป็นอัตราที่ปลอดภัยที่สุด เพราะจะมีหุ้นอยู่ในมือเสมอ 70%  ไว้รอจังหวะราคาขึ้น  ...... การปล่อยให้มีชุดข้อมูลด้านล่างมากๆ  ไม่เป็นผลดี  ยกเว้นว่าหุ้นตัวนั้นเจ้าไม่ค่อยโหด 8.  ข้อควรจำสุดท้าย..... (ให้จำเยอะๆ).... อย่าเชื่อที่เขียนมาทั้งหมด 7 ข้อข้างต้นโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน  เพราะคนเขียนไม่ได้เป็นเซียนหุ้น ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง DSM มากไปกว่าคนอื่นๆที่กล่าวไว้ใน คห.24  และที่สำคัญ ไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าสำนักว่าเป็นศิษย์เอกรุ่นที่ก้นกุฎิแต่อย่างใด   พี่ๆ DSM mers  ท่านอื่นๆ  ลองเข้ามาแจม  ข้อควรทำเพิ่มเติมกันดีไหมครับ  เผื่อจะได้ช่วยให้พวกเราให้ยืนหยัดสู้ Mr.market ได้บ้าง............. คำขวัญ...   ถ้าแมงเม่าไทยไม่ช่วยกัน ซักวันตลาดทุนคงไม่ใช่ของแมงเม่าไทย...........     เอิ๊กๆๆ  เข้ากันไหมเนี่ย     จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 3 ส.ค. 49 18:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันนี้ยืน 700 ได้ละ ใครที่เริ่ม ๆ มีความคิดจะแปลงร่าง แต่ยังไม่มั่นใจ ก็ลองโพสต์ ขอ idea จากพี่ ๆ เค้าได้นะคร้าบบบบบ ส่วนของผม ขอยืนกรานนนนนนนน ว่ายังคงงดกระบวนท่าแปลงร่างกั๊บ เฮ้อ.....ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลา มีโอกาสได้เกาะกระดานเล๊ยยยยเรา แล้วงี้เมื่อไรเงินซื้อหุ้นมันจะได้ใช้ซื้อให้หมดซะทีนะ แบบนี้แมลงเม่าทนไฟ indicator ก็ไม่ได้สำแดงเดชซะทีน่ะสิ อุ อุ อุ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 3 ส.ค. 49 18:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่ะ...โพสต์เสร็จปุ๊บ ก็เห็นพี่ห่าน มาช่วยปั่นกระทู้ให้ ผมขอเห็นเพิ่มเติม ในเรื่องของกองหลัง 30% ที่พี่ห่านว่าไว้ในข้อ 7 ว่า ในความเห็นผม 30% ไม่น่าจะเป็นตัวเลขที่ต้อง concern มากนัก สิ่งที่น่าจะห่วงมากกว่าก็คือ กองหลังที่ทิ้งไว้ในแต่ละระดับช่วงของราคา คุ้น ๆ ประมาณว่า เคยแอบได้ยินท่านอาจารย์ พูดประมาณว่าจะเริ่มขายใหม่ (ทิ้งกองหลังครั้งใหม่) เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปมากกว่า 15-20 ช่อง แล้วหักหัวลง ตรงนี้ผมตีความว่า ท่านอาจารย์เห็นว่าในช่วงราคาระหว่าง 15-20 ช่องนี้ จำนวนที่เหมาะสม ในการวางกองหลังไว้ ไม่น่าจะเกิน 30% ของจำนวน หุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดขนาดนั้น โอยย เริ่มงงเอง 5 5 5 5 5 เอาว่า ผมสรุปตามแบบฉบับของผมเองว่า ผมไม่ได้ดูจำนวนว่า ผมทิ้งกองหลังไว้แล้วกี่ % แต่ผมจะดูว่า ในแต่ละช่วงราคา ผมทิ้ง กองหลังไว้แล้วมากน้อยขนาดไหน แล้วกองหลังเหล่านั้นส่งสัญญาณ ให้ผมได้ครอบคลุมแค่ไหน จบ.... จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 3 ส.ค. 49 18:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับ      สัดส่วนกองหลัง ได้มานั่งคิดดูแล้วว่าหากปล่อยทิ้งไว้ 30 % สบายใจดีครับ อาจจะเกิดจากความเคยชิน อิอิ หากอยู่ในช่วงขาลงจะขายอย่างเดียวเลยครับ แต่ถ้าขึ้นจะิ้ทิ้งไว้ 30 % วันหน้าค่อยมาเก็บคืน ไม่รู้ว่าผมคิดง่ายไปป่าว หุหุ จากคุณ : wayu_w - [ 3 ส.ค. 49 21:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 29 "ไม่ทราบว่า มีหลักในการใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มตอนไหน ถึงจะมีประโยชน์สูงสุด...ครับ เพราะของผมใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มทุกเดือน แต่รู้สึกไม่ค่อยได้ผลดีต่อ port เท่าไหร่ อะไรเป็นตัวบอกว่าเราควรใช้ กสงฝ ซื้อหุ้นเพิ่มแล้ว...ครับ จากคุณ : ซูโม่... - [ 3 ส.ค. 49 12:38:39 A:58.9.59.220 X: TicketID:111462 ]" ช่วยตอบคุณ ซูโม่หน่อยคร้าบ....... ผมเองก็อยากรู้คร้าบ อิอิ.............. ผมก็นำคำพูดของพี่เทพมาเหมือนเดิมครับ ซื้อเพิ่มเมื่อหุ้นตัวนั้นเหลือน้อยครับ หมายถึง ขายขาขึ้นจนเหลือเพียง 10 -20 เปอร์เซ็นต์ ประมาณนี้ครับที่จำได้ แต่เท่าที่สังเกตพี่เขาก็มีแนวทางว่าอยากเพิ่มให้หุ้นทุกตัวมีอย่างต่ำ 10000 หุ้นครับ ก็เลยเกิดแนวทางในการเพิ่มหุ้นว่า อ่า..เดือนนี้เพิ่มตัวนี้ เดือนนั้นเพิ่มตัวนั้น ประมาณนี้ครับ จากคุณ : DerDen (DerDen) - [ 4 ส.ค. 49 03:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จาก ความคิดเห็นที่ 29 ที่คุณderden ตอบไว้ถูกต้องมันเป็นแผนที่จะต้องทำให้ได้ ส่วนจะใช้ซื้อยังไงต้องเอาข้อมูลหุ้นมากางดูว่าจะเพิ่มตัวใหนบอกไม่ได้ ทำตามข้อมูลที่มีของแต่ละคน แล้วเลือกที่ดีที่สุดของข้อมูลของตัวเองที่มี ส่วน ซื้อหุ้นเพิ่มตอนไหน ถึงจะมีประโยชน์สูงสุด. บอกไม่ได้ ถ้ายึดหลักทำตามแผน สักวันเราจะได้โอกาสนั้นเมื่อมันมาถึง คุณเทพเคยเล่าให้ฟังแล้วว่าสิ่งที่จะได้ มันเกิดขึ้นเองโดยที่บางทีเราไม่คาดคิด แผนที่ทำคือกาสสร้างโอกาสและความพร้อม เมื่อโอกาสมาถึงเราสามารถฉวยโอกาสนั้นได้ทันที ถ้าความคิดผมเอง ซื้อหุ้นเพิ่มตอนไหน ถึงจะมีประโยชน์สูงสุด. ซื้อเพิ่มแล้วต้องได้ กสงฝ ด้วย แต่ทั้งนี้เราไม่สามารถทำได้ทั้งหมดทุกตัว จนกว่าจะมีหุ้นเยอะประมาณ30ตัวอย่างที่คุณเทพเคยว่า ระบบจึงจะสมบูรณ์ พอเห็นภาพครับแต่ยังไปไม่ถึง ยังใช้บ้างไม่ใช้บ้างตามฐานข้อมูลที่มี จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 4 ส.ค. 49 08:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดี ครับ... พี่ ลำชี และพี่ wayu_w ครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆครับ จะพยายามทำการบ้านให้มากกว่านี้.....ครับ อันนี้คำถามอีกคำถามครับ........ ท่านพี่ทั้งหลาย....เคยมีอาการ ถอดใจ จากหุ้นตัวที่ทำ dsm ไหม...ครับ แบบว่าลงมาหนักจน....ใจเสียเลย..แล้วทำยังไงกับหุ้นตัวนั้น ครับ... ยกตัวอย่าง ..stec hi=13.50 ไหลลงมา low= 4.05 นี่..ปัจจุบัน 5.60 จำนวนหุ้นเดิมตอน hi= 6000 หุ้น..ลงมาที่ low = 9000 หุ้น...(นับรวมที่โดนน้ำท่วมด้วย ) ได้หุ้นเพิ่มแต่จำนวนไม่มากพอ และหากราคากลับไปที่ 10.00 บาทได้.... หุ้นหมดมือแน่นอน.....พี่ๆทั้งหลายเคยเกิดปัญหานี้แล้วแก้ไขอย่างไร....ครับ จากคุณ : ซูโม่... - [ 4 ส.ค. 49 09:50:24 A:58.9.62.179 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตัวเดียวกับผมเลย 555 แต่ชอบมากเลยตัวนี้ไม่ถอดใจครับ ผมเริ่มที่ 47,600หุ้น ตอนนี้ 69,200 หุ้นเพิ่ม 45% กสงฝ 67.5% ผมพอใจมากตัวนี้ อิอิ ยังเสียดายไม่รับที่4บาทรับที่5.5บาทด้วยซ้ำ และซื้อพลาดบ่อยไปซื้อเพิ่มมากแถว7บาทเยอะ เล่นประมาณเดือน4 ปีนี้เอง จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 4 ส.ค. 49 12:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เน้นอย่าให้หุ้นหมดเด็ดขาดครับ ต้องมีแผนซื้อเพิ่มด้วย อยู่กับมันตลอด สิ่งที่ได้ได้มาแบบไม่ตั้งใจครับ ไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ด้วย ทำตามแผนขายแผนซื้อปกติ รอโอกาสให้เกิดแบบนี้อีก ชอบครับ 555 จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 4 ส.ค. 49 12:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็เล่นตัวเดียวกับพี่ลำชีเหมือนกันครับ แต่เป็น W-2  แต่ไหงผลไม่เหมือนกันล่ะครับ  (ผมกลับมาเล่นใหม่เมื่อ พค. เริ่มที่ 42,000 หุ้น  ตอนนี้เหลือ 21,000 หุ้น  ลดลง 50%  แถม กสงฝ.ติดลบไป 26.38% อีกด้วย) ผมทำอะไรผิดไปเยอะ  กำลังหัวปั่นหัวหมุน แก้ไขอยู่คร๊าบ  ........  ไม่รู้จะอีกนานเท่าไร  เอื๊อก ๆ ๆ ............   จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 4 ส.ค. 49 12:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พี่ห่านมีหุ้นตัวใหม่เกิดขึ้นมาแทนหรือเปล่าครับ ของเก่าจึงได้ลดลง ทั้งที่ราคา ต่ำกว่าเริ่มต้นเยอะเลยครับ จริงๆแล้วก็ไม่น่าจะลดลงนะครับ เพราะว่า หุ้นราคาตกลง แปลงร่างก็ไม่ได้ น่าจะมีหุ้นเท่าเดิม แต่กระแสเงินสดแฝงเพียบครับพี่ ตาม ทฤษฎีก็ว่าอย่างนั้นนะครับ "ถ้าความคิดผมเอง ซื้อหุ้นเพิ่มตอนไหน ถึงจะมีประโยชน์สูงสุด. ซื้อเพิ่มแล้วต้องได้ กสงฝ ด้วย แต่ทั้งนี้เราไม่สามารถทำได้ทั้งหมดทุกตัว จนกว่าจะมีหุ้นเยอะประมาณ30ตัวอย่างที่คุณเทพเคยว่า ระบบจึงจะสมบูรณ์ พอเห็นภาพครับแต่ยังไปไม่ถึง ยังใช้บ้างไม่ใช้บ้างตามฐานข้อมูลที่มี จากคุณ : eyes only (ลำชี)" ที่พี่ลำชีกล่าวไว้เหมือนกับว่า ใช้เงินสดแฝงซื้อเพื่อให้ได้เงินสดแฝง.........ถูกไหมครับพี่ คำว่าเงินสดแฝง ในที่นี้ตีความได้ 2 อัน คือ เงินสดแฝงปัจจุบันที่ซื้อ กับเงินสดแฝงอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากหุ้นที่ซื้อ ไม่ทราบว่าในความหมายของพี่ลำชี หมายถึงตัวไหนครับ จากคุณ : DerDen - [ 5 ส.ค. 49 03:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมนึกว่าคุณ DerDen เก็ตแล้วสะอีก 555 ผมก็เพิ่งตอบมาไม่นานนี้เองเห็นมีอยู่ข้างล่าง ก็เห็น DerDen อยู่นา อิอิ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 08:27:57 จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 5 ส.ค. 49 08:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยังนึกอะไรต่อไม่ออก ครับ... มาปั่นกระทู้เฉยๆ..... จากคุณ : ซูโม่... - [ 5 ส.ค. 49 18:58:04 A:58.9.69.43 X: TicketID:111462 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่คุณ DerDen  ถามไว้ใน คห.35.......... พี่ห่านมีหุ้นตัวใหม่เกิดขึ้นมาแทนหรือเปล่าครับ ของเก่าจึงได้ลดลง ทั้งที่ราคา ต่ำกว่าเริ่มต้นเยอะเลยครับ จริงๆแล้วก็ไม่น่าจะลดลงนะครับ เพราะว่า หุ้นราคาตกลง แปลงร่างก็ไม่ได้ น่าจะมีหุ้นเท่าเดิม แต่กระแสเงินสดแฝงเพียบครับพี่ ...........  คำตอบของผม อยู่ใน คห.ที่ 17 ครับ.........  อิอิ....... คือ ซื้อคืนช้า  เลยเสียโอกาสเมื่อจ้าวกระชากขึ้น    แล้วก็ตามตัดสินใจซื้อตามเอาที่ดอย  ผลก็เลยเป็นอย่างที่บอกนะครับ สรุปแล้ว  ไม่มีแผนที่ชัดเจน  มั่นคง  ครับ   จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 5 ส.ค. 49 22:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ  พี่ห่านครับ จากขอ้ความ   ซื้อคืนช้า  เลยเสียโอกาสเมื่อจ้าวกระชากขึ้น    แล้วก็ตามตัดสินใจซื้อตามเอาที่ดอย  ผลก็เลยเป็นอย่างที่บอกนะครับ    พี่ใช้เงินกองหลังมาซื้อที่ดอยเหรอครับ -----------------------------------------------------------    ลองตอบพี่ derden ครับ ที่ถามว่า เงินสดแฝงปัจจุบันที่ซื้อ หรือเงินสดแฝงอนาคต ผมคิดว่าเป็นเงินสดแฝงปัจจุบันที่ซื้ออะครับ แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 49 13:15:07 จากคุณ : wayu_w - [ 5 ส.ค. 49 23:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 40 .......เข้ามาดู จากคุณ : ขวัญชัย - [ 6 ส.ค. 49 06:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เพิ่งเข้ามาครับ หลังจากพักผ่อน 1 วัน (โดน ผบ.ทบ.ยึดเครื่องคอมฯ........    อิอิ)  .........  ที่คุณพี่ wayu_w ถามว่า ใช้เงินกองหลังมาซื้อที่ดอยเหรอครับ ----------------------------------------------------------- ตอบว่า.... แม่นแหล๋วครับ............   ผมเป็นประเภทอยู่ไม่สุข  มือซน ชอบที่ลองชองไปเรื่อยๆ อีกใจหนึ่ง ก็อยากที่จะหาวิธีเร่งผลให้เห็นทันใจหน่อย  ก็เลยลองดูว่า ถ้าทำแบบนี้ผลจะเป็นแบบไหน ก็เลยเป็นอย่างที่เล่ามานั่นแหละครับ...........   เอิ๊กๆๆ   คือ ทุนหาย กำไรหด แถมต้องมานั่งแก้เกมกันอีกบานตะเกียงเลยคร๊าบ บ บ บ พี่น้อง จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 7 ส.ค. 49 09:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณห่านฯ มีหุ้นกี่ตัวครับ ถ้ามีไม่มากพอจะเล่นลูกเล่น ถือว่าเสี่ยงครับ ซื้อดอยยังไงก็ลงเข้าสักวัน ถ้ามีน้อยให้เล่นแบบก้าวทารกก่อนครับ จนกว่าจะมีมากพอที่มีทางแก้หลายฯทางครับ จากคุณ : eyes only (ลำชี) - [ 7 ส.ค. 49 09:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หุ้นในมือมีหลายตัวเลยครับพี่ลำชี  แต่.....  มีแต่ข้อมูล  ......... อิอิ (มันเกิดจากการแปลงร่าง ไปๆ มาๆ  ในช่วงที่ผมเริ่มรู้จัก DSM ใหม่ๆ น่ะครับ) ตอนนี้ผมมีหุ้นหลักๆ ก็ 3 ตัวครับ  มีเรือตู้  ตัวหนึ่ง กะสเต็ก แม่-ลูก แต่ตัวแม่ผมปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรกะมันมากนัก (ต้นทุนผมอยู่ที่ 9.75 บาท แล้วไม่ได้ทำ DSM กะตัวนี้ซักเท่าไร ก็เลยปล่อยเลยตามเลยครับ) ส่วน เรือ กับสเต็กลูก จะเล่นสลับกัน และตั้งหน้าตั้งตาทำ DSM แบบจริงๆ จังๆ ส่วนที่เหลือก็เป็นเพียงนฐานข้อมูลทั้งนั้น ไม่มีหุ้นแล้ว......... (เป็นฐานข้อมูลที่ไม่มีเงินมาซื้อคืนครับ.......เอิ๊กๆๆ  ใครจะเซ้งฐานข้อมูลต่อไหมครับ...อิอิ) อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมช้า และพลาดบ่อย แล้วไม่ได้บอกไว้ ก็คือ แต่ละไม้ที่ ขายๆ ซื้อๆ มันเล็กมากๆ  บางทีก็ตัดสินใจ ไม่ซื้อ ไม่ขาย เพราะกลัวไม่คุ้มค่าคอมฯ  ก็เลยทำให้ผิดสเต็ป ผิดแผนที่วางไว้บ่อยๆ หลายๆ ครั้งก็ต้องซื้อหรือขายมากกว่าแผนเพื่อให้คุ้มคอมฯ  นี่ด้วยแหละครับ.............ฮี่ๆๆ  อิอิ  (เขิน.... ที่มีตังค์น้อย เอิ๊กๆๆ) จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 7 ส.ค. 49 09:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาเพิ่มเติมกลัวว่า พี่ลำชีอ่าน คห.43  แล้วจะงง คือสำหรับสเต็กแม่-ลูก  มันเคลื่อนไหว ไปในจังหวะคล้ายๆ กัน  พี่ก็คงพอจะเห็น  แต่ผมจะเคาะซื้อขายไม่ทันในจังหวะเดียวกันทีเดียว 2 ตัว   ผมก็เลยต้องเลือกเล่นตัวใดตัวหนึ่ง  แล้วเห็นว่าตัวลูกจะทำยอดได้ใกล้คอมขั้นต่ำมากกว่า  ก็เลยหันมาเทรดตัวลูกมากกว่าตัวแม่  ทำไปทำมา เสต็ปตัวแม่มันห่างไปจากแผนมากก็เลยต้องทิ้งตัวแม่ไว้เฉยๆ หันมาเน้นตัวลูกแทน ครับ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 7 ส.ค. 49 09:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามายิ้ม แล้วก็ยิ้ม vbvb จากคุณ : พิราบเงิน - [ 7 ส.ค. 49 11:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พี่ห่าน ยุบเหลือ 3 ตัวเองเหรอ หยั่งงี้ก็เหงาแย่เลยดิ นี่ถ้าก่อนหน้านี้ สักช่วงกลางเดือน 6 ค่อนไปทางปลายเดือนหน่อย พี่กระโดดจาก เรือตู้ มาขึ้นเรือเทกอง ตอนมันกะลังจะตีคู่กัน พี่ก็ยิ้มแก้มปริแล้วดิ ทุกวันนี้คงเคาะ จนเรือบุบเรือบี้ สั่งต่อใหม่ไม่ทันมั๊งนี่ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 7 ส.ค. 49 19:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอิ๊กๆๆ   เรือตู้มันก็วิ่ง แต่มันลำใหญ่  คงวิ่งช้าหน่อย แต่มันไปไกลนะ ส่วนเรือเทกอง มันลำเล็กกว่า มันก็เลยไปก่อน แต่เดี๋ยวมันก็กลับมา  ..........  อิอิ   จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 8 ส.ค. 49 09:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อิอิ  เข้ามาดูตอนบ่าย กระทู้ก็ยังเท่าเดิม   สงสัยกระทู้ของเอ้ จะแรงสู้กระทู้ใหม่ของหมอมิกซ์ไม่ได้ซะแล้ว ............... อิอิ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 8 ส.ค. 49 15:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เย็นย่ำสนธยา  เหล่านกกาก็พากันกลับรัง.... หมู่เฮา เหล่า DSMers  ก็พากันนั่งวางแผนอยู่แหงๆ  เพราะ ท่าทางหุ้นจะวิ่งขึ้นฉลุย ฉุยๆๆ อาจจะต้องนั่งทบทวนแผนกันจ้าละหวั่น    ว่า........  เวลาหุ้นขึ้นควรจะกำหนดจุดซื้อขายยังไงดี ผมเองก็ต้องมานั่งทบทวนหลักการดูใหม่    ด้วยหลักการที่ว่า ซื้อต้องถูกกว่าขายเสมอ ดังนั้น  เมื่อหุ้นขึ้น ผมก็มานั่งคำนวณว่า เงินในมือผมเหลือเท่าไร  จะซื้อหุ้นได้เท่าไร  แล้วผมจะตัดใจซื้อเพิ่มอีกซัก 10% หากหุ้นขึ้นไปอีก ผมก็จะทยอยขายไปเรื่อยๆ  ทีละ 1%   ด้วยวิธีการนี้ หุ้นที่เหลือก่อนซื้อจะไม่ถูกขายไปก่อน  และเมื่อราคาหักหัวลง ผมก็จะประเมินว่า ลงเล่นหรือลงจริง  ถ้าลงเล่น ผมจะคอยซื้อกลับที่ได้ขายไป 1%   แต่ถ้าลงจริง ผมจะไม้ละ 10% จากจำนวนหุ้นที่มีอยู่ในมือ ด้วยวิธีการนี้ หุ้นในมือผมก็จะลดลง ทำไปทำมา  หุ้นก็จะลดลง  แล้วเมื่อคาดผิด หุ้นที่ลดลง ก็จะซื้อคืนไม่ทัน  ผมก็ต้องตามกลับไปซื้ออีก เอ้อ  พี่น้องครับ  จากหลักการที่ว่า ซื้อต้องให้ถูกกว่าขายเสมอ  เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนที่กล่าวมานี้ ก็จะกลายเป็นว่า  ผมซื้อแล้วถูกกว่าขายเพียง 50% จากนั้น ถ้าหุ้นไม่ขึ้นไปต่อ ก็จะกลายเป็น ขายถูกกว่าซื้อ อีก 50% ผมก็ต้องรีบปล่อย เพราะไม่อยากจะกลายเป็นขายถูกกว่าซื้อ มากๆ ในที่สุด ก็มีหุ้นในมือน้อยลง ไปพร้อมๆ กับ เงินสดแฝงถูกตอดออกไปเรื่อย  จากการคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้นไปอีก หุ้นในมือก็หมดได้ เงินในมือก็หมดได้  ด้วยประการละฉะนี้  เอวัง.. การวางแผนซื้อขายหุ้นในช่วงขาขึ้น  จึงควรรอบคอบ  ถ้าจะซื้อด้วยมั่นใจว่ามันจะขึ้นไปจริงๆ  ควรจะกำหนดจุดขายที่ชัดเจนไว้ด้วย และมีแผนสำรองไว้เสมอ  เมื่อหุ้นถูกทิ้งดิ่งลงมา  เนื่องจากสังเกตว่าหลังจากที่มี จอมยุทธ์ DSM เพ่นพ่านอยู่ในตลาดมากขึ้น เจ้ามือชักจะเริ่มเล่นแรงขึ้น โดยการกระชาก แล้วตบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตามด้วยการกระชาก  จนทำให้ผิดแผนออกไปบ่อยๆๆ อิอิ  ถ้าอ่านแล้วงง  ก็ขออภัยด้วยนะครับ  แบบว่าไม่เห็นมีใครตามมาตอบต่อ  ก็เลยขอเล่นซะคนเดียว    ตะแหน่ว  แต๊วๆๆ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 8 ส.ค. 49 18:10:50 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหมมม พี่ ผมน่ะรู้ชะตา ตั้งแต่เห็นชื่อคนตั้งกระทู้แล้วครับ ลีลา คารมณ์ ไม่ได้เสี้ยวของเสี่ยมิกซ์หรอกกกกกก นี่ก็ดีว่าได้พี่ห่านฯ มาช่วยปั่นไปหลายสิบ ไม่งั้นเกิน 10 คห. ก็เก่งแล้วววววว จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 8 ส.ค. 49 18:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 โพสต์เสร็จ เห็น คห.49 ของห่าน เลยต้องขอออกความเห็นเพิ่มอีกหน่อย สำหรับผมนะพี่ห่าน ถ้าหุ้นมันยังขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ยังคงซื้อตามไปเรื่อย ๆ เหมือนกันนะ แต่ผมไม่ได้ซื้อเพราะรู้สึกว่า หรือมั่นใจ (สรุปว่าเดาน่ะพี่) ว่าขึ้นครับ โดยหลัก ๆ จะมีการซื้ออยู่ 2 แบบ คือซื้อ cover ส่วนที่ ขายไปแล้ว แล้วยังไม่ได้ซื้อคืน ซึ่งถ้าซื้อจำนวนนี้หมดแล้ว สิ่งที่ทำให้ ผมซื้อต่อไปก็คือ ซื้อเพื่อหาดอย คือแบบว่าซื้อจนกว่ามันไม่ขึ้นให้ซื้อน่ะ แต่ว่าการซื้อเพื่อหาดอยนี้ ไม่ได้ซื้อทีละเป็น lot หรือเต็มจำนวน แบบที่เคยขายไว้นะ แล้วก็ไม่ซื้อตามแบบ เช่น ซื้อขึ้นทุก ๆ 3 ช่อง ด้วย แล้วแต่ตัว แล้วแต่จำนวนที่เหลืออยู่ อย่างเช่นเรือนี่ ผมซื้อหาดอย ทุก ๆ 5 ช่อง (ถ้าทันนะ วันนี้ล่อไป 8 ช่องแหนะ) แต่มันก็ยังไม่เจอดอยซะทีเลยง่ะพี่ 5 5 5 5 5 อ้อ...พิมพ์มายืดยาว สรุปว่า ผมคิดว่าการซื้อ เพราะเหตุว่า เชื่อว่ามันขึ้นจริง มั่นใจว่ามันขึ้นจริง โดยเฉพาะการเอาเงินกองหลังมาซื้อด้วยแล้ว อันตรายมาก ๆ ๆ ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 18:27:10 จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 8 ส.ค. 49 18:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 นอกจากคุณเด่นฯ เป็นอาจารย์ได้ แต่แรกผมก็เห็นแวว พี่คนล่าห่าน นี่แหละครับ ที่เป็นอาจารย์ได้ ตอนแรกที่เห็น ก็นึกว่าเป็นอาจารย์มหาลัย เลยนะเพ่... จากคุณ : กึ่งสำเร็จรูป - [ 9 ส.ค. 49 09:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 53 พี่กึ่งฯ  ก็ชมเกินปาย.........เอิ๊กๆๆ ผมไม่สามารถจะเทียบรุ่นได้กับคุณเด่นศรีหรอกครับ....อิอิ ท่านเจ้าสำนักเป็นอัจฉริยะจริงๆ  ในเรื่องนี้.........  หายากนะครับสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนมาทางสายการเงิน แต่สามารถเก็บเอาความคิดเกี่ยวกับการเงินมาสร้างจนเป็นระบบส่วนตัวที่ได้ผล   และยิ่งหายากไปอีกที่อุตส่าห์อดทนต่อแรงเสียดทานในระยะแรกๆ เพื่อนำความคิดมาเผยแพร่ ..........  แต่ก็น่าเศร้านิดหนึ่ง  ตรงที่  แรงเสียดทานครั้งสุดท้ายนี่มันแรงจริงๆ  เฮ้อ ไม่รู้ว่าเมื่อไร คุณเด่นศรีถึงจะมีแรงใจกลับมาให้คำแนะนำต่ออีก..........   ............. จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 9 ส.ค. 49 09:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไปอ่านเจอพี่ขวัญฯ ให้ความเห็นเรื่องการแปลงร่าวไว้ในกระทู้พี่ฯห่าน ข้างล่าง คิดว่าน่าสนใจ ก็ขอ copy มาแปะไว้ในนี้อีกกระทู้ด้วยนะครับพี่ ############################# ความคิดเห็นที่ 138   "การแปลงร่าง คือการทดแทนหรือเติมเต็มอะไร ?" มานั่งคิดดู   ถ้ามีการไล่ราคาให้dsmer ขายหมูไปเลย เงินสดเราก็ไปซื้อตัวอื่น  หรือ ซื้อตัวเดิม(แต่ในความหมาย ของการซื้อเพื่อ เพิ่มเป้าหมายจำนวนหุ้นมิได้ซื้อเพราะ กระโดดขึ้นรถ) ตรงนี้ถ้าไม่มีหลักเกณฑ์ จะกลายเป็นแมงเม่าทันทีคือ โดน ธาตุไฟเข้าแทรก เมื่อราคาขึ้นไปไม่ไหวเราก็ต้องขายและทำรอบให้เงินแฝง มาเพิ่มเติมกองทุนที่จะไว้ซื้อหุ้นให้ได้ครบเมื่อราคาหุ้น กลับลงมาที่ขายหมูไว้ จึงเป็นการท้าทายว่า  เราเอาเงินแปลงร่างแล้ว  เมื่อวัฎจักร ราคาย้อนลงมาเราจะต้องได้เงินแฝงที่ทดแทนเงินที่เอาไป ซื้อหุ้นแปลงร่าง   (ซึ่งหุ้นที่เราแปลงร่างไป ไม่ใช่ชั่วคราว หุ้นใหม่ที่ซื้อมาคือเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นในพอร์ต) จากคุณ : ขวัญชัย  - [ 11 ส.ค. 49 15:26:59 ] ความคิดเห็นที่ 139   งบประมาณที่จะเอาไปเพิ่มพอร์ตการลงทุนใหม่(แปลงร่าง) จะต้องอิงไปถึง  ความสามารถในการหาเงินแฝงทดแทน "ถ้ามั่นใจว่ารอบจัดพอที่จะหาเงินแฝงมาในอัตราที่สูงพอ กับการแปลงร่างเท่าไหร่ ก็จะรู้ข้อจำกัดของงบประมาณ ที่เราจะจัดสรรไปเพื่อการแปลงร่าง  ไม่ให้สดุดมาก" คือมั่นใจว่าเราจะหมุนเงินทัน   คล้ายกับกู้เงินตัวเอง การแปลงร่างคือโครงการ  ตัวเราคือผู้อำนวยสินเชื่อ มาถึงขนาดนี้ก็แสดงว่าการแปลงร่างไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว เหมือนกันกับเวลาเราทำเรื่องกู้เงินธนาคาร  ธนาคารเขาก็ ต้องวิเคราะห์ถึงความสามารถหารายได้ของโครงการเรา ว่ามีศักยภาพพอที่จะคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้ธนาคาร หรือไม่ในเวลาเท่าใด จากคุณ : ขวัญชัย  - [ 11 ส.ค. 49 15:34:40 ] จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 11 ส.ค. 49 19:01:44 ]