ความคิดเห็นที่ 1 ตรงประเด็นเลยครับ....... แต่ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ คือมาตราฐานของสมาคมฯ (AIMC) โดยได้รับความเห็นชอบจาก กลต. มากว่า 10 ปี แล้วครับ และมีการเสนอเข้าไปแล้วครับ รอการพิจารณา แล้วอาจจะได้เห็น Bechmark แบบใหม่ตามต้องการครับ....... จากคุณ : pjuk - [ 3 ส.ค. 49 16:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์เองก็ต้องการให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้าไปลงทุนผ่านกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบัน การกระทำบางครั้งก็ออกจะขัดแย้งกันเอง เข้าทำนองหยิกเล็บเจ็บเนื้อ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 3 ส.ค. 49 16:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริงๆแล้วเราสามารถนำเจ้าตัว SET TRI มาวัดกันเองตามแต่ความต้องการของแต่ละบุคคลก็ได้นะครับ โดยสามารถดาว์นโหลดข้อมูลได้ที่ http://www.set.or.th/set/fetchfile.do?filename=roi/market.xls ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 02-01-2002 จนถึงปัจจุบันเลยครับ แค่นี้เราก็ทราบแล้วว่าหุ้นตัวไหน หรือกองทุนไหนชนะ SET Index จริงๆ จากคุณ : Mr.Messenger - [ 3 ส.ค. 49 16:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อีกประเด็นที่อาจมองข้าม ดัชนีตลาด + ปันผล = Total Return Index ตามต้องการ แต่ดัชนีตลาดไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าดำเนินการ ฯลฯ ที่ต้องหัก เป็นตัวชี้วัดเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้แบบไหน ก็ไม่สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงอยู่ดีครับ........ ถูกผิดอย่าว่ากันนะครับ ช่วยกันออกความเห็น -------------------- ขนาด Website ตลาดเอง ยังไม่แสดง Total Return Index ไว้เป็นที่เปิดเผย แบบ Real time เลยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 17:08:16 จากคุณ : pjuk - [ 3 ส.ค. 49 17:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็เข้าใจครับว่ากองทุนมีค่าใช้จ่าย พวก Transaction cost ที่ไว้ trade สำหรับกองทุนที่ทำ Active fund แต่ถ้าเป็น Index fund โอกาส Trade แทบไม่มี มีก็แค่ หกเดือนครั้ง ตามที่ตลาดเปลี่ยน SET50  ค่าmarketing จริงๆก็ไม่จำเป็น ควรทำค่า fee ให้ต่ำลงเหมือน low-cost airline ซึ่งจริงๆถ้านักลงทุนมีเงินมากพอก็ทำ Index fund กันเองได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร ส่วนพวก Acitve fund ถ้า underperform Total return index แล้วอ้างเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนักลงทุนก็ไม่สมควรจ้างทำ Active แล้ว เพราะถ้า Active return ไม่ justify cost ที่เพิ่ม ทำ index fund ดีกว่า จากคุณ : Monte Carlo - [ 4 ส.ค. 49 10:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วนกับ Criteria ของคุณ Monte Carlo ครับ งั้นช่วงนี้ก็วัดผลการดำเนินงานของกองทุนเปรียบเทียบกันเองไปก่อนดีกว่าครับ เพราะน้อยมากที่จะแพ้ SET Index ไว้ SET TRI ออกมาให้ใช้จริงๆ กองทุนรวมหุ้น คงต้องรีบปรับตัวกันยกใหญ่ที่เดียว จากคุณ : Mr.Messenger - [ 4 ส.ค. 49 10:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 low-cost airline เริ่มต้นที่ xxx บาท จบลงที่ x,xxx บาท ที่เหลือสารพัดบวก หรือเปล่าครับ.......... ยังมีมากกว่าการปรับ Port ทุกๆ 6 เดือนอีกนะครับ ผู้ลงทุน ทั้งเพิ่มเงิน ทั้งถอนออก ดังนั้นกองทุนอาจต้องขายหุ้น ซื้อหุ้น เพื่อให้ดำรงสัดส่วนให้เป็นไปตามดัชนีด้วยนะครับ......... แต่ก็ยังดีหน่อยที่บางกองทุน ไม่ต้องเสียค่าซื้อ-ขายหลักทรัพย์เอง แต่พลักภาระไปทางผู้ถือหน่วยแทน แล้วคิด Performance ด้วย NAV ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของ ค่าธรรมเนียม ซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ได้........ ดัชนีตลาด ทำ INDEX โดยดูแต่ราคา BID-OFFER เท่านั้น ไม่ได้รวมถึง ค่าธรรมเนียมเมื่อต้อง บวกเพิ่ม 0.21%-0.25% ที่ผู้ลงทุนต้องจ่ายเป็นค่านายหน้าด้วยหรือเปล่าครับ................ คิดอีกมุมนะครับ จากคุณ : pjuk - [ 4 ส.ค. 49 11:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สรุปว่าอย่าใช้เลยนะ เดี๋ยวผู้ลงทุนในกองหุ้นจะหัวใจวายกันซะ แค่นี้ผู้คนก็จะหนีไปฝากธนาคารหรือไม่ก็ซื้อตราสารหนี้กันซะเยอะแย้ว จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 4 ส.ค. 49 11:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณหมีพู ผมว่าคนที่หัวใจวายคือ บลจ.ไม่ใช่ Investor หรอก เพราะมันแค่กระเทาะเปลือกเอาความจริงมาพูดกัน แบบFactๆ แต่ผมเชื่อว่า คงทำออกมาวัดกันแบบจะจะยากเพราะเป็นคนในวงการคงไม่อยากเผาบ้านตัวเอง คุณ pjuk ครับถ้าพูดเฉพาะกรณี Index Fund ไอ้การเข้าๆออกๆของนักลงทุนที่บอก  ผมก็ยังคิดว่าเค้าเก็บค่า Fee เข้าออกต่างหากอยู่แล้วนี่ ซึ่งมากกว่า 0.21-0.25%อยู่หรือเปล่าไม่แน่ใจ  ก็น่าจะ cover transaction cost อยู่แล้ว เพราะ Fund Manager ก็ส่งคำสั่งซื้อขายเฉพาะ ส่วนเงินที่เข้าๆออกๆนี่ครับ ยังยืนยันว่า port ทั้ง port ของ index fund rebalance แค่ 6 เดือนครั้งครับ แต่ยอมรับว่า Fund Manager จะเสียเปรียบตรง Transaction Cost ตอน Rebalacing (ซึ่งก็ไม่มากเท่าไรเพราะหุ้น SET50 ทั้งหุ้นทั้งชื่อก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก) และเสียเปรียบอีกกรณีคือการ reinvest ของ dividend เพราะ TRI จะถือว่า reinvest ณ วันที่ XD แต่ของจริง reinvest ได้เมื่อรับเงินจริง แต่ยังเห็นอยู่ว่าTotal return index มันทำให้ชัดเจนกว่าเยอะมาก จากคุณ : Monte Carlo - [ 4 ส.ค. 49 11:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆ ตราสารหนี้นี่ Becnhbmark น่าเกลียดกว่า หุ้นอีกเยอะมาก แต่คงต้องคุยกันอีกยาว.................... จากคุณ : Monte Carlo - [ 4 ส.ค. 49 12:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประเด็นที่ website ตลาดไม่นำ SET TRI มาโชว์หราแบบ Real Time  ก็น่าจะเพราะ ผ่านการคำนวนที่ซับซ้อนกว่า และไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นมากกว่านะครับ อีกทั้งอาจมีผลกระทบกับนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยตรง เพราะว่า ราคาหุ้นในตลาดที่เราเห็นก็เป็นแค่ ราคา Bid-Offer เท่านั้น การนำเอา SET TRI มาลงแบบจริงๆจังๆน่าจะ Useless และอาจกระทบกับความเข้าใจของนักลงทุนในตลาดโดยตรงอีกทอดหนึ่ง ที่นี้มาอ่านวัตถุประสงค์ของการจัดทำ SET TRI กันหน่อยนะครับ "มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแสดงถึงภาพรวมจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เท่านั้น มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการชักจูงหรือชักชวนให้เกิดการตัดสินใจด้านการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น" แปลว่า คำนวนมาให้ดูเล่นๆ ขำๆ หรือเปล่าครับ... จากคุณ : Mr.Messenger - [ 4 ส.ค. 49 12:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จาก คห.10 "ผมก็ยังคิดว่าเค้าเก็บค่า Fee เข้าออกต่างหากอยู่แล้วนี่ ซึ่งมากกว่า 0.21-0.25%อยู่หรือเปล่าไม่แน่ใจ  ก็น่าจะ cover transaction cost อยู่แล้ว เพราะ Fund Manager ก็ส่งคำสั่งซื้อขายเฉพาะ ส่วนเงินที่เข้าๆออกๆนี่ครับ" เพิ่มอีกนิด "หรือบางทีอาจไม่เสียเลยก็ได้ แถมได้เงินเข้ากองทุน ฟรี อีกด้วย ถ้า Balance ยอดเงินเข้า และออก ใกล้เคียงกันมากๆ ก็ไม่ต้องทำรายการ ซื้อ-ขาย หุ้นให้เสียค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์เลย แถมได้ค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนฟรี 2 ขาเลยด้วยครับ" -------------------------------------------------------------- เห็นด้วย 100% ครับ........ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 49 13:00:23 จากคุณ : pjuk - [ 4 ส.ค. 49 12:56:17 ]