ความคิดเห็นที่ 24
อยากเลิกอาการติดหุ้น(ติดเฝ้าจอ) ต้องเปลี่ยนกลยุทธให้ได้ก่อนค่ะ
เมื่อไม่อยากต้องนั่งเฝ้า ก็ต้องแปลว่า พร้อมที่จะถือยาวๆหน่อย
ทำไงจึงจะถือยาวๆได้ ก็คือต้องเกิดความรู้สึกสบายใจว่า ราคาทุนที่เข้าลงทุนนั้น เป็นราคาที่ค่อนข้างเซฟ(ไม่มีใครรู้จุดต่ำสุด จึงยากที่จะสามารถเข้าลงทุนที่จุดต่ำสุดได้ทุกครั้ง ดังนั้นแค่ขอให้ราคาที่ลงทุนเข้าไปถือ เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับคำว่า"ถูก"หรือ"ไม่แพง"แล้ว)
ทำไงจึงจะพอเดาได้ล่ะว่า จุดไหนคือซื้อ จุดไหนคือขาย จุดไหนคือถือ จุดไหนคือรอ
ยากนะคะ อันนี้ยากซักหน่อย
ก็ ถ้าเล่นเทคนิค มันก็มีวิธีคิด วิธีดู นับเวฟ ,ดูแท่งเทียน ,ดูอินดิเคเตอร์ ,ดูวอลลุ่ม ,ดูเทรนด์...อะไรต่างๆ
ถ้าเล่นแวลู่ มันก็มีวิธีของมันอีก คือคำนวนมูลค่าที่มันควรจะเป็น หรือ กำลังจะเป็น ในปัจจุบัน และในอนาคตข้างหน้า (จะยาวแค่ไหนก็ว่าไปค่ะ 6เดือน ,1ปี ,5ปี ,10ปี)...จากนั้น คิดหาส่วนลด ให้ได้ราคาเข้าลงทุนที่เหมาะสม คำว่าเหมาะสม ก็แล้วแต่ว่าจะต้องการผลตอบแทนกี่เปอเซนต์ หรือ กี่เปอร์เซนต์ทบต้นต่อปี ในกรณีถือหลายปี
ซึ่งมันก็มียากหนักเข้าไปอีกค่ะ คือ จุดใหญ่ใจความของที่พูดมาทั้งสิ้นนั้น เป็นการดูและคิด ในเชิง ปริมาณ ...หรือหมายถึง ดูว่า อะไรถูกหรือแพง "ณ ขณะนั้นๆ" เพราะบางทีการซื้อสินค้าราคาถูกมาใช้ ก็อาจไม่ได้แปลว่าคุ้มค่าเสมอไป
มันต้องมีอีกขั้นตอนในการลงทุน คือการดูไปที่"คุณภาพ" ด้วย
ราคาหุ้น ในระยะสั้นจะเหวี่ยงไหวไปตามกระแสต่างๆ ซึ่งบ่อยครั้งที่ไร้เหตุผล แต่ในระยะยาวๆแล้ว เมื่อกระแสต่างๆหายไป มันจะเดินทางไปในทิศทางที่กำไรของบริษัททำได้ ซึ่งมันจำเป็นต้องดู คุณภาพของกำไร ความสม่ำเสมอของกำไร หรืออัตราการเติบโต รวมไปถึงวงจรของกำไร ...ฯลฯ
ซึ่งนี่ล่ะค่ะ ที่ว่า ยากที่สุด มันคือวิสัยทัศน์ในการเป็นนักลงทุน ก็เหมือนการทำธุรกิจนั่นเอง ที่เราต้องมีมุมมองเหมือนกับว่าเรากำลังเป็นเจ้าของกิจการนั้นๆเสียเองให้ได้
และมีแถมอีกนิดค่ะ โดยส่วนตัว คิดว่าอีกข้อนึงที่ยาก สำหรับการจะเปลี่ยนจาก นลท.ระยะสั้น มาเป็นนลท.ระยะยาวให้ได้ คือ ต้องเลิกนิสัยเคลื่อนไหวตามกระแส แต่ต้องทำความเข้าใจในกระแส ต้องรู้ว่าตอนนี้คนอื่นเขากำลังคิดและเป็นเช่นไรอยู่ แต่เวลาที่เราคิดและตัดสินใจนั้น ต้องแยกกระแสออกจากเหตุผล ให้ขาดจากกันค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ในการได้แลกเปลี่ยนทัศนะการลงทุนต่อกัน
โชคดีค่ะ
จากคุณ :
007-s
- [
6 ส.ค. 49 10:00:50
]
|
|
|