ความคิดเห็นที่ 1 ปลายปี 40 ต่อต้นปี 41 เริ่มใช้ระบบ Mark to Market ครั้งแรก ในตราสารหนี้บางประเภท บางตัว และบาง บลจ. โดยบาง บลจ.ไม่ยอมใช้ระเบียบใหม่ เพื่อให้ปลอดภัยแต่ไม่ยุตติธรรม ปลายปี 41 (เจอหนัก) ต่อ ต้นปี 42 (ผลต่อเนื่อง) เจอปัญหา เรื่องหุ้นกู้ (ตราสารหนี้เอกชน) Defualt เบี้ยวเงินต้น และดอกเบี้ย เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องจนถึงปัจจุบัน โดนเฉพาะ SCBRF ต้นปี 44 (ประมาณเดือน ก.พ.) ราคาพันธบัตรอายุยาวๆ 5 - 10 ปี หมดความนิยมทำให้ราคาซื้อ-ขายในตลาดรองลดต่ำลงมาก (Yield เพิ่มขึ้น) และด้วยการคำนวณราคา กองทุนด้วย Mark to Market ทำให้ราคากองทุนลดต่ำลง (แต่ไม่ใช่ สาเหตุเพราะตราสารหนี้มีปัญหาแบบปี 41) 45-46 ปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงลง ตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบัน เป็นผู้จัดการคนปัจจุบัน และด้วยนโยบายใหม่ ไม่แข่งขันด้วยผลตอบแทน แต่สร้างขึ้นมาจากพื้นฐานความน่าเชื่อถือ สำหรับลูกค้าเงินฝากที่รับความเสี่ยงได้น้อยจนถึงระดับกลาง  ไม่ใช่เพื่อนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากครับ (นโยบายเก่ามุ่งเน้นการลงทุนมากเกินไป จนลืมถึงความเสี่ยงของต้นทุนครับ) -------------------------------- บทส่งท้าย ตั้งแต่ ต.ค. ปี 44 ฝันร้ายของกองทุนตราสารหนี้ (SCBSFF & SCBRF) หมดไป และตั้งแต่ต้นปี 46 เป็นปีที่ทุกคนที่เจอวิกฤตต่างๆมานาน เริ่มฟื้นคืนและได้กำไรมาจนถึงปัจจุบันครับ (ถ้าไม่หนีขายกองทุนทิ้งไปซะก่อน) ------------------------------------- เวลาคือเครื่องพิสูจน์คุณค่าของความสำเร็จ (คติของ SCBAM เอามาจาก Website ของเขาครับ) ผมขอให้เขาทำรูปมาให้ดูประกอบด้วยครับ จากคุณ : pjuk - [ 18 ส.ค. 49 11:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขนาดของกองทุนรวมจะมีผลกับความสามารถในการทำกำไรไหมครับ คือ SFF และ RF มีขนาดกองที่ต่างกันมาก(40 กว่าเท่า) -กองที่ใหญ่มีเงินจำนวนมากก็อาจจะใช้เงินไม่หมด หรือต้องไปซื้อตราสารที่มีคุณภาพรองลงมาเพื่อใช้เงินให้หมดก็จะเกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น -กองที่เล็กกว่าสามารถเลือกลงทุนในตราสารที่มีคุณภาพได้มากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงเนื่องจากมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่ากองใหญ่ อยากทราบว่าขนาดของกองทุนเป็นปัจจัยที่เราต้องนำมาร่วมในการพิจรณาลงทุนหรือเปล่าครับ? และอีกคำถาม สงสัยเรื่องผู้ดูแลผลประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น SCBSFF นายทะเบียนหน่วยลงทุนเป็น บมจ.ไทยพานิชย์ แต่ บมจ.กรุงศรี เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์  ทำไมบมจ.ไม่เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของตัวเองครับ จากคุณ : Refresher - [ 18 ส.ค. 49 11:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขนาดกองทุนมีผล ที่เห็นได้ชัดอื่น การดำรงสภาพคล่องของกองทุนในกรณีการไถ่ถอนของผู้ถือหน่วยลงทุน - ถ้ามีขนาดใหญ่ก็สามารถรองรับการไถ่ถอนได้มากโดยไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยโดยรวม เช่นถ้าต้องกันเป็นเงินสด (ไม่มีการลงทุน) 10% ของขนาดกองทุนเท่ากัน ของกองทุน 2 กอง - ขนาด 1.2 พันล้านบาท มีเงินสดได้ 120 ล้านบาท - ขนาด 4.7 หมื่นล้านบาท มีเงินสดได้ 4,700 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนยิ่งใหญ่ขึ้น การสำรองเงินสดเพื่อการไถ่ถอนคิดเป็น% ก็สามารถทำได้น้อยลงจึงมีโอกาสในการใช้เงินลงทุนได้มากขึ้นด้วยครับ อีกประเด็นคืออำนาจต่อรอง ในการที่จะหาของที่มีคุณภาพ ได้มากขึ้น การกระจ่ายความเสี่ยงได้เยอะขึ้น (แต่สัดส่วนการลงทุนในแต่ละที่ แต่ละหลักทรัพย์ ก็มีข้อจำกัด ตามกฏของ ก.ล.ต. อยู่ดี) ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจหาของใส่พอร์ตการลงทุนได้ไม่พอกับจำนวนเงินที่ไหลเข้ามา แต่ก็ยังมีทางออกคือการฝากเงินในสถาบันการเงินกินดอกเบี้ยได้ตลอดเวลา ที่สำคัญกองทุนไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยด้วยครับ ที่สำคัญและเป็นประเด็นหลักที่ SCBSFF ต้องไม่ทำ คือแม้จะมีเงินเหลือมาก หาซื้อของดีไม่ได้ แต่ก็จะไม่ดิ้นรนหรือหลอกผู้ถือหน่วย เอาเงินไปซื้อของด้อยคุณภาพ หรือมีความเสี่ยงมากมาลงทุนเด็ดขาด ถึงแม้ว่าของชิ้นนั้นจะให้ผลตอบแทนสูง มาล่อก็ตามครับ จึงอาจทำให้บางครั้ง ผลตอบแทนโดยรวมของ SCBSFF จึงน้อยกว่า SCBRF ที่มีขนาดกองทุนเล็กกว่าก็ตาม อีกประเด็นที่ทำให้ SCBRF มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่า SCBSFF เพราะ SCBRF มีช่วงเวลาลงทุนที่ล๊อคได้ อย่างต่ำๆ 1 เดือน และผู้ลงทุนส่วนใหญ่ใน SCBRF น่าจะเป็นรายย่อย เงินน้อยๆ การไถ่ถอนจึงไม่มากเท่า SCBSFF ครับทำให้ของที่ไปลงทุนไว้สามารถถือจนครบกำหนดไถ่ถอนได้ ทำให้มีการลงทุนอย่างเต็มที่กว่า SCBSFF มากครับ ------------------------------------------- ผู้ดูแลผลประโยชน์ ต้องไม่มีภาระผูกพัน และเกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการเด็ดขาด เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ต้องเกรงใจกัน เพราะผู้ดูแลผลประโยชน์ต้องดูและความถูกต้องของการคำนวณราคาหน่วยลงทุน ให้ถูกต้องแก่ผู้ถือหน่วยครับ บลจ. ต้องทำงานเพื่อรักษาภาพลักษณ์ตัวเอง ผู้ดูแลฯ  ต้องควบคุมการทำงานของ บลจ. ให้ถูกต้องตามกฏระเบียบที่ ก.ล.ต. กำหนดอย่างเคร่งครัด และผู้ถือหน่วยลงทุนต้องได้ประโยชน์เป็นอันดับแรก ถ้าเลือกได้ แม้แต่ข้อ บังคับ ของ ก.ล.ต. บางข้อเข้าข้างกองทุน แต่ถ้าผู้ถือหน่วยได้ประโยชน์ก็ต้องทำครับ ---------------------- ครบทุกประเด็นไหมครับ....... ถ้าตกข้อไหน ถามมาได้เมที่เลยครับ จะพยายาม หาคำตอบมาให้ จากคุณ : pjuk - [ 18 ส.ค. 49 12:33:38 ]