ความคิดเห็นที่ 1 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 22 ส.ค. 49 16:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ Mr. Fusion นี่ก็ตำนานนะผมว่า จากคุณ : bozopop - [ 22 ส.ค. 49 17:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ.... เมื่อก่อนก็ ตามอ่าน คุณ Mudleygroup อยู่เหมือนกันครับ เป็นคนที่มีมุมมองในการลงทุนที่ดี.... ต้องยอมรับว่าผม ได้อะไรหลายอย่างจากกระทู้ที่คุณMuldeygroup แจม ใน พันธ์ทิพย์... ด้วยเสมอ... แต่เดี๋ยวนี้หายไป... ส่วนตัวผมรู้จัก นักลงทุน รุ่นน้องคนนึงเช่นกัน คล้ายคุณ Mudleygroup แต่น้องคนนี้เป็นคนพูดน้อย... จบมาทาง ด้านเศรษฐศาตร์... พอร์ท ณ สองปีที่แล้ว (ดูเมื่อสองปีที่แล้ว) คิดเป็นมูลค่า อยู่ที่ 40 ล้านกว่าๆ (ที่ทราบเพราะเปิดบัญชีให้ผมดู....) จากทุนเริ่มต้นที่ 2 ล้านตอนอายุ 20 (จากคำบอกเล่าจาก น้องคนนี้ ตอนนั้นน้องเค้าอยู่ปี 3 - ครอบครัว ของน้องคน นี้เป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว)... มีอยู่หลายอย่างที่พูดคล้ายคุณ Mudleygroup คือ.... 1. จิตวิทยาการลงทุน 2. จำนวนหุ้นเป็นทรัพยากรที่จำกัด ไม่ใช่มูลค่าราคาตลาด 3. หลักในการบริหารความเสี่ยง 4. ไม่เติมเงินลงทุน 5. บระ บระ บระ ตอนแรกผมไม่เชื่อ... แต่พอเห็นพอร์ทถึงกับอึ้งกิมกี่ไป เลย.. เด็กรุ่นใหม่ๆนี่ เก่งจริงๆ.... genius... ตอนนี้น้อง คนนี้ก็ go inter เช่นกัน... แต่อยู่ในเมืองไทย... นักลงทุนพวกนี้ ที่ประสบความสำเร็จ มีจริงครับ... จากคุณ : Mr.Zack - [ 22 ส.ค. 49 17:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอามาโพส ครับ คิดถึง ... เขามี บล็อก นะ ลองหาจาก กูเกิ้ลดูสิ แต่เขาไม่ค่อยสอนอะไรมากแล้ว จริงๆ แค่คำพูด ไม่กี่บรรทัด มันบอกความจริงๆ ชัดๆ ในตลาดหุ้นเลยนะ คุณ Mr.Zack ... เช่น เรื่องขาดทุนเป็นเรื่องปกติครับเพียงแต่ว่าเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มหรือเปล่าจากการขาดทุนครั้งนั้นๆ หากเราไม่เรียนรู้อะไรแล้วเอาแต่โทษสภาวะแวดล้อมรอบด้าน เช่น รัฐบาล ฝรั่ง การก่อการร้าย ราคาน้ำมัน เฮดจ์ฟัน กลต.(อิอิ) นั่นก็แสดงว่าเราไม่ได้มีความพร้อมอะไรเลยที่จะเข้ามาในสนามแห่งนี้ เพราะการกำไรขาดทุนจริงๆแล้วการตัดสินใจมันเริ่มอยู่ที่ตัวเราเองก่อนทั้งนั้นครับ ซึ่งเป็นธรรมดาถ้าเราไม่ได้เตรียมการอะไรเลยหากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นปัจจัยเข้ามาผลกระทบก็ย่อมเกิดขึ้นกับตัวเราเต็มๆครับ .... ... โดนไปหนึ่ง ดอก ...โดนใจผม แถมตาสว่างขึ้นมาหน่อย จากคุณ : KENG76 - [ 22 ส.ค. 49 20:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ Mudleygroup กล่าวไว้ว่า "การเข้ามาในตลาดหุ้น อย่าหวังเพียงเพื่อเป็นการเข้ามาหาเงินง่ายหรือเป็นการสร้างความร่ำรวยทางลัด หรือจะเรียกว่าอิสระทางการเงินอะไรก็แล้วแต่ปัจจุบันจะสรรหาคำพูดมา เพราะ เป้าล่อเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งดึงดูดเม็ดเงินของบรรดาเหล่านักล่า(ไม่พูดนะครับว่านักล่าเป็นพวกไหนบ้างละไว้แล้วกัน) ถ้าไม่มีผู้เล่นเข้ามามันจะล่าใครล่ะครับ ล่ากันเองนี่เหนื่อยนะครับ " ... อันนี้ บางคนอาจค้าน ถ้าเป็น วีไอ ไม่ถูกล่าอะไรหรอก แล้วเทรดกันทุกวันเนี่ย วีไอเหรอครับ .... โพสตอบมากๆ บางคนอาจจะหาว่าผมมาด่าพวกแมงเม่าหรือไง ดีแต่เอาคำพูดคนอื่นมาโพส ตัวเองทำได้หรือเปล่า อย่าสนใจประเด็นเหล่านั้นเลยครับ ... เอาเป็นว่า เทรดหุ้นเอาตังค์ ไม่ไช่เป็นเซียน ผมแค่อยากเอากระทู้เก่าๆ มาโพสให้อ่านกันบ้างก็เท่านั้น บางคนมาใหม่ ยังไม่ทันคนรุ่นเก่าๆ ก็จะได้อ่านด้วย ... สี่หมื่น เป็น สิบล้าน หรือ หนึ่งล้าน เหลือ สี่หมื่น ต้องตระหนักแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 21:01:36 จากคุณ : KENG76 - [ 22 ส.ค. 49 20:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Mudleygroup กล่าวไว้ว่า "หลักการของเทคนิคคัลที่ผมได้ไปเรียนรู้มานั้น มันไม่เพียงใช่เป็นแค่เรื่องของกราฟ หรือการตัดกันของเส้นต่างๆ (อันนี้ก็ถือว่าเป็นสาขาหนึ่งของเทคนิคเหมือนกัน เหมือน การแตกสาขาของศาสตร์ต่างๆเลยครับ เช่น วิศวกรคอมพิวเตอร์ วิศวกรโยธา เครื่องกล เป็นต้น ) มาเข้าเรื่องต่อเลยนะครับ ที่เราพบบ่อยที่สุดในบ้านเรามักจะเป็น นักเทคนิค แบบ การทำนายอนาคต จาก รูปแบบ(patternต่างๆ) โดยมีการสร้าง indicator(ดัชนีชี้นำต่างๆแล้วแต่ความถนัดมาช่วย) วิธีนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีแต่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในตลาดมาช่วย สังเกตว่าเด็กใหม่ๆมักจะใช้วิธีกราฟเทรดสู้รุ่นเก๋าๆที่มีประสบการณ์ไม่ค่อยได้ ถ้าว่ากันตามหลัก ทฤษฏีแล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อไรที่เราจะพยามทำนายอนาคตมันจะมีปัจจัย(factor)หลายๆอย่างทั้งที่เราคาดการณ์ได้และคาดการณ์ไม่ได้ มาเป็นตัวประกอบทำให้เกิดค่าคลาดเคลื่อน(error) ดังนั้นคนที่มีประสบการณ์เค้าจึงสามารถรับบรู้ได้โดยทันทีว่า รูปแบบเช่นนี้มันไม่ชอบมาพากล หรือไม่เป็นดังที่เค้าคิด จึงทำให้เค้าสามารถเอาตัวรอดได้ทันครับ เทคนิคคัลนั้นตามหลักการแล้ว มันเป็นตัวช่วยให้เราเห็นภาพความคิดของผู้คนในตลาด ดังนั้นผมจึงหันมาสนใจศาสตร์เทคนิคคัลฉบับอ่านปัจจุบันมากขึ้น มากกว่าฉบับอ่านอนาคต แต่ก็ไม่ทิ้งนะครับเพราะเมื่อนำมารวมกันเราจะได้โมเดลที่เยี่ยมเลย " ... คำตอบว่า ทำไมเรามีกราฟแต่ยังขาดทุน (ป๋มด้วย) แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 21:03:22 จากคุณ : KENG76 - [ 22 ส.ค. 49 21:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3197481/I3197481.html จากคุณ : no_lagging - [ 22 ส.ค. 49 21:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณKENG76 มากค่ะ ปกติตามอ่านแต่ในบล็อค ได้มาจากเพื่อนอีกที ไม่เคยได้อ่านบทความเก่าๆแบบนี้เลย จากคุณ : Nalyne - [ 22 ส.ค. 49 21:23:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ แค่คำพูด ไม่กี่บรรทัด มันบอกความจริงๆ ชัดๆ ในตลาดหุ้นเลยนะ คุณ Mr.Zack ... เช่น เรื่องขาดทุนเป็นเรื่องปกติครับเพียงแต่ว่าเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มหรือเปล่าจากการขาดทุนครั้งนั้นๆ หากเราไม่เรียนรู้อะไรแล้วเอาแต่โทษสภาวะแวดล้อมรอบด้าน เช่น รัฐบาล ฝรั่ง การก่อการร้าย ราคาน้ำมัน เฮดจ์ฟัน กลต.(อิอิ) จากคุณ : KENG76   - [ 22 ส.ค. 49 20:36:09 ] ================================ การหยิบสิ่งต่างๆจากคำพูดของอีกคนหนึ่ง มารวมกับ คำพูดหนึ่งของอีกท่านหนึ่ง.....  อันนี้มันไม่เหมาะนะครับ คุณ KENG76... ลงทุนสิ่งต่างๆ ไม่ว่าในตลาดทุน หรือในการทำธุรกิจ การเมืองมันไม่ได้มาเกี่ยวข้องหรอกครับ....   คนรวยจากหุ้น ประสบความสำเร็จในธุรกิจการงาน ร่ำรวย ถึงแม้รัฐบาลห่วยก็ถมไป.... คนจนจากหุ้น ล้มเหลวในธุรกิจการงาน ยากจน ถึงแม้ รัฐบาลดีแค่ไหน... ก็มีให้เห็นครับ.... แต่รัฐบาลที่ คอยบั่นทอนความมั่นคงของประเทศ ความั่น คงทางการเงิน ความน่าเลื่อมใสของสถาบันกฎหมาย แก้ ไขกฎหมายเพื่อตนเองและเพื่อพวกพ้อง  ไม่ว่าด้วยทาง ไหน วิธีไหนก็ตาม...  มันเลวร้าย อย่างหาที่เปรียบไม่ ได้... ขอบคุณที่แนะนำ และความเป็นห่วงนะครับ...   แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 22:02:32 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 21:50:33 จากคุณ : Mr.Zack - [ 22 ส.ค. 49 21:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ ผมไม่ได้หยิบมาบอกว่าถูกหรือผิดหรอก ผมเห็นด้วยกับคำพูดเขาในกรอบของเมื่อคุณจะลงทุนน่ะ ... สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราเอง ผมคุยกับคุณเฉยๆ เหมือนแลกเปลี่ยนความเห็นกันน่ะ .... เรื่อง คนชั่วครองเมืองเนี่ย ... มันเป็นเรื่องเลวร้ายจริงๆ ไม่ว่าประเทศไหน และเลวมากๆ เมื่อมันเกิดขึ้นในประเทศเรา ผมทำใจแล้วครับ ... คนชั่วครองเมืองได้ เพราะประชาชน อ่อนแอ ... เป็นทุกประเทศ ดูฟิลิปปินส์ซะก่อน คนเก่งๆ เยอะนะ แต่ ....เป็นไงสภาพตอนนี้ ดังนั้น ก็ต้องรับกรรมที่ตัวเองเลือกคนนั้นมาครองเมือง ส่วนคนที่ไม่เลือก ก็ ต้องเอาตัวรอดกันต่อไป พูดมาก ก็โดนตืบ ซะงั้น ... .... คุยกันเล่นๆ .... เราก็ไปเฝ้าหุ้นต่อ จากคุณ : KENG76 - [ 23 ส.ค. 49 05:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โอ้ ... เจอแล้ว blog ของพี่หมากเขียว คลังคำภีร์ .... ขอบคุณ กูเกิ้ลอีกครั้ง http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mhakkeaw&group=1 ... ไม่ต้องทนอ่านเศษกระดาษแล้ว ... จากคุณ : KENG76 - [ 23 ส.ค. 49 08:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิอิอ่านและยังไม่ค่อยเข้าใจต้องเก็บไว้อ่านต่ออิอิอิ(ไม่โง่นะอิอิอิแค่ฉลาดน้อยอ่ะ) จากคุณ : พ่อ เฮง เฮง (My revenge) - [ 23 ส.ค. 49 09:46:41 ]